ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 147 - 149 By Kumao จบแค่นี้ไม่มีละ





จบแล้ว เห็นแว้บๆ ว่าคุณ Kazama Phoenix เขียนต่อ ooooooooooo

ตอนที่ 147 เก็บแต้ม

ผมเมิ่นเรเดียที่ทำท่าตกใจอยู่ และหันไปคุยในรายละเอียดกับกรอเรียให้เสร็จก่อน โดยก่อนจะจัดการเรื่องนิกายใหม่ เธอจะต้องไปกล่อมครอบครัวซะก่อน โดยผมจะให้เอนันโด้นำทีมคุ้มกันไป
เอนันโด้ผมให้ลูกน้องไปขุดศพเขาขึ้นมา และใช้อำนาจแห่งจอมมารเปิดใช้งาน วิหารแห่งการกำเนิดใหม่ ซึ่งที่นี้จะเปลี่ยนให้ดวงวิญญาณของมนุษย์กลายเป็นปีศาจ เอนันโด้เลยคืนชีพขึ้นมาในฐานะปีศาจเศียรขาดดูลาฮาน
เลเวลของเขายังเท่ากับตอนก่อนที่จะตาย แต่พอกลายมาเป็นปีศาจแล้ว ค่าพลังก็ต่างเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซํ้ายังปลดขีดจำกัดของเลเวลไปอีก
เหตุที่ปีศาจมีเลเวลลิมิตมากกว่ามนุษย์ เพราะร่างกายของเผ่าปีศาจสามารถใช้พลังได้มากกว่า
ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับมนุษย์ได้พลังของซุป XXX มาใช้ แต่ลองชกหมัดด้วยพลังขนาดนั้นดูสิ ร่างกายจะแหลกเหลวก่อนเป้าหมายถูกทำลายแน่ เพราะงั้นระบบเลยสร้าง Lv Limit ขึ้นมาเพื่อป้องกันในเรื่องนี้
และการเปลี่ยนเผ่านัน จึงได้ทำให้ Lv Limit เปลี่ยนแปลงไปด้วย
แต่ถึงไม่มีเรื่อง Lv Limit ตอนนี้ก็หาคนมาสู้กับเอนันโด้ลำบากแล้ว เพราะก่อนตายเขาก็มีฝีมือในะดับที่สูงอยู่แล้ว ซํ้าตอนนี้ยังติดตั้งอาวุธที่่ผมไปขุดมาจากคลังสมบัติของปราสาทจอมมารให้อีก ถึงจะไม่ถึงขั้นไร้เทียมทานก็เถอะ แต่ด้วยนิสัยที่มีความรับผิดชอบ ความสามารถที่รอบด้าน และพลังที่อยู่เหนือระะดับ
มาตรฐาน ทำให้วางไว้ให้ทำงานได้หลายอย่างเลย เป็นบุคลากรที่คุ้มค่าจริงๆ
ทว่าก่อนจะให้เมยอาพากรอเรียจะออกไป ก็หันมามองผม เหมือนกำลังตำหนิล่วงหน้า พวกเธอคงรู้ละมั่งว่าผมจะทำอะไรเรเดีย ผมเลยแต่กระแอ่มแก้เขินไป
เพราะตอนนี้ผมไม่ติดสัญญาอะไรกับเอนันโด้แล้ว แถมผมไม่อยากจะให้เกิดกรณีแบบตอนซารีอีก เลยจะต้อง...ดัดนิสัยกันนิดหน่อย
พอเหลือกันสองคนแล้ว ผมก็เริ่มปฏิบัติการไอ้หื่นหลอกฟันหญิงทันที
“ท่านเรเดีย ท่านไม่ยอมรับผมที่เป็นจอมมารสินะครับ”
“ช ใช่แล้ว ทำไม จะฆ่าเราเหรอ”
“ผมไม่ทำเรื่องน่าเบื่อแบบนั้นหรอกน่า แต่ไหนๆ ต้องสู้กันแล้ว เรามาใช้วิธีที่สู้โดยไม่ต้องเจ็บตัวกันดีไหมครับ”
“วิธีอะไร?”
“สู้กับบนเตียง”
“...สมองแกนี้ไปหมดแล้วใช่ไหม”
“ไม่กล้าเหรอครับ ผมว่าจะต่อให้นะ อย่างเช่นว่าถ้าท่านเรเดียทำให้ผมเสร็จได้เพียงครั้งเดียวก็ถือว่าชนะไปเลย แล้วจะสั่งอะไรผมก็ได้”
“สั่งอะไรก็ได้!”
“ใช่อะไรก็ได้”
“งั้นถ้าสั่งให้ทำของหวานนี้ให้ฉันได้ตลอดเวลา ก็ได้เหรอ”
“ได้อยู่แล้ว”
ไอ้เราก็นึกว่าจะสั่งอะไรที่เข้าท่ากว่านั้น เช่นสั่งให้ผมเลิกเป็นจอมมารซะ เอาเถอะแบบนี้ผมมีแต่ได้อยุ่แล้ว
“ด เดี๋ยวสิ แบบนี้ฉันก็เหมือนเอาร่างกายไปแลกของกินเลย”
ชิ ดันมาฉลาดไม่ถูกเวลาซะได้
“งั้นผมแถมให้ ไม่ว่าแพ้หรือชนะ ผมจะให้คนมาสอนเวทมนต์ระดับสี่ให้กับท่านเรเดียด้วย”
เวทมนต์ระดับสี่คือขีดจำกัดของมนุษย์แล้ว อย่างโบสถ์ใหญ่เองก็มีแต่พวกคาร์ดินัลเท่านั้น ที่สามารถเรียนเวทมนต์ระดับนี้ได้ พอได้ยินเงื่อนไขนี้ พวกโอตาคุเวทมนต์อย่างเรเดียเลยหูกางทันที
“...ก็ได้ ฉันจะถือว่าโดนหมากัดล่ะกัน”
“งั้นก็ตกลงตามนี้”
จะแค่หมากัดหรือเปล่า เดี๋ยวก็รู้
แล้วผมก็พาเรเดียขึ้นไปบนห้อง แต่พอจะเริ่มเธอกลับยึกยัก แต่ไม่ถอดเสื้อผ้าออกก็เข้าทางผมเลย
ผมเริ่มจากจูบเธอก่อน แต่เรเดียทื่อเป็นท่อนไม้เลย เลยกัดฟันแน่นไม่ยอมให้ผมสอดลิ้นเข้าไปด้วย
เลยต้องเปลี่ยนวิธีเล่นงาน เป็นมุดหัวเข้าไปในกระโปรงเธอแทน เรเดียพยายามขัดขืนเต็มที่ แต่ไม่ได้ผลหรอก เพราะลิ้นผมประจำตำแหน่งและเริ่มเดินเครื่องแล้ว
ร่องของเรเดียมีกลิ่นฉี่ผสมอยู่ด้วย เธอคงไม่ได้ล้างให้สะอาดเท่าไร แต่กลิ่นตัวเธอหอมมาก เป้าตรงกางเกงในเธอจึงมีกลิ่นที่ลํ้าลึกมาก เพราะมันเป็นการผสมกันของกลิ่นฟรีโรโมน กลิ่นตัว กลิ่นเหงื่อ และกลิ่นฉี่ กลิ่นนี้ใช้เป็นการปลุกเซ็กส์ได้เลย
แต่กางเกงในของเรเดียทำผมผิดคาด เพราะจากนิสัยเธอแล้ว ตอนแรกผมคิดว่าน่าจะใส่พวกกางเกงในสีฉูดฉาดซะอีก แต่นี้กลับเป็นสีขาวบริสุทธิ์และมีระบายกับโบว์เต็มไปหมด เป็นแบบหวานแหววล่ะ
กรีบร่องของเธอเผยอออกมา ไม่ได้ปิดสนิท แต่มีสีชมพูอ่อน อย่าว่าแต่สภาพไม่เคยใช้งานเลย ยังไม่เคยถูกแตะต้องเลยด้วยซํ้ามั่งแบบนี้
มือของเรเดียที่กดหัวผมอยู่เริ่มอ่อนแรงลง ขณะที่ผมเลียไปตามกรีบ ผมเลียอย่างช้าๆ เน้นบรรจง เพราะเธอยังใหม่สำหรับเรื่องนี้ เร่งรีบไปจะไม่ดี ถึงปากเรเดียจะร้องห้ามผม แต่เสียงเธอกระเส่าเป็นอย่างมาก
เม็ดคริของเธอเก็บซ่อนไว้อย่างมิดชิด ผมต้องพยายามอย่างมากเพื่อจะเข้าถึงมัน แต่เพราะไม่เคยได้โดนลมเลย มันจึงไวต่อความรู้สึกมาก ทันทีที่ปลายลิ้นผมแตะถูกมัน เรเดียก็นํ้าแตกและดิ้นเป็นปลาโดนทุบหัวเลย นํ้าของเธอพุ่งแรงมาก นี้เป็นประเภทปลาวาฬเหรอ! (ให้คิดภาพปลาวาฬลอยขึ้นมาเหนือนํ้าเพื่อพ่นนํ้าพุออกมา)
หลังจากนํ้ากระฉูดรอบแรกหมดแล้ว ยังมียิงกระฉูดรอบสองต่อทันที แต่รอบนี้เป็นฉี่ล่ะ นี้ขนาดฉี่ยังปล่อยอย่างกะปืนฉีดนํ้า เวลาเข้าห้องนํ้ามันไม่กระเด็นเลอะเทอะหมดเหรอเนี่ย
แล้วจังหวะที่เสร็จ เรเดียยังจับหัวผมกดหน้าขยี้ไปที่ร่องของเธอด้วย ยัยนี้แอบหื่นนี่น่า หลังจากพ่นนํ้าจนหมดก๊อกแล้ว เธอก็ทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียงอย่างหมดแรง
“ตะกี้มันอะไรเหรอ?”
“จุดสุดยอดไง มันเป็นภาวะที่เวลาร่างกายถูกกระดุ้นอารมณ์ทางเพศจนถึงขีดสุด เป็นไง รู้สึกดีใช่ไหมล่ะ”
“ดีเกินไปด้วยซํ้า ฉันนึกว่าจะตายแล้วซะอีก”
“แล้วอยากทำอีกไหม”
“...”
เรเดียไม่ตอบ เพียงแต่ถางขาออกเล็กน้อย และดึงกระโปรงขึ้นมาจนอยู่ระดับเหนือหัวเข่า แบบนี้มันเชิญชวนกันชัดๆ เลยนี่น่า
และผมก็ไม่ปล่อยให้เธอรอนาน มุดเข้าไปในกระโปรงเธอต่อทันที รอบนี้ผมเริ่มบุกรุกเข้าไปในถํ้าศักดิ์สิทธิ์ของเธอด้วย
แต่ถึงข้างนอกจะเหมือนมีทางเข้าที่ใหญ่โต แต่ด้านในมันกลับคับแคบจนแม้แต่ลิ้นของผมมันยังไม่อนุญาตให้เข้าไป อาจเพราะเธอเกร็งด้วย จึงบีบช่องคลอดไว้แน่น ผมจึงต้องทำการคลายกล้ามเนื้อให้เธอก่อน ด้วยการใช้ลิ้นนวดไปตามร่องและเม็ดคริ เอวของเรเดียทั้งส่ายทั้งเด้ง นี้ขนาดไม่มีประสบการณ์ร่างกายยังตอบสนองได้ขนาดนี้
ตอนที่ผมสอดลิ้นเข้าไปในร่องของเรเดียได้ เธอก็เสร็จไปอีกรอบ นํ้าพุถูกปล่อยเข้าปากผมเต็มๆ แถมเธอยังใช้มือกดหัวผมไว้ ราวกับจะให้ดื่มมันให้หมด ข้างในถํ้าเธอก็ตอดรัดแน่นมาก เหมือนมันพยายามจะดึงลิ้นผมเข้าไปให้ลึกขึ้นอีก
หลังจากเสร็จรอบสองไป เธอหมดแรงจะขัดขืนอีก และปล่อยผมสนุกกับร่างกายเธอได้อย่างเต็มที่ ตอนจูบเธอก็ยอมให้ผมสอดลิ้นเข้าไป
พอถอดเสื้อออกเรเดียก็ได้สติ และพยายามจะปิดหน้าอกตัวเองไว้ แต่สายไปแล้วล่ะ ผมเห็นหน้าอกเธอซึ่งมีขนาดกลางๆ พอดีมือ หัวผมบอดอีกต่างหาก แต่พอใช้นิ้วเขี่ยไม่นาน หัวนมเธอก็ออกมาสูดอากาศเต็มที่ รูปทรงหัวนมเป็นแบบปุ่มกด แต่มันบอบบางมาก เพราะเพียงผมดูดๆ บี้ๆ ไม่กี่นาที มันก็เปลี่ยนจากสีชมพูอ่อนเป็นสีแดงแล้ว
และแล้วก็มาถึงจานหลัก ถํ้าของเรเดียเจิ่งไปด้วยนํ้า ดูสภาพแล้วมันคงอยากได้ดุ้นผมเต็มทน
แต่ขณะนั้นเองสกิลอ่านใจที่ผมเปิดทิ้งไว้ก็ทำงานขึ้นมา
[งูตัวใหญ่ของเขาที่เราเห็นคราวก่อน มันกำลังจะมุดเข้ามาในตัวเราแล้ว มันคงต้องเสียวมากแน่ๆ ถ้าฉันกรีดร้องเยี่ยงโสเภณีราคาถูก เขาจะเกลียดฉันหรือเปล่านะ พระเจ้า! ฉันเป็นคนบาปหนาจริงๆ!]
อย่างที่คิดไว้เลย เรเดียนี้แอบหื่นจริงๆ ด้วย ทว่าสิ่งที่คิดในใจเธอก็ระเบิดออกในทันที เมื่อผมถอดกางเกงและโชว์ดุ้นที่แข็งตัวให้เธอดู คราวก่อนที่เธอเห็นมันยังไม่แข็ง ขนาดเลยต่างกันมาก เรเดียถึงกับอ้าปากค้าง แต่เธอไม่ยักกะหนีแฮะ ขาของเธอกลับถางออกเอง แต่สีหน้าเธอกลัวสุดขีดแท้ๆ
ผมสไลด์ดุ้นไปตามปากถํ้าเพื่อให้มันได้อาบนํ้าจนเปียกก่อน แต่แค่ถูไปถูมาเท่านั้นแหละ เรเดียก็กรีดร้องออกมา ก่อนจะรีบขอร้องให้ผมใส่มันเข้าไปสักที
แต่ขอบอกว่างานนี้ยากกว่าที่คิดไว้ เพราะถํ้าของเรเดียเล็กและแน่นกระซับมาก แค่ใส่เข้าไปก็เกือบนํ้าแตกแล้ว ยังดีที่นํ้าของเธอเยอะมันเลยทำให้สอดใส่เข้าไปจนได้ ทว่าขณะที่หัวดุ้นมันไปเขี่ยโดนจุดจีเข้า เรเดียก็แตก
แตกในที่นี้หมายถึงแตกจริงๆ สิ่งที่อ่านได้ในใจของเธอมันบ้าคลั่งไปแล้ว ราวกับมีคนสิบคนแข่งกันตะโกน ผมเลยยอมแพ้ที่จะอ่านใจเธอล่ะ สีหน้าของเธอก็บิดเบี้ยวไปตามสติที่แตกไปแล้วเหมือนกัน เอวของเธอเด้งขึ้นมากระตุกแรงมาก พร้อมกับฉีดนํ้าออกมาหลายชุด ข้างในของเธอนี้ราวกับจะมีชีวิต มันเต้นตุบๆ นวดดุ้นผมไม่หยุด ทั้งตอดทั้งดูด จนผมเกือบทนไม่ไหว
นี้ถ้าเจอคนมีประสบการณ์สูง แล้วบังคับให้ผมขยับเอวต่อตอนนี้ ผมคงนํ้าแตกและแพ้ไปแล้วแน่ๆ
พอทุกอย่างสงบลง ผมก็ต้องกัดฟันกรอด เพราะเรเดียชิงหลับไปแล้ว แถมปลุกไม่ตื่นด้วย...โว้ย! พึ่งแค่ใส่เข้าไปเองนะ แถมยังไม่เข้าไปสุดทางด้วย แต่จะให้ทำตอนอีกฝ่ายหลับแล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรน่ะสิ
พอดึงดุ้นออกมา นํ้าหวานที่ขังอยู่ด้านไหลก็ไหลตามมาด้วย บนที่นอนมีรอยเลือดอย่างกับสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรม แต่จริงๆ เลือดของเรเดียออกไม่เยอะหรอก แต่มันดูน่ากลัว เพราะเลือดมันไปผสมกับนํ้าหวานของเธอ และฉีดกระเด็นไปทั่วต่างหาก
ผมไม่คลีนนิ่งให้ แต่ปล่อยไว้แบบนี้ ให้เรเดียตื่นขึ้นมาเห็น จะได้แกล้งให้เธอตกใจ แต่อารมณ์ค้างแบบนี้ก็แย่สิ...ช่วยไม่ได้แฮะ
ผมลงจากเตียงและย่องไปที่ประตูอย่างเงียบๆ ก่อนจะเปิดประตูออก ทันใดนั้นเมยอากับกรอเรียก็ไถลตัวลงไปกับพื้น...นี้คงแอบฟังขนาดเอาหูแนบประตูเลยมั่ง
“...”
มีเพียงสายตาที่จ้องมองพวกเธอ
“ค คือ ฉัน ม ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังนะคะ แค่เป็นห่วงท่านเรเดีย”
กรอเรียรีบแก้ตัว ส่วนเมยอารู้ซะตากรรมแล้ว เลยถอดเสื้อผ้ารอเลย
“แค่เป็นห่วงแน่เหรอครับ”
“ค่ะ แค่เป็นห่วง”
กรอเรียยังยืนยันคำเดิม เลยอยากแกล้งเธอซะแล้ว
“งั้นเรามาพิสูจน์กันครับ แต่ถ้าจับได้ว่าคุณโกหก ผมจะลงโทษคุณแทนพระเจ้าเอง”
“เอ๋?”
กรอเรียทำหน้าเหวอ แต่ตอนนั้นเองที่ผมล่วงมือเข้าไปใต้กระโปรงเธอ และฉกเข้าไปในกางเกงในและปาดเอานํ้าที่ปากถํ้าติดมือกลับออกมา
“เป็นห่วงอย่างไงกันครับ นํ้าเงี่ยนถึงได้แฉะแบบนี้”
ผมบอกขณะโชว์นํ้าที่ไหลยึดอยู่บนนิ้วมือ หน้าของกรอเรียแดงเป็นมะเขือเทศแล้ว
“นะ นั้นมัน…”
เธอไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไง แต่พอโดนต้อนจนสติหลุด เธอก็กระโดดงับนิ้วผมทันที และดูดมันจนสะอาดเพื่อทำลายหลักฐาน!
“เปล่าประโชชน์! หลักฐานยังมีอีกเยอะ!”
ผมจับกระโปรงเธอพลิกขึ้นมา เพราะตอนนี้กางเกงในเธอต้องชุ่มไปด้วยนํ้าแน่ๆ แต่กลับเป็นผมที่ค้างไปแทน และรีบปิดกระโปรงเธอลงตามเดิม
“แบบนี้มันหมายความว่าอย่างไงกันคะ!”
กรอเรียทำหน้าเสียขึ้นมา ส่วนเมยอาทำท่าสงสัย เลยไปเปิดกระโปรงของกรอเรียขึ้นมาดูบ้าง แต่พอเห็นเธอก็ทำแบบเดียวกับผม
คือที่พวกผมตกใจก็เพราะรสนิยมของกรอเรียเนี่ยล่ะ กางเกงในของเธอสีดำสนิท! แถมยังเป็นซีทรูลูกไม้แบบเป็นลายใยแมงมุมอีก แถมขนเธอเยอะมาก จนแล่บออกมาให้เห็น เทียบกับของเรเดียที่ไม่มีขนเลย ช่างต่างราวฟ้ากับเหว
“อ อืม ไม่เป็นไรหรอก แบบของกางเกงในมันไม่เกี่ยวกับอะไรศรัทธาอยู่แล้ว”
ผมพยายามจะพูดให้ดูดี เมยอาเองก็พยักหน้าช่วยอีกทาง
“โธ่!”
แต่ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งล้อ กรอเรียเลยส่งเสียงโมโหออกมา ผมเลยปรับอารมณ์เพื่อกลับไปแกล้งเธอใหม่
“คุณกรอเรียครับ กางเกงในสุดสยิวเตรียมสู้ศึกของคุณ ทำไมมันถึงเปียกแบบนี้เหรอครับ”
ผมเปิดกระโปรงเธออีกครั้ง ถึงเธอจะพยายามดึงมันปิดลง แต่เหมือนแค่ขืนแรงขัดขืนพอเป็นพิธีเท่านั้น เลยแทบไม่ต้องออกแรงมาก กระโปรงของเธอก็โดนเปิดจนเห็นกางเกงในที่ตรงเป้ายังมีนํ้าซึมหยดออกมา
“ง เหงื่อค่ะ มันเป็นเหงื่อ!”
“เหงื่อเหรอครับ”
ผมใช้นิ้วไปปาดนํ้าหวานเธอขึ้นมาชิม พริบมตาหนึ่งกรอเรียกระตุกยิ้มที่มุมปาก
“รสชาติไม่เหมือนเหงื่อเลยครับ โกหกมันบาปนะครับคุณกรอเรีย”
“อึก!”
“พูดความจริงมาเถอะครับ อย่างน้อยจะไม่รู้สึกผิดในใจตัวเอง”
“...งะ”
“งะ?”
“เงี่ยนค่ะ! ฉันฟังเสียงท่านเรเดียมีอะไรกับท่านโรมะแล้วก็รู้สึกเงี่ยนขึ้นมาค่ะ!”
“ดีมากครับ งั้นเรามาแก้เงี่ยนกันเถอะ”
ผมบอกขณะดึงแขนให้กรอเรียลุกตามไปที่เตียง โดยที่ตัวผมนอนหงายหน้า โชว์ดุ้นที่สั่นดุกดิกอยู่ ส่วนเมยอารู้งานดี เลยพากรอเรียขึ้นมาบนเตียงในท่่านั่งย่องๆ
สีหน้าของกรอเรียแสดงความสับสนอย่างชัดเจน เธอรู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิด แต่ร่างกายเธอต้องการมัน เธอจึงไม่ขยับตัวและก็ไม่ขัดขืน แต่เป็นเมยอาที่จัดทุกอย่างให้เองหมด ทั้งถอดเสื้อผ้าทั้งจัดท่าให้ เมยอาจับดุ้นผมไปจ่อที่ปากถํ้าของกรอเรีย และค่อยๆ ดันสะโพกเธอลงมา
กรอเรียรีบส่ายหน้าเป็นการใหญ่ แต่พอดุ้นผมชำแหละเข้าไปตัวเธอได้ ร่างกายก็เป็นฝ่ายชนะทันที เพราะอาการขัดขืนหายไปจนหมด และเป็นเธอที่พยายามกดสะโพกเพื่อกลืนดุ้มผมเอง
แต่ว่า...เธอไม่บริสุทธิ์แฮะ
“คุณกรอเรียเคยมีประสบการณ์แล้วเหรอ”
พอผมถามกรอเรียก็รีบส่ายหน้าใหญ่
“ค ครั้งแรกค่ะ”
“เอ่อ แต่ว่าคุณไม่บริสุทธิ์นะ”
“พ เพราะฉัน...ฉันใช้สิ่งนั้น”
กรอเรียชี้ไปที่ประตูซึ่งมีไม้เท้าของเธอวางอยู่
“หา? นี้คุณใช้ไม้เท้าแหย่เข้าไปข้างในเหรอ”
กรอเรียพยักหน้ารับ ขณะที่ถํ้าของเธอกลืนดุ้นผมไปจนชนกับปากมดลูกแล้ว ตัวเธอสั่นสะท้านและหอบหายใจแรงมาก สีหน้าเธอมีทั้งความเจ็บปวดและสุขสม
“แล้วคุณกรอเรียช่วยตัวเองบ่อยแค่ไหนเอย”
ผมชวนเธอคุยระหว่างรอให้หายเจ็บ แน่นอนผมเล่นงานให้เธออายยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อเหมือนว่าความอับอายจะเป็นการกระตุ้นอารมณ์ชั้นดีสำหรับกรอเรีย
“ไม่ มันน่าอาย!”
“บอกมาซะ”
ผมขู่เข็น ขณะใช้นิ้วกดและลากไปตามหน้าท้องของเธอ ที่ป่องออกมาเพราะดุ้นของผม
“ย อย่าค่ะ! มันเสียว!”
“บอกมา คุณช่วยตัวเองบ่อยแค่ไหน”
“...”
กรอเรียค่อยๆ ชูนิ้วขึ้นมา 3 นิ้ว
“อาทิตย์ล่ะสามครั้ง หรือสามวันครั้ง?”
กรอเรียส่ายหน้า และหน้าของเธอยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม
“อย่าบอกนะว่า...วันล่ะสามครั้ง”
กรอเรียพยักหน้ารับ
“ภายนอกคือนักบวชผู้เคร่งครัด แต่ข้างในคือยัยหื่นเช็กส์จัดหรือนี้”
“ท ท่านโรมะ! อย่าเรียกฉันแบบนั้นเลยค่ะ ได้โปรด!”
“งั้นจะให้เรียกว่าอะไรดีล่ะ คุณกรอเรีย”
ผมจี้เธอหนักขึ้น พร้อมกับใช้นิ้วกดลงไปบริเวณจุดจีของเธอ เพื่อให้มันไปกดเข้ากับดุ้นของผมที่อยู่ในตัวเธอ กรอเรียเสียวขึ้นสมองเธอส่ายหน้าไปมาแรงมาก จนผมกลัวคอเธอจะหักจริงๆ
“พูดมาสิ ว่าจะให้เรียกคุณว่าอะไร”
ผมเพิ่มแรงกดลงไป แต่พอดุ้นผมสัมผัสได้ว่าเธอเกือบจะเสร็จแล้ว ผมก็รีบเอามือออก สีหน้าของกรอเรียแสดงความผิดหวังอย่างชัดเจน
“พูด!”
“ร ร่านค่ะ! เรียกฉันอีนางร่านเถอะค่ะท่านโรมะ!”
“ดีมาก รับรางวัลไป!”
ผมเลื่อนนิ้วมาบีบที่ปุ่มคริเธอ พร้อมกับกระแทกเอวเสยขึ้นไปด้วย และผมก็ได้ส่งกรอเรียไปขึ้นสวรรค์
หลังจากนั้นเธอก็เครื่องติด และเข้าถึงสำนึกแห่งศาสตร์ขย่มตอมา นอกจากนี้เธอยังชอบประสานมือเหมือนกับสวดไปด้วย แต่สวดขณะที่เอวเธอไม่ยอมหยุดกระเด้งเนี่ย มันดูเร้าอารมณ์ดีเหมือนกันนะ
และผมก็ได้ทำให้กรอเรียติดใจ และเลื่อนการเดินทางออกไปด้วยประการฉะนี้ ส่วนตัวผมเองก็ได้ Lust point มาจากทั้งสองคนอื้อซ่าเลย...หรือว่าพวกนักบวชนี้จะให้โบนัสเยอะ?

ตอนที่ 148 เธอเป็นใคร?

หลังผ่านไปหนึ่งเดือน สถานการณ์ก็เริ่มนิ่ง ในขณะที่ความเจริญเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เรื่องราชาของประเทศใหม่ที่เป็นเผ่าปีศาจ ถูกลืมเลือนไปอย่างรวดเร็ว เพราะผู้คนต่างเห็นอินเวสก้าเป็นดินแดนของโลกใหม่
ในชั่วเวลาเพียงข้ามคืน ก็มีเหตุการณ์การไหลเข้าประเทศของคนจำนวนมาก แต่ราวกับทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้า คนที่อพยพเข้ามาจึงไม่จำเป็นต้องเร่ร่อนนอนข้างถนน
จากปากสู่ปาก ว่าที่อินเวสก้ามีทั้งสุขและความมั่นคง ทั้งงานและที่อยู่สามารถลองรับคนได้อีกมาก ทำให้นักเสี่ยงโชคทั้งหลาย พากันมาหาอนาคตในอินเวสก้า แม้แต่ในหมู่พ่อค้าเอง ก็เป็นข่าววงใน ว่าในประเทศอิสเวสก้าสามารถทำการค้าได้อย่างเสรีโดยไม่ต้องผ่านกิล ซํ้ายังได้รับการคุ้มครองจากรัฐอีกด้วย ส่วนภาษีก็เรียกเก็บในราคาที่ยุติธรรม ที่สำคัญถนนหนทางก็ทำออกมาดี จน
กลายเป็นเส้นทางที่พ่อค้ารวมถึงนักเดินทางนิยมใช้กับเป็นเส้นทางหลัก
ด้านนักผจญภัยก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น เพราะที่เมืองหลวงวิลเฟนเฮ กลายเป็นอาณาจักรของดันเจี้ยนที่กลายเป็นสวรรค์ของนักผจญภัย จนกลายเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า เมืองของนักผจญภัยแห่งที่สองต่อจากกรอซ่าไปแล้ว
ที่ซาโรเองจากเมืองกสิกรรมที่ยากจน ตอนนี้ก็ได้กลายสภาพเป็นเมืองที่มีแปลงนาแผ่ขยายไปสุดลูกหูลูกตา แถมเป็นเมืองที่สงบมาก ด้วยเงินทุนลึกลับ ทำให้ตัวเมืองเองก็ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่จนน่าอยู่ ความเป็นอยู่ของชาวเมืองดีขึ้นผิดหูผิดตา เทศกาลต่างๆ ของเมืองซาโร่สามารถเรียกนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก เลยยิ่งสร้างรายได้ให้กับเมืองอีกทาง
ส่วนกรอซ่า...ที่นี้ก็ยังคงความเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนเอาไว้ได้อย่างเดิม เสียงดังโวยวายในร้านเหล้า การทะเลาะกันของนักผจญภัย เสียงของพ่อค้าที่ตะโกนแย่งลูกค้ากัน ที่กรอซ่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดทั้งวันทั้งคืน เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับเลย
แต่ที่กรอซ่าเปลี่ยนไปก็คือความหลากหลาย ตามถนนคุณจะได้เห็นเผ่าครึ่งสัตว์ ซึ่งคิดเป็นประชากรครึ่งหนึ่งของเมืองได้เลย และกลุ่มของศาสนาที่แตกต่างกัน ทั้งลัทธิเทพ นิกายเมฆาสวรรค์ และโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นศาสนาใหม่ โดยแยกตัวมาจากโบสถ์ใหญ่ ซึ่งที่นี้จะเน้นเผยแพร่คำสอนในด้านดีของศาสนาเท่านั้น
ถึงจะเป็นศาสนาใหม่ แต่ก็ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากที่นี้เปิดเป็นโรงเรียนสอนศาสนาไปในตัว ซึ่งจะให้ทั้งความรู้ทั่วไป และสอนคำสอนให้กับบุคคลทั่วไปถึงแม้จะไม่ได้นับถือก็ตาม ในช่วงแรกก็ถูกโจมตีอย่าง
หนักจากพวกหน้าม้าของโบสถ์ใหญ่ แต่กลุ่มคนเหล่านั้นก็หายตัวไปอย่างลึกลับ พร้อมกับเกิดข่าวลื่อแปลกๆ ว่าโบสถ์ใหญ่ทุกแห่งโดนปล้นพร้อมกัน แถมยังโดนเอาไปหมดขนาดไม่เหลือกระทั่งชุดนักบวชให้ใส่
ซํ้าไม่รู้ทำไมว่าจู่ๆ โบสถ์ใหญ่ก็กลายเป็นสถานที่ที่มีเพียงแต่ผู้ชายเท่านั้น เหล่านักบวชหญิงพากันหายตัวไปอย่างลึกลับ จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครอธิบายเรื่องนี้ได้ แต่ในขณะเดียวกับโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นกลับเต็มไปด้วยนักบวชหญิงเป็นจำนวนมาก
และถึงแม้ทั้งสามแห่งจะตั้งอยู่แทบจะติดกัน แต่ก็ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันแต่อย่างใด หนํ่าซํ้ายังมีการประชุมร่วมกันและช่วยกันจัดอีเว้นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้แหล่งร่วมของศาสนาที่สงบสุขมาก
ทว่าที่กรอซ๋าเองก็มีด้านไม่ดีอยู่ โดยเฉพาะข่าวลื่อของเจ้าเมือง หรือที่ชาวอินเวสก้าเรียกเขาว่า ราชาในนาม เพราะเขาแทบไม่ปรากฎตัวหรือโผล่ออกมาทำงานเลย ไม่มีบทบาทในการประชุมบริหาร กระทั่งในการอนุมัติโครงการหรือกฎหมายต่างๆ ยังไม่มีชื่อของราชาคนนี้โผล่ออกมาเลย
นอกจากนี้ยังมีด้านมืดของเจ้าเมืองกรอซ่าที่ทุกคนต่างรู้กัน ว่าเขารํ่ารวยมากจากธุรกิจใต้ดิน เช่นโรงแรมยูโทเปีย...อืม ก็มันอยู่ใต้ดินจริงๆ นี่น่า นอกจากนี้ยังชอบใช้อิทธิพลข่มเหงคนอื่น ทั้งใช้เงิน ใช้กำลัง และเล่นสกปรก ถ้าใครทำอะไรไม่ถูกใจหรือขวางหูขวางตาขึ้นมาล่ะก็ จะโดนราชาในนามกำจัดทันที
และถ้าใครดื้อคิดจะต่อต้านขึ้นมา ก็จะไม่ใช่แค่ตัวเองจะซวย แต่ลูกเมียจะโดนไปด้วย ยิ่งราชาคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องบ้ากาม ขอให้เป็นผู้หญิงเอาหมด มีเมียและลูกสาวของคน
ที่คิดจะลองดีหลายคน ต้องตกเป็นเหยื่อโดนไอ้ราชาบ้ากามคนนี้ขยี้ซะเละ จนไม่มีหน้ากลับบ้านอีกเลย
คฤหาสน์นอกเมืองกรอซ่า เป็นที่รู้จักกันในนามดินแดมพรากพรหมจรรย์ เป็นพื้นที่อันตรายของผู้หญิง เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกลับออกมาพร้อมกับความบริสุทธิ์อีกเลย
ข่าวแย่ๆ ของราชาคนหนี้มีเยอะจนทำเป็นหนังสือออกมาได้ แต่ถึงจะห่วยแตกอย่างไง เขาก็ไม่เคยขัดขวางการทำงานของรัฐบาล จนทำให้เมืองรุ่งเรืองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เฉพาะเรื่องนี้เท่านั้น ที่ทำให้ชาวเมืองกรอซ่าเลยยังปล่อยราชาไร้ความสามารถคนนี้เอาไว้
แต่ในขณะเดียวกับ ด้านดีๆ นั้นตกไปอยู่ที่นายกรัฐมนตรีอาเดไลท์จนหมดสิ้น เธอบริหารประเทศได้เป็นอย่างดี ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างทั่วถึง
ให้การสนับสนุนในทุกๆ ด้านอย่างเท่าเทียมกัน และยังมีมือขวาอย่างรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเมยอา ที่บริหารเรื่องเงินได้เก่งมาก จนมีงบมากมายในการใช้บริหารประเทศ จนราวกับว่าเงินในท้องพระคลังมันงอกขึ้นมาได้เอง
ถ้าเฉพาะในกรอซ่าเพียงอย่างเดียว โครงการช่วยเหลือชาวสลัมได้รับเสียงตอบรับดีที่สุด จนถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์เลย ถึงตอนแรกจะมีคนไม่พอใจที่ไปเผาทำลายสลัมทิ้ง
แต่ที่อยู่ซึ่งสร้างขึนมาใหม่่และให้สิทธิ์กับชาวสลัมดังเดิ่ม ก็พลิกชีวิตความเป็นอยู่จากหน้ามือเป็นหลังมือเลย นอกจากนี้บรรดาคนพิการหรือป่วยในสลัม ก็จะถูกส่งตัวไปรักษา ถึงแม้ค่ารักษาด้วยเวทมนต์ระดับสูงจะแพง แต่รัฐบาลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ ในรูปแบบจ่ายให้ก่อน
แล้วให้ทำงานใช้หนี้ให้ทีหลัง แต่ด้วยวิธีนี้ ทำให้มีจำนวนแรงงานที่เป็นทรัพยากรบุคคลเข้าสู่ระบบเป็นจำนวนมาก
ทางกิลนักผจญภัยเองก็ได้รับผลจากโครงการนี้ไปด้วย เพราะมีนักผจญภัยหลายคนที่พิการจากการต่อสู้กับมอนสเตอร์จนต้องเลิกไป คนพวกนี้บางคนมีประสบการณ์และความรู้ความสามารถที่จำเป็น การได้คนแบบนี้กลับมาทำงานได้ใหม่อีกครั้ง มันช่วยพัฒนานักผจญภัยไปได้เยอะเลยทีเดียว
ตอนนี้ในกรอซ่าเลยไม่มีพื้นที่สีดำแล้ว แต่ก็คงยังไว้ซึ่งกฎเหล็กของเมืองนักผจญภัยเอาไว้ มันเลยยังเป็นเมืองที่เถื่อนๆ ดิบๆ เช่นเดิม
………………..
สวัสดีครับ ผมโรมะเองครับ
และตอนนี้ผมกำลังเจอปัญหานิดหน่อยครับ
ปัญหาอะไรเหรอนะเหรอครับ...ก็ตอนนี้สภาพของห้องนอนผมมันพังเละเทะ มีเพียงแต่เตียงเท่านั้นที่ยังอยู่ดี และบนเตียงก็มีสาวแปลกหน้า กำลังนอนถางขาเป็นกบและชักกระตุกโดยมีนํ้าเชื้อไหลออกมาเป็นทางจากถํ้าที่หุบไม่ลง ถึงไม่บอกก็รู้ว่าเป็นฝีมือผมแน่ เพียงแต่...ผมจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ ก็เมื่อคืนผมเมาหัวทิ่ม
จะไม่ให้เมาได้อย่างไงกัน ก็เดือนหนึ่งมานี้ ผมมีชีวิตอย่างกับนักโทษเลย โดยมีผู้คุมคือเวเนซ่า วันดีคืนดีเธอก็จะวาปร์ผมไปกลางหมู่บ้านออร์ค...ผมจะไม่อธิบายเรื่องที่ถูกพวกออร์คเพศเมียรุมขืนใจล่ะกัน แต่ปัญหาคือผมเจ็บตัวกลับมาทุกครั้ง เพราะการต่อสู้เพื่อพิชิตเผ่าพันธุ์นั้น จะต้องทำโดยความเท่าเทียมกันเท่านั้น สรุปคือผมใช้พลังจอมมารหรือร่างประสานของลุงแพะช่วยไม่ได้เลย ซึ่งใน
สภาพคนปกติของผมแล้ว มันไม่มีสกิลอะไรในการต่อสู้เลย งานนี้จึงเป็นการแลกหมัดแลกดาบจนเลือดสาด
พูดถึงสกิล การฝึกเพื่อให้ได้สำนึกแห่งศาสตร์ของเวเนซ่า ผมขอใช้คำจำกัดความว่า ‘ไร้ความเมตตา’ สกิลแรกที่เธอจะให้ผมเรียนให้ได้ ก็คือสกิล Gravity control สกิลนี้คือการควบคุมแรงโน้ม ซึ่งจะทำให้ผมเหาะเหินเดินอากาศได้ และไม่โดนศัตรูจับโยนไปตายในอวกาศ หรือตกจากเมฆลงมาเละเป็นขี้ ซึ่งมันเป็นการกลบจุดอ่อนของผมมากกว่าจะเสริมความแข็งแกร่ง เป้าหมายชัดเจนคือ ติดสกิลที่จะใช้ยืดชีวิตผมออกไป
แต่การฝึกนี้สิ ที่เป็นปัญหาอย่างแรง เพราะเวเนซ่าเอาแต่จับผมโยนขึ้นไปบนฟ้า ทะลุเมฆจนเกือบจะถูกแช่แข็งและขาดอากาศหายใจจนตาย และยังต้องเจอกับการตกลงสู่พื้นโลกในแนวดิ่งแบบไร้ร่มชูชีพ....
สิ่งเดียวที่ผมมีติดตัวขณะตกลงมากระแทกพื้นก็คือสถานะ Guts ซึ่งได้มาจากสกิลของเวเนซ่า ขณะที่อยู่ในสถานะนี้ ต่อให้โดนการโจมตีถึงตาย HP ก็จะเหลือ 1 เสมอ ซํ้ายังปกป้องร่างกายให้อยู่ในสภาพเคลื่อนไหวได้ (แขนขาเครื่องในอยู่ครบ)
เพราะงั้นถึงผมจะตกลงมาจากฟ้า ผมก็จะไม่ตาย และไม่อยู่ในสภาพเละเป็นขี้ด้วย แต่นั้นไม่ได้หมายความว่ามันไม่เจ็บ!!!
“จงสัมผัสถึงแรงโน้มถ่วงด้วยตัวเอง เดี๋ยวก็ได้สำนึกแห่งศาสตร์มาเอง”
นั้นคือคำอธิบายสั้นๆ และไร้ความรับผิดชอบของเวเนซ่า แถมที่ทำให้ผมโมโหก็คือ ระหว่างที่ผมกรีดร้องแต๋วแตกอยู่ข้างบนนั้น เวเนซ่าก็ใช้เวลาว่างตอนที่รอผมตกลงมาเล่นจํ่าจี๋กับเด็กในฮาเร็มของตัวเอง
ฮาเร็มของเวเนซ่านั้นมีแต่เด็กหนุ่มหน้าตาดี เอ่อ แต่อย่าคิดว่ามันจะเป็นฮาเร็มชายหนุ่มแบบปกตินะ เพราะยัยเวเนซ่านั้นคลั่งดิลโด้ที่ผมผลิตมาก และเธอไม่ได้เอาให้หนุ่มๆ เอามาใช้กับเธอ แต่เป็นเธอที่ใส่เองและเอาไปใช้กับก้นของหนุ่มๆ แทนต่างหาก!
แถมไม่รู้ถูกใจอะไรชีเอ้ ถึงกลับมาขอกับผมเองเลย แน่นอนว่าผมไม่ยอมหรอก ไม่นับว่ามันต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของชีเอ้เองด้วย และไม่รู้ว่าเพราะแค้นเรื่องนี้หรือเปล่า ถึงได้โยนผมเอาๆ แบบไร้ความปรานีเช่นนี้ และยังไม่รู้เลยว่าอีกสองสกิลที่เธอจะให้ผมฝึกให้ได้ จะโหดร้ายยิ่งกว่านี้หรือเปล่า
ด้วยเหตุดังกล่าวนั้นแหละ เลยทำให้ผมค่อนข้างเครียด เลยต้องหันมาดื่มเหล้าย่อมใจ แต่สงสัยเมื่อคืนจะมากไปหน่อย เลยเมาหัวทิ่มเลย
ผมนั่งทบทวนความทรงจำดูแล้ว พอจำได้ว่าไปที่ไหนมาบ้าง เมื่อวานตอนคํ่า ผมว่าจะกินมื้อเย็นกับพวกอาเดไลท์ แต่เธอกับเมยอารวมถึงอลิซาเบธเดินทางไปที่วิลเฟนเฮเพื่อจัดการเรื่องงาน
ส่วนโมอาตอนนี้ถูกเจ้าหญิงโชยืมตัวไป เพื่อให้ช่วยดูแลเด็ก อ้อ ใช่แล้ว ลูกของผมกับเจ้าหญิงโชคลอดแล้วล่ะ แต่ครั้งสุดท้ายที่ผมเข้าไปอุ้มลูกคนแรก..ผมโดนลูกตัวเองนิ้วด้วนเลย ก่อนหน้านั้นยังโดนเสกก้อนนํ้ามาคลุมหัวจนเกือบจมนํ้าตายไปเหมือนกัน
ผมดีใจนะที่ลูกของผมแข็งแรงและใช้พลังได้ตั้งแต่ลืมตาเกิดเลย แต่เหมือนแกจะเกลียดผมเอามากๆ เลยล่ะ ซึ่งเจ้าหญิงโชบอกว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะลูกมังกรเพศเมียจะต่อต้านพ่อตั้งแต่กำเนิดตามสัญชาตญาณ เพราะมังกรเพศ
เมียจะไม่ยอมเข้าใกล้เพศผู้จนกว่าจะถึงช่วยเจริญพันธุ์แล้ว
แต่ไม่ใช่แค่ผมหรอก ลูกสาวผมหัวรุนแรงมากเลย นอกจากเจ้าหญิงโชและโมอาแล้ว ก็ไม่ยอมให้คนอื่นอุ้มเลย ขนาดเมยอาลองพยายามเข้าไปเล่นด้วย ยังโดนไล่งับจนกระโปรงขาดเลย และจะเห็นว่าพึ่งเกิดมาเป็นเด็กทารกไม่ได้เลย เพราะเผ่ามังกรโตเร็วมาก นี้แค่ไม่กี่วันก็เริ่มคลานได้แล้ว แถมคลานเร็วด้วย เล่นเอาพวกเพนกวินวิ่งหนีกันไม่ทันเลย และต้องมีหลายตัวที่ปีกด้วนไป…
ตอนผมตั้งชื่อเล่นลูกสาวคนนี้ว่า ยัยเขี้ยวโหด ผมก็โดนเจ้าหญิงโชตบจน Hp เกือบหมดหลอด อ้อ ส่วนชื่อจริงของเธอ ถูกตั้งโดยสภามังกร และได้นามว่า เลเวียธาน…
เอ่อ ผมโวยไปแล้วนะ ที่เอาชื่อสัตว์ประหลาดมาตั้งเป็นชื่อลูกสาวแสนน่ารักของผม แต่สำหรับพวกมังกรชื่อนี้
มันมีความหมายและความยิ่งใหญ่ ราวกับเป็นชื่อของพระเจ้าเลยทีเดียว ผมเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจ
แต่ตอนนี้เจ้าหญิงโชกำลังจำศีลอยู่ เพราะตอนคลอดเธอเสียพลังไปมาก และร่างกายยังอ่อนแออยู่ หน้าที่เลี้ยงลูกเลยปล่อยให้โมอาดูแลไปก่อน
ทั้งสองคนไม่ว่างแบบนี้ ผมเลยต้องมองหาเป้าหมายใหม่ ซึ่งก็คือเดเม่...แต่ไม่ไหว ช่วงหลังๆ ผมใช้งานเธอหนักมาก ใช่ หนักมากจริงๆ เพราะผมเยิ้บเธอทุกคืนเลย เพราะสาวๆ ไปเก็บเลเวลกันหมด ส่วนคนที่อยู่ก็มีงานยุ่ง ผมเลยต้องเอาความเงี่ยนไปลงกะเดเม่ ถึงเธอจะไม่ปริปากบ่นอะไรเลยก็เถอะ แต่ผมเห็นเธอแอบซดยาฟื้นพลังอยู่บ่อยๆ...เลยให้พักไปก่อนดีกว่าช่วงนี้
อ้อ แต่ไม่ใช่ว่าผมจะขาดแคลนสาวๆ หรอกนะ ตรงกันข้าม ดุ้นผมถูกใช้งานอย่างหนักจนแทบไม่มีเวลาหายใจเลย
อย่างแรก เพราะแม่ของทาฮากริมก่อเรื่องขึ้นมา ไม่รู้ว่าเธอไปพูดอย่างไง แต่มันกลายเป็นเรื่องแล้ว เพราะเจ้าเมืองซาโร่ดันส่งลูกเมียมาให้ผมเยิ้บซะงั้น โดยที่พวกเขาคิดว่าการทำแบบนี้คือการแสดงความสวามิภักดิ์กับผม
เหตุที่เขายอมทำถึงขั้นนี้ เพราะผมได้ส่งเงินทุนและทำสัญญาช่วยเหลือแบบเดียวกับที่ทำกับวิลเฟนเฮไป แน่นอนว่าผมไม่ได้ให้แบบไม่คิดอะไร เพราะผมไปดูที่ซาโร่มาแล้ว และเห็นว่ามันเป็นเมืองที่ดี ซึ่งใช้เป็นเมืองหลักในการทำกสิกรรมและปสุสัตว์ได้
ถ้าได้เงินทุนไปใช้เพื่อพัฒนาที่ดิน เมื่องซาโร่จะพุ่งไปแบบก้าวกระโดดได้เช่นกัน อ้อ ซึ่งนั้นไม่ได้รวมอยุ่ใน
ความช่วยเหลือที่ผมสัญญาไว้ในตอนแรกด้วย เจ้าเมืองซาโร่เลยรู้สึกติดหนี้ผมเป็นอย่างมาก เลยเหมือนจะส่งลูกเมียมาขัดดอกให้ก่อนเลย
จริงๆ ผมควรปฏิเสธไปนะ เพียงแต่หลังได้เห็นแววตาแม่ลูกคู่นี้แล้ว ผมก็เข้าใจเลยว่าพวกเธอมาด้วยแรงปรารถนาดุ้นที่รุนแรง นี้แม่ของทาฮากริมคงไปเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือกมาแน่ๆ
ภรรยาของเจ้าเมืองซาโร่มีชื่อว่า เซเรียส มันออกจากหยาบคายที่ผมจะเปรียบเมียของคนอื่นเป็นโสเภณี แต่นั้นคือลีลาบนเตียงของเซเรียส ยิ่งเสียงร้องเธอนี้ ดาราAVยังอาย
ส่วน เอมิน่า ที่เป็นลูกสาว เธอถูกส่งมาแบบเดียวกับทาฮากริม คือให้มาเป็นสาวในฮาเร็มของผม ซึ่งขอบอกตามตรง ว่าผมอยากปฏิเสธ ไม่ใช่เธอไม่สวยหรอกนะ ตรงกัน
ข้าม เธอสวยจนน่ากลัวเลยล่ะ เป็นประเภทสาวงามล่มเมือง แต่ที่ทำให้ผมรู้สึกกลัว เพราะว่าผมดูออก...ว่าเธอเป็นสายยันเดระ
จะปฏิเสธก็ไม่ได้ด้วย เพราะมันจะทำให้มีปัญหากับเจ้าเมืองซาโร่ได้ เช่นว่า ทำไมรับทาฮากริม แต่ไม่ยอมรับลูกสาวเขา...นอกจากนี้ผมยังโดนทาฮากริมกดดันด้วย เลยต้องยอมตามใจไป
แต่ในขณะตอนที่ทำพร้อมกันกันเซเรียส จังหวะที่เอมิน่าดูดดุ้มอยู่ แล้วผมหันไปจูบกับเซเรียส เธอถึงกับขบฟันลงมา ถึงจะไม่ได้ถึงขั้นเจตนาจะกัดให้ขาด แต่เธอต้องการทำให้ผมเจ็บเพื่อเป็นการเตือนอย่างชัดเจน
และอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ผมกลัวเอมิน่า เพราะเธอเงียบมาก เธอไม่ชอบคุยกับใครแม้แต่กับทาฮากริมที่เป็นเพื่อนกัน ยังคุยแบบนับคำได้ และยังไม่ชอบบอกความรู้สึกตัวเอง
อีกต่างหาก ทำให้ผมอ่านใจเธอกันตอนมีเซ็กส์กัน...ซึ่งเป็นครั้งเดียวที่ผมทำ และสาบานว่าจะไม่ทำอีกเด็ดขาด
เอาเป็นว่าผมยังปลอดภัยจากเอมิน่า ตราบใดที่ผมยังอัดนํ้าเชื้อลงไปให้เต็มกระเพาะเธอได้ แต่เอนิน่าไม่ใช่คนเช็กส์จัดแบบแม่ของเธอ ผมเลยไม่ได้มีอะไรกับเธอบ่อยนัก แค่อาทิตย์ล่ะครั้งหรือน้อยกว่านั้น โดยต้องคอยดูค่าความหื่นของเธอ เมื่อมันขยับขึ้นแบบแปลกๆ แปลว่านั้นแหละถึงเวลาที่ผมต้องป้อนนํ้าเชื้อให้เธอแล้ว
ไหนๆ แล้วขอพูดถึงทาฮากริมด้วย เพราะจนถึงตอนนี้...ผมก็ยังไม่ได้มีอะไรกับเธอสักที เพราะเธอเป็นคนขี้อายกว่าที่คิดไว้เยอะ อย่างตอนที่ผมหาบรรยากาศจนจูบเธอได้ เธอก็ตื่นเต้นจนเลือดกำเดาพุ่งเลย แถมพอจับหน้าอกก็สั่นเป็นเจ้าเข้า และพอเริ่มล้วงเท่านั้นแหละ คุณเธอก็จะเป็นลมไปทันที
ตอนนี้ผมเลยต้องใช้วิธีภาคบังคับ จับเธอมานั่งดูผมเวลามีอะไรกับเดเม่ เพื่อจะได้เรียนรู้และลดความตื่นเต้นลง แต่มันกลับได้ผลตรงกันข้ามแทน เพราะมันยิ่งทำให้ทาฮากริมตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม จนล้มไข้ขึ้นจนถึงตอนนี้
นอกจากนี้แล้ว ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ผมได้นอนกับผู้หญิงไปแล้ว...ประมาณห้าร้อยคนได้
ซึ่งเรื่องนี้เป็นฝีมือของเวเนซ่าและซานูน่า ที่ไปเป่าประกาศทั่วเมือง ว่าถ้าใครอยากมีประสบการณ์เสียวกับผม ให้มาที่คฤหาสน์ได้เลย
เพราะเรื่องนั้นทำให้ผมถูกชาวเมืองมองด้วยสายตาเย็นชา แต่ผลลัพธ์น่าสพรึงกลัวยิ่งนัก เพราะทันทีที่ประกาศออกไป ก็มีหญิงสาวจำนวนมากมาต่อแถวกันที่คฤหาสน์ จนเวเนซ่าต้องจัดคิวให้เป็นวันๆ ไป
พวกที่มาหลักๆ เลยคือพวกนักบวชหญิงของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งแบ่งเป็นสองพวก พวกแรกคือพวกที่ผมไปช่วยมาจากโบสถ์ใหญ่ แล้วอยากตอบแทบผมด้วยการมอบร่างกายให้ กับอีกพวก คือพวกที่ต้องการบรรลุถึงการสวดมนต์ระดับสูง...ครับ เรื่องของเรื่องก็คือ มีพวกนักบวชสาวบางคนไปเห็นผมตอนเยิ้บกับกรอเรียขณะที่เธอสวดมนต์อยู่ ทำให้เข้าใจผิดกันไปว่า นั้นคือเทคนิกการสวดให้ถึงสวรรค์อย่างแท้จริง
ตอนนี้ผมเลยฟันพวกนักบวชสาวไปแล้วเกือบครึ่งโบสถ์ ซึ่งไม่รู้ทำไมถึงได้ Lust Point มาจากพวกเธอเยอะมาก
ส่วนที่ลองลงมา แต่ไม่ต่างกันเท่าไร ก็คือพวกเผ่าครึ่งสัตว์ พวกนี้มาแบบมีวัตถุประสงค์ชัดเจนมาก พวกเธอต้องการนํ้าเชื้อผมกลับไป ในฐานะเทพแห่งนิกายเมฆาสวรรค์
เลือดของผมถูกมองว่าเป็นสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ ใครได้อุ้มท้องลูกของผมจะถือว่าได้รับเกียรติ์เป็นอย่างมาก
ไม่ได้เป็นเรื่องเกินจริง หากจะบอกว่าถ้าเจอผู้หญิงเผ่าครึ่งสัตว์ ผมสามารถเดินเข้าไปหาและขอมีอะไรด้วยได้ทันที เรื่องนี้ผมเองก็ตกใจเหมือนกัน เพราะตัวตนของผมสำหรับพวกเผ่าครึ่งสัตว์มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าที่ตัวผมจะรู้ซะอีก แต่เพราะพวกนี้ไม่อยากจะรบกวนผม เลยไม่มีใครมาพูดให้ฟังเลย
กับอีกกลุ่มถัดมาก็คือพวกทาส...พวกนี้ใช้สิทธิแบบแปลกๆ โดยเฉพาะพวกหญิงสาวที่ยังบริสุทธิ์ พวกเธอเรียกร้องต่อเจ้าของ ว่าต้องการมีอะไรกับผม โดยมันเป็นคำสอนในหมู่ทาสด้วยกัน ว่าถ้าได้โดนดุ้นของผมเสียบเข้าไปแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวดุ้นของใครหน้าไหนอีกเลย…
ในกลุ่มทาสยังร่วมถึงทาสของผมด้วยล่ะ พวกนี้แทบจะมาเป็นพวกแรกๆ โดยเฉพาะสาวกระต่ายที่เป็นแผนกต้อนรับของโรงแรมยูโทเปีย เธอมาเข้าแถวเป็นคนแรกเลย แต่สำหรับบางคนผมต้องไล่กลับไป เพราะว่ายังเด็กเกิน....เอาเป็นว่าตํ่ากว่าสิบขวบน่ะ
นอกจากนี้ก็เป็นพวกชาวบ้านล่ะ แต่ไม่ใช่แค่มาจากกรอซ่านะ บางคนมาไกลจากต่างเมือง เหตุผลเพราะ...ต้องการมีลูก และที่ทำให้ผมหนักใจก็คือ บางคนนี้สามีเป็นคนจูงมือมาเองเลย
พวกเขาต่างได้ยินข่าวลื่อเรื่องที่ผมไปทำผู้หญิงท้องไว้ทั่วเมือง ซึ่งก็คือความจริง เลยตามเพื่อให้ผมปั้มลูกให้แทน แต่นี้ทำให้ผมรู้ว่าโลกนี้ประสบปัญหาการมีบุตรมากแค่ไหน ไม่ใช่แค่มังกรหรอก แต่มนุษย์เองยังท้องยากเลย
อ้อ เกือบลืมอีกพวกหนึ่งไป...พวกเผ่าปีศาจ ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงประเภณีบางอย่าง เช่นว่า...ผู้ที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าเผ่าต่างๆ ในเผ่าปีศาจ จะต้องแสดงความจงรักภักดีกับผมด้วยการถวายร่างกายตัวเองให้ กรณีถ้าเป็นผู้ชายก็ต้องมอบสายเลือดของตัวเองหรือคนรักมาทำหน้าที่แทน
แต่เรื่องนี้พอรู้ถึงหูอุเมอะก็ถูกสั่งให้ยกเลิกไปทันที ซึ่งเธอช่วยผมได้อย่างทันเวลา เพราะผมเจอหัวหน้าเผ่าหนอนมรณะจ้องสืบพันธุ์ด้วยอยู่พอดี
อย่างที่ว่าไป ช่วงนี้ผมได้นอนกับสาวไม่ซํ้าหน้าเลย จึงไม่ได้อดอยากอะไร ยกเว้นแต่วันที่กลับมาจากการสู้กับพวกออร์ค หรือโดนการฝึกสุดโหดมา ผมอยากผ่อนคลายกับสาวๆ อ่ะ ยิ่งวันที่โดนพวกออร์คสาวยํ่ายีมาเนี่ย ผมอยากสร้างความทรงจำใหม่ๆ มากลบมันแทนอย่างด่วนเลย
ซึ่งเมื่อวานก็อยู่ในอารมณ์นั้นแหละ แต่ในบ้านไม่มีใครพร้อมมีอะไรกับผมเลย จะไปหาซานูน่าเธอก็ออกไปล่าหนุ่มๆ ก่อนแล้ว ส่วนเวเนซ่าผมไม่อยากเข้าไปในห้องเธอเลย เพราะกลิ่นนํ้ากามผู้ชายมันเหม็นไปทั้งห้อง
อ้อ ใช่ๆ เพราะงั้นเลยต้องออกไปข้างนอก ตอนแรกว่าจะไปเยี่ยมสาวกระต่ายซะหน่อย เพราะผมค่อยข้างติดใจเธอมาก แต่เธอเข้ากะอยู่ ผมเลยไม่อยากไปกวน
จากนั้นก็....อ้อ นึกออกล่ะ ผมเจอโกร่าที่โรงแรม เลยชวนกันไปกินเหล้า แต่ก็ไม่ได้มีอะไรกัน เพราะสามีกับลูกของโกร่าอยู่ด้วย ส่วนคนอื่นๆ ในปาร์ตี้ของโกร่า เริ่มมีอาการตั้งท้องแล้ว จึงต้องงดมีอะไรกันจนกว่าจะพ้นช่วงอันตรายไปก่อน
เรื่องนี้ผมโดนโกร่าตำหนิเหมือนกัน เพราะเล่นทำเพื่อนๆ เธอท้องพร้อมกันหมด ทำให้ปาร์ตี้เลยต้องหยุดทำงานชั่วคราว
รู้สึกผมจะโดนโกร่าจับกรอกเหล้าไปหลายขวดเลย แต่ถึงตอนนั้นผมก็ยังมีสติอยู่นะ...อืม รู้สึกจะกลับออกมาจากดันเจี้ยน แล้วก็...ซารีเหรอ? ไม่ผิดแน่ เพราะผมคิดว่าจะไปเที่ยวซ่องที่ไม่ได้ไปมาตั้งนานแล้วดู จึงวาปร์ออกมาที่กิลนักผจญภัย และเจอซารีอยู่พอดี ด้วยอารมณ์ที่เงี่ยนมาก เลยไม่พูดพรํ่าทำเพลง ผมพาเธอขึ้นมาบรรเลงเพลงรักกันที่ห้องทำงานทันที
แถมยังกินเหล้ากับเธอต่ออีก อืม....ถึงตอนนั้นก็เริ่มจำอะไรไม่ได้แล้ว
งั้น...สรุปว่าผู้หญิงที่นอนหมดสภาพอยู่ตรงนี้เป็นใครฟ่ะเนี่ย!?

ตอนที่ 149 เหตุบังเอิญ

“ก แก!”
ผู้หญิงที่นอนหมดสภาพอยู่บนเตียงวิญญาณกลับเข้าร่างแล้ว เธอทำตาแดงจ้องใส่ผม โดยไม่ไตร่ถามอะไรสักคำ ผมเอาดุ้นเสียบหอยเธอต่อทันที เอ่อ ร่างกายมันขยับไปเองอ่ะ สัญชาตญาณก็เตือนว่านี้คือสิ่งที่สมควรทำ
“ย หยุดนะ! นี้มันมากไปแล้ว”
เธอพยายามร้องห้ามและดิ้นรน แต่สกิล Sex Master กับ The Great of Rape ทำงานขึ้นมาซะแล้ว...ประเดี๋ยวนะ...ไอ้ The Great of Rape นี้มันอะไรกันวะ! ได้มาตอนไหนไม่เห็นรู้เรื่องเลย ไม่สิ แค่ชื่อที่แสนยิ่งใหญ่ไปในทางเสื่อมนี้มัน…ขอดูหน่อยสิ มันทำอะไรได้
The Great of Rape ด้วยสกิลนี้สามารถทำให้ XXX และ #@$! นอกจากนั้นยัง &*% ซึ่งจะทำให้…………………………………………………………………………………………
โอเค เข้าใจล่ะ ใช้แบบนี้เอง...ซะที่ไหนล่ะโว้ย!! ทำไมมันเป็นภาษาต่างดาวไปได้เนี่ย ยิ่งช่วงท้ายมันเว้นทิ้งไว้เฉยๆ เลย ไว้เดี๋ยวค่อยไปถามเวเนซ่าที่หลังล่ะกัน ขานั้นเป็นเจ้าแม่แห่งสกิลอยู่แล้ว ไม่ว่าสกิลอะไรก็รู้จักหมด
“หือ?”
แต่แล้วผมก็ต้องแปลกใจ เมื่อมือผมขยับไปจักจี๋เธอคนนี้เอง
“พ พอแล้ว! มากกว่านี้ข้ารับไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆๆ”
เธอหัวเราะออกมาทั้งนํ้าตา สีหน้าเธอบ่งบอกว่าทรมานสุดๆ แต่แล้วที่ขอบสายตาผมก็มีข้อความเตือนขึ้นมา
>> Lv 2>
“...ฮา...เฮ้ย!!”
ผมรีบเปิดดูข้อมูตัวตัวเองทันที แล้วก็ต้องช็อคตาตั้ง เมื่อวานยัง Lv 40 กว่าๆ ตอนนี้มันเหลือแค่ Lv 2
แล้วร่างกายผมเป็นบ้าอะไรเนี่ย ขนาดช็อคอยู่เอวก็ยังไม่ยอมหยุดสอย แถมร่างกา◌่ยเริ่มขยับเองอีกแล้ว คราวนี้มือผมไปหยิบผ้าปูที่นอนขึ้นมาฉีกทำเป็นเชือก จากนั้นก็มัดแขนของเธอไว้กับเสาเตียง นอกจากนี้ผมยังตบไปนม
ของเธอด้วย จนเป็นรอยแดงรูปฝ่ามือขึ้นมา เอ่อ นี้มันรุนแรงไปหน่อยแล้ว แต่ผมควบคุมตัวเองไม่ได้เลย ส่วนหญิงสาวที่โดนผมกระทำชำเราอยู่ ก็ทั้งร้องไห้ทั้งคราง
ตอนแรกผมนึกว่าโดนใครควบคุมร่างกายอยู่ แต่ไม่ใช่ เหมือนโดนควบคุมการกระทำไว้มากกว่า เช่นว่า ผมสามารถควบคุมจังหวะการสอยได้ แต่ถ้าถอดเอวออกเมื่อไร รา◌่งกายจะเคลื่อนไหวเข้าไปเสียบใหม่เอง ผมสามารถพูดหรือขยับมือได้ตามปกติ นอกจากจะโดนบังคับมือเป็นบางครั้ง...ไม่ผิดแน่ นี้ล่ะคือผลของ The Great of Rape มันจะทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวไปเอง โดยมีจุดประสงค์ในการขืนใจอีกฝ่าย
แต่นี้มัน Combo Skill ไม่ใช่เหรอ! เพราะพอร่างกายถูกควบคุมด้วย The Great of Rape มันก็จะไปเข้าเงื่อนไขการทำงานของ Sex Master ทันที
“...ว่าแต่เธอเป็นใครกันล่ะเนี่ย?”
ผมทนไม่ไหวเลยต้องถามออกไป
“แก! ข่มขืนข้าซะขนาดนี้แล้ว ยังจะมาถามว่าข้าเป็นใครอีกเหรอ!”
สาวคนนี้มีผมสีดำ ตาสีดำ แต่ใบหน้าไม่เหมือนคนเอเซียเลยแฮะ แปลว่าไม่ใช่คนจากโลกเก่า สำเนียงการพูดก็ห้าวๆ ด้วย
“อ่า โทษที แต่จำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เลยอ่ะ สงสัยจะเมาหนักไปหน่อย”
“แกพูดอย่างนั้นทั้งๆ ที่เอาไอ้หนอนโสโครกของแกมุดเข้าออกตัวข้าอยู่เนี่ยนะ! อึ๋ก! แล้วทำไมจู่ๆ แกก็กระแทกใส่ปากมดลูกข้า! ด เดี๋ยว มันจะเข้าไปแล้ว!”
“ถึงจะว่าแบบนั้น แต่ผมควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้อ่ะ น่าจะเป็นผลของสกิล”
“บัดซบ! ไอ้สารเลว! ไอ้โจรข่มขืน!”
“ยอมรับทุกข้อกล่าวหาครับ”
แต่พอโดนด่า ร่างกายผมก็ขยับเองอีกครั้ง เอวมันดันดุ้นเข้าไปแบบไร้ปรานี ราวกับอยากจะขยี้มดลูกอีกฝ่ายให้แหลก ซํ้ายังใช้มือบีบลงไปตรงท้องที่บวมขึ้นมา สาวนิรนามกรีดร้องเสียงร้องจนตาเหลือก ฉี่เธอพุ่งออกมาเป็นสาย ตัวเธอกระตุกอีกครั้ง
“ด เดี๋ยวอย่าพึ่งสลบไป บอกมาก่อนเธอชื่อว่าอะไร”
“ชื่อ ข ข้าคือ…”
ไม่ไหวเธอสลบไปแล้ว แถม…
<:lv 2="">>> Lv 1>
<<เงื่อนไขครบถ้วน ได้รับสถานะ ภัยของผู้หญิง>>
<<เงื่อนไขครบถ้วน ได้รับ Unique skill การล้างบาป>>
“...ไอ้ความรู้สึกหดหู่นี้อะไรกัน ฮ่า แค่ Lv กลับไปเป็นหนึ่งเอง ใช่ แค่หนึ่ง...เวรแท้ๆ!”
ไม่ใช่แค่นั้น พอเปิดดูข้อมูลตรงสกิล ก็ได้สกิลมาเพียบเลย และที่สำคัญ...ได้สกิลมารราคะกลับมาแล้วด้วย...เมื่อคืนตูไปทำอะไรกันมาแน่ฟ่ะ!”
“ตอนนี้มีปัญหาแบบนี้ต้องเรียก โดเรXXX ไม่ใช่สิ เรียกมุเอมะต่างหาก”
ผมอธิบายเรื่องราวให้มุเอมะฟังแบบย่อๆ เพราะเหมือนเธอกำลังยุ่งอยู่ พอเล่าจบผมก็ตัดสรุปสิ่งที่ต้องการไปทันที
“มีใครพอจะฟื้นความทรงจำได้บ้างไหม”
“มีคะ ถ้าเป็นซักคิวบัสอย่างซานูน่า ก็น่าจะทำได้ และก็ยินดีด้วยนะคะ ที่ได้สกิลมารราคะคืนมาแล้ว”
“นั้นก็ใช่ แต่เลเวลผมโดนลดเหลือแค่ 1 เลยนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวฉันจะส่งดัมมี่ที่ Lv 500 ไปให้ท่านโรมะฆ่า แค่สักสิบตัว ท่านโรมะก็น่าจะเลเวลถึง 100 แล้ว”
“อย่าเด็ดขาด”
ดัมมี่ที่ว่าคือตุ๊กตาไม่มีชีวิต มันเป็นเป้านิ่งให้พวกทหารของเผ่าปีศาจฝึกซ้อม แต่ดัมมี่มีความสามารถพิเศษ คือถ้ามันไม่ถูกทำลาย มันจะเลเวลเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งที่ปราสาทจอมมารมีดัมมี่ที่ปั้มเลเวลให้มันจนถึง 500 ตั้งหลายตัว เรียกได้ว่ามันเป็นถังเก็บ Exp นั้นเอง แต่ผมไม่อยากใช้ เพราะมันเป็นไพ่ตายสำคัญสำหรับตอนที่มีสงคราม แถมจะสร้างใหม่ก็ไม่ได้ด้วย เพราะเทคโนโลยี่การสร้างดัมมี่หายไปก่อนยุคของเวเนซา◌่ซะอีก ตอนนี้ที่ปราสาทจอมมาร มีดัมมี่อยู่ราว 100 กว่าตัว ตัวที่เลเวลถึง 500 แล้ว มี 20 ตัว และกว่าครึ่งยังไม่เคยเอาออกมาใช้งานเลย
เรื่องเลเวลช่างมัน ดีซะอีก จะได้มีข้ออ้างไม่ไปตบตีกับพวกออร์คมัน
พอวางสายมุเอมะไปแล้ว ผมก็ใช้แหวนติดต่อไปหาซานูน่าต่อ ตอนนี้ซานูน่าเปลี่ยนมหาดันเจี้ยนเวก้าเป็นฐานบัญชาการของเธอไปแล้ว แต่เพราะมันทิ้งร้างมานานมาก แถมไม่มีนักผจญภัยกล้าเข้าไปอีก ในแง่ความปลอดภัยมันดีอยู่หรอก แต่พวกที่ถูกสาปจนกลายเป็นมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนเวก้า จะไม่มีสติปัญญา และควบคุมลำบาก เวก้าเลยต้องล้างคำสาปออกก่อน เพื่อจะได้พาลูกน้องชุดใหม่เข้าไปอยู่ได้
แต่การเดินทางนั้นเธอสามารถมาที่คฤหาสน์ได้ในทันที เนื่องจากติดตั้งแท่นวาปร์ไว้ระหวา◌่งดันเจี้ยนเวก้าและคฤหาสน์แล้ว
แต่พอมาถึง ใบหน้าของซานูน่าก็ซีดเผือก ขณะมองดูผู้หญิงที่ถูกมัดอยู่กับเสาเตียง ซานูน่ามองสลับไปมากับตัวผม เธออ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่มีเสียงออกมา
“อืม ทำหน้าแบบนี้แปลว่ารู้จักสินะ”
“เปล่าค่ะ พึ่งเคยเจอกันครั้งแรก เอ่อ แต่ฉันมั่นใจว่าไม่ผิดตัวแน่”
“อันตรายใช่ไหม”
ผมเอ่ยขึ้นขณะชี้ไปที่ผู้หญิงผมดำ
“สุดๆ เลยค่ะ”
“แบบนี้เอง สัญญาณผมถึงได้ทำแบบนั้นลงไป”
“ท่านจอมมารที่ปราบเธอได้นี้น่ากลัวกว่าอีกค่ะ”
“เธอใช่เผ่าปีศาจหรือเปล่า?”
ผมทำเป็นไม่สนใจที่ซานูน่าพูด และถามต่อราวกับกำลังเล่นเกมส์ใบ้คำกัน
“ไม่ได้ใกล้เคียงเลยค่ะ”
“ศัตรู?”
“ปกติวางตัวเป็นกลางค่ะ”
“ยอมแพ้ บอกมาสักทีว่าเธอเป็นใคร”
“1 ใน 7 มาร อัสโมเดียสค่ะ”
“...ชัวร์นะ”
ซานูน่าพยักหน้าแรงๆ ให้ ผมหันไปมองอัสโมเดียสที่ถูกมัดติดกับเสาอีกที และมองไปรอบๆ ห้องที่ราวกับถูกถล่มด้วยระเบิด จากนั้นเม็ดเหงื่อก็ผุดขึ้นมาเต็มใบหน้าผม
“หนีกันเถอะ”
ผมรีบเผ่นออกจากห้อง แต่ซานูน่าคว้าคอผมไว้ซะก่อน
“หนีไม่พ้นหรอกค่ะ ผู้ใช้สกิลมาร ก็เหมือนเป็นร่างทรงของมาร เธอสามารถไปปรากฎตัวที่ทุกที่ท่านจอมมารอยู่”
“ง งั้นจะทำอย่างไงดี”
“...อย่าตายนะคะท่านจอมมาร”
“อย่าด่วนสรุปเอาเองสิเฟ้ย! อย่างไงก็เถอะ ตอนนี้ฟื้นความทรงจำผมก่อน ถึงจะพอรู้แล้วล่ะว่าผมเองเป็นคนเรียกอัสโมเดียสออกมา แต่ต้องรู้ก่อนว่าทำไมมันมาจบอีแบบนี้ได้”
“รับทราบค่ะ”
และซานูน่าก็ยื่นมือมา และส่งมือนั้นเข้าไปในหัวของผม ใส่เข้าไปเลยล่ะ แต่ไม่ได้สร้างบาดแผลอะไรแต่ซึมผ่าน
เข้าไปเฉยๆ แต่สิ่งที่อยู่ในหัวผมน่ะสิ มันราวกับกำลังถูกมือนั้นคนเอาความทรงจำทั้งหมดมารวมกัน ผมปวดหัวแทบระเบิด และรอรู้ล่ะว่าทำไมตัวเองถึงจำอะไรไม่ได้ เพราะผมเมาจนไม่มีสติเลยไงล่ะ พอไม่สติสมองก็ทำงานอย่างสะเปะสะปะ งี่เง่าจริงๆ สาบานเลยว่าจากนี้จะไม่กินเหล้าแบบสามล้อถูกหวยอีกแล้ว
หลังจากความทรงจำเริ่มจัดเรียงตัวใหม่ มันก็เป็นเหมือนกับไฟล์ข้อมูลใหญ่ๆ ที่ถูกส่งผ่านเข้ามาในอึดใจเดียว เชื่อว่าถ้าทำแบบนี้บ่อยๆ สมองพังแน่ๆ เพราะมันเจ็บแทบคลั่ง แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
เรื่องมันเริ่มจากตอนที่ผมไปหาซารี และมีอะไรกันแบบพวกอดอยากปากแห้ง ซึ่งทำให้ผมหิวนํ้ามาก เลยไปหยิบเอาเหล้าที่วางอยู่บนชั้นมาดื่ม ซึ่งซารีร้องเตือนผมไม่ทัน เนื่องจากเหล้าที่เธอเก็บไว้ มันไม่ใช่เหล้าธรรมดา แต่เป็นเหล้าล้มดวาฟ แค่แก้วเดียวดวาฟที่ว่าคอแข็งยังล้มทั้งยืน
ได้ แต่นี้ผมเล่นกระดกเป็นนํ้าเลย ไม่แปลกที่จะเมาเละแบบนั้น
แต่นั้นล่ะ เพราะเมาเละจริงๆ เพราะผมไม่เหลือการควบคุมตัวเองอีกเลย แล้วไอ้แรงกระตุ้นของผมมันก็มีแต่พลังหื่น ผมเลยหันไปจัดซารีอย่างรุนแรง ขณะเธอสลบไปแล้วผมก็ยังไม่ยอมหยุด แต่ตอนนี้แหละที่สำคัญ เพราะ Lust Point มันครบพอดี
แถมเพราะงั้นไม่หายเงี่ยน และเริ่มเอากับคนสลบไปแล้วไม่ค่อยมันส์ เลยอุตริเรียกเอาอัสโมเดียสออกมา
“ฮ่าๆๆ ในที่สุดก็มีคนโง่เรียกข้าออกมา อั่ก!”
อัสโมเดียสที่ปรากฎตัวถามกลางแสงและควันอย่างอลังการยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนผมตุ้ยท้องและจับปลํ้าทันที
เธอพยายามต่อต้านสุดตัว และพลังของเธอก็โคตรอลังการ เล่นเอาห้องทำงานของซารีพังเละเลย
แต่ผมก็ใช้พลังจอมมารบวกกับบั้กเลือด ตั้งใจจะจับเธอกดท่าเดียว แต่ยังไม่สำเร็จเพราะพลังพวกเราค่อนข้างสูสีกัน เลยต้องย้ายออกไปสู้กันนอกเมือง
สุดท้าย ผมโดนเธอควบคุมจิตใจจนได้ แต่ตอนนั้นแหละที่สถานการณ์พลิกกลับ เพราะอัสโมเดียส ควบคุมจิตใจผมได้ไม่ทั้งหมด
ตอนที่ฟังจากเวเนซ่ามา ทำให้ผมรู้ว่าอัสโมเดียสมีพลังในการควบคุมจิตคน ผมเลยคิดเตรียมวิธีรับมือเอาไว้ ด้วยการ...ใช้กรงขังกับตัวเอง ผมกักจิตใจบางส่วนไว้ในกรง และสร้างให้มันเป็นบุคลิกแฝงขึ้นมา
เมื่อใดก็ตามที่มีอะไรพยายามจะมาควบคุมจิตใจผม กรงจะเปิดออก และปล่อยเอาบุคลิกแฝงออกมา และจะดึงเอาจิตใจส่วนที่โดนควบคุมเข้าไปขังแทน
แล้ววิธีการควบคุมจิตใจของอัสโมเดียส ก็คือการแทรกจิตใจตัวเองเข้ามาโดยตรง นั้นทำให้เธอโดยขังไปด้วย
ถึงผมจะเมาอยู่ แต่บุคลิกแฝงเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร ถึงจะเป็นเพียงแค่จิตใจบางส่วน แต่มันก็ทำให้อัสโมเดียสโดนกักพลังไว้กว่าครึ่ง เธอเลยคิดจะหนี...แต่ไม่พ้น เธอโดนผมจับกดจนได้ และพอโดนดุ้นเสียบเข้าไปทุกอย่างก็จบ เพราะ Sex Master ก็ทำงานแล้ว
และ Sex Master เนี่ยรู้สึกจะเป็น Unique skill ด้วยล่ะ เพราะอัสโมเดียสไม่มีสกิลนี้ ทำให้เธอ
หมดทางขัดขืนผม และโดนข่มขืนจนหมดสภาพ จากนั้นผมก็พาเธอกลับมาที่คฤหาสน์และต่อกันอีกหลายยก
ระหว่างนั้นพอมีจังหวะดิ้นหลุดได้เมื่อไร เธอก็จะใช้พลังเข้าตอบโต้ผม สภาพห้องมันเลยเละเทะอย่างที่เห็น แต่ก็นั้นแหละ พลังเธอเหลือแค่ครึ่งเดียว การดิ้นรนของเธอเลยยิ่งทำให้ผมเกิดอารมณ์ เธอเลยโดนหนักกว่าเดิมซะอีก
และตอนนั้นเองผมก็ได้สกิล The Great of Rape มา ถึงจะไม่รู้ว่าใช้อย่างไง แต่เหมือนมันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการข่มขืนล่ะ แต่ว่า Lv ผมก็เริ่มลดลงตั้งแต่ไอ้สกิลบ้านี้เริ่มทำงาน
รู้สาเหตุล่ะ
ทุกอย่างทำท่าจะจบก่อนรุ่งสาง แต่ตอนที่ผมหมดแรงนั้นเอง สกิลมารราคะก็กลับมาแล้ว...ผมก็เลยจัดอัสโมเดียสต่อจนหมดสภาพอย่างที่เห็น
และความทรงจำของผมมันไม่ต่อเนื่องกัน เพราะก่อนจะหลับไปจิตใจผมก็สลับคืนที่เดิม เจ้าตัวแทนกลับไปอยู่ในกรงขัง ส่วนตัวผมที่ตื่นขึ้นมานอกจากจะเมาจนจำอะไรไม่ได้ และความทรงจำตอนข่มขืนอัสโมเดียส ยังเป็นของเจ้าตัวแทนด้วย
พอระลึกทุกอย่างได้ ผมก็เริ่มเหงื่อตก เพราะตอนนี้จิตใจอัสโมเดียสกลับที่เดิมแล้ว ถึงร่างกายเธอจะหมดสภาพจากศึกโต้รุ่ง แต่เดี๋ยวถ้าฟื้นตัวแล้วเธอคงเอาผมตายแน่
“งึม”
ว่าแล้วอัสโมเดียสก็กลับมามีสติพอดี ระหว่างที่คิดว่าจะเอาอย่างไงดี หรือจะใช้ The Great of Rape ต่อดี อ่ะ สกิลเป็นสีแดงไปแล้ว...อ้อ ไม่มี Lv ให้ลดแล้ว ก็เลยใช้งานไม่ได้เหรอ!
“ย ยอมแล้ว ข้ายอมแล้ว เจ้าชนะ”
“หา?”
ผมรอดตัวมาได้แบบงงๆ แต่อัสโมเดียสถึงขีดจำกัดก่อน ทั้งร่างกายและจิตใจเลย เธอจึงยอมแพ้ซะเอง
“ข ขอพรมาซะ อะไรก็ได้ ข้าสามารถบัลดานให้ได้ทุกอย่าง”
อัสโมเดียสอธิบายด้วยเสียงที่อ่อนแรง
“ได้ทุกอย่างจริงๆ เหรอ”
“ทุกอย่าง เพราะสิ่งที่พรมอบให้ มาจากระบบโดยตรง ตัวข้าแค่เป็นเงื่อนไขที่เจ้าจะเข้าถึงระบบขอพรเท่านั้น”
“แบบนี้เอง...ถ้าแบบนั้น”
เรื่องขอพร จริงๆ ผมคิดจะขอสกิลดีๆ มาอยู่หรอก แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจล่ะ เพราะผมไม่อยากตาย เลยต้องเปลี่ยนคำขอด่วน
“ผมขอให้เธอ อัสโมเดียสเป็นมนุษย์”
<<ตอบรับคำขอ มารอัสโมเดียสถูกลบออกจากระบบ….%%@# จอมมารโรมะได้เป็นผู้ถือครองบาปแห่งราคะแทน XX%%@# สกิลการล้างบาปทำงาน %%@# บาปแห่งราคะถูกลบออกจากระบบ %%@# ระบบล้มเหลว ทำการตั้งค่าใหม่...ไม่สามารถตั้งค่าใหม่ได้ สกิลมารราคะถูกยกระดับสูงสุด…%%@# เงื่อนไขครบถ้วน ได้รับ…%%@# การเปิดใช้งานระบบ Sex Option>>
“...”
คือผมแค่ไม่อยากโดนอัสโมเดียสตามแก้แค้นทีหลัง เลยจะให้ทำให้เธอเป็นมนุษย์ซะ จะได้ไม่เหลือพลังมาเล่นงานผมทีหลังได้ แถมไม่คิดด้วยว่าพรแบบนี้มันจะเป็นจริงได้ แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปซะแล้วล่ะ

ปิดโปรเจคแล้วนะ เป็นมติร่วมกันของทั้งคนแต่ง คนแปล และคนเกลา แบบว่ามันเริ่มไม่สนุกแล้ว

และตอนจบของภาคนั้นพึ่งออกมาเมื่อเช้านี้พอดี เลยจะเอาตอนที่เหลืออีกสามตอนมาทำแบบสปอยแทน ซึ่งทั้งผู้แต่งและผู้แปลให้ได้มากสุดเท่านี้



ตอน 150

โรมะปรึกษากับเวเนซ่า และตกลงจะเรียกผู้คุมระบบมาเคลียร์ โดยการให้เวเนซ่าสร้างสกิลย้อนเวลา พอผู้คุมระบบมาโรมะก็ถามเรื่องสกิลเปิดระบบเซ็กส์ออฟชั่น ซึ่งมันเป็นสกิลของผู้คุมระบบที่ยังว่างอยู่ ผุ้คุมระบบ(ทั่วไป) อธิบายว่าผู้สร้างระบบนี้ร่วมถึงสร้างโลกนี้และอีกหลายๆ โลกขึ้นมา หายสาปสูญไปแล้ว ตำแหน่งผู้คุมระบบเลยยังว่างอีกหลายที่ จึงให้โรมะดูแลระบบนี้ไป แต่ไม่ใช่ในฐานะผู้คุมระบบ เพราะโรมะมีส่วนเกี่ยวข้องกับโลกมากเกินไป ซึ่งถ้าใช้ระบบจนโลกเสียสมดุลมากเกินไป ก็จะโดนลงโทษจากผู้คุมระบบ(ทั่วไป) ส่วนจะโดนลงโทษแบบไหนนั้น ผู้คุมระบบ(ทั่วไป) ไม่ได้บอก เพียงแต่หัวเราะและหายตัวไปเลย



ส่วนอัสโมเดียสที่กลายเป็นมนุษย์ธรรมดาไปแล้ว แค้นโรมะโคตรๆ เลยปฏิเสธคำเชิญเข้าฮาเร็ม และวางแผนแก้แค้น ด้วยการไปปลุกระดมพวกผู้ชายในเมืองกรอซ่ามาเอาเรื่องโรมะ แต่งานนี้โดนซารีออกมาขัดขา ด้วยการไปปลุกผีพวกเมียๆ ออกมาก่อม็อปไล่พวกผู้ชายกลับไปลงหลุม



ตอนที่ 151

ตอนนี้โรมะได้ไปเคลียร์หมู่บ้านพวกออร์คจนหมด เหลือแต่ราชินีออร์ค ซึ่งโรมะสู้ไม่ไหว เพราะเลเวลโดนลดเหลือแค่ 1 แถมราชินีไม่เหมือนพวกตัวผู้ที่ยอมสู้แบบยุติธรรมด้วย แต่เธอเล่นซัดแบบเอาจริงจนโรมะเกือบตาย สุดท้ายเลยต้องใช้วิธีย่องเข้าหาตอนกลางคืนเพื่อไปขืนใจราชินีจนยอมแพ้ แต่งานนี้โรมะสูญเสียศักดิ์ศรีไปพอสมควร หลังพิชิตเผ่าพันธุ์ได้ ก็เปิดระบบคลังแสงราชันได้ โดยผู้พิชิตเผ่าพันธุ์ จะมีสิทธิ์เข้าไปเลือกอาวุธมาหนึ่งอย่างเพื่อเป็นรางวัล



แต่โรมะไม่ทันได้เลือก ก็โดนอาวุธเลือกเอง โดยอาวุธที่ได้มาคือวิญญาณแห่งศาสตราวุธ มันเป็นอาวุธที่ไม่มีรูปร่าง แต่จะเข้าไปสิงในอาวุธอื่นเพื่อเพิ่มพลังให้กับอาวุธให้ แต่มันดันเข้าไปสิงในดุ้นของโรมะ...ทำให้ดุ้นของโรมะกลายเป็นอาวุธในตำนานขึ้นมาจริงๆ ขนาดอลิซาเบธเอาหอกแสนรักมาลองฟาดใส่ตามคำท้าของเวเนซ่า หอกเธอถึงกับหัก แต่ว่าอาวุธในตำนานก็ได้มาพร้อมกับข้อเสีย เพราะตอนนี้ทุกครั้งที่โรมะไปมีอะไรกับผู้หญิง พวกสาวๆ ก็จะได้รับค่าแดมเมจไปด้วย ถึงจะไม่มากก็เถอะ แต่จะมีอะไรกับคนธรรมดาที่เลเวลน้อยๆ ไม่ได้แล้ว งานนี้เมยอาถึงกับขอพักงานและไปเก็บที่ดันเจี้ยนจำลองทันที



ตอนที่ 152

โคเฮย์กับฮิเดกิตอนนี้มาที่เมืองกรอซ่าแล้ว ซึ่งซารีก็รู้ข่าวจากสาย เลยคิดว่ากิลมุเกนรู้เรื่องโรมะยังไม่ตาย เลยส่งคนมาฆ่าอีกรอบ จึงพาลูกน้องออกไปขวางโคเฮย์ไว้ ตกลงกันไม่ได้เลยซัดปากกัน แต่ลูกน้องซารีโดนฮิเดกิฆ่าเรียบ ส่วนซารีเองก็โดนโคเฮย์จับกด(ข่มขืน)และโดนขโมยสกิลไปหมด แต่เวเนซ่ารู้ว่ามีผู้ใช้สกิลมารอยู่ใกล้ๆ เลยพาโรมะตามมาช่วยซารีไว้ได้ทันก่อนจะโดนแตกใส่ข้างใน



โรมะโกรธจนเลือดขึ้นหน้า จึงเปิดใช้ระบบเซ็กส์ออฟชั่นและเปลี่ยนให้โคเฮย์กลายเป็นผู้หญิง และหันไปใส่มารราคะแบบ Full Mode ใส่เจ้าฮิเดกิ จนหน้ามืดหันมาข่มขืนโคเฮย์ไปหลายยก



นอกจากนี้พอรู้ว่าโคเฮย์เป็นผู้ใช้สกิลมาร แถมยังเป็นคู่อริของซาคุยะ โรมะเลยให้ไปตามซาคุยะกลับมา และจัดให้ทั้งคู่สู้กัน เจ้าโคเฮย์จิตตกที่โดนเพื่อนข่มขืนมา เลยไม่มีกระจิตกระใจจะสู้ แถมโดนโรมะวางยา โดยลอกให้ขโมยเอาสกิลไปจากตัวเอง ซึ่งในตัวโรมะมีเพียงสกิลเดียวเท่านั้นที่ไม่ใช่สำนึกแห่งศาสตร์ นั้นก็คือสกิล Mp Burn ที่เรียนมาจากการ์ด โดยสกิลนี้จะลด Mp ไปเรื่อยๆ ตามจำนวนสกิลที่มี แต่จะช่วยไปเพิ่มค่าพลังให้แทน แถมยังเป็นสกิลที่ทำงานตลอดเวลา ฮิเดกิเลย Mp หมดก่อนจะได้ทันสู้กับซาคุยะซะอีก สุดท้ายเลยโดนซาคุยะอัดจนหายแค้น




ส่วนเรื่องสกิลไม่สามารถคืนให้ได้ จนกว่าฮิเดกิจะตาย แต่ซาคุยะเรียนรู้มาจากโรมะว่า การฆ่าคือความใจดี เธอเลยปล่อยฮิเดกิไป เพราะสภาพฮิเดกิตอนนี้แทบจะกลายเป็นคนเสียสติแล้ว ส่วนโคเฮย์ถึงจะรอดตัวไปเหมือนกัน แต่ว่าถูกคำสาปแห่งราคะเข้าไป ซึ่งเป็นสกิลใหม่ที่โรมะได้มาจากอัสโมเดียส ทำให้ถ้าไม่ได้เยิ้บกับฮิเดกิทุกๆ สามวัน เลือดจะไปคลั่งที่อวัยวะเพศจนระเบิด



แต่เพราะงานนี้เลยทำให้โคเฮย์เปิดโหมดสกิลลับของมารโทสะได้ แต่เป็นพลังแบบไหนยังไม่บอก แต่เจ้าตัวคิดว่าถึงจะใช้พลังนี้ได้ แต่คนเดียวคนเอาชนะทั้งโรมะและเวเนซ่าไม่ได้แน่ จึงคิดจะกลับไปรวมพล และเตรียมนำกิลมุเกนมาทำสงครามเต็มรูปแบบ



ในขณะเดียวกับ พวกโบสถ์ใหญ่ก็บ้าไปแล้ว (ขาดหญิงจนเงี่ยนขึ้นสมอง) และทำการอันเชิญข้ามมิติจนได้ เอาเตอร์ก็อดออกมา ซึ่งพอมาถึงพวกโบสถ์ใหญ่ก็โดนกลืนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเอาเตอร์ก็อด และเปลี่ยนให้เมืองทั้งเมืองกลายเป็นมอนสเตอร์คลัสเตอร์ ซึ่งจะให้กำเนิดมอนสเตอร์จากโลกของเอาเตอร์ก็อดได้ และนักผจญภัยในเมืองที่หนีออกมาได้ทัน ลองใช้สกิลตรวจสอบดูกับมอนสเตอร์ฝูงหนึ่งที่หลุดออกมา เลยเห็นว่ามันมีเลเวลต่ำสุดอยู่ที่ Lv 500 นอกจากนั้นยังมีตัวที่ Lv 1000 อยู่ด้วย



จบภาค 1

ความคิดเห็น

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณ ท่านผู้อัพให้อ่านตลอดมามากเลย รวมๆสนุกดีถึงตอนหลังคนแต่งเหมือนจะรีบๆก็เถอะ
    สุดท้ายเอร่าไม่มีบทเลยหรอเสียใจ T-T
    ท่านผู้ใดสานต่อ เราจะรอ โครตค้าง

    ตอบลบ
  3. รอผู้สานต่อมาแจ้งความคืบหน้าครับ ลงที่ไหน เมื่อไหร่ ผมจะได้ตามไปอ่านต่อได้ถูก
    จะแบบไหนก็อ่าน ถ้าเนื้อเรื่องยังคงเค้าเดิมในแบบฉบับของนายหมีหื่นโรมะ

    ตอบลบ
  4. https://www.facebook.com/Shin-Maou-no-Harem-Remake-440301676366353/

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ปล.ฝากเฟสเพื่อนลง และช่วงนี้เขียนช้าหน่อยเพราะกลับมาบ้าน
      เป็นคอมรวมของครอบครัว รอเปิด เทิมหลังปีใหม่

      ลบ
    2. ขอบคุณมากครับ กระสันอยากอ่านต่อมานานล่ะ

      ลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ ตอนที่1 by KUMAO

ขอออกตัวก่อนเลยว่าแอบก็อปไว้ก่อนที่เว็บจะบินไม่ใช่นิยายของผม ซึ่งมันจะเป็นนิยายแต่งหรือแปลก็ช่างมันผมว่าโดยรวมมันดีถึงจะมีข้อด้อยไปบ้างแต่ก็อ่านได้ลื่นไหล สำหรับคนที่ไม่ชอบก็เบรคตัวเองไว้ไม่ต้องอ่านโวยวายไปก็ไม่ได้อะไรเพราะผมแอบก็อปมาลงไว้ให้บางคนที่ไม่เคยอ่านได้อ่านกันบางคนอยากอ่านซ้ำก็จะได้อ่าน ออกความเห็นได้แต่อย่าดราม่ามากนะคับ บ่นแค่นี้พอละแล้วจะรีบมาลงตอนต่อ เนื้อหามีความรุนแรงเกี่ยวกับเพศอายุต่ำกว่า18อ่านได้แต่อย่าทำตามมันไม่ควร ตอนที่ 1 คืนสุดท้าย                ผมมุเกน โรมะ นักเรียนชั้นปีที่ 2 และตอนนี้ ผมกำลังนั่งซักกางเกงในผู้หญิงอยู่ที่ต่างโลกล่ะเรื่องราวทั้งหมดก็ประมาณว่า เมื่อเดือนก่อน พวกผมทั้งหมดถูกส่งมาต่างโลกแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แบบนั่งสอบอยู่ดีๆ เงยหน้าขึ้นมาก็โดนมอนสเตอร์ล้อมแล้วอ่ะ                 แถมที่ซวยที่สุดก็คือ พวกผมไม่ได้ไปอยู่ในจุดของผู้เริ่มต้น แต่กลับมาอยู่ในปราสาทของจอมมารเลย แต่ก็ยังไม่ถึงกับซวยซะทั้งหมด เพราะพวกเราที่มาจากต่างโลก ต่างได้รับสกิลมาด้วย แถมในโลกนี้ก็มีเวทมนต์ที่ทำให้สามารถแสดงค่าสถานะต่างๆ ได้แบบเกมส์                 สก

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 14 - 16 By Kumao

พอก่อนนอนดีกว่า ตอนที่ 14 ชายผู้มีอาวุธในตำนาน ผมกลับมาที่คฤหาสน์ก่อนทุกคนตื่นได้อย่างเฉียดฉิว เช้านี้ผมเตรียมเมนูเป็นข้าวสวยกับปลาย่างเกลือเสริฟพร้อมชุปมิโซะและสลักผัก เดเม่ตื่นลงมาช่วยผมเป็นคนแรกแบบทุกที แต่เธอดูยังคงไม่พอใจที่ตื่นนอนหลังผมอยู่ดี ทว่าก็มีท่าทางเอียงอายคงเพราะยังเขินเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนอาบน้ำ เธอเริ่มคุ้นเคยกับการทำอาหารของผมแล้ว จึงช่วยในการจัดเตรียมวัตถุดิบเป็นหลัก ผมใช้เวลาทำอาหารไม่ถึงสิบนาทีก็เสร็จเรียบร้อย เลยให้เดเม่ขึ้นไปปลุกทุกคนลงมากินข้าว แต่สงสัยยังติดใจหม้อไฟเมื่อวาน เลยพากันไปนั่งรอบโต๊ะเตี้ยกันหมด จนผมต้องไล่ให้ขึ้นมานั่งที่โต๊ะกินข้าวแบบเดิม พอผมตักข้าวในหม้อใส่จานให้ทุกคน ก็พากันทำหน้าแปลกใจ “ไอ้ขาวๆ นี้มันคืออะไรเหรอ?” ดาเซสถามขึ้นพลางชี้ไปที่ข้าวบนจาน คนอื่นก็มีคำถามแบบเดียวกันอยู่บนสีหน้า “ข้าวไง” “ข้าว! หมายถึงข้าวที่จะมีแค่ในร้านอาหารสุดหรู ของพวกขุนนางเท่านั้นใช่ไหม ไม่สิ ฉันเองก็เคยกินมันอยู่ครั้งหนึ่ง จำได้ว่าไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย มันมีสีคล้ำๆ แล้วก็ไม่ดูนุ่มๆ น่ากินแบบนี้ด้วย” “อ้อ เพราะไม่ได้คัดข้าวไงถึงเป็นแบบนั้น แล้