ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 23 - 25 By Kumao






ตอนที่ 23 มิริน part 5

ผมกลับมาถึงคฤหาสน์ก็ตรงเข้าไปทำมื้อเช้าที่ครัวตามปกติ วันนี้ผมจะทำขนมปังปิ้งทาเนยโรยน้ำตาล กินกับนมและสลัดผัก ว่าแต่อยากได้กาแฟจังแฮะ แต่ในตลาดก็ไม่มีซะด้วย อย่าบอกนะว่าโลกนี้ไม่มีกาแฟ ไม่สิ คงมีแหละแค่ต้องหาให้เจอ ด้วยที่เป็นของกินง่ายๆ เลยใช้เวลาทำแปบเดียวก็เสร็จ ทันทีที่ทุกคนลงมาพอดี
ดูท่าคอมโบระหว่างสเต็ก แช่น้ำ นมอุ่น จะทำให้ทุกคนหลับเป็นตาย กระทั่งเดเม่ที่ปกติตื่นเช้ากว่าใครวันนี้ยังลงมาพร้อมกับคนอื่นเลย
“มื้อเช้าเสร็จแล้ว มากินกันเถอะ”
อืม รู้สึกถึงบรรยากาศตอนอยู่บ้านที่โลกเก่าเลยแฮะ
“…นายท่านค่ะ ขออภัยที่ต้องพูดจาล่วงเกินค่ะ”
“มีอะไรเหรอเดเม่”
“คือ นายท่านจะให้หนูเป็นเมดทำไมคะ เพราะทั้งอาหาร ทั้งทำความสะอาด นายท่านทำคนเดียวหมดเลย”
“เอ๋? ก็ต้องอยู่แล้วสิ งานของเดเม่มีแค่ใส่ชุดเมดให้ฉันดูแค่นั้นนี้”
“อึก! นี้หนูไร้ประโยชน์เหมือนคุณเอร่าเลยเหรอคะ”
เดเม่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้
“นี้อย่าเอาฉันไปเปรียบเทียบสิ!”
“ใช่แล้วเดเม่ เปรียบเทียบแบบนั้นเสียมารยาทนะ เธอน่ะมีประโยชน์กว่ายัยเอร่าเยอะเลย”
“แง! อย่ารุมแกล้งฉันสิ!”
“เอร่า…จนถึงตอนนี้เธอยังคิดว่าฉันแกล้งอีกเหรอ”
“ไม่ได้ยินๆๆๆ ฉันไม่ได้ยินคำพูดโหดร้ายพรรณนั้น!”
ผมเลิกสนใจยัยเทพธิดาไร้ประโยชน์และหันไปอธิบายให้เลเม่ฟัง
“ผมพูดเล่นน่ะ คือตอนนี้เหมือนว่าผมทำคนเดียวทุกอย่างก็จริง แต่อีกหน่อยถ้าเกิดพวกเรามีสมาชิกเพิ่มมากกว่านี้ ผมก็จะทำคนเดียวไม่ไหว ถึงตอนนั้นแหละที่เดเม่ต้องเข้ามาช่วย เพราะงั้นอย่ารีบร้อนเลย ค่อยๆ ปรับตัว และเรียนรู้จากผมไป”
ผมพูดไปงั้นแหละ ต่อให้ในบ้านนี้อยู่กันเป็นร้อยคน ผมคนเดียวก็ดูแลไหว ก็มีสกิลพ่อบ้านสมบูรณ์แบบอยู่นี่น่า…เดี๋ยวสิ นี้มันสกิลขี้ข้าชัดๆ เลยนี่หว่า ทำไมพึ่งรู้ตัวฟ่ะ
“ค่ะ หนูจะพยายามเพื่อช่วยงานนายท่านให้ได้เร็วที่สุดเลย”
“ไม่ต้องรีบๆ แล้วถ้ารู้สึกว่างผมอยากให้เดเม่ลองฝึกการเขียนกับคำนวณให้เป็นนะ เพราะมันจะช่วยงานผมได้หลายอย่างเลย เรียนจากดาเซสก็ได้”
“หือ ฉันเหรอ? ได้สิเดี๋ยวสอนให้”
ดาเซสมัวแต่จ้องมื้อเช้าจนรู้สึกตัวช้า
“ขอบคุณค่ะ”
“งั้นก็กินกันได้แล้ว เดี๋ยวเย็นหมดซะก่อน”
“ช้าก่อน”
คราวนี้เป็นยูรินที่ยกมือขึ้นมาขัดจังหวะ พร้อมกับหยิบขนมปังปิ้งที่ทาเนยและโรยน้ำตาลไว้ขึ้นมา
“ไอ้นี้มันอะไร”
“ขนมปังปิ้งธรรมดา”
ผมตอบพลางกัดงับเข้าให้
“งั้นไอ้ก้อนแข็งๆ ที่ข้าเคยกินนั้นมันอะไรล่ะ”
“ยูรินอย่าเอาสามัญสำนึกของอาหารที่เคยกิน มาเปรียบเทียบกับอาหารของนายท่านเลยดีกว่านะ ไม่งั้นจะปวดหัวซะเปล่าๆ”
ดูเหมือนดาเซสจะเข้าถึงสัจธรรมแบบแปลกๆ เข้าให้แล้ว
ตอนนี้ทุกคนเริ่มลงมือกินแล้ว เสียงกัดขนมปังดังกร๊อบแทบจะพร้อมๆ กัน แต่แล้วมันก็เงียบไปเลย ก่อนที่บรรยากาศเดิมๆ ที่เกิดขึ้นเหมือนทุกมื้อจะเริ่มต้นขึ้น
“อร่อย! ทั้งที่กรุบกรอบแต่ทำไมถึงนุ่มนิ่มด้วยล่ะ งงไปหมดแล้ว อ่า น้ำตาทำไมถึงไหลไม่หยุดเลย”
ผมขี้เกียจว่าดาเซสแล้ว เลยกินไปเงียบๆ แทน พลางคิดไปว่าวันนี้จะทำอะไรต่อดี
“ที่ทาไว้ด้านบนก็หวานมากเลยค่ะ เข้ากันที่สุดเลย ว่าแต่นี้ใช่ขนมปังจริงๆ เหรอคะ”
ฟรานถึงจะเริ่มมีภูมิคุ้มกันของอร่อยจนไม่ร้องไห้แล้ว แต่ก็ยังมีท่าทางตื่นเต้นดีใจอยู่
“ถึงเป็นขนมปังก็มีหลายแบบน่ะ ขึ้นอยู่กับแป้งและวิธีหมัก ไว้ว่างๆ จะสอนวิธีทำให้”
“หนูก็ทำได้เหรอคะ!”
“ถ้าได้ฝึกแล้วใครๆ ก็ทำได้ ยิ่งถ้าชำนาญแล้วหลับตายังทำได้เลย”
เดเม่ดูจะทึ่งเอามากๆ ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ก็อาหารข้างนอกมันไม่ได้เรื่องจริงๆ นี่น่า มื้อแรกที่ผมยอมเสียเงินไปตั้งเยอะ ก็เพื่อเหตุนี้แหละ พอรู้ว่าอาหารทั่วไปกระเดือกไม่ลง ก็ต้องเริ่มคิดวิธีที่จะทำกินเองขึ้นมา ดีที่มีกระเป๋านักผจญภัย ทำให้เก็บวัตถุดิบไว้ได้หลายๆ แบบโดยไม่ต้องกลัวเสื่อมคุณภาพ อย่างนมเนี่ยมีพอกินไปอีกหลายวันเลยทีเดียว จริงสิจะว่าไปเคยจดให้เดเม่ไปซื้อไอ้นั้นมาด้วยนี่น่า
ผมลุกขึ้นไปค้นในกระเป๋าจนเจอของที่ต้องการ มันคือน้ำผึ้ง
“มีใครจะเติมอีกไหม”
พอผมถามไปทุกคนยกมือขึ้นทันที เพราะผมสั่งไว้แล้วว่าต้องกินให้อิ่มทุกมื้อห้ามเกรงใจเด็ดขาด เพราะเรื่องปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องมาอันดับแรก
“งั้นคราวนี้ลองราดเจ้านี้ดู”
ผมวางขนมปังปิ้งและตักน้ำผึ้งราดไป คราวนี้ทุกคนอร่อยซะจนจ้องมาที่กระปุกน้ำผึ้งในมือผมเลย
“นายท่านไอเท็มวิเศษนั้นมันคืออะไรกัน”
ยูรินถามหน้าตายพลางชี้มาที่ขวดน้ำผึ้ง
“น้ำผึ้งไง”
“อ่ะ! วะ วัตถุดิบที่แพงๆ นั้นนะเหรอคะ!”
ดูเหมือนเดเม่จะจำรายการของที่ตัวเองไปซื้อมาได้หมดเลยแฮะ
“แพงนี้เท่าไรเหรอ”
ดาเซสหันไปถาม
“ขะ ขวดหนึ่งก็…30,000 ค่ะ”
ทุกคนพอรู้ราคาเข้าไปถึงกับแทบสำลักออกมา
“นะ นี้ฉันกินของแพงขนาดนั้นลงไปเหรอเนี่ย จะ จะทำอย่างไงดี”
ฟรานหันซ้ายหันขวาอย่างรนราน น่ารักจนอยากจะกอดเลยแฮะ
“ไม่เป็นไรหรอก ราคาไม่สำคัญขอแค่พวกเธอชอบก็พอแล้ว”
“นายท่าน”
ฟรานมองผมด้วยดวงตาเป็นประกาย แต่แล้วก็เหมือนเช่นทุกที
“เติมอีก!”
มีแต่ยัยเอร่านี้เท่านั้นแหละ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่คุ้มค่า
“เอานี้”
ผมวางขนมปังปิ้งเปล่าๆ ลงไปให้
“เอ๋ แล้วที่ทาด้านบนล่ะ”
“ของเธอแค่นี้ก็พอแล้ว”
“ไม่เอานะ! ทำไมล่ะ อย่าลำเอียงสิ ให้ฉันอีกเถอะนะ”
“ทำดีกับเธอแบบนั้นสิถึงเรียกว่าลำเอียง!”
ผมจับขนมปังยังใส่ปากเอร่าไป แต่มันทำให้เงียบได้เลยแฮะ เธอกินขนมปังไปเหมือนกระรอกไม่มีผิด ดูเหมือนแบบเปล่าๆ ก็ชอบสินะยัยนี้ สุดท้ายผมก็ยอมแพ้และราดน้ำผึ้งให้
“คราวหน้าลองทำแยมดูดีกว่าแฮะ”
ผมเริ่มนึกถึงเมนูต่อไป แถมถ้าผมทำขนมปังกับแยมทิ้งไว้เยอะๆ เวลาผมไม่อยู่ พวกเธอก็ยังเอาออกมากินกันได้ทันที เป็นอาหารสำรองที่ไม่เลวเลยทีเดียว
“ฟรานกับเดเม่ดื่มนมให้หมดเลยนะ”
ผมเห็นว่าพวกเธอยังไม่แตะนมเลย จึงต้องเตือนออกไป
“ค่ะ!”
“อืม ดื่มเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ”
พอผมพูดไปแค่นั้น ทั้งคู่ก็รีบวางแก้วนมลงทันที
“นะ นายท่านคะ นะ หนูไม่ดื่มนมได้ไหมคะ”
ฟรานถามเสียงสั่นออกมาเหมือนกลัวอะไรบางอย่างอยู่
“อ้าว ทำไมล่ะ ไม่ชอบเหรอ”
“มะ ไม่ค่ะ ชอบมากเลย แต่ว่า…ถ้าดื่มเยอะแล้วตัวโตขึ้นมา นายก็จะไม่รักหนูอีก ขะ ขอตัวเล็กแบบนี้ดีกว่าค่ะ”
พอได้ยินที่ฟรานบอก คนที่ตัวโตสุดอย่างดาเซสถึงหันมามองผมด้วยสายตาเป็นกังวล จนแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว
“อ่ะ จริงอยู่ที่ผมชอบเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ถึงพวกเธอตัวโตขึ้นผมไม่ได้รักน้อยลงหรอกนะ ตรงกันข้ามถ้าพวกเธอกินอาหารไม่เพียงพอ จนโตขึ้นมามีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ แบบนั้นผมยังจะรู้สึกแย่กว่าอีก ผมน่ะแค่ได้เก็บเกี่ยวความสุขไปกับช่วงเวลาที่พวกเธอค่อยๆ เติบโตขึ้นก็พอใจแล้ว เพราะฉะนั้นมานี้เลย”
ผมจับตัวฟรานมานั่งบนตัก และลูบหัวเธอเบาๆ อืมเกจความสุขเพิ่มขึ้นแล้ว
“ทีนี้ก็เลิกซึมแล้วดื่มนมซะ ใครไม่ดื่มจะโดนงดมื้อเย็นนะ”
พริบตาเดียวนมหายไปแล้ว…นี้มื้อเย็นของพวกเธอมันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ
หลังจากมื้อเช้าแล้ว ผมก็เรียกให้ยูรินมาคุย เพราะมีงานให้เธอทำ ผมเอาแบบซักโครกที่ผมวาดเองให้เธอดู เพื่อดูว่าเธอจะทำออกมาได้ไหม
“ทำได้ ว่าแต่เจ้าสิ่งนี้ไว้ใช้ทำอะไรเหรอ”
“ไว้เดี๋ยวลองใช้ดูก็จะเข้าใจเอง แต่ต้องใช้อะไรบ้าง”
“ของส่วนใหญ่ใช้ไม้ที่ตัดเอาจากป่าใกล้ๆ คฤหาสน์ได้ ส่วนที่เหลือต้องไปซื้อเอาจากร้านวัสดุ”
“เยี่ยม ต่อไปก็กำแพงรอบคฤหาสน์ คิดว่าต้องใช้แรงงานกับงบเท่าไรถึงทำได้”
“ข้าทำคนเดียวได้ งบเท่ากับศูนย์ ขอแค่มีดินข้าก็สร้างอิฐขึ้นมาได้ ส่วนเหล็กที่ใช้ทำประตู นายท่านก็เอาแร่ดิบที่ได้จากในดันเจี้ยนมาให้ข้าก็แล้วกัน”
“โห ยูรินเธอนี้สุดยอดไปเลยแฮะ”
ผมลูบหัวเธอด้วย แต่เธอส่งเสียงหือออกมาทำให้ผมต้องหยุดมือทันที
“ไม่ชอบสินะ”
ผมเกือบลืมไปเลย ว่ายูรินน่ะเป็นป้าโลลิที่เป็นรุ่นแม่ผมได้เลย ต้องมาโดนคนรุ่นลูกมาลูบหัวคงรู้สึกไม่ดีจริงๆ
“ไม่ใช่ไม่ชอบ”
เธอตอบก่อนจะค่อยๆ ดันหัวไสไปกับมือ ผมเลยลูบเธอต่อแบบเดียวกับที่ทำให้ฟราน
“อะ ออกไปซื้อของกันเลยไหม”
ยูรินถามผมขึ้นมา ไม่รู้ทำไมต้องถามเสียงสั่นแบบนั้นด้วย โกรธอะไรอยู่หรือเปล่าไม่รู้
แต่ผมก็ออกไปซื้อของในเมืองพร้อมกับยูริน โดยคราวนี้ให้ดาเซสเป็นสารถีให้ ส่วนเดเม่ให้อยู่เรียนวิธีเขียนกับฟรานที่บ้าน ซึ่งผมจะสลับหน้าที่กันว่า การสอนหนังสือช่วงเช้าฟรานจะรับผิดชอบ ส่วนช่วงบ่ายดาเซสจะดูแล
พอขึ้นมาบนรถม้าปุ๊บ ยูรินก็ขึ้นมานั่งบนตักผมทันที ซึ่งผมคิดว่าเธอชอบนั่งตัก เลยไม่ได้ว่าอะไร จนพอดาเซสสั่งขยับรถม้า และข้างในเริ่มสั่นเบาๆ ตรงก้นของยูรินก็เบียดเข้ากับดุ้นของผม จากนั้นเธอก็ขยับไปมาเบาๆ อ้อ เข้าใจล่ะ ดูเหมือนยูรินจะเข้าใจอะไรผิดอยู่แฮะ
“เอ่อนี้ยูริน คือไม่ต้องทำแบบนี้ทุกครั้งที่นั่งรถม้าก็ได้นะ”
“มะ ไม่อยากทำกับข้าแล้วเหรอ”
น้ำเสียงของยูรินดูผิดหวังมาก หรือว่าที่เข้าใจผิดจะเป็นผมเอง
“เดี๋ยวนะ…ที่ทำคราวก่อนไปเธอไม่ชอบไม่ใช่เหรอ”
“เปล่า”
เธอส่ายหน้า
“ฮุๆๆ งั้นก็แปลว่าฉันทำได้ตามใจชอบเลยสินะ”
คราวนี้ยูรินไม่ตอบ ผมพอเริ่มจะเข้าใจขึ้นบ้างล่ะ เวลายูรินเขินเธอจะเงียบ แล้วผมก็พึ่งสังเกตว่าวันนี้เธอแต่งตัวแต่งต่างจากปกติ เรียกว่าไงดีล่ะ พยายามให้ดูน่ารักที่สุดล่ะมั่ง
เธอยังคงใส่สปอร์ตบรา วันนี้เป็นสีแดงแต่ตามขอบมีระบายอยู่โดยรอบ ส่วนปกติที่ชอบใส่กางเกงขาสั้น ก็เปลี่ยนมาเป็นกระโปรงยีนแบบยาวแค่หนึ่งฝ่ามือ ซึ่งพอล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงผมพบว่ามีอะไรแปลกๆ เลยค่อยๆ ถกกระโปรงเธอขึ้นมา…พระเจ้าช่วย
เส้นด้ายขอรับ
วันนี้ยูรินใส่กางเกงในเส้นด้าย คือไม่ต้องบอกนะ มันไมได้ช่วยปิดบังพื้นที่อะไรเลย แถมขนอ่อนสีแดงบริเวณเนินเขาที่โนกนูนก็หายเรียบไปแล้ว นี้เธอโกนทิ้งเหรอ!
“ฟรานบอกว่านายท่านชอบแบบนี้”
ยูรินบอกสั้นๆ ก่อนจะก้มหน้าลงไป
“อืม ชอบมากเลยล่ะ หอยของเธอเหมือนของเด็กเล็กอยู่แล้ว ยิ่งพอไม่มีขนแบบนี้ยิ่งดูเหมือนเด็กไปใหญ่ แต่ที่หลังไม่ต้องโกนนะ เพราะผมก็ชอบขนนิ่มๆ ตรงนี้ของเธอเหมือนกัน”
ยูรินพยักหน้าเบาๆ
“ว่าแต่ เธอมีกางเกงในแบบนี้ด้วยเหรอ”
“ไว้ออกศึก”
ตอบสั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความเลย แบบนี้ตอนนี้คือตั้งใจมาออกศึกเต็มที่เลยสินะ งั้นผมก็ต้องจัดทัพรบกับเธอเต็มกำลังเหมือนกัน
ระหว่างเดินทางเข้าไปในเมือง ผมก็จัดยูรินไปสองยก จนแยมขาวเต็มท้องเธอเลย แถมพอถึงทีแล้ว ต้องรออีกพักหนึ่ง เพราะหัวนมของยูรินมันยังแข็งจนดันสปอร์ตบราออกมา ดูท่ายูรินจะมีความต้องการทางเพศสูงเอาเรื่อง เพียงแต่ต้องอ่านสีหน้าเธอให้ออกก่อน เพราะผมไม่อยากจะโจมตีตอนที่เธอไม่ต้องการ อีกอย่างตะกี้ผมลองเพิ่มขนาดของดุ้นขึ้นอีกนิดหนึ่ง ปรากฏว่าเธอยังรับมันไหวอยู่ ร่างกายของดวาฟนี้ช่างน่าทึ่งจริงๆ
แถมอีกนิด ผมรู้ความลับแล้วว่าทำไมพวกดวาฟตายด้าน จริงๆ ไม่ได้ตายด้านหรอก แต่จุดจีสปอตของพวกเธอมันอยู่ในมดลูกต่างหาก อย่างยูรินผมต้องแทงดุ้นไปให้ถึงด้านในสุดของมดลูก เธอถึงจะเริ่มคลั่ง จริงๆ ทำแบบนี้บ่อยๆ ไม่ดีเลย แต่ด้วยร่างกายของดวาฟเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องปกติก็ได้
พอยูรินสงบลงพวกเราก็ซื้อของที่ต้องการได้จนครบ สมเป็นดวาฟที่รู้แหล่งจริงๆ จากนั้นพวกผมก็ตรงกลับบ้านทันที ขากลับยูรินขึ้นมานั่งบนตักผมอีกแล้ว เอ่อ นี้อย่าบอกนะว่า…
ใช่แล้วล่ะ เธอต้องการอีกแล้ว แถมคราวนี้เธอจับดุ้มผมให้มุดเข้าไปเองเลย แบบไม่รอให้ค่อยๆ กลืนเข้าไปด้วย แม้จะทำกันหลายครั้งจนเธอเริ่มจะชินกับดุ้มผมแล้ว แต่เสียงร้องเหมือนโดนข่มขืนของเธอก็ยังคงเหมือนเดิม
ผมจำได้ว่ายูรินบอกว่าดวาฟจะอึดมาก ทำได้ทั้งวันเลย ผมชักอยากรู้ว่ามันจริงไหม เลยจัดไปแบบต่อเนื่องไม่หยุดสามยกติดๆ กัน ผลปรากฏว่า ผมต้องอุ้มยูรินลงจากรถม้าแล้วพาไปนอน จนงานก่อสร้างวันนี้ไม่คืบหน้าเลยแม้แต่น้อย อืมขีดจำกัดของยูรินอยู่ที่ 5 ยกสินะ ก็ไม่ต่างจากพวกฟรานเท่าไรนี่นะ สรุปว่าโม้สินะ
ตอนที่ผมกำลังขนของไปเก็บ เดเม่ก็วิ่งมาตามผม และบอกว่ามีแขกมาหา ใครอีกแล้วล่ะเนี่ย
พอผมเดินไปหาที่ห้องรับแขก ก็แทบปิดประตูห้องนั้นและขังคนนั้นไว้ข้างในตลอดไปเลย
คนที่มาคือมิริน ว่าแต่เธอมาที่นี้ทำไมกัน คงไม่บังเอิญรู้ตัวจริงผมแล้วหรอกนะ…เอ่อ ไม่สิ รู้แล้วแน่ๆ ก็ไม่ได้ห้ามพวกมุเอมะบอกนี่น่า สะเพร่าจริงๆ เลยผม เอาไงดีล่ะเนี่ย แต่ตอนที่ผมคิดวิธีรับมืออยู่นั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออก

ตอนที่ 24 มิริน part 6 End

“เข้ามาคุยกันก่อนดีไหมคะ”
“อะ อืม”
ผมตามเธอเข้าไปแต่โดยดี ผมนั่งลงโดยไม่ได้พูดอะไร เพราะจะรอดูทีท่าเธอไปก่อนว่ารู้มากรู้น้อยแค่ไหน แต่ทางนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร จนกระทั่งเดเม่นำชาเข้ามาเสริฟตามที่ผมสอนไว้ ระหว่างเสริฟผมก็คอยบอกจุดที่เธอยังทำไม่ถูกต้องไปด้วย แน่นอนว่าผมสอนอย่างอ่อนโยน ด้วยการทำโทษเธอเวลาทำผิดด้วยการลูบก้น อุ๊! ลืมไปมีแขกอยู่
พอเดเม่ออกไปแล้ว ผมก็เลยต้องถามขึ้นมาเอง
“เอ่อ คุณผู้หญิงมีธุระอะไรกับผมเหรอครับ”
“ไม่ต้องแกล้งทำไขสือแล้วล่ะคะท่านจอมมารโรมะ”
“ซู่!”
ผมรีบให้เธอเงียบทันที เพราะในบ้านนี้ไม่มีใครรู้ฐานะจอมมารของผม แม้แต่ยัยเทพธิดาเอร่าเองก็ตาม
“ถ้ารู้แล้วก็ช่วยไม่ได้ เธอต้องการอะไรล่ะ มิริน”
ผมซีเรียสขึ้นมาเล็กน้อย ถ้าเธอใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ผมล่ะก็ บางทีผมอาจจะต้องรุนแรงกลับเธอบ้าง ซึ่งผมไม่อยากเลย
“เอ่อ คือว่า ก่อนที่เราจะคุยกัน ขอก่อนได้ไหมคะ”
“ขอ? ขออะไรเหรอ”
มิรินตอบคำถามผมด้วยการลุกขึ้น แต่จับที่ปลายกระโปรงสั้นๆ ของชุดจอมเวทสีดำขึ้น ข้างใต้นั้นคือกางเกงในสีม่วงเป็นแบบลูกไม้ทั้งตัวและตรงเป้าแหวกรูไว้ ที่สำคัญกว่านั้น มันมีน้ำหยดลงมาจากหอยของเธอดังแหมะๆ
ภาพที่เห็นกระตุ้นอารมณ์ผมของอย่างรุนแรง ทั้งท่าทางยั่วยวนของการเปิดกระโปรงแบบสุดอิโรติก ทั้งกางเกงในแบบที่ผมชอบ ทั้งความต้องการทางเพศที่เหลือล้นออกมาของเธอ ผมสะบัดเรื่องราวทั้งหมดทิ้ง แล้วดึงแขนเธอเพื่อพาขึ้นไปบนห้องนอนผมทันที
มิรินเองนอกจากจะไม่ขัดขืนแล้ว เธอแทบจะวิ่งแซงผมไปด้วยซ้ำ ดูไม่ออกเลยว่าใครเสี่ยนกว่าใครกันแน่
พอประตูห้องปิดลง พวกเราก็พุ่งเข้าหากันราวกับแม่เหล็ก และจัดการถอดเสื้อผ้าของกันและกันออก ซึ่งพอถอดชุดกระโปรงแบบวันพีชของเธอออกแล้ว เกจความหื่นของผมก็ระเบิดอีกครั้ง เพราะแม้แต่บราของเธอก็โคตรลามกเลย บราเข้าชุดสีม่วงแบบลูกไม้ซีทรู ตรงจุกผ่าเปิดเอาไว้ สรุปว่าไม่ต้องถอดสินะ ชุดชั้นในแบบพร้อมการสอดใส่ทุกที่ทุกเวลา
มิรินเป็นคนสวยแบบสาวใหญ่ทั้งๆ ที่อายุเพียงยี่สิบกลางๆ เธอมีผมยาวตรงถึงเอวตรงปลายทุกด้านตัดเรียบทรงฮิเมะคัต เส้นผมสีม่วงแบบเดียวกับชุดชั้นในที่เธอใส่ ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยว และมีไฝที่ใต้ตา เลยทำให้เธอดูยั่วนิดๆ แบบกำลังพอดี เพราะเธอมีใบหน้าที่ดูจริงจังเจ้าระเบียบ น่าอกเธอประมาณคัพ D ซึ่งใหญ่ล้นมือเลย!
รูปทรงของหน้าอกเธอเป็นแบบสตอเบอรี่ คือเนื้อคล้อยลงมารวมกันที่ด้านล่าง แต่หัวนมที่อยู่ค่อนไปด้านบนเชิดขึ้น หน้าอกแบบนี้บวกกับชุดนักเวทที่รัดรูปขัดเน้นส่วนเว้าส่วนโค้งแล้ว มันเอ็กซ์แตกสุดๆ ไปเลย แถมตอนนี้เธอมีอารมณ์สุดๆ จนหัวนมแข็งและชี้ขึ้นมาเชิญให้ผมดูดมันซะเดี๋ยวนี้
ผมไม่ขัดศรัทธาเด็ดขาด เลยประกบปากลงดูดนมเธอ มือก็นวดหน้าอกข้างที่ว่างไป ผมใช้ลิ้นตวัดวนรอบลานนมเธอ มืออีกข้างก็ทำแบบเดียวกันใช้ปลายนิ้ววนลากไปรอบๆ ลานนมเหมือนกัน จากนั้นผมก็กัดลงไปเบาๆ พร้อมกับนิ้วที่บีบจุกอีกด้านไปพร้อมๆ กัน เพียงเท่านั้นมิรินก็ร้องกรี๊ดออกมา พร้อมกับชักกระตุกอยู่บนแขนผมที่ลองตัวเธอไว้ให้ล้มฟาดพื้น
ตรงหอยของเธอฉีดน้ำอย่างกะสายยางออกมา นี้เธอเสร็จแล้วเหรอ? แค่ผมดูดนมเธอไปไม่ถึงสิบวินาทีเลยนะ นี้มิรินไปกินยาปลุกเซ็กส์ที่ไหนมาเนี่ย
“ตะ ตายแน่! ฉันต้องตายแน่ๆ นี้มันยิ่งกว่าที่คิดไว้ซะอีก! จะ จุดที่พวกนั้นไม่เคยแตะต้องเลย ทำไมมันถึงเสียวได้แบบนี้! ท่านโรมะ ท่านโรมะค่ะ! สุดยอดค่ะ ช่วยทำอีกได้ไหมค่ะ ฉันต้องการมันอีก!”
“ถึงห้ามผมก็จะทำต่ออยู่ดีล่ะ”
ผมบอกพร้อมกับจูบปากเธอ ดูท่าเธอจะไม่เคยโดนจูบมาก่อน เลยขยับลิ้นไม่เป็น ผมเลยค่อยๆ นำไปก่อน ค่อยยังชั่ว ถึงจะเซ็กส์จัดแต่เทกนิกเป็นมือใหม่สินะ
มิรินโดนผมจูบจนตัวอ่อนยวบยาบยื่นไม่ติดพื้น ผมเลยอุ้มเธอไปที่เตียง พอวางเธอลง ผมก็ยืนมองดูร่างกายที่งดงามราวกับงานประดิษฐ์ของเธอ ผิวผ่องขาวชนิดที่เอาดุ้นไปถูเฉยๆ ก็แตกได้ ตามตัวเธอมีไฝอยู่หลายแห่ง เพิ่มค่าพลังความเซ็กซี่ไปหลายหน่วยเลยทีเดียว
“ท่านโรมะค่ะ”
เธอเห็นผมเอาแต่ยืนจ้อง เลยยกสองแขนขึ้นมา ราวกับจะให้ผมถล่าลงไปหา พร้อมกับเสียงเรียกที่เชิญชวนให้เข้าไปหา
ผมนี้สติแทบขาดผึ่ง ดุ้นผมแข็งจนแทบระเบิด อยากตะบันเธอจนให้แหลกไปข้าง แต่ผมจะต้องไม่รุนแรงกับเธออย่างเด็ดขาด กับคนที่ผ่านประสบการณ์เลวร้ายมา second impact สำคัญมาก ถ้าไปซ้ำโดนปมในใจเข้า จะทำให้หวาดกลัวการมีเซ็กส์ไปเลย ผมต้องดึงเธอขึ้นมาจากนรกและส่งตัวให้ถึงสวรรค์
เลยยื่นมือเข้าไปประสานกับมือของเธอ และลงไปนอนกอดเธอเอาไว้ จากนั้นค่อยๆ วางมือลงบนตัวเธอ และลูบไล้ไปตามผิวหนัง ทั้งแขน หน้าท้อง ต้นขา ทุกส่วนของเธอไม่มีส่วนไหนที่ผมไม่ได้สัมผัสอีก แต่ผมเริ่มงงอีกครั้ง เพราะแค่ถูกลูบมิรินก็ดิ้นเป็นปลาโดนทุบหัวเลย นี้ปราสาทสัมผัสของเธอจะไวเกินไปหรือเปล่าเนี่ย
การที่เธอรู้สึกดีมันก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้าเกิดเธอหมดแรงขึ้นมาก่อน มันจะไม่ดีเนี่ยสิ ผมเลยต้องคอยระวังการเล้าโลมให้อยู่ในระดับกลางๆ พอ
เมื่อคิดได้ดังนั้นผมเลยเลื่อนหัวตัวเองลงไปที่หว่างขาของมิริน แต่เธอหุบขาแน่น
“มิรินไม่เป็นไร ขอผมดูหน่อย”
ผมบอกกับเธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่ขาของเธอจะกางออกเผยให้เห็นหอยที่ปิดสนิทแน่นจนเนื้อนูนขึ้นมาเป็นป้อม นี้ผมเดาไม่ออกเลยว่าข้างในเธอจะแน่นแค่ไหน เห็นที่เธอผอมๆ แบบนี้สงสัยเอาเนื้อมาอัดไว้ตรงนี้หมดล่ะมั่ง อเมซิ่ง! แถมยังไร้ขนด้วย ไม่ใช่โกนนะ แต่ไร้ขนเลยเพราะไม่มีรูขุมขนให้เห็น คริตอริสของเธอแบบว่า…โคตรน่าดูด มันเป็นเม็ดเล็กๆ ยื่นออกมาจากแคมอย่างเนียมอาย และสั่นริกๆ อยู่ตลอดเวลา บัดซบเอ๋ย นี้มัน Rare item ชัดๆ
ผมใช้นิ้วกดลงไปเบาๆ บนป้อมของเธอแรงดีดสะท้อนสุดยอดไปเลยแฮะ แต่มัวเอาแต่เล่นไม่ได้ ผมเลยค่อยๆ แยกฝาหอยเธอออกเพื่อตรวจดูภายในสักหน่อย พูดจริงๆ นะ ผมกลัวเธอมีแผลข้างในมากเลย เพราะเวลาผู้หญิงโดนข่มขืนมาใหม่ๆ มักจะมีแผลถลอกภายใน ซึ่งมันจะแสบมาก ถ้าเห็นว่ามีผมจะได้ใช้แยมขาวรักษาเธอก่อนจะสอดเข้าไป แต่พอผมแหวกดู กลับเห็นแต่เนื้อสีชมพูอัดแน่นปิดทางเข้าถ้ำไว้ ผมเลยต้องเลื่อนนิ้วเข้าไปลึกกว่าเดิม และแหวกดูอีกที รูของเธอคับแคบจนดูลำบาก กรณีแบบนี้มีแต่ต้องสอดกล้องเท่านั้นแหละถึงจะดูออกว่ามีแผลไหม แต่ว่าผมเห็นบางอย่าง เธอยังมีวงเยื่อพรหมจรรย์อยู่!!!
ตอนที่ผมค้นเจอสิ่งมหัศจรรย์นั้นเอง หอยของมิรินก็พ่นน้ำใส่ผมเต็มหน้า แถมด้วยฉี่ใส่อีกจนเข้าปากเข้าจมูกเลย ตัวของมิรินเกร็งจนอยู่ในท่าสะพานโค้ง พร้อมกับส่งเสียงกรีดร้องราวกับจะเสียสติ เอวเธอกระตุกอีกสองที พร้อมกับปล่อยฉี่ชุดสุดท้ายมาโดนปลายจมูกผม
เธอคงถึงจุดสุดยอดแบบโคตรๆ ไปแล้ว หวังว่าคงยังไม่หมดแรงนะ ผมเงยหน้าขึ้นมาจากถ้ำของเธอในสภาพใบหน้าเปียกทั้งน้ำทั้งฉี่จนเหมือนพึ่งล้างหน้ามา
“…ขะ ขอโทษค่ะ”
มิรินยิ้มเขินๆ ริมฝีปากเธอบิดเบี้ยวไปมา แต่แววตาเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขสมอารมณ์หมาย
“มิรินผมมีข่าวร้ายจะบอก”
ผมบอกโดยปล่อยให้หน้าเปียกอยู่แบบนั้น
“สะ สภาพของฉันมันยับเยินขนาดนั้นเลยเหรอคะ! ท่านโรมะคงรับไม่ได้สินะ”
เธอดูสลดลงอย่างรวดเร็ว อารมณ์พลิกแบบตีลังกาในวูบเดียว ราวกับเธอหมดพลังในการมีวิชีวิตอยู่เลย ผมเลยต้องรีบพูดต่อ
“เปล่า ที่ฉันจะบอกคือ…ดีใจด้วยนะ เธอยังบริสุทธิ์อยู่ล่ะ”
“เห!!! เป็นไปได้อย่างไงคะ!”
“…ไม่หรอก มีความเป็นไปได้อยู่”
ผมใช้ผ้าปูเตียงเช็ดหน้า ก่อนจะเลื่อนตัวขึ้นมานอนกอดมิรินไว้ขณะถามออกไป
“มิรินเธอเคยช่วยตัวเองไหม”
“มะ มะ มะ ไม่เคยค่ะ”
“จริงเหรอ ไม่ต้องอายหรอกน่า บอกมาซะดีๆ”
ผมกระซิบข้างหูเธอ ราวกับเสียงกระซิบของปีศาจร้าย
“คะ เคยค่ะ ยะ ยิ่งตอน…จะ เจอกับท่านโรมะครั้งแรก…ฉะ ฉันก็ คะ คิดถึงทะ ท่านโรมะตอน ชะ ช่วยตัวเอง ตะ ตลอดเลย”
“โห ฉันดีใจมากเลยล่ะ แล้วเวลาเธอช่วยตัวเอง เธอทำอย่างไงเหรอ”
“มะ มันน่าอายจะตายไปค่ะ ฉะ ฉันอายเหลือเกิน!”
“ไม่เอาน่า เร็วสิ ทำให้ฉันดูหน่อย ตอนที่เธอช่วยตัวเองนะ…ยัยผู้หญิงลามก”
คำพูดของผมทำให้ใบหน้าของมิรินยิ้มแบบบิดเบี้ยว นี้คงตื่นเต้นจนแทบจะเสียสติแล้วล่ะมั่ง
“ทำสิ ฉันดูอยู่นะ”
ผมเลื่อนตัวลงไปอยู่ตรงหว่างขาเธออีกครั้ง เข่าของเธองอพับอยู่เป็นรูป ^ แต่ขาเธออ้าออกจนสุด จากนั้นเธอก็ค่อยๆ ใช้นิ้วลูบตรงบริเวณปากถ้ำ เขี่ยมันด้วยปลายเล็บ ดูได้อารมณ์ดีแฮะ แต่เธอไม่กล้าเล่นคริตอลิสตัวเองเลย สงสัยกลัวอยู่ จากนั้นเธอก็ใช้นิ้วชี้กดเข้าไปในปากถ้ำ นิ้วจมหายเข้าไปถึงข้อที่สอง
“ได้อารมณ์มากเลยมิริน ทำแบบที่เคยทำไปนะ”
นิ้วของเธอดึงเข้าดึงออกอย่างช้าๆ และพักเป็นบางจังหวะ เวลาดึงออกน้ำเธอก็ทะลักออกมาด้วย จากนั้นก็เธอก็เริ่มเรียกชื่อผม
“ฮ๊าๆ! ท่านโรมะ อาๆ! ท่านโรมะ อู๊ๆ! ท่านโรมะดูเราอยู่”
เอวเธอเริ่มส่ายไปมาเข้าจังหวะกับนิ้วที่ดึงเข้าดึงออก ผมดูเพลินจนลืมเป้าหมายไปเลย ด้วยเวลาไม่กี่นาที มิรินก็พ่นน้ำใส่หน้าผมอีกรอบ แต่สามารถเสร็จแรงๆ แบบนี้ได้หลายครั้งติดๆ กัน ถือว่าเธออึดเอาเรื่องเลย
ผมขึ้นมากอดเธอไว้อีกครั้ง และถามออกไปต่อ
“เอาล่ะ มิริน คำถามคือ ตอนเธอช่วยตัวเองแล้ว เธอยังบริสุทธิ์หรือเปล่า”
“เอ๋? อ่ะ!”
“เยื่อพรหมจรรย์น่ะถ้าไม่ถูกสอดใส่เข้าไปลึกพอประมาณ และรุนแรงในระดับหนึ่ง มันจะไม่ฉีกหรอกนะ ทีนี้เธอได้เห็นดุ้นของไอ้พวกนั้นไหม บอกได้หรือเปล่าว่าขนาดประมาณไหน”
“คะ คนหนึ่งประมาณนี้คะ”
มิรินยกนิ้วชี้ให้ผมดู นิ้วเธอเรียวเล็กน่ารักดีจริงๆ อ่ะ เดี๋ยวนะ แค่นั้นเองเหรอ
“ส่วนที่เหลือก็ ประมาณนี้คะ”
มิรินเปลี่ยนจากนิ้วชี้เป็นนิ้วก้อย
“เฮ้ย! เซ็กส์ออฟชั่นของโลกนี้มันถูกปรับเป็นต่ำสุดหรอกเหรอเนี่ย!”
ไม่แปลกแล้วที่มิรินยังบริสุทธิ์อยู่ อย่าว่าแต่เยื่อพรหมจรรย์เลย ขนาดแค่นั้นคงทะลวงผ่านกำแพงเนื้อของมิรินเข้าไปไม่ได้แน่ แต่ที่ไม่หักซะก่อนนี้ก็ถือว่าเก่งแล้วนะ
“แต่ดีใจจัง ที่ความบริสุทธิ์ของฉันจะเป็นของท่านโรมะ”
“…นี้ฟังนะมิริน จะบริสุทธิ์หรือเปล่าไม่สำคัญหรอก ต่อให้เธอผ่านผู้ชายมาแล้วกี่คน ฉันก็จะเป็นคนสุดท้ายของเธออยู่ดี จากนี้ไปฉันจะไม่ปล่อยมือจากเธออีกแม้เธอจะพยายามหนีก็เถอะ เข้าใจไหม”
“ขะ เข้าใจแล้วค่ะ แฮ่กๆๆๆ”
“จะ ใจเย็นไว้ก่อน อย่าพึ่งคลั่ง”
สีหน้ามิรินตอนนี้เหมือนพร้อมจะคลั่งได้ทุกเมื่อเลย อันตรายแฮะ นอกจากความรู้สึกไวแล้วยังอ่อนไหวอีกต่างหาก
“ฉะ ฉันยังไม่เห็นดะ ดุ้นของท่านโรมะเลย ขะ ขอดูหน่อยได้ไหมคะ”
“อืม ได้สิ”
ว่าแล้วผมก็ดึงกางเกงในตัวเองออกไป ปล่อยให้ดุ้นที่อดทนจนจะระเบิดอยู่แล้ว ออกมาให้มิรินเห็นเต็มสองตา
“…”
“เอ่อ พูดอะไรหน่อยสิ”
มิรินจ้องดุ้นผมตาค้างเลย
“…ของจริงเหรอคะ”
“ก็ของจริงสิเฟ้ย! นี้ขนาดปกติของฉันเลย”
“ขะ ขอจับนะคะ”
“อืม อยากทำอะไรก็ทำเลย”
พอผมบอกแค่นั้น มิรินก็เข้ามาตระคลุบจับดุ้นผมไว้ด้วยสองมือทันที เธอลูบไล้มันอย่างหลงใหล แถมเอาแก้มไปถูอีกต่างหาก เป็นเอามากแล้วนะเนี่ย แล้วก็โดยไม่ต้องสอน เธอเริ่มใช้ปากกับดุ้นของผม เป็นผู้หญิงคนแรกของโลกนี้เลย ที่รู้จักการใช้ปากโดยที่ผมไม่ต้องสอน
ปากของมิรินถึงจะไม่กระซับแบบของฟราน ที่เวลาอมดุ้นผมทีกามแทบหลุด แต่ตรงเพดานด้านในคอของเธอมันเป็นพังพืด ซึ่งเธอดันหัวดุ้นผมเข้าไปถึงด้านในคอตรงนั้นเลย นี้เธอตั้งใจจะกลืนเข้าไปให้หมดเลยหรือไงเนี่ย
“นะ นี้ไปฝึกมากับใครเนี่ย”
“ฝึก?”
มิรินดึงดุ้นผมออกมาจากปากพ่ายส่ายหน้า
“ฉะ ฉันอยากกินทุกอย่างของท่านโรมะเข้าไปให้หมด เลยเผลอไปหน่อยขอโทษค่ะ ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม”
“ยัยผู้หญิงลามก”
ผมว่าเธอแบบให้เจ็บนิดๆ พลางจับหัวเธอกดลงมาให้ดูดดุ้นผมต่อ ซึ่งเธอก็โยกหัวรับได้เป็นอย่างดี
“นะ นี้มิริน ที่ฉันบอกว่าข่าวร้ายนะ ที่จริงแล้ว การที่เธอยังบริสุทธิ์มันค่อนข้างเป็นปัญหาอยู่นะ”
มิรินรีบถอยปากขึ้นมาด้วยความตกใจ
“เอ๋ ไม่ดีหรอกเหรอคะ!”
“ดีมันก็ดีอยู่หรอก แต่ปัญหาคือ ช่องคลอดของเธอมันค่อนข้างแคบ แถมเยื่อของเธอเป็นแบบหนา ซึ่งเวลาฉีกขาดแล้ว มันจะเจ็บมาก”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทนได้!”
“ถ้าตามปกติแล้วมันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก เพียงแต่ว่า…เธอน่ะพึ่งโดนขืนใจมา ฉันไม่อยากทำให้เธอรู้สึกเจ็บตอนสอดใส่เข้าไป มันจะไปกระทบจิตใจเธอได้”
“ท่านโรมะช่างอ่อนโยนกับฉันจริงๆ แต่ว่า…ฉันมีเรื่องจะขอร้องค่ะ”
“ว่ามาสิ”
“ช่วยทำฉันแรงๆ ด้วยเถอะค่ะ”
“หา! ไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเหรอ”
“ฟังค่ะ แต่ฉันต้องการแบบนั้น ฉันอยากรับรู้ถึงความต้องการของท่านโรมะ ฉันอยากให้ท่านรุนแรงกับฉัน สร้างความเจ็บปวดให้จนลืมทุกสิ่ง ให้น้องสาวของฉันจดจำแต่ดุ้นของท่านโรมะเพียงคนเดียวด้วยเถอะค่ะ”
“เธอนี้มัน กู่ไม่กลับแล้วจริงๆ”
“ก็ตั้งแต่ท่านโรมะบอกให้ฉันพลีกายให้นั้นแหละค่ะ ฉันก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างในตัวเองตื่นขึ้นมา”
“เวรกรรม นี้ฉันเป็นคนไปปลุกความหื่นในตัวเธอขึ้นมาเองหรอกเหรอเนี่ย”
“ค่ะ ฉะนั้นแล้ว รับผิดชอบด้วยนะคะ ท่านโรมะที่รัก”
“ได้สิ งั้นเริ่มเลยนะ”
ผมสอดนิ้วเข้าไปในถ้ำของเธอดู ซึ่งมันแฉะอยู่ตลอดเวลาเลย ผมจึงไม่ต้องเล้าโลมมาก เพราะมิรินเองก็อยากได้เต็มที่แล้ว
ผมสอดแขนเข้าไปดันขาของมิรินไปขึ้นไปด้านบน เพื่อให้ก้นของเธอยกขึ้นมา แล้วก็จ่อดุ้นไปที่ปากถ้ำ มิรินนี้สั่นไปทั้งตัว ปากเองก็เริ่มบิดเบี้ยวอีกแล้ว
ผมไม่รอช้า อัดกระแทกใส่เข้าไปเต็มแรงในทีเดียว และได้พรากเอาความบริสุทธิ์ของเธอมาเป็นของผม เสียงร้องของเธอดูเจ็บปวดมาก เลือดไหลออกมามากอย่างที่คิดไว้ แต่เอวของเธอกลับเป็นฝ่ายเริ่มโยกซะเอง นี้จะลามกไปถึงไหนกันเนี่ยยัยคนนี้ ผมเลยไม่รอให้เธอหายเจ็บ เร่งเครื่องตะบันเธอจนจมเตียง สีหน้าเธอฉีกยิ้มด้วยความสะใจ เสียงร้องจากความเจ็บปวดเริ่มเป็นความเสียวแทน
ดวงตาเธอเปิดกว้างไม่ได้โฟกัสไปที่ใด เสียงร้องของเธอเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เดาอารมณ์ไม่ถูก เดี๋ยวร้องเสียงหลง เดี๋ยวครางถี่ๆ เดี๋ยวกรี๊ดอย่างกับคนบ้า แต่ที่แน่ๆ หอยเธอนี้มันโคตรอันตรายเลย แค่ความกระซับพอๆ กับหอยของยูรินเลย เพียงแต่ของมิรินมีเนื้อเยอะ มันเลยนิ่มและอุ่นกว่ามาก แรงสะท้อนก็ดีเวลากดลงไปสุดเนื้อก็จะบีบตัวจนอัดดุ้นผมแทบแหลกละเอียด ซึ่งถ้าไม่กลั้นเอาไว้มีหวังแตกไปหลายรอบแล้ว หอยแบบนี้มันหอยพิฆาตดุ้นชัดๆ
“ทะ ท่านโรมะ แรงอีกค่ะ แรงๆ แทงเข้ามาให้ลึกอีก!เอาให้น้องสาวฉันมันแหลกไปเลยค๊า!!!”
“ได้อยู่แล้วจัดไป”
ผมเปลี่ยนท่า จับเธอพลิกไปเป็นท่าหมา และเริ่มกระแทกแบบสาวยาวๆ และยิงแรงๆ อัดจนสุดล้ำ
ผลุบ!!
แค่ทีเดียวหัวดุ้นผมก็หลุดเข้าไปในมดลูกเธอ แต่แทนที่เธอจะเจ็บปวดเป็นอย่างมาก มิรินกลับกรีดร้องด้วยความสะใจ เธอต้องการให้ผมขยี้เธอจริงๆ ทุกครั้งที่ผมกระแทกเข้าไปก็จะมีเสียงผลุบดังออกมาจากในท้องเธอ
“ตะ แตก จะ แตกแล้วค่ะ! ทะ ท่านโรมะ มาเสร็จพร้อมกันนะ”
“งั้นเร่งล่ะนะ”
ผมเปลี่ยนเกียร์แบบมีแรงเท่าไรใส่เต็มสูบ จนเนื้อก้นเธอถูกผมกระแทกใส่จนแดง
“ขะ ข้างในนะ! ท่านโรมะ ปล่อยข้างในนะ! ฉันเก็บมันเอาไว้ให้ท่านคนเดียว! ปล่อยน้ำกามของท่านใส่ข้างในฉันเลยค่ะ ให้ฉันได้ตั้งท้องลูกของท่านโรมะด้วยเถอะ!!! แตกแล้ว!!!”
พอเธอร้องบอกผมแบบนั้นบางอย่างมันก็เหมือนกับถูกสับสวิทซ์ สกิลที่ทำให้ตั้งท้องดันไปเปิด ONโดยที่ผมไม่ได้สั่ง แต่จะปิดก็ไม่ทันแล้ว เพราะพอเธอเสร็จผมก็เสร็จตามไปทันที แยมขาวผมอัดแน่นอยู่ในท้องของเธอ
และไม่ต้องคิดเลย…ท้องแน่นอน
พอผมดึงดุ้นกลับออกมา มิรินก็ล้มตึงแบบหมดแรงลงไปนอนแน่นิ่ง ผมพึ่งเห็นว่าสงครามของพวกเรา ทำให้เลือดเปรอะเต็มผ้าปูทีนอน ชนิดที่บอกว่าย้อมผ้าได้เลย ข้างในไม่มีน่ามีปัญหาอะไร เพราะรักษากลับสภาพเดิมไว้แล้ว แต่เพื่อให้ชัวร์ ผมคว้านเอาแยมขาวออกมาจากถ้ำของเธอ แล้วให้เธอกินเข้าไปด้วย มิรินยังพอมีสติอยู่บ้าง เธอดูดนิ้วผมดังจ๊วบๆ ขนาดแยมขาวหมดแล้ว ยังไม่ยอมปล่อยนิ้วผมเลย
จากนั้นผมก็ใช้คลีนนิ่งกับมิรินไปพร้อมกับผ้าปูที่นอน ถึงเธอจะมีสติ แต่เธอขยับตัวไม่ได้เลย ผมนั่งอยู่ข้างๆ มองดูเธอที่นอนคล้ำอยู่ พลางนึกถึงบทเพลงรักอันแสนร้อนแรงที่กระหน่ำใส่กันเมื่อครู่ แค่คิดเท่านั้นดุ้นของผมมันก็ตั้งเสาขึ้นมาอีกแล้ว มิรินมองดูมันตาค้าง
“ทำไปขนาดนั้นแล้ว ยังไหวอีกเหรอคะ”
“อ่า คือว่า…ทำได้ทั้งวัน เอ่อ ไม่สิ ทั้งสัปดาห์แบบไม่หยุดเลยก็คงได้มั่ง”
ถึงไม่เคยลอง แต่ผมกลับมั่นใจว่าผมทำได้
“เข้าใจแล้วค่ะที่ท่านพี่มุเอมะบอกว่า การที่ท่านโรมะไม่ได้เป็นของพวกเราคนใดคนหนึ่งล่ะ ดีแล้ว เป็นแบบนี้เอง ขืนฉันโดนแบบนี้ทุกวันต้องตายแน่ๆ เลยค่ะ ขนาดตะกี้ฉันยังเผลอวูบนึกว่าตายไปตั้งหลายรอบแนะ”
“อะไรกันนี้แปบเดียวก็ไปสนิทกับมุเอมะแล้วเหรอ”
“แฮะๆ ก็ได้ท่านพี่บอกจุดอ่อนของท่านโรมะกับให้อาวุธลับมาด้วยล่ะค่ะ”
“หรือว่าชุดชั้นในที่เธอใส่นี้มันของ”
“ใช่ค่ะ ของท่านพี่มุเอมะให้มา ท่านพี่บอกว่าท่านโรมะเป็นพวกคลั่งชุดชั้นในสยิวๆ แค่เห็นก็จะควบคุมตัวเองไม่อยู่ แล้วเข้าโจมตีอย่างหื่นกระหาย แค่ไปหาแล้วเปิดกระโปรงโชว์กางเกงในให้ดู รับรองได้เสียตัวแน่นอน แล้วถ้าอยากได้แบบจัดหนักๆ ก็ห้ามถอดออกตอนทำกันเด็ดขาด ไม่คิดว่าจะได้ผลจริงๆ ด้วย คิกๆๆ”
“ถึงว่าสิ! แบบนี้แย่แล้วสิ รสนิยมวิปริตของฉันรู้กันไปทั่วแล้วเหรอเนี่ย”
ผมเริ่มคิดหนักขนาดมุเอมะที่ดูขี้อายและนิ่งๆ ยังจับจุดอ่อนผมได้ขนาดนี้ ต่อไปมีหวังผมหลงพวกเธอแบบโงหัวไม่ขึ้นแน่ แต่ระหว่างที่คิดแบบนั้นอยู่ก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นมา
“เข้ามาสิ”
พอผมบอกประตูก็เปิดออก แล้วฟรานกับดาเซสก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางเขินๆ
“มีอะไรเหรอ?”
จะว่าไปผมเองก็นั่งดุ้นแข็งอยู่โดยไม่ได้ใส่อะไรเลยนี่น่า ทั้งสองเลยมองมาที่ดุ้นผมตั้งแต่เข้ามาแล้ว
“คะ คือ ถะ ถ้าไม่รบกวนนายท่าน ชะ ช่วยทำให้พวกเราด้วยได้ไหมคะ”
ฟรานหลับตาปี๋ขณะกลั้นใจขอออกมา ผมคิดว่าเสียงของผมกับมิรินเมื่อกี้คงดังไปถึงชั้นล่างล่ะมั่ง สองคนนี้เลยออกอาการงุ่นง่านแบบนี้
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เข้ามาสิ ทั้งสองคนเลย”
ฟรานดีใจจนรีบพุ่งเข้ามาดูดผมใหญ่ จะว่าไปเมื่อคืนก็ไม่ได้ทำกับเธอเลย อย่าบอกนะว่าแค่วันเดียวก็ทนไม่ไหวแล้ว ส่วนดาเซสยัยนี้โดนกระตุ้นง่ายอยู่แล้ว ถึงจะไม่ค่อยอึด แต่ความหื่นนี้ก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน
พอผมแตกรอบแรกให้ฟรานกินจนอิ่มแล้ว ผมก็จับดาเซสขึ้นพาดให้นอนคว่ำบนหน้าตักผม และทำการตีก้นเธอจนเธอแตกไปรอบหนึ่งก่อน เอ่อ นี้คือการเล้าโลมสำหรับของดาเซสโดยเฉพาะน่ะ จากนั้นผมก็จับเธอเล่นท่ายาก โดยจับขาสองข้างของเธอยกขึ้นมาให้หัวห้อยลงไป และยืนแทงใส่ทั้งๆ แบบนั้น ดาเซสชอบท่านี้มากจนไม่ยอมให้เปลี่ยนท่าอื่นเลย แต่ผมนึกขึ้นได้ว่ามีอะไรต้องทดสอบหน่อย
“นี้ ดาเซส ถ้าฉันทำเธอท้องจะเป็นอย่างไงนะ”
“หะ หา! ท้องเหรอ! ฉะ ฉันไม่อยากท้อง ตะ แต่อย่างไง กะ ก็โดนบังคับให้ท้องอยู่ดี ขะ ขืนใจฉันอีกแล้ว แฮ่กๆๆ”
“ว่าไงยัยMโรคจิต อยากท้องกับฉันไหม”
“อยากค่ะอยาก! นายท่านช่วยทำให้หมูสกปรกตัวนี้ท้องด้วยค่ะ!”
ปิ๊ง
นั้นไงมาแล้วเสียงสับสวิทซ์ อย่างที่คิดไว้เลย ไอ้สกิลตั้งท้องเนี่ย ถึงผมจะปิดไว้ แต่ถ้าฝ่ายหญิงอยากท้องจนพูดออกมา สกิลก็จะปรับเป็น ONให้เองเลย แถม…ปิดไม่ได้ด้วยแฮะ สงสัยจนกว่าจะทำเสร็จไม่ยอมให้ปิดเด็ดขาด แย่ล่ะสิ
ผมเลยดึงดุ้นออกมาและจับหัวดาเซสกระแทกเข้าไปในปากแทน ผมแตกใส่คาปากเธอจนแยมขาวทะลักออกมาทางจมูกเธอ ดาเซสเองขนาดโดนแตกคาปากยังเสร็จไปพร้อมกับผมแถมยังทำหน้าฟินซะ
“อะ อึก! นะ นายท่านไม่ยอมให้ฉันท้อง อะ อึก! ทำร้ายจิตใจกันอีกแล้ว ระ รู้สึกดีจัง!”
สกิลปิดได้แล้ว ดียังพอขัดขืนได้บ้าง ไม่งั้นผมได้มีลูกไปทั่วแน่
เพื่อเป็นการให้รางวัล ผมเลยจัดดาเซสต่อยกสองจนสลบไป ส่วนของฟรานเพราะช่วงบ่ายผมกะไปลงดันเจี้ยนกัน เลยจัดไปแค่ยกเดียวก่อน ไว้ตอนกลางคืนค่อยจัดต่อ
ส่วนหื่นตัวแม่อย่างมิริน ขนาดขยับตัวไม่ได้แล้ว ยังขอให้ทำใกล้ๆ เพื่อดูแบบชิดติดขอบจอ ยิ่งตอนผมทำกับฟราน เธอนี้กระเส่าเหมือนโดนทำเองเลย จะว่าไปของฟรานนี้ก็เสร็จเร็วขึ้นหรือเปล่านะ?

ตอนที่ 25 กลิ่น

เนื่องจากยูริน มิริน และดาเซสหมดแรงจนหลับกันไปหมด มื้อเที่ยงผมเลยทำแค่ส่วนของสี่คน โดยเอาสเต็กที่เหลือเมื่อมาหั่นเป็นชิ้นๆ และผัดกับข้าว ทำเป็นข้าวผัดเนื้อสเต็ก ที่ผมย่างเนื้อไว้เยอะ ก็เพื่อเก็บไว้ทำเมนูอื่นๆ ด้วย ถ้ายังไม่เบื่อเนื้อกันซะก่อนล่ะนะ
พอมานั่งกินกันแค่สี่คนแล้ว ก็ทำให้นึกถึงตอนแรกๆ ที่ก็มีกันอยู่เพียงเท่านี้ ยัยเอร่านี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ ผิดกับฟรานและเดเม่ ก็ฝึกมารยาทบนโต๊ะอาหารจนพาไปได้ทุกทีโดยไม่อายใครแล้ว ฟรานไม่เท่าไร เพราะมีพื้นฐานมารยาทมาก่อนแล้ว แต่เดเน่นี้สิพัฒนาเร็วมาก จนเริ่มเหมือนเมดผู้เรียบร้อยไปทุกทีล่ะ
ระดับความพึ่งพอในใจอาหารของมื้อนี้ของทุกคนก็ยังคงเต็มห้าดาวอยู่ ผมดูการตอบสนองทุกมื้อแหละ ถ้ามื้อไหนการตอบสนองต่ำกว่าสี่ดาว ผมจะตัดเมนูนั้นออกไป นี้คือความเอาใส่ใจของผมเอง เพราะผมเชื่อว่า อาหารคือความสุขพื้นฐานของมนุษย์ จากนั้นก็ที่อยู่และร่างกาย
“เดี๋ยวถ้าพวกนั้นตื่นกันแล้ว ก็เอานี้ออกมาให้กินกันนะ”
ผมเอาข้าวผัดที่เหลือใส่ไว้ในกระเป๋าสำหรับเก็บวัตถุดิบ ซึ่งตอนนี้เดเม่เองก็ใช้เป็นแล้ว
“รับทราบค่ะนายท่าน”
ถ้าผมสั่งอะไรเดเม่แล้ว ผมมั่นใจว่าไม่ต้องไปกังวลถึงมันอีก เพราะเธอจะรับผิดชอบจัดการได้อย่างเรียบร้อยเสมอ
ผมเดินออกจากคฤหาสน์มาพร้อมฟรานที่ร่าเริงดีเหมือนทุกวัน ตอนที่เดินไปผมก็ตรวจดูสกิลไปด้วย สกิลที่ได้มาจากมิริน….
Skill
-Dawn of Love lv 1
ผมนึกว่าจะได้สกิลเวทมาซะอีก แต่นี้มันอะไรกันเนี่ย ผมจำได้นะว่ามิรินไม่มีสกิลแบบนี้ เพราะผมส่องดูเธอหลายรอบแล้ว เพราะมีเวทมนต์ที่น่าสนใจเพียบเลย พอเปิดดู Log ของเหยื่อแห่งราคะ ก็เป็นสกิลที่ได้มาจากมิรินจริงๆ งงแล้วแฮะ มีโอกาสได้สกิลที่เจ้าตัวก็ไม่มีด้วยเหรอ ว่าแต่สกิลนี้มันใช้ทำอะไรได้ล่ะเนี่ย
Dawn of Love เมื่อเริ่มต้นรุ่งอรุณแห่งรัก ค่าพลังของเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นตามความรักที่มีต่อผู้ใช้ ยิ่งมีความรักที่รุนแรงลึกซึ้งแค่ไหน พลังจะยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ระยะเวลาแสดงผล 1 นาที กำจัดการใช้ หนึ่งครั้งต่อวัน จำนวนเป้าหมายที่ส่งผลจะเพิ่มขึ้นตามระดับของเลเวล
สกิลบัพเหรอเนี่ย! เหมือน Glory เลยแฮะ แบบนี้ถ้าใส่ทับกันจะเป็นอย่างไงนะ สงสัยต้องลองดูแล้ว
จะว่าไปยังไม่ได้ทดสอบสกิลใหม่ที่ได้มาเมื่อคืนเลย ประเมินราคานี้ใช้ดูราคากลางของไอเท็มได้สินะ ใช้ได้แฮะ ส่วนมองทะลุนี้ไว้ดูไอเท็มในกล่องสมบัติได้ อืม ไว้กรณีนี้ไว้ดูว่าคุ้มค่าที่จะเปิดกล่องหรือเปล่านี้ก็มีประโยชน์ทีเดียว แต่เดี๋ยวนะ เรดาห์ความหื่นของผมกำลังแจ้งเตือนอยู่ สกิลนี้มันต้องมีอะไรแน่
“…มองทะลุ”
เพื่อให้รู้ผมเลยใช้สกิลนี้ออกมาและมองไปที่ฟราน ผลปรากฏว่า…
พรวด!!!
“ฟราน กางเกงในล่ะ ทำไมไม่ใส่กางเกงใน!”
สกิลมองทะลุสามารถมองผ่านทะลุเสื้อผ้าได้จริงๆ ด้วย! ถึงความคมชัดจะยังไม่มากเท่าไร เหมือนเป็นภาพเบลอๆ อยู่ แต่ถ้าเลเวลสกิลสูงขึ้นกว่านี้ล่ะก็ จะต้องมองเห็นได้ชัดแน่ๆ กลับมาเรื่องของฟรานที่ไม่ยอมใส่กางเกงในดีกว่า
“อ่ะ คือว่า”
ฟรานรู้สึกอายๆ เลยเขย่งเท้าขึ้นมาเพื่อจะกระซิบบอก ผมเลยต้องย่อตัวลงไปฟัง
“คือว่ายาของนายท่านยังอัดอยู่เต็มท้องอยู่เลยค่ะ เลยเก็บกางเกงในไว้ในกระเป๋าก่อน ใส่ตอนนี้หนูกลัวมันจะเปื้อนน่ะค่ะ”
“แล้วทำไมไม่เช็ดออกซะล่ะ”
“ไม่เอาค่ะ!”
“เช็ดออกเถอะ”
“…แต่หนูรู้สึกดีกว่าเวลามียาของนายท่านอยู่ในท้องค่ะ”
“แต่ทิ้งไว้นานจะมีกลิ่นนะ บอกแล้วไงว่าต้องดูแลตัวเองให้ดีโดยเฉพาะจุดลับน่ะ”
“ค่ะ รับทราบแล้วค่ะ”
ฟรานทำคอตกทันที ผมเลยกระซิบบอกไปต่อ
“ไว้เดี๋ยววันนี้จะปล่อยใส่เข้าไปใหม่ให้ เอาแบบร้อนๆ รู้สึกดีกว่าใช่ไหมล่ะ”
“ค่ะ!”
ฟรานยิ้มหน้าบานอารมณ์นี้ดูง่ายดีจังแฮะ
“งั้นมานี้เดี๋ยวผมทำความสะอาดให้เอง”
ตอนนี้พวกผมยังอยู่กันนอกเมือง เลยไม่มีใครอยู่แถวนี้ แต่อย่างน้อยก็อยากได้ที่หลบๆ สายตาคนอยู่บ้าง มองไปเจอโขนหินใหญ่ที่เรียงตัวกันเป็นกำแพงพอดี เลยไปหลบตรงนั้นกันกับฟราน
“เอาล่ะ เปิดกระโปรงขึ้นสิ”
หน้าตาผมตอนนี้คงเหมือนไอ้โรคจิตเต็มที่แล้ว แต่ฟรานก็เป็นเด็กดีทำตามที่สั่ง แต่ก็ยังมีท่าทีเอียงอาย แบบนี้ล่ะสมบูรณ์แบบ
“ถ่างขาออกด้วย”
ขาที่ยืนชิดติดกัน ค่อยๆ ขยับออก แต่ถึงจะถ่างขาแล้ว ฝาหอยของฟรานก็ปิดสนิท ทำให้แยมขาวมันถึงไม่ไหลออกมาสักที ผมเริ่มคึกขึ้นมาเลยอยากเล่นสนุกกับฟานซะแล้ว
“ไหนๆ ดูสิ”
ผมใช้นิ้วถ่างฝาหอยออก แยมขาวก็ไหลเยิ้มออกมาทันที ที่สำคัญแยมขาวของผมต่อให้เวลาผ่านไปนาน แต่มันก็ยังรักษาความข้นไว้ได้อยู่ ไม่ได้ละลายเป็นน้ำใสๆ นะ ก็แยมขาวผมมันมีสรรพคุณเป็นยาไปแล้วนี้ เลยต้องสามารถเก็บรักษาตัวเองไว้ได้นานหน่อย
“ตอนนี้รู้สึกอย่างไงบ้างฟราน”
“ตะ ตอนมันไหลออกมา สะ เสียวมากเลยค่ะ”
“ดูสิมีเหลือข้างในไหม”
ผมแหยงนิ้วเข้าไปในหอยของฟราน เธอก็เกรงตัวแข็งทันที จริงๆ แล้วไม่อยากให้เธอหมดแรงซะก่อน แต่ถ้าปล่อยให้มีอารมณ์แบบนี้เดี๋ยวจะไม่มีสมาธิต่อสู้ ผมเลยจัดการตกเบ็ดให้ฟรานซะก่อน
ผมเพิ่มนิ้วเป็นสองนิ้วแหยงเข้าไปในหอยเล็กจิ๋วของเธอ รูดเข้ารูดออกเบาๆ ทุกครั้งที่ดึงออกมาแยมขาวก็จะไหลติดออกมาด้วยเป็นฟองฟอดเลย จริงๆ แค่ใช้คลีนนิ่งก็เสร็จแล้ว แต่ไม่สนุกอ่ะแบบนั้น
พอชักนิ้วได้สองสามนาที ฟรานก็เม้มปากแน่นและส่ายหน้าไปมาอย่างแรง สะโพกเธอก็กระเด้งหน้ากระเด้งหลังสองสามทีก่อนจะหยุด
“…แตกแล้วใช่ไหม”
ฟรานพยักหน้ารับ ด้วยหน้าที่แดงถึงหู ตรงหางตาก็มีหยดน้ำตาเหล็กๆ ปริบอยู่
ไม่ได้คิดไปเองแล้วล่ะ ช่วงนี้ฟรานเสร็จไวขึ้นจริงๆ เธอทนได้แค่ 2-3 นาทีเท่านั้นสำหรับออรัล ส่วนเวลาสอดใส่ทนได้ 3-5 นาที แล้วแต่ท่าและจังหวะความเร็ว เพราะร่างกายสมบูรณ์ขึ้น ก็เลยไวต่อความรู้สึกหรือเปล่านะ ไว้ค่อยตรวจดูทีหลัง ตอนนี้ผมใช้คลีนนิ่งทำความสะอาดให้ก่อน
“ตอนนี้สะอาดแล้ว เอากางเกงในออกมาสิ”
ฟรานหยิบเอากางเกงในออกมาจากกระเป๋า มันถูกพับไว้อย่างดี วันนี้ใส่สีแดงที่เป็นรูปผีเสื้อตัวใหญ่อยู่ข้างหน้าสินะ ฟรานทำท่าจะใส่กางเกงใน แต่ผมคว้ามือเธอไว้
“เดี๋ยวผมใส่ให้เอง”
ผมรับเอากางเกงในมากางออก และค่อยๆ บรรจงใส่ลอดขาของฟรานเข้าไปทีละข้าง ผมรูดมันขึ้นอย่างช้าๆ พลางสัมผัสผิวกายของเธอไปด้วย ตอนผมดึงขึ้นไปส่วมจนส่วนเป้ารั้งเข้ากับร่องหอย ฟรานก็สะดุ้งเฮือกขึ้นมา ผมจัดให้มันเข้าที่อย่างดีที่สุด ก่อนจะซุกใบหน้าเข้าไปตรงพื้นที่สามเหลี่ยมแห่งความลับ และสูดดมกลิ่นของเธอ
“อืม กลิ่นของฟรานล่ะ ต้องกลิ่นแบบนี้ล่ะ”
ผมดมอีกสองฝืดก่อนจะเอาหัวออกมาจากใต้กระโปรงของฟราน ส่วนเธอยืนหอบหายใจอย่างรุนแรงหน้าก็แดงจัดจนน่าเป็นห่วง
“ฟรานไม่เป็นไรนะ ขอโทษทีทำเกินไปหน่อย”
“ม ไม่ค่ะนายท่าน ฉะ ฉันแค่รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เลย”
ขนาดพึ่งเสร็จไปตะกี้ แต่ดูเหมือนผมไปจุดไฟของฟรานขึ้นมาอีกแล้วล่ะ คงต้องหาอะไรทำให้เธอเย็นลงก่อนเข้าดันเจี้ยนแล้วล่ะ
ผมเดินจูงมือฟรานเข้าไปในเมือง ซึ่งทุกสายตาก็ต้องหันมองมาที่เธอ ผมเริ่มชินแล้วล่ะ ถึงอายุจะเพียงแค่สิบขวบ แต่ฟรานมีเสน่ห์ดึงดูดแบบผู้ใหญ่ แถมลักษณะท่าทางของเธอก็น่ามองด้วย ให้ผมนั่งจ้องเธอทั้งวันผมยังทำได้เลย ว่าแต่ผมจะทำอย่างไงกับดุ้นที่ลุกไม่มีล้มของผมนี้ดีล่ะ เพราะตั้งแต่ไปสูดกลิ่นของฟรานเข้า มันก็แข็งสู้ฟัดขึ้นมาเลย ดีนะมีปรับขนาดอยู่ ไม่งั้นคงเดินถนนไม่ได้แน่
เมื่อไปถึงกิล แถวของโต๊ะมอเรียก็ยังคงยาวเช่นเคย เสน่ห์ของรายนี้เองก็ไม่ใช่ย่อย เข้าขั้นระดับสาวงามล้มเมืองไปแล้ว แต่วันนี้โต๊ะอื่นก็มีคนต่อแถวอยู่บ้าง และพอผมก้าวเท้าเข้าไปในกิลเท่านั้น เสียงที่ดังจ่อแจอยู่ ก็เงียบกริบ ผมนี้สะดุ้งเลย นึกว่าไปเหยียดโดนปุ่มหยุดเล่นหรืออย่างไงกัน
สังหรณ์ใจไม่ดีเลยแฮะ
“มาแล้วๆ! ท่านโรมะทางนี้ค่า!”
พวกพนักงานสาวที่ผมบริการให้เมื่อคืน ต่างรีบยกมือเรียกผมกันอย่างพร้อมเพรียง เดี๋ยวสิ เล่นเรียกพร้อมกันแบบนี้แล้วผมจะไปโต๊ะไหนดีล่ะ อ่ะ จริงสิ เวลาแบบนี้ถึงต้องมีฟรานอยู่ด้วยไง
“ฟราน เลือกเลย”
“โต๊ะนั้นค่ะ”
ฟรานชี้ไปโต๊ะพนักงานสาวที่ไม่ได้ยกมือเรียกผม เข้าใจเลือกนี้ แล้วผมก็ให้ฟรานเดินนำไป แมนจริงๆ เลยผมใช้เด็กบังหน้า
บรรดาคนที่เรียกผมรวมถึงมอเรียด้วย ต่างทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็ปลีกตัวมาหาไม่ได้ เพราะมีคนต่อแถวรออยู่เยอะ
“สวัสดีค่ะ ติดต่อเรื่องอะไรคะ”
เธอเป็นพนักงานใหม่ที่พึ่งมา เลยยังไม่รู้เรื่องอะไร แต่จากปฏิกิริยาของพนักงานคนอื่น ทำให้เธอผมมองแบบสงสัย เอ่อ ถึงผมจะเป็นโลลิค่อนแต่ผมไม่ใช่คนน่าสงสัยนะครับ
“จะสอบถามข้อมูลของไอเท็มที่ดรอปจากมอนสเตอร์น่ะครับ”
“อ้อ ค่ะ ต้องการทราบไอเท็มชิ้นไหนคะ”
ไอเท็มที่ผมต้องการก็คือปลา จากการไปเดินดูในตลาดและร้านอาหารก็ไม่พบปลาหรือเมนูเกี่ยวกับปลา แปลว่าปลาเป็นสิ่งหายาก อันที่ผมทำให้พวกฟรานกินนั้นก็ได้มาอย่างบังเอิญ แถมราคาแพงมาก
แต่ก็ตามที่คิดไว้ มันมีอยู่จริงๆ ด้วย แถมอยู่ใต้จมูกเลย ดันเจี้ยนที่ดรอปปลาก็คือดันเจี้ยนหลังน้ำตก ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับคฤหาสน์ผมนั้นเอง เวรจริงๆ เลย อยู่มาเกือบอาทิตย์พึ่งรู้ว่ามีดันเจี้ยนอยู่หลังบ้านตัวเอง ถ้าเป็นงูก็โดนฉกตายไปแล้ว
เพียงแต่ว่ามันเป็นดันเจี้ยนร้าง ไม่มีเควส ไม่มีบอสดันเจี้ยน ทั้งดันเจี้ยนมีห้องเดียว มอนสเตอร์มีเพียงสามตัว เป็นมอนสเตอร์เลเวล 6 แถมเกิดช้าอีก ไอเท็มที่ดรอปก็มีอย่างเดียว คือ เนื้อปลาสายรุ้ง ซึ่งเป็นแรร์ดรอป บางคนเคยไปนอนเฝ้าตลอดทั้งสัปดาห์แล้วยังไม่ได้กลับมาสักตัวเลยก็มี ด้วยเหตุผลนี้ทำให้คนเลิกสนใจที่จะไปกัน เพราะไม่คุ้มเลย ไม่ว่าจะด้านไหน
“เอาอย่างไงดีค่ะนายท่าน”
ฟรานเห็นผมลังเลเลยถามออกมา
“ไปหาแร่ดิบกันในสุสานก่อน ได้ครบแล้วค่อยลองไปดูกันที่น้ำตก”
ใช่ผมยังต้องหาแร่ดิบไปให้ยูรินด้วย พวกเราเลยมุ่งหน้าไปดันเจี้ยนลูปันที่เดิม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ ตอนที่1 by KUMAO

ขอออกตัวก่อนเลยว่าแอบก็อปไว้ก่อนที่เว็บจะบินไม่ใช่นิยายของผม ซึ่งมันจะเป็นนิยายแต่งหรือแปลก็ช่างมันผมว่าโดยรวมมันดีถึงจะมีข้อด้อยไปบ้างแต่ก็อ่านได้ลื่นไหล สำหรับคนที่ไม่ชอบก็เบรคตัวเองไว้ไม่ต้องอ่านโวยวายไปก็ไม่ได้อะไรเพราะผมแอบก็อปมาลงไว้ให้บางคนที่ไม่เคยอ่านได้อ่านกันบางคนอยากอ่านซ้ำก็จะได้อ่าน ออกความเห็นได้แต่อย่าดราม่ามากนะคับ บ่นแค่นี้พอละแล้วจะรีบมาลงตอนต่อ เนื้อหามีความรุนแรงเกี่ยวกับเพศอายุต่ำกว่า18อ่านได้แต่อย่าทำตามมันไม่ควร ตอนที่ 1 คืนสุดท้าย                ผมมุเกน โรมะ นักเรียนชั้นปีที่ 2 และตอนนี้ ผมกำลังนั่งซักกางเกงในผู้หญิงอยู่ที่ต่างโลกล่ะเรื่องราวทั้งหมดก็ประมาณว่า เมื่อเดือนก่อน พวกผมทั้งหมดถูกส่งมาต่างโลกแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แบบนั่งสอบอยู่ดีๆ เงยหน้าขึ้นมาก็โดนมอนสเตอร์ล้อมแล้วอ่ะ                 แถมที่ซวยที่สุดก็คือ พวกผมไม่ได้ไปอยู่ในจุดของผู้เริ่มต้น แต่กลับมาอยู่ในปราสาทของจอมมารเลย แต่ก็ยังไม่ถึงกับซวยซะทั้งหมด เพราะพวกเราที่มาจากต่างโลก ต่างได้รับสกิลมาด้วย แถมในโลกนี้ก็มีเวทมนต์ที่ทำให้สามารถแสดงค่าสถานะต่างๆ ได้แบบเกมส์                 สก

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 147 - 149 By Kumao จบแค่นี้ไม่มีละ

จบแล้ว เห็นแว้บๆ ว่าคุณ Kazama Phoenix เขียนต่อ ooooooooooo ตอนที่ 147 เก็บแต้ม ผมเมิ่นเรเดียที่ทำท่าตกใจอยู่ และหันไปคุยในรายละเอียดกับกรอเรียให้เสร็จก่อน โดยก่อนจะจัดการเรื่องนิกายใหม่ เธอจะต้องไปกล่อมครอบครัวซะก่อน โดยผมจะให้เอนันโด้นำทีมคุ้มกันไป เอนันโด้ผมให้ลูกน้องไปขุดศพเขาขึ้นมา และใช้อำนาจแห่งจอมมารเปิดใช้งาน วิหารแห่งการกำเนิดใหม่ ซึ่งที่นี้จะเปลี่ยนให้ดวงวิญญาณของมนุษย์กลายเป็นปีศาจ เอนันโด้เลยคืนชีพขึ้นมาในฐานะปีศาจเศียรขาดดูลาฮาน เลเวลของเขายังเท่ากับตอนก่อนที่จะตาย แต่พอกลายมาเป็นปีศาจแล้ว ค่าพลังก็ต่างเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซํ้ายังปลดขีดจำกัดของเลเวลไปอีก เหตุที่ปีศาจมีเลเวลลิมิตมากกว่ามนุษย์ เพราะร่างกายของเผ่าปีศาจสามารถใช้พลังได้มากกว่า ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับมนุษย์ได้พลังของซุป XXX มาใช้ แต่ลองชกหมัดด้วยพลังขนาดนั้นดูสิ ร่างกายจะแหลกเหลวก่อนเป้าหมายถูกทำลายแน่ เพราะงั้นระบบเลยสร้าง Lv Limit ขึ้นมาเพื่อป้องกันในเรื่องนี้ และการเปลี่ยนเผ่านัน จึงได้ทำให้ Lv Limit เปลี่ยนแปลงไปด้วย แต่ถึงไม่มีเรื่อง Lv Limit ตอนนี้ก็หาคนมาสู้กับเอนันโด้ลำบากแล้ว เพราะ

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 14 - 16 By Kumao

พอก่อนนอนดีกว่า ตอนที่ 14 ชายผู้มีอาวุธในตำนาน ผมกลับมาที่คฤหาสน์ก่อนทุกคนตื่นได้อย่างเฉียดฉิว เช้านี้ผมเตรียมเมนูเป็นข้าวสวยกับปลาย่างเกลือเสริฟพร้อมชุปมิโซะและสลักผัก เดเม่ตื่นลงมาช่วยผมเป็นคนแรกแบบทุกที แต่เธอดูยังคงไม่พอใจที่ตื่นนอนหลังผมอยู่ดี ทว่าก็มีท่าทางเอียงอายคงเพราะยังเขินเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนอาบน้ำ เธอเริ่มคุ้นเคยกับการทำอาหารของผมแล้ว จึงช่วยในการจัดเตรียมวัตถุดิบเป็นหลัก ผมใช้เวลาทำอาหารไม่ถึงสิบนาทีก็เสร็จเรียบร้อย เลยให้เดเม่ขึ้นไปปลุกทุกคนลงมากินข้าว แต่สงสัยยังติดใจหม้อไฟเมื่อวาน เลยพากันไปนั่งรอบโต๊ะเตี้ยกันหมด จนผมต้องไล่ให้ขึ้นมานั่งที่โต๊ะกินข้าวแบบเดิม พอผมตักข้าวในหม้อใส่จานให้ทุกคน ก็พากันทำหน้าแปลกใจ “ไอ้ขาวๆ นี้มันคืออะไรเหรอ?” ดาเซสถามขึ้นพลางชี้ไปที่ข้าวบนจาน คนอื่นก็มีคำถามแบบเดียวกันอยู่บนสีหน้า “ข้าวไง” “ข้าว! หมายถึงข้าวที่จะมีแค่ในร้านอาหารสุดหรู ของพวกขุนนางเท่านั้นใช่ไหม ไม่สิ ฉันเองก็เคยกินมันอยู่ครั้งหนึ่ง จำได้ว่าไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย มันมีสีคล้ำๆ แล้วก็ไม่ดูนุ่มๆ น่ากินแบบนี้ด้วย” “อ้อ เพราะไม่ได้คัดข้าวไงถึงเป็นแบบนั้น แล้