ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 26 - 29 By Kumao






วันนี้พอก่อนคงมาลงอีกประมาณวันพุธเพราะไม่ได้ทำ OT

ตอนที่ 26 พังทลาย

คนเข้าออกก็ยังเยอะเหมือนเดิม
แต่วันนี้ผมตั้งใจจะไปที่ชั้น 2 ดู เพราะดาเซสบอกว่าที่นั้นมีมอนสเตอร์ชื่อ ไมสเตอร์ลีค ซึ่งดรอปแร่หลายประเภท แถมถ้าโชคดีจะยังได้พวกเหรียญเงินเหรียญทองด้วย เรียกง่ายๆ ว่าเป็นมอนสเตอร์ที่ดรอปเงินสินะ หวานสิแบบนี้
แต่ไมสเตอร์ลีค เป็นมอนสเตอร์ที่นักผจญภัยส่วนใหญ่หลีกเลี่ยง เพราะมันเป็นมอนสเตอร์ประเภทมนุษย์ เห็นว่าเคยเป็นคนงานเหมืองมาก่อน แต่เพราะเข้าไปขุดแร่ในดันเจี้ยนนานเกินไป จนถูกดูดกลืนวิญญาณไปหมด เลยเหลือแค่ร่างกายเปล่าๆ ที่ทำตามสัญชาติญาณเท่านั้น ก็กึ่งๆ ซอมบี้ล่ะมั่ง แต่ที่คนไม่ชอบคือสัมผัสของเลือดและเนื้อเวลาที่ฆ่าอีกฝ่ายนั้นแหละ
โชคดีที่ผมไม่มีปัญหาเรื่องนี้ ที่โลกเก่าผมเห็นจนเอียนแล้วไง พื้นที่ข่าวกว่าครึ่งก็มีแต่เรื่องฆ่าแกงกัน สภาพแวดล้อมกับสังคมมันเอื้อให้เกิดความชินชาในเรื่องแบบนี้ด้วยล่ะ พูดง่ายๆ คือ ผมไม่รู้สึกอะไรเลยกับการที่ต้องฆ่าคน แต่ไม่ใช่ว่าอยากฆ่า แต่ถ้าจำเป็นต้องฆ่า ก็ฆ่าได้แล้วก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร อารมณ์ประมาณแบบนั้นมากกว่า ยิ่งต่างโลกแบบนี้มาทำตัวมีศีลธรรมโดนไม่จำเป็น มีหวังได้ตายเร็วแน่ แต่นั้นคือส่วนของผม ฟรานก็อีกเรื่องหนึ่งผมเลยต้องถามความสมัครใจเธอก่อน
คำตอบคือ
“ไม่ค่ะ ถ้าเป็นศัตรูแล้วต่อรูปลักษณ์เป็นอย่างไง ก็เป็นศัตรูอยู่ดี”
อืมคิดคล้ายๆ กัน แต่คนละแบบสินะ โอเค ลุยโล้ด
ไมสเตอร์ลีด เป็นมอนสเตอร์ lv 7-10 ถึงจะดูไม่ต่างจากที่ชั้นหนึ่ง แต่มันอันตรายกว่าตรงจำนวนที่มันอยู่ด้วยกัน ส่วนใหญ่แล้วเป็นฝูงไม่ต่ำกว่าห้าตัว
ในดันเจี้ยนนั้นจะมีเส้นทางที่เรียกว่า รันเนอร์เวย์ จะเป็นเส้นทางที่มีมอนสเตอร์น้อยที่สุด และใกล้ทางลงชั้นต่อไปด้วย ไว้สำหรับคนที่ต้องการผ่านทางไปชั้นลึกๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาสู้กับมอนสเตอร์ตามทาง ซึ่งส่วนใหญ่มีบอกอยู่ในแผ่นที่อยู่แล้ว
วันนี้ผมกับฟรานได้ใช้เส้นทางที่ว่าเป็นครั้งแรกเพื่อไปชั้นที่สอง
ชั้นหนึ่งจะเป็นทางเดินกว้างๆ หลายๆ ทางทุกเส้นทางล้วนแต่มุ่งหน้าไปที่ชั้นสอง รันเนอร์เวย์ของชั้นนี้มีติดป้ายบอกไว้เลยหาได้ง่าย แต่แปลกเหมือนกันนึกว่าคนจะเยอะกว่านี้ แต่นี้ไม่เห็นมีคนเลย
พวกเราพากันเดินไปในทางเดินที่ลาดลงเล็กน้อย แถมพอไม่มีมอนสเตอร์แล้ว รู้สึกเงียบจนวังเวงเลย แต่พอเข้ามาได้ถึงกลางทาง พวกเราเจอกับปัญหา เพราะว่ามีคนมายืนดักข้างหน้าพวกเราสองคน แถมเหมือนจงใจมาหาเรื่องด้วย
ผมพยายามเดินเลี่ยงไปโดยไม่สนใจ แต่พวกมันก็ขยับเข้ามาปิดเส้นทางไว้ แบบนี้ชัดเลย พวกดักปล้นแน่ๆ โชคดีที่เวลาจะลงดันเจี้ยนผมมักจะไม่พกเงินติดตัวมาเยอะ แต่ว่าของมีค่าก็อีกเรื่องหนึ่ง อย่างกระเป๋านักผจญภัยของผมนี้ก็ดึงดูดพวกโจรได้ดีทีเดียว เพราะถึงจะเป็นของมือสอง ก็ยังขายได้ราคาแพงอยู่ดี
“เหะๆ พี่ชายถ้าจะมาปล้นล่ะก็ ผมไม่มีเงินหรอกนะ”
ผมพยายามดูท่าทีไปก่อนว่าอีกฝ่ายเล็งอะไรไว้
“ก็ไม่ได้จะมาปล้นอยู่แล้ว”
ชายหน้าทู้เอ่ยขึ้น ผมยิกติดหนังหัวของมันนี้ทำให้หงุดหงิดผิดกลแฮะ ถ้าต้องมีทรงผมแบบนี้ ผมคงโกนให้หัวโล้นไปเลยดีกว่า กับอีกคนรูปร่างเพรียว หน้าตาพอดูได้ แต่ให้ความรู้สึกอันตรายอยู่พอสมควร จากนี้ไปผมเรียกพวกมันว่า ไอ้ยิกกับไอ้ธรรมดา
“อ่า จะเอากระเป๋าเนี่ยเหรอ เอ่อ ไม่ดีมั่ง แบบว่าผมต้องใช้มันทำมาหากินอ่ะ”
“ก็บอกว่าไม่ได้มาปล้นไงโว้ย!”
ไอ้ยิกพูดนะ ส่วนไอ้ธรรมดายังเงียบอยู่เหมือนเดิม แต่ผมพอรู้ล่ะมันเล็งอะไรไว้ เพราะตั้งแต่โผล่มา มันก็จ้องฟรานตาไม่กระพริบเลย
“ส่งเด็กนั้นมาให้พวกเรา แล้วข้าจะปล่อยแกไป”
ไอ้ยิกบอก และนั้นไง ไอ้ธรรมดายิ้มล่ะ นี้ทำไมต้องเจอแต่กับไอ้พวกนี้ด้วยว่ะ นึกว่าจัดการไอ้ห้าเล็กสั้น(กลุ่มที่ข่มขืนมิริน)นั้นไปได้แล้ว จะไม่ต้องเจอแล้วซะอีกนะ
“ไม่ได้หรอกครับ ผมน่ะเป็นโลลิค่อนระยะสุดท้ายแล้ว ถ้าขาดเด็กคนนี้ไปผมต้องตายภายในห้าก้าวแน่นอน”
ผมพยายามพูดให้ดูน่าเห็นใจมากที่สุด เผื่อพวกมันจะเข้าใจหัวอกคนเป็นโลลิค่อนเหมือนกัน แล้วยอมปล่อยผมไป
“หนวกหูโว้ย! ถ้าไม่ยอม ก็ฆ่าแกทิ้งซะก่อน แล้วค่อยเอายัยเด็กนั้นก็ได้”
“แต่ว่าเด็กคนนี้พึ่งจะสิบขวบเองนะครับ เอาไปก็ช่วยงานอะไรไม่ค่อยได้หรอกนะ”
“ฮ่าๆๆ ทำได้อยู่แล้วล่ะ ก็แค่มานอนถางขาให้พวกข้าก็พอ”
กี๊ด
เสียงบีบด้ามขวานของฟรานดังขึ้นมาทันที จนผมต้องจับไหล่เธอไว้ ไม่ใช่เธอคนเดียวหรอกที่โกรธ เชื่อเถอะผมโกรธกว่าเป็นสิบเท่า แต่ผมจะไม่ยอมพลาดแม้แต่ครั้งเดียว ตัวผมจะเป็นอย่างไงไม่ว่า แต่ไม่ว่าหน้าไหนก็ตามผมจะไม่ให้แตะต้องฟรานได้แม้แต่ปลายเล็บ
ผมคิดแผนหนึ่งสองสามไว้ในใจ แผนหนึ่งสถานการณ์ไม่เลวร้าย หาทางเอาตัวรอดไปตามปกติ แผนสองเหตุการณ์มีแนวโน้มควบคุมไม่อยู่ ผมจะใช้ใบวาปร์ส่งฟรานกลับไปคฤหาสน์ทันที แผนสามฉุกเฉินสุดๆ ผมจะใช้สถานะจอมมารออกมา ถึงแม้จะอยู่ต่อหน้าฟรานก็เถอะ
“เอ่อ แต่การแย่งทาสคนอื่นนี้จะโดนพันธะเล่นงานได้นะครับ”
“ทาส เด็กนี้เป็นทาสแกเหรอ!?”
ดูเหมือนพวกมันจะไม่ทันสังเกตเลยว่าฟรานเป็นทาส
“ฟรานให้พวกเขาดู”
พอผมบอกฟรานก็ยอมทำตามแต่โดยดี ดึงปกคอเสื้อที่ยาวถึงคางลงให้พวกมันเห็นพันธะทาส
“เอาไงดี”
ไอ้ยิกหันไปถามไอ้ธรรมดา และไอ้ธรรมดาก็อ้าปากพูดจนได้
“เปลี่ยนแผน ฆ่ามันซะ แล้วเอาอีเด็กนี้มาเป็นทาสเซ็กส์พวกเราแทน”
แย่แล้ว! แย่ในที่นี้ไม่ใช่ว่าผมกลัวพวกมันเข้ามาเล่นงานผมนะ แต่เพราะพวกมันบอกจะฆ่าผมนั้นแหละ ทำให้ฟรานจิตหลุดไปแล้ว เธอหลุดมือผมทะยานออกไปเข้าใส่พวกมัน ซึ่งนี้ไม่ดีแน่ ใบวาปร์จะต้องถืออยู่ในมือถึงใช้ได้ ที่สำคัญผมใช้ตรวจสอบกับพวกมันแล้ว ทั้งคู่มีเลเวลสิบหกกับสิบเจ็ด มากกว่าผมกับฟรานอยู่สิบกว่าเลเวล ช่องว่างมันห่างกันเกินไปที่จะสู้กันได้แบบสูสี
โดยเฉพาะไอ้ธรรมดา มันมีค่า agi ที่สูงกว่าฟรานเป็นเท่าตัวเลย อย่างตอนนี้ที่ฟรานพุ่งเข้าไป มันก็สามารถจะหลบได้ง่ายๆ อยู่แล้ว จุดเด่นของฟรานอยู่ที่การโจมตีแรกที่รวดเร็วและรุนแรง แต่เธอไม่ถนัดการโจมตีต่อเนื่องเพราะอาวุธของเธอ ขวานด้ามยาวเป็นอาวุธที่เมื่อเหวี่ยงออกไปแล้ว จะเกิดแรงโมเมนตั้มแบบทิ้งตัวขึ้นมา ซึ่งยากและต้องใช้พลังเยอะเพื่อจะเปลี่ยนทิศทางหรือหยุดมันเอาไว้ ฉะนั้นแล้วถ้าเกิดการโจมตีแรกพลาดเป้า ฟรานก็จะเปิดช่องว่างออกมาทันที
ต้องให้โดนเท่านั้น ต้องให้การโจมตีแรกของฟรานเข้าเป้าให้ได้ ไหนๆ ถ้าคิดจะสู้แล้ว ก็เอาให้มันถึงที่สุดไปเลย
“Dawn of Love!”
ทันทีที่ใช้ออกไป รอบตัวของฟรานก็ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยออร่าสีทอง ก่อนจะมีเสียงระดับดังตูม แล้วทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ เพียงแต่ว่าตัวของฟรานหายไปจากจุดที่อยู่เมื่อครู่ ไปโผล่อีกทีด้านหลังของพวกไอ้ยิกกับไอ้ธรรมดา ที่ร่างกายท่อนบนของพวกมันหายไปแล้ว ตะกี้เกิดอะไรขึ้นผมมองตามไม่ทันเลย แต่ด้วยความเคยชินผมก็ใช้ตรวจสอบกับฟรานทันที
Lv 3/30
Hp 340 / 340 + 40up X10
Mp 200 / 200 +40up X10
Str 55 X10
Vit 30+3up X10
Dex 10+1up X10
Agi 40+4up X10
Int 18+4up X10
ทุกอย่างคูณสิบ!!! โหดเป็นบ้าเลยวุย
“นายท่านไม่เป็นอันตรายใช่ไหมคะ”
ฟรานรีบกลับมาหาผม แต่พอมาถึงผมก็เขกหัวเข้าให้ทันที
“ฟราน ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ!”
ผมต้องดุเธอบ้างแล้ว ถ้าปล่อยไว้อาจจะไม่โชคดีแบบนี้อีก
“ตะ แต่ว่าพวกมันจะฆ่านายท่าน”
“เพราะงั้นพวกเราถึงต้องยิ่งรัดกุมไว้ ตะกี้ศัตรูมีเลเวลมากกว่าพวกเราเป็นสิบ ถ้าพลาดนิดเดียวก็ถึงตายได้เลย แต่เธอกลับพุ่งใส่พวกมันแบบนั้น ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไง”
“ไม่เป็นไรค่ะ แม้หนูตายก็”
“หุบปาก!”
เป็นครั้งแรกเลยที่ผมตะคอกเธอ แต่กลายเป็นตัวผมนี้แหละที่รู้สึกไม่ดีที่สุด
“…นี้เป็นคำสั่งเด็ดขาดนะฟราน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ห้ามตายก่อนผมเด็ดขาด”
“ตะ แต่ว่าถ้านายท่านเป็นอะไรไป นะ หนูเองก็ทนอยู่ต่อไปไม่ได้”
“แล้วคิดว่าผมจะอยู่ได้หรือไงถ้าขาดเธอไป บอกแล้วไง ถ้าขาดเธอไปผมจะตายภายในห้าก้าวแน่นอน”
ผมบอกพร้อมกับดึงตัวเธอเข้ามากอด ใช่แล้วล่ะ ถ้าอดลูบๆ คล้ำๆ แล้วดมกลิ่นฝืดฝาดแบบนี้กับฟราน ผมคลั่งตายจริงๆ นะเนี่ย
ฟรานปล่อยแขนตกอยู่ข้างลำตัวแบบหมดแรง กดหน้าซุกเข้ามาที่แผ่นอกผมโดยไม่พูดอะไร พวกเราอยู่กันแบบนั้นจนกระทั่งมีเสียงดังขึ้นมาขัดจังหวะในหัวของผม
มีคำเตือนเข้ามา
โปรดระวังผลข้างเคียงของ Dawn of Love เมื่อผลของสกิลหมดลง เป้าหมายจะมีความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้นสูงตามค่าความรักที่มีให้
เฮ้ย! ของแบบนี้มันต้องแจ้งก่อนที่จะให้ใช้สิ!! ผมรีบก้มลงไปดูฟราน ที่ตอนนี้ตัวสั่นกึกๆ อยู่
“ฟราน ตะ ตั้งสติไว้ก่อนนะ”
พอได้ยินเสียงผม ฟรานก็เงยหน้าขึ้นมา ผมผงะไปนิดหนึ่ง เพราะดวงตาของเธอกลายเป็นสีแดงและส่องประกายออกมา แล้วเธอก็ผลักผมล้มลง
“ฟะ ฟรานซัง หะ หายใจลึกๆ ก่อนนะครับ มะ มีอะไรค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันนะ”
“รับทราบค่ะ”
ฟรานตอบพร้อมกับถอดกางเกงผมออกแบบดึงปรู๊ดเดียวปลิวหายไปเลย
“รับทราบแน่เหรอเนี่ย!”
“ทานละนะคะ”
ฟรานล้วงเอาหนอนน้อยผมออกมา และอ้าปากถางจนสุด แล้วงับเข้าทันที เธอดูดมันอย่างตระกะตละกามแบบไม่ยอมพักหายใจ
ไอ้เสียวก็เสียวอยู่หรอก แต่ว่า…นี้มันกลางดันเจี้ยนนะเฮ้ย เกิดมีใครผ่านมาเจอล่ะ งานงอกแน่
แต่สภาพแบบนี้อย่างไงก็คงหยุดไม่อยู่ รีบๆ ให้มันจบดีกว่า ผมจับหัวของฟรานแล้วโยกเอวใส่ จนเมื่อพ่นแยมขาวออกไป ฟรานก็ดันกัดดุ้นผมเข้าให้ เธอกัดแรงจนเลือดออก จากนั้นก็ดูดเลือดผมไปพร้อมกับแยมขาวเลย แต่ตอนโดนดูดเนี่ยโคตรเสียวเลย ความรู้สึกดีว่าตอนเสร็จแบบปกติสักสิบเท่าได้ แต่ว่าขนาดเสร็จไปพักหนึ่งแล้วฟรานยังไม่เลิกดูดแยมขาวผมเลย นี้ถ้าผมไม่มีกระสุนไร้ขีดกำจัดของมารราคะล่ะก็ คงโดนดูดหมดไข่ไปแล้ว และในที่สุดดูเหมือนจะเป็นทางฟรานที่ถึงขีดกำจัดซะก่อน เพราะเธอเริ่มสำลักแยมขาวที่ดูดมากเกินไป
แต่มันยังไม่จบ ฟรานลุกขึ้นและเดินไปที่กำแพง เธอยกมือขึ้นวางพิงในท่าโน้มตัวไปข้างหน้า จากนั้นก็ใช้มือเอื้อมมาถลกกระโปรงขึ้นไปกองไว้ที่เอว จากนั้นก็แหวกขอบกางเกงในสีแดงออก เธอไม่พูดอะไรนอกจากหันมาส่งยิ้มให้ผม ดวงตาของเธอส่องแสงสีแดงออกมาอีกแล้ว
วูบหนึ่งผมรู้สึกเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้ พุ่งเข้าใส่ฟรานเหมือนสัตว์ป่า แล้วจับกระแทกกระทันแบบใช้กำลังเพียงอย่างเดียว แถมไม่ได้ปรับขนาดดุ้นด้วย มันทำให้หอยของฟรานถึงกับฉีกจนเลือดไหลอาบ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ครางออกมาอย่างสะใจและเร่งให้ผมทำรุนแรงขึ้นอีก เลยกระหน่ำเธอราวกับจะฉีกให้เป็นชิ้นๆ สุดท้ายก็ปล่อยแยมขาวเข้าไปในตัวเธออย่างแรงโดยไม่ควบคุม มันเลยฉีดแรงจนตัวเธอลอยกระเด็นออกไปตามแรงอัด
และเมื่อทุกอย่างจบลง สติผมกลับมา ไม่ใช่สติกลับ เพราะผมจำทุกอย่างได้ รู้สึกถึงสัมผัสทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพียงแต่...ความดิบเถื่อนที่ผมสะกดไว้ในตัวเองมันถูกลากออกมาข้างนอกก็เท่านั้นเอง
ผมก้มลงมองดูดุ้นตัวเองที่อาบไปด้วยเลือดของฟาน นี้มันทำให้ผมจิตตกอย่างรุนแรง ทั้งๆ ที่พยายามทะนุทนอมเธอมาตลอด แต่แล้วก็ทำลายมันลงไปจนได้ จริงอยู่ว่าแผลของฟรานได้แยมขาวรักษาไปแล้ว แต่จิตใจผมมันไม่ได้ถูกรักษาไปด้วยเลย
ผมอุ้มฟรานที่สลบอยู่ขึ้นมา ก่อนจะใช้ใบวาปร์กลับไปที่คฤหาสน์ พอส่งเธอไปนอนที่เตียง ผมก็วาปร์ไปที่ปราสาทจอมมารทันที
เมื่อมาถึงผมใส่เกราะจอมมารเพื่อไม่ให้ใครเห็นสีหน้าผมในตอนนี้ ก่อนจะตรงไปที่ห้องสมุดโดยไม่แวะที่ไหนเลย ผมปิดประตูขังตัวเองไว้ในนั้นไม่ให้ใครเข้ามาได้
…………….
ตอนที่ 27 ธรรมชาติของแวมไพร์

“ท่านโรมะยังไม่ออกมาอีกเหรอคะท่านพี่”
“มิรินเองเหรอ…ยังเลย นี้ก็สองวันแล้วสินะ”
มุเอมะมานั่งเฝ้าหน้าห้องสมุดโดยไม่ได้ลุกไปไหนมาสองวันแล้วเหมือนกัน
“พอรู้ไหมมันเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่น่าจะเกี่ยวกับฟราน คงเกิดเรื่องขึ้นตอนที่ไปดันเจี้ยนกัน ส่วนตอนที่ฟรานตื่นขึ้นมา ก็เอาแต่ร้องไห้ถามอะไรไปก็ไม่ยอมตอบเลย ถึงจะโกหกไปว่าท่านโรมะไปธุระด่วนที่เมืองอื่นสองสามวันก็เถอะ แต่ถ้าไม่รีบกลับไปมีหวังแย่แน่”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันคิดว่าน่าจะใกล้ได้เวลาที่ท่านโรมะจะออกมาแล้ว”
“เอ๋? ทำไมท่านพี่ถึงได้มั่นใจขนาดนั้น”
“อืม เดี๋ยวก็รู้เองล่ะ”
พูดยังไม่ทันขาดคำ ประตูห้องที่ถูกปิดตายก็ถูกเปิดออก
“อุตสาห์มานั่งเฝ้า ลำบากเธออีกแล้ว”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันอยากทำเอง”
มุเอมะยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน แล้วพูดขึ้นต่อ
“รีบปล่อยออกมาก่อนจะระเบิดดีกว่านะคะท่านโรมะ”
“อ่ะ อืม งั้นไม่เกรงใจละนะ”
ผมบอกพร้อมกับยกตัวมุเอมะขึ้นมา เธอรู้งานทันทีเลยใช้ขาเกี่ยวรอบเอวผมไว้ ส่วนผมก็ทำการยัดดุ้นเข้าไปในตัวเธอทีเดียวมิดด้าม
“มะ มิริน เดี๋ยวอีกชั่วโมงหนึ่งเธอมารับช่วงต่อทีนะ”
มุเอมะสั่งเสียไว้ ก่อนจะถูกผมอุ้มไปกระแทกไปจนไปถึงที่ห้องนอน ระหว่างทางเธอก็แตกไปสองครั้งแล้ว แถมยังเจอศึกหนักต่อเนื่องกว่าชั่วโมง
“แบบนี้เอง ขีดกำจัดของการอดเซ็กส์ของท่านโรมะอยู่แค่ที่สองวันเท่านั้นสินะ”
จากนั้นมิรินก็โดนแบบเดียวกับมุเอมะไปเหมือนกัน หลังจากปลดปล่อยพลังหื่นแบบมารธอนสองชั่วโมงติด ก็หายปวดดุ้นลงไปหน่อย นึกว่าดุ้นจะระเบิดซะแล้ว
เอาล่ะ กลับไปจัดการปัญหาให้เสร็จดีกว่า
………………
“กลับมาแล้ว!”
ผมเปิดประตูคฤหาสน์ออก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ผ่านไปสักพักหนึ่ง ก็มีเสียงวิ่งมาจากทั่วบ้าน
“นายท่าน!”
คนแรกที่วิ่งมาคือดาเซส เธอพุ่งเข้ามากอดขาผมไว้ทันที
“นายท่าน!!”
แล้วเดเม่ก็โผล่มาจากชั้นสอง ตรงเข้ากอดตรงเอวผม
“แง!! กลับมาได้สักที นึกว่าโดนทิ้งซะแล้ว”
ยัยเทพธิดาไร้ประโยชน์กระโดดเกาะหลังผม
“นายท่านมาแล้ว”
ดวาฟหน้าตายยืนเงยหน้าจ้องผมเขม็ง เอ่อ ไม่เข้ามากอดเหรอ เศร้าใจนิดๆ นะเนี่ย
ตอนที่ผมไม่อยู่ ยูรินได้ทำซักโครกให้เสร็จแล้วซึ่งมีติดไว้ในห้องน้ำทั้งสามชั้นเลย ส่วนกำแพงยังไม่เสร็จแต่ว่าเริ่มก่อฐานขึ้นมาแล้วโดยมีดาเซสช่วยอีกแรง ดาเซสนอกจากช่วยทำกำแพงแล้ว ยังจัดการพวกพื้นที่หญ้ารกๆ รอบบ้านซ้ำยังจะดูแลม้าให้อีกส่วนยัยเอร่าก็เอาแต่นั่งกินนอนกินเช่นเคย
เดเม่เองก็พยายามอย่างเต็มที่ ทั้งดูแลเรื่องความสะอาดทั้งเรื่องทำอาหารให้ทุกคน แต่ผมไม่อยู่เลยมีปัญหาเรื่องเตรียมน้ำอาบพอสมควร ส่วนที่แย่คือฟราน เธอไม่ออกจากห้องเลยเอาแต่ร้องไห้ตลอด ซึ่งเดเม่เองก็จนปัญญาจะช่วย
“อืม ทุกคนทำได้ดีมาก ไว้เดี๋ยวผมจะให้รางวัลนะ แต่ตอนนี้ขอไปดูฟรานก่อน”
ผมมาที่ห้องของฟราน พอเปิดเข้าไปม่านก็ปิดอยู่ เลยค่อนข้างมืด ฟรานหลับอยู่ใต้เตียง ทำอย่างกะเป็นแมวเลยแฮะ ผมก้มลงและค่อยๆ ปลุกเธอ
“ฟราน ตื่นๆ”
เมื่อได้ยินเสียงผมฟรานก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา ขอบตาเธอบวมแดง คงร้องไห้มาตลอดแน่เลย แต่พอเธอเห็นผม ดวงตาก็เปิดกว้างและรีบถอยเข้าไปติดมุมใต้เตียง
“ขอโทษค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
เธอมอบกราบและขอโทษยกใหญ่ ผมถอนหายใจออกมาดังเฮือก เพราะว่าแล้วต้องเป็นแบบนี้
“นะ หนูทำร้ายนายท่าน ไม่สมควรให้อภัย ละ แล้วยังจะดูดเลือดของนายท่านอีก ซ้ำยังควบคุมจิตใจของนายท่านให้ทำตามอำเภอใจตัวเอง ทั้งๆ ที่นายท่านมีบุญคุณอันใหญ่หลวงกับหนู ตะ แต่หนูกับทำอย่างนั้นลงไป ได้โปรดลงโทษหนูด้วยเถอะค่ะ จะทรมานหนูอย่างไงก็ได้ แต่ขอร้องอย่าทิ้งหนูไปเลยนะคะ!”
“ฟราน เงียบ”
ผมสั่งออกไปเบาๆ ให้เธอหยุดกล่าวโทษและพูดอะไรน่ากลัวออกมา เธอยังหมอบกราบตัวสั่นไม่หยุด มีเสียงสะอื้นออกมาเป็นระยะ
“…คือว่า ผมผิดเองล่ะ ขอโทษนะ”
ผมเองก็ก้มหัวให้เธอเช่นกัน
“นะ นายท่านไม่ได้อะไรผิดเลยค่ะ! ตะ แต่เพราะหนูไปควบคุมจิตใจของนายท่านก็เลย”
“ไม่หรอกๆ ผมแหละผิด ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอเป็นแวมไพร์แต่ก็ไม่ได้เรียนรู้ทำความเข้าใจธรรมชาติความเป็นอยู่ของเผ่าพันธุ์เธอเลย จนเกิดแบบนี้ขึ้น เพราะงั้นถ้าจะผิดก็ฉันเนี่ยล่ะผิด”
พอผมกล่าวโทษตัวเอง ฟรานก็รีบคลานออกมาจากใต้เตียง และเข้ามากอดผมไว้
“ไม่ใช่ค่ะ นายท่านไม่ได้ผิด! นายท่านดีกับหนูจนเกินไปทำให้หนูเองที่ได้ใจจนแอบคิดเอาแต่ได้ไม่คิดควบคุมตัวเอง หนูเป็นทาสเลว ทำโทษหนูเถอะค่ะ ทุบตีหนูให้สมกับความเลวที่ทำลงไป”
“ทำได้ที่ไหนล่ะ ไอ้ที่ผมช็อคก็เรื่องทำร้ายเธอเนี่ยล่ะ เรื่องโดนสกิล Mind Control กลับดีซะอีก เพราะได้มีประสบการณ์การโดนสกิลสายควบคุมจิตใจดูบ้าง แล้วก็นะฟราน บางทีการที่คนเราจะแอบคิดหวังสิ่งใดไว้มันไม่ใช่ความผิดหรอก”
“แต่ว่าหนู”
“ฟังก่อนๆ คือตอนที่เธอได้รับผลข้างเคียงจากDawn of love เธอรู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมาจนควบคุมไม่ได้เลยใช่ไหม”
“ค่ะ”
ฟรานพยักหน้ารับอย่างอายๆ
“ตอนนั้นอารมณ์ทางเพศของเธอพึ่งขึ้นถึงขีดสุดน่ะ เลยไปกระตุ้นความเป็นแวมไพร์ในตื่นตัวถึงขีดสุดไปด้วย ตลอดสองวันมาเนี่ย ฉันศึกษาข้อมูลของแวมไพร์มาแล้ว ทำให้รู้ว่าแวมไพร์น่ะมีนิสัยชอบดูดเลือดคู่รักเวลาร่วมรักกัน เพราะงั้นที่เธอดูดเลือดฉันไป ถือเป็นเรื่องธรรมดามาก”
“นะ หนูไม่เคยเห็นรู้เรื่องนี้เลย”
“ไม่รู้ก็ไม่แปลกหรอก ก็เหมือนพ่อแม่ไม่ได้สอนลูกหรอกว่า เวลากลางคืนพ่อกับแม่เล่นท่าอะไรกันบ้าง มันน่าอายไงก็เลยไม่ได้บอก ปล่อยให้ถึงเวลาแล้วก็เรียนรู้ด้วยตัวเอง ฉันเองกว่าจะค้นเจอก็ลำบากแทบแย่ ต้องไปอ่านพวกบันทึกประจำวันของเจ้าพวกแวมไพร์ลามกถึงจะรู้เรื่องนี้มา”
“นะ นายท่านทำเพื่อหนูทั้งๆ ที่หนูเอาแต่ร้องไห้ทำอะไรไม่ได้เลย ละ แล้วถึงจะเป็นเรื่องปกติ แต่หนูก็ดูดเลือดนายท่านไป!”
“แล้วฉันดูผิดปกติตรงไหนหรือเปล่าล่ะ เห็นไหมก็ยังแข็งแรงดีอยู่ แผลที่เธอกัดดุ้น ก็ได้สกิลรักษาหายทันทีตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ฉะนั้นฟราน เธอไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรทั้งนั้น ต่อไปเธอต้องทำแบบนั้นกับฉันอีก”
“หา! ไม่ได้หรอกค่ะ หนูทำไม่ได้ หนูทำร้ายเจ้านายไม่ได้!”
“ไม่ใช่ทำร้าย อืม ว่าไงดีล่ะ อ้อ ใช่ ฟรานรู้ใช่ไหมเวลายัยดาเซสถึงจุดสุดยอดแล้วจะชอบทำอะไรออกมา”
“ค่ะ ดาเซสนิสัยไม่ดี ชอบข่วนหลังนายท่าน”
“ฮ่าๆๆ นั้นแหละ แวมไพร์เวลาถึงจุดสุดยอดก็จะชอบดูดเลือด เธอคงอึดอัดที่ต้องเก็บกั้นอารมณ์แบบนั้นมาตลอดสินะ อารมณ์เลยค้างอยู่เป็นช่วงๆ ถึงว่าช่วงหลังมานี้เธอเสร็จเร็วเกิน เพราะอารมณ์ไม่ได้ปล่อยให้ถึงขีดสุดทุกครั้งนี้เอง ฉะนั้นจากนี้ไป ขอสั่งว่า ดูดเลือดผมซะ แล้วถึงจุดสุดยอดไปพร้อมกัน”
“นายท่าน”
“แล้วอีกเรื่องหนึ่ง”
ผมกระแอมทีหนึ่งก่อนจะพูด เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างทำให้คิดหนักเลยทีเดียว
“ตอนที่ผมถูก Mind control เข้าไปเลยพึ่งได้รู้…จริงแล้วฟรานน่ะชอบให้ผมทำรุนแรงตอนมีอะไรกันใช่ไหม”
“…”
ฟรานหน้าแดงจนถึงใบหู ก่อนจะค่อยๆ พยักหน้า
“นะ หนูกลัวนายท่านจะเห็นหนูเป็นเด็กผู้หญิงร่าน ละ เลยไม่กล้าบอก”
“เพราะไม่บอกนั้นแหละเลยเก็บกด จนตอนเลือดแวมไพร์ตื่นขึ้นมา เธอเลยระบายสิ่งที่อัดอั้นเอาไว้ออกมา แล้วก็นะ…คือว่า จริงๆ แล้ว ผมเองก็ชอบทำอะไรรุนแรงเหมือนกัน Mind control น่ะไม่ได้ควบคุมความคิดหรือออกคำสั่งอะไรได้ มันเพียงดึงเอาด้านมืดในจิตใจออกมาและหยุดสติการยับยั้งชั่งใจเอาไว้
อีกอย่าง…ไม่ต้องกลัวว่าผมจะมองเธอเป็นผู้หญิงร่านหรอก มันเป็นธรรมชาติของแวมไพร์ด้วยเหมือนกัน เพราะมีการฟื้นตัวที่รวดเร็ว แวมไพร์เลยจะได้รับความสุขจากความเจ็บปวดเวลาร่วมรัก”
“จะ จริงเหรอคะ”
“ชัวร์ เรื่องศึกษาหาข้อมูลผมเก่งนะจะบอกให้ แล้วก็นะ ผมเองเคยบอกด้วยเหรอว่าไม่ชอบผู้หญิงเซ็กส์จัด แล้วจากนี้ไปผมจะทำกับเธอแบบรุนแรงอย่างที่ชอบล่ะนะ”
“นายท่าน”
ฟรานเริ่มยิ้มออก สีหน้าเธอดูดีขึ้นมาแล้ว
“ความรักที่ดีต้องเกิดจากการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพราะงั้นค่อยๆ เรียนรู้ไปด้วยกันนะ”
“ค่ะ นายท่าน”
แล้วผมก็ดึงฟรานเข้ามาจูบ เพียงแต่จูบตามปกติตัวเธอก็สั่นสะท้านขึ้นมาทันที
“ฟานยืนขึ้นหน่อย”
ผมบอกขณะนั่งดูฟรานยืนขึ้น จากนั้นผมก็มุดเอาหัวเข้าไปใต้กระโปรงของเธอ พร้อมกับกดหน้าใบเข้าไปตรงสามเหลี่ยมแห่งความลับ พร้อมสูดดมกลิ่นของฟรานที่แสนคิดถึง
“นะ นายท่านคะ นะ หนูไม่ได้อาบน้ำมาเลยตั้งสองวัน มะ มันสกปรก”
“ไม่เป็นไร มีกลิ่นฉี่ผสมอยู่หน่อยๆ ก็ไม่เลว หืออะไรกันเนี่ย กลิ่นแบบนี้”
ผมกดจมูกเข้าไปในร่องแล้วสูดหายใจเต็มแรง จนฟรานร้องอี๊ด้วยความเสียวออกมา
“กลิ่นนี้หรือว่าจะช่วยตัวเองด้วยตอนผมไม่อยู่”
“ขะ ขอโทษค่ะ! เวลานะ หนูนึกถึงใบหน้านายท่านขึ้นมาเมื่อไร ตรงนั้นมันก็จะคันยิบๆ ขึ้นมาเลย”
“หุๆๆ เด็กลามก ไว้คราวหลังผมจะลงโทษให้ช่วยตัวเองให้ผมดูล่ะนะ”
ผมบอกเสร็จก็เอาหัวออกมาจากใต้กระโปรงของฟราน ค่อยสดชื่นขึ้นหน่อย อย่าไงก็ขาดไม่ได้จริงแฮะ จริงๆ ก็อยากจะจับเธอกดแล้วปลดปล่อยความหื่นออกมาหรอกนะ แต่ตอนนี้มีเรื่องที่ต้องรีบจัดการก่อน
“ฟรานเดี๋ยวมากับผม มีเรื่องต้องทดสอบกันหน่อย”
“ค่ะ”
ท่าทางเธอกลับมาร่าเริงเหมือนเก่าแล้ว ค่อยยังช่วยหน่อย
ผมตามทุกคนออกมาที่ด้านนอกของคฤหาสน์ และพาไปตรงลานกว้าง
“เดี๋ยวผมจะขอทดสอบสกิลใหม่หน่อย แต่สกิลนี้มีผลข้างเคียงอยู่บ้าง เลยต้องให้พวกเธอช่วย”
“ค่ะ”
ทุกคนขานรับเป็นเสียงเดียวกัน ผมใช้ตรวจสอบกับฟรานดูแล้ว มีสิ่งที่น่ากลัวเกิดขึ้น เพราะค่าพลังเธอเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ที่น่าได้จาการที่ดูดเลือดผมไป ตอนที่ซื้อฟรานมาพ่อค้าทาสก็บอกไว้แล้วว่าเธอไม่ดื่มเลือดของมนุษย์ เลยอ่อนแอ สรุปที่ผ่านมานั้นคือสภาพที่อ่อนแอสุดของเธอสินะ แล้วตอนนี้คือสภาพที่แท้จริง…โหดเป็นบ้า
แต่นอกจากนั้นเธอยังได้สกิลใหม่มาด้วย นั้นก็คือMind control lv 1 แต่ยังมีเรื่องน่าห่วงอีกอย่างคือค่าพลังของฟรานมีค่า Charm เพิ่มขึ้นมาซึ่งผมไม่เคยเห็นจากใครมาก่อน พอถามดาเซสดูเธอเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเหมือนกัน เรื่องนี้ไว้ผมค่อยศึกษาดูอีกที บางทีมุเอมะอาจจะรู้ก็ได้
“ฟราน ตอนนี้ใช้ Mind control ได้คล่องแล้วหรือยัง”
“หลังจากนั้นหนูก็ไม่ได้ใช้อีกเลยค่ะ แต่คิดว่าสามารถใช้ได้แน่นอนค่ะ”
“ดี งั้นเริ่มทดลองเลย ว่าแต่ในกลุ่มเรานี้มีใครที่มีค่าความรักกับผมน้อยที่สุดกันล่ะ”
ผมมองเรียงตัวไป ดาเซสตัดทิ้ง เพราะผมดูออกว่าเธอติดใจผมอยู่มาก ส่วนเดเม่น่าจะออกไปในแนวให้ความนับถือเชื่อฟัง ที่เหลือก็ยูรินกับเอร่าตัวไร้ประโยชน์ ผมเลือกยูริน เพราะเอร่าเป็นเผ่าเทพไม่รู้จะมีผลอย่างอื่นตามมาหรือเปล่า เลยไม่เสี่ยงดีกว่า
“ยูริน ช่วยหน่อยนะ”
“อืม”
“Dawn of Love!”
พอผมใช้สกิลนี้ออกไปออร่าสีทองก็ห่อหุ้มร่างของยูรินไว้แบบคราวก่อน จากนั้นผมใช้ตรวจสอบดู อ้าว…นี้มันอะไรกัน ค่าพลังของยูริน X9 ทุกอย่าง นี้เยอะกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก สรุปคือเธอชอบผมเกือบจะเท่าๆ กับที่ฟรานรู้สึกกับผมเลยเหรอเนี่ย คิดคาดแฮะ
“ยูริน รู้สึกเป็นไงบ้าง”
“สุดยอดค่ะ รู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมหาศาลเลย”
“ฟราน เดี๋ยวพอสกิลหมดเวลาลง แล้วผลข้างเคียงเริ่มแสดงออกมา ตอนนั้นให้ใช้ Mind control เลยนะ”
“อ้อ เข้าใจแล้วค่ะ!”
ฟรานเข้าใจวัตถุประสงค์ของผมแล้ว ถ้าทำได้ก็จะกลายเป็นว่าลบข้อเสียของสกิลนี้ออกไปทันที
“ยูรินเองก็พยายามควบคุมสติตัวเองไว้ด้วยนะ”
“ควบคุมอยู่แล้ว”
เธอตอบแบบง่ายๆ หน้าตายเช่นเคย จากนั้นพอสกิลหมดเวลาลง ยูรินก็เริ่มขยับตัว เธอถอดสปอร์ตบราออกพร้อมกับกางเกงขาสั้น จนเหลือแค่กางเกงในลายทางสีดำขาว แล้วเดินมาทางผม
“ยูรินเองก็ไม่ไหวเหรอเนี่ย เอาเลยฟราน”
ผมหันไปให้สัญญาณ ทันใดนั้นดวงตาของฟรานก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและส่องประกายออกมา ร่างของยูรินหยุดเดินและยืนนิ่งทันที
“ได้ผล!”
ผลลัพธ์ออกมาน่าดีใจ แต่ฟรานกลับแสดงสีหน้าไม่ดีออกมา
“ไม่ค่ะนายท่าน ถึงดึงสติกลับมาได้ก็จริง ตะ แต่ว่าร่างกาย”
“แบบนี้เอง ถึงจิตใจจะควบคุมได้ แต่ร>
<้สึกที่รุนแรงอยู่ดีสินะ” ผมสรุปผลการทดลองได้แล้ว ตอนที่ 28 หยาดน้ำทิพย์เทพธิดา “เอาล่ะทุกคนขอบใจมาก เดี๋ยวผมพายูรินไปปลดปล่อยซะหน่อย เสร็จแล้วเดี๋ยวไปทำมื้อเย็นให้กินนะ” แล้วผมก็อุ้มยูรินมาที่ห้องของเธอ และทำการปลดเปลื้องความต้องการทางเพศของเธอ ระหว่างที่ปฏิบัติการกันอยู่ ผมก็ได้ยินคำพูดที่ไม่น่าเชื่อออกมาจากปากของยูริน “นะ นายท่าน รัก รักมากเลย! ทำกับข้ามากกว่านี้อีกสิ! รักที่สุดเลย!” ละ เหลือเชื่อเลยแฮะ นี้ยูรินคิดแบบนี้กับผมหรอกเหรอ เห็นทำหน้าตายเลยคิดว่าเฉยๆ มาตลอดซะอีก อืมงั้นจากนี้ไปผมต้องเอ็นดูเธอแบบที่ทำกับฟรานสินะ หลังจากจบห้ายกอันแสนดุเดือดเลือดพล่านแล้ว ผมก็กลับออกมาจากห้อง โดยอุ้มยูรินที่ขยับตัวไม่ได้ออกมาด้วย เพราะจะให้ไปนอนที่ห้องนั่งเล่น เวลาจะเรียกกินข้าวจะได้ไม่ต้องลำบากเดินไกล มื้อเย็นวันนี้ผมเลือกเมนูข้าวแกงกระหรี่เนื้อ แต่รสชาติอาจไม่เท่าที่เคยกิน เพราะโลกนี้ไม่มีผงกระหรี่แบบสำเร็จรูป ผมเลยต้องผสมเครื่องเทศที่พอหาได้ด้วยตัวเอง ระหว่างที่ทำอาหารอยู่ฟรานก็อยู่ใกล้ๆ ด้วย เธอเกาะติดผมตลอดเลย แต่ในที่สุดก็เหมือนเธอจะทนต่อไม่ไหวแล้ว เลยยื่นมือมาลูบที่ดุ้นผม เป็นการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ อ้อ แบบนี้เอง ผมจับฟรานหันหน้าเข้าหาโต๊ะ และดึงกระโปรงเธอขึ้นมากองที่เอว เอ๋ เปลี่ยนกางเกงในตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ใส่ตัวโปรดผมมาซะด้วย มันเป็นกางเกงในซีทรูสีดำพื้นเรียบๆ ไม่มีลูกไม้ แต่มีความยืดหยุดของเนื้อผ้าสูง ให้สัมผัสที่นุ่มและเรียบลื่น โดยเฉพาะส่วนก้น มันได้ทั้งสัมผัสความนุ่มนิ่มของเนื้อก้น ผสมไปกับความเรียบลื่นทางผิวสัมผัสของเนื้อผ้ากางเกงในไปพร้อมๆ กัน ผมไม่ได้เล้าโลมฟรานแบบเคย แต่ใส่เข้าไปทันทีแถมไม่ปรับขนาดให้ด้วย เพราะผมรู้แล้วว่าเธอชอบแบบไหนที่สุด ถึงจะไม่ได้เล้าโลมก่อนแต่ข้างในถ้ำของฟรานก็เปียกแฉะอยู่ก่อนแล้ว คงมีอารมณ์มากน่าดู ผมสอยกระแทกเธอแรงๆ ขณะที่ทำอาหารไปด้วย พอต้องเดินย้ายที่ ก็จะจับขาเธอยกขึ้นมา ให้เธอใช้มือเดินต่างเท้า ไถ่ไปกระแทกไป ฟรานร้องอย่างสะใจราวกับจะคลุ้งคลั่งขึ้นมา ถึงจะรู้สึกเจ็บในใจนิดๆ ที่ต้องเห็นฟรานเลือดออกทุกทีเวลาที่ทำกัน แต่ว่าถ้านี้เป็นธรรมชาติของแวมไพร์ผมก็ต้อทำใจรับให้ได้ พอฟรานใกล้เสร็จผมก็เปลี่ยนไปเป็นท่าลิงอุ้มแตง แต่เพราะตัวเธอเล็กมาก ต่อให้อยู่ในท่านี้หัวเธอก็เอื้อมมาไม่ถึงคอผม ผมเลยให้เธอดูดเลือดที่ข้อมือแทน เมื่อฟรานดูดเลือดผมขณะที่เธอเสร็จไปด้วย ดวงตาของเธอก็กลายเป็นสีแดงและเบิกกว้าง ร่างกายของเธอชักกระตุกทุกจุด ถ้ำของเธอบีบรัดแรงมากจนผมรู้สึกเจ็บขึ้นมา นี้มันอันตรายมาก ถ้าไม่ใช่ดุ้นที่อึดทึกหนังเหนียวแบบผมล่ะก็ แรงบีบเมื่อนี้มันทำให้ดุ้นเละเป็นเศษเนื้อคาถ้ำได้เลยนะ แต่ด้วยแรงบีบรัดขนาดนั้น ทำให้ผมเสร็จอย่างแรงและยิงแยมขาวออกไปเยอะมาก จนท้องของฟรานบวมขึ้นมา หลังจากถึงที่หมายผมก็ต้องอุ้มเธอไปนอนที่ห้องนั่งเล่นแบบเดียวกับยูริน เพราะเธอก็สลบไปแล้ว ดูเหมือนการเสร็จแบบสุดยอดของแวมไพร์จะรุนแรงกว่าการเสร็จแบบปกติถึงสิบเท่าได้ ทำให้เพียงแค่ครั้งเดียวก็หมดแรงแล้ว จากนั้นผมก็กลับไปดูแกงกระหรี่ที่ใกล้ได้ที่แล้ว วันนี้ผมสอนเดเม่หุงข้าวด้วย เธอยังกะปริมาณน้ำไม่ถูก ก็ไม่แปลกหรอก นี้ถ้ามีหม้อหุงข้าวไฟฟ้า มันคงง่ายกว่านี้เยอะ แต่ที่ผมทำได้ง่ายๆ เพราะสกิลพ่อบ้านสมบูรณ์แบบอะนะ สลัดผักเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกวัน เพราะไม่ใช่แค่อาหารต้องอร่อย แต่ต้องคำนึงถึงคุณค่าทางอาหารที่สมดุลด้วย วันนี้ผมทำน้ำผลไม้ไว้หลายชนิด ใส่ขวดและแช่ไว้ในถัง ซึ่งผมใช้สกิลทำให้น้ำเย็นถึงขีดสุด แต่ว่าสกิลพ่อบ้านสมบูรณ์แบบ แย่ตรงที่ปรับความเย็นอย่างไงก็ไม่ถึงขั้นทำให้เป็นน้ำแข็งได้ ไม่งั้นผมคงทำไอติมให้พวกเธอกินได้แล้ว พอเตรียมอาหารและตั้งโต๊ะเสร็จ ผมก็ให้เดเม่ไปตามเอร่ากับดาเซสมา ส่วนผมไปอุ้มทั้งยูรินและฟรานมาที่โต๊ะเองพร้อมกับปลุกเธอขึ้นมาด้วย ไม่ได้นั่งกินข้าวพร้อมหน้ากันแบบนี้มาตั้งสองวัน ทุกคนเลยดูร่าเริงเป็นพิเศษ ดาเซสบอกว่าถึงอาหารที่เดเม่ทำจะอร่อย แต่อย่างไงที่ผมทำก็อร่อยที่สุด ขนาดเดเม่ที่เป็นคนทำอาหารเอง ยังอยากให้ผมกลับมาทำให้ทานแบบเดิมเลย ผมปรับรสชาติของแกงกระหรี่ให้อ่อนและเผ็ดน้อยลง จู่ๆ มาให้กินเผ็ดเลยคงจะไม่ชอบกัน แต่มันก็ยังเผ็ดอยู่นิดหน่อยอยู่ดี ทว่ากลับตรงกันข้าม ทุกคนชอบรสเผ็ดของแกงกระหรี่มาก ขนาดผมบอกว่าจริงๆ ต้องเผ็ดกว่านี้ทุกคนเลยรีบบอกให้ผมเพิ่มความเผ็ดเข้าไปทันที แต่คงต้องไว้คราวหน้าล่ะนะ ยูรินกับฟรานนั้น ผมต้องป้อนให้ เพราะพวกเธอหมดแรงขนาดถือช้อนยังมือสั่นเลย ที่เหลือเลยมองมาแบบอิจฉานิดๆ หลังมื้อเย็นพอพักจนหายอิ่มกันแล้ว ก็ถึงเวลาจัดการสอนการใช้ซักโครกให้กับทุกคน “ชักโครก?” ทุกคนทำหน้าสงสัย ขณะผมเติมน้ำเข้าไปบนถังเก็บน้ำที่อยู่ติดไว้บนพนัง “อืม ก็ไว้สำหรับขับถ่ายแต่มันจะสะดวกกว่า พูดไปคงเข้าใจยาก ดาเซสมาทดสอบใช้สิ” ผมชี้ไปที่ดาเซส ยัยนี้เหมาะสุดแล้ว “เอ๋ ฉันเหรอ ต้องทำอย่างไงบ้างล่ะ” “ก่อนอื่นก็ถอดกางเกง กางเกงในด้วย” “หา!” “จะถอดเองหรือให้ฉันถอดให้” “ถะ ถอดแล้ว” ดาเซสถอดส่วนล่างออกต่อหน้าทุกคน แทนที่จะบอกว่าอาย ผมว่ายัยนี้กำลังฟินมากกว่านะ “จากนั้นก็ไปนั่งลงบนนั้นแล้วขี้ซะ” “เห๋!!! ต่อหน้าทุกคนเนี่ยนะ” “จะทำเองหรือจะให้ฉันทำให้ล่ะ” เจอรูปแบบเดิมไปแบบนี้ ดาเซสเลยยิ้มด้วยริมฝีปากที่บิดเบี้ยวและยอมลงไปนั่งตามที่บอก ส่วนผมน่ะเหรอ ไปนั่งอยู่ตรงหน้าเธอแบบชิดติดขอบจอ แถมให้เธอถางขาออกเพื่อจะได้ให้ผมเห็นชัดๆ ด้วย แต่ไอ้ที่ควรออกมันดันไม่ออก มีแต่เสียงน้ำจากหอยของดาเซสที่หยดติ้งๆ แทน แต่ผมก็ไม่รีบร้อนรอจนดาเซสเบ่งมันออกมาจนได้ สีหน้าของเธอนี้ท่าทางดีใจสุดๆ ผมเลยให้รางวัลด้วยการใช้นิ้วใส่เข้าไปในหอยของเธอและชักเข้าชักออก จนเธอขี้ออกมาพร้อมกับเสร็จไปด้วย จากนั้นผมก็สอนวิธีใช้สายฉีดน้ำเพื่อทำความสะอาดก้น จริงๆ อยากทำแบบที่ฉีดอัติโนมัติ แต่ท่าจะยากเกินไปเลยให้ทำแบบสายฉีดแทน จะว่าไปก็ยังไม่มีทิซซู่ไว้คงต้องทำทีหลัง ตอนนี้ใช้ผ้าธรรมดาเช็ดไปก่อนแน่นอนผมเป็นคนล้างและเช็ดก้นให้ดาเซสเอง “พอเสร็จกิจแล้วก็กดตรงนี้” ผมกดแท่นไม้ที่เป็นตัวขัดลง มันก็จะปล่อยน้ำในถังด้านหลังออกมา ส่วนถังด้านหลังก็มีท่อเชื่อมต่อกับถังเก็บน้ำตรงผนังอีกที “เวลาเติมน้ำในถังด้านหลังนี้ก็ดึงสายนี้” ผมหันไปดึงสายที่โยงลงมาจากถังเก็บ น้ำก็ไหลมาเติมจนเต็มถังด้านหลังแบบเดิม “โอ๋!!” ทุกคนร้องออกมาด้วยความทึ่ง แม้แต่คนที่สร้างมันขึ้นมาอย่างยูริน ผมติดป้ายไว้หน้าประตูด้วย เพราะมันไม่มีล็อคที่ประตู เวลาใครใช้จะก็ให้หันป้ายบอกว่ามีคนอยู่แทน นอกจากนี้ผมยังติดฝักบัวเพิ่มไว้ในห้องอาบน้ำด้วย โดยต่อสายไปยังอ่างเก็บน้ำที่ใช้ล้างตัว ส่วนตัวปั้มแรงดันน้ำผมใช้อุปกรณ์เวทมนต์ที่ไปขอมาจากมุเอมะมาติดไว้ ซึ่งดีกว่ามาตักราดกัน ทุกคนดูจะชอบมากยิ่งกว่าชักโครกซะอีก และแน่นอนว่าอะไรที่คฤหาสน์นี้มี ที่ปราสาทจอมมารก็จะมีเหมือนกัน เพราะผมใช้คฤหาสน์หลังนี้เป็นโมเดลต้นแบบ “พวกเธออาบกันไปก่อนเลยนะ” พอผมกำลังจะออกไป ทุกคนก็เข้ามาจับตัวผมไว้ “นายท่านเข้ามาอาบด้วยกันสิคะ” เดเม่เป็นคนบอก ผมแทบไม่อยากจะเชื่อ คนที่ขี้อายแบบเธอจะกล้าชวนผมแบบนี้ ตอนแรกผมนึกว่าจะได้แช่น้ำสบายๆ แล้วซะอีก เพราะยูรินกับฟรานหมดแรงไปแล้ว แต่ที่ไหนได้ วันนี้ดาเซสฟิตมากมาสกิดเรียกผมเองเลย สงสัยจะตอนสอนใช้ชักโครกจะทำให้ตื่นเต้นมากไปจนเครื่องติดขึ้นมา ผมจับดาเซสพาดกับขอบอ่าง และเสียบจากด้านหลัง ยูรินกับฟรานเองก็ขอมาต่อคิว แต่ว่าผมให้พักไป เพราะร่างกายของพวกเธอมันไม่ไหวแล้ว แต่ตอนโยกดาเซสอยู่ ผมก็เห็นตรงตูดเธอมันเริ่มขมิบเป็นจังหวะ เอ๋ หรือว่าบางที ผมนึกถึงหนังสือโป๊ที่เคยอ่านขึ้นมาทันที เลยค่อยวางนิ้วไปตรงรูตูดของดาเซส และวนนิ้วไปรอบๆ รูตูด “มะ ไม่ ตรงนั้นไม่ได้นะ!” ดาเซสพยายามร้องห้ามแต่ผมไม่ฟังอยู่แล้ว เพราะถ้ำของเธอมันตอดผมแรงมาก แปลว่าชอบจริงๆ ด้วย พอผมวนนิ้วลูบไปรอบๆ รูตูดสักพักหนึ่ง ดาเซสก็เริ่มผ่อนคลายลง จังหวะนั้นก็สอดนิ้วเข้าไป ตอนแรกมันเข้าไปแค่นิ้วข้อแรก แต่จู่ๆ ผมก็ถูกตูดของดาเซสดูดเข้าไปจนจมมิดทั้งนิ้ว เธอเสร็จอย่างรุนแรงจนกรีดร้องลั่นห้องอาบน้ำ ว่าแล้วเชี่ยว ยัยนี้จุดเสียวอยู่ที่ตูด จะว่าไปก็ลองฝึกใช้ทักษะมารราคะเลยดีกว่า ผมจับดาเซสมานอนลงบนพื้นห้องน้ำ และจับดุ้นไปจ่อที่รูตูดเธอ “ดะ เดี๋ยวฉันพึ่งเสร็จไป ละ แล้วนั้นไม่ใช่นะ ผะ ผิดรูแล้ว!” “ไม่หรอก ถูกรูแล้ว” ผมบอกพร้อมกับดันดุ้นเข้าไปในตูดดาเซส มันเข้าไปได้ลำบากมาก ถึงตรงหูรูดมันจะขยายแล้วก็เถอะ แต่มันรัดแน่นราวกับจะตัดดุ้นให้ขาด ส่วนข้างในผิดคาดเล็กน้อย นึกว่าจะโล่งๆ แบบที่เคยอ่านเจอมา แต่นี้มันแน่นมาก ต่างจากในถ้ำตรงที่ในตูดจะมีมัดกล้ามเนื้ออยู่เยอะกว่า การบีบรัดเลยรุนแรงกว่าด้วย “อูย ในรูตูดเธอนี้เสียวเป็นบ้าเลยดาเซส” แต่เสียงผมไปไม่ถึงดาเซส เพราะเธอเข้าโหมดคลั่งไปเรียบร้อยแล้ว พอผมเริ่มโยกก็มีเสียงลามกดังออกมาจากรูตูด เสียงต่างจากในถ้ำมาก เสียงร้องของดาเซสเองก็ด้วย เธอกระแทกเสียงหนักๆ ด้วยความอึดอัด แต่ก็เสียวไปในเวลาเดียวกันด้วย ผมโยกสลับกับพักเป็นระยะ เพราะอยากเสียวกับรสรูตูดครั้งแรกของดาเซสนานๆ “ว่าไงดาเซส ตูดเธอเสียบริสุทธิ์ให้ผมแล้วนะ รู้สึกไงบ้าง” “ดะ ดีใจที่สุดเลยค่ะ เสียวจนมึนหัวไปหมดแล้ว นะ นอกจากตูดแล้ว หะ หอยฉันก็โดนนายท่านเปิดบริสุทธิ์ด้วย” “อย่ามาตอแหล” ผมตีก้นเธอทีหนึ่งและกระแทกทีหนึ่งสลับกัน ดาเซสนี้ร้องไม่เป็นภาษาคนเลย “มะ ไม่ค่ะ ไม่กล้าตอแหลนายท่าน ตะ ตอนโดน นะ นายท่านสะ เสียบครั้งแรก ระรู้สึก มะ เหมือนได้เสียบริสุทธิ์จริงๆ” “อืมๆ หนูด้วย” ฟรานพยักหน้าเหมือนเข้าใจที่ดาเซสพูด “จะบอกว่าโดนฉันเสียบเสียวกว่าของแฟนเธอหรือไง” “สะ เสียวกว่าสินะคะ เสียวกว่าจะ จนเทียบไม่ติด ฉะ ฉันไม่เคยเสร็จกับแฟนเลย ตะ ต้องมานั่ง ตะ ตกเบ็ด ชะ ช่วยตัวเองจนเสร็จทีหลัง ทะ ทุกที” ดาเซสเวลาเข้าโหมดคลั่ง ปากจะเบามาก คิดอะไรก็พูดออกมาหมด ไร้ซึ่งความอายแม้แต่น้อย “ดาเซสเด็กดี งั้นฉันจะให้รางวัลเธอแล้วล่ะนะ” ผมจับสะโพกเธอไว้แน่น และเริ่มโยกแรงๆ ถี่ๆ ใส่ จนดาเซสกรีดร้องออกมา “ผัวขาแรงอีกค่ะ! ขยี้ตูดโสโครกของอีหมูตัวเมียคนนี้ให้แหลกไปเลยค่า!!!” คำพูดของดาเซสกระตุ้นอารมณ์ผมดีเหลือเกิน ผมเลยมีแรงเท่าไรก็ใส่จนหมด จนหอยเธอฉีดน้ำออกมา รูตูดเองก็ขมิบรัดผมอย่างกะหนวดปลาหมึก ผมกระฉูดแยมขาวใส่โดยปรับออฟชั่นหลายๆ อย่างเอาไว้ด้วย ท้องของเธอบวมขึ้นมาด้วยแยมขาวจำนวนมาก พอกะให้พอดีไม่ให้ทำให้เธอเจ็บจนเกินไป ก่อนจะหยุดปล่อย และดึงดุ้นออกมา “ยะ อย่าพึ่งเอาออก! ไม่ กรี๊ด!!!” ดาเซสร้องกรี๊ดพร้อมกับแยมขาวที่พุ่งออกมาจากรูตูดราวกับน้ำพุ ทุกคนนั่งแช่น้ำและดูไปด้วยพลางกลืนน้ำลายดังเฮือก “บะ แบบนั้น ขอข้าด้วย” ยูรินเอ่ยขึ้นแบบอายๆ และเอาหน้าครึ่งหนึ่งซ่อนลงไปในน้ำ “พวกเธอแค่ลุกยังจะไม่ไหวเลย ไว้วันหลังเถอะเดี๋ยวผมจัดเต็มให้แน่” ระหว่างที่รับปากยูรินกับฟราน ผมก็หันไปเห็นเดเม่ที่นั่งก้มหน้าอยู่ แต่ผมก็เห็นนะน้ำมันกระเพื่อมซะขนาดนั้น ช่วยตัวเองอยู่ล่ะสิ ผมเลยเข้าไปอุ้มเธอขึ้นมา เพราะไม่ทันตั้งตัวเธอเลยกรี๊ดออกมาเบาๆ ผมจับเดเม่นั่งบนขอบอ่าง และถางขาออก ผมทิ่มหน้าตัวเองลงไป และดูดกลืนน้ำจากหอยของเธออย่างตะกละตะกาม เดเม่ถึงจุดสุดยอดอย่างรวดเร็วเหมือนเดิม และผมก็ดูดกินน้ำในถ้ำเธอจนไม่เหลือสักหยด ก่อนจะลุกไปจับตัวยัยเอร่าขึ้นมาจากอ่างก่อนจะจมน้ำตาย ยัยเทพธิดานี้เดี๋ยวต้องมีเรื่องเคลียร์กันด้วย ผมเลยค่อยๆ พาทุกคนขึ้นมาจากอ่างทีละคน เพราะแต่ละคนโดนผมจัดไปหนักมาก เลยหมดแรงกันทุกคน หลังจากเช็ดตัวและแต่งตัวให้แล้ว ผมก็อุ้มทุกคนไปนอนที่ห้องโดยเรียงลำดับตามเดิม และเมื่อถึงคิวเอร่า พอผมวางเธอลงบนเตียงแล้ว “เลิกแกล้งหลับได้แล้ว ไม่งั้นฉันจะลักหลับเธอนะ” ผมรู้มาตลอด ยัยนี้ล่ะโรคจิตตัวแม่ของจริง กลิ่นของคนประเภทเดียวกันมันฟ้อง ที่เลือกอยู่ห้องติดกับผมมันต้องมีความหมายอยู่แล้ว นั้นเพราะยัยนี้ทั้งแอบฟังแอบดูเวลาพวกผมมีอะไรกันมาตลอด อย่างตอนอยู่ในอ่างน้ำ ยัยนี้ก็แอบดูไปด้วยตกเบ็ดตัวเองไปด้วยจนสลบคาอ่างทุกที “ยะ อย่านะ!” เธอเด้งขึ้นมานั่งทันที ว่าแล้วต้องแกล้งหลับ “ระ รู้ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย” “ตั้งแต่วันแรกที่เจอเธอเลย” “ระ รู้ได้ไง!” “ลางสังหรณ์มั่ง ช่างเถอะดีแล้วล่ะ เพราะฉันมีเรื่องให้เธอช่วย” “ฉันเนี่ยนะ?” “อืม มีแต่เธอเท่านั้นที่ช่วยได้” “ระ เรื่องอะไรเหรอ” พอผมเข้าไปใกล้เธอก็ขยับหน้าหนีทันที “ฉันอยากได้หยาดน้ำทิพย์เทพธิดา” “หยาดน้ำทิพย์ มันคืออะไรเหรอฉันไม่เคยได้ยิน?” “ก็ต้องไม่เคยอยู่แล้ว เพราะมันคือน้ำที่ออกมาจากหอยของเทพธิดาอย่างเธอไง” “…เอาจริงเหรอ” “อืม ไม่ผิดแน่ ฉันไปค้นข้อมูลมาแล้ว” “ไอ้ลามก! ไอ้หื่นกาม ออกไปเลยนะ” “ฟังก่อนสิ!น้ำรักของเธอน่ะ ใช้เป็นยาได้นะ” “ยาอะไรไม่ทราบ!” “ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เห็นว่าใช้รักษาเผ่าพิเศษได้” “ก็ใช้น้ำว่าวของนายรักษาไปสิ!” “งั้นถ้าเกิดเธอบาดเจ็บขึ้นมา สามารถจะอมดุ้นฉันได้เหรอไง!” “เอ๋? หรือว่ายานี้ทำมาให้ฉัน” “ก็ใช่น่ะสิ ฉันไม่อยากผิดพลาดแบบตอนฟรานแล้ว เลยศึกษาเรื่องของเผ่าอื่นๆ มาด้วย รวมถึงเผ่าเทพอย่างเธอ พวกเทพน่ะ ไม่สามารถฟื้นตัวด้วยวิธีปกติ อย่างยารักษาหรือเวทมนต์ได้ใช่ไหมล่ะ” “อะ อืม” “แยมขาวของฉันเองก็ไม่น่าจะได้เหมือนกัน เพราะคุณสมบัติสกิลของฉันคือมาร ซึ่งตรงกันข้ามกับเทพ เผลอๆ เป็นยาพิษแทนซะด้วยซ้ำ แล้วก็นะ ฉันแตะต้องตัวเธอมากไม่ได้ เธอน่ะยังมีโอกาสกลับสวรรค์อยู่ แต่ถ้าถูกทำให้แปดเปื้อนแล้ว ก็หมดสิทธิ์กลับแน่ๆ เพราะงั้นเลยต้องเตรียมยาที่ใช้รักษาเธอได้เอาไว้” “นะ นี้นายคิดเผื่อฉันไว้ขนาดนี้เลยเหรอ” “ถึงเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงในฮาเร็มของฉัน แต่เธอก็เป็นผู้หญิง ไอ้ผู้ชายบ้ากามอย่างฉันก็ต้องดูแลเธออยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ” “ขะ ขอบใจนะ” เอร่ารีบยกผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าตัวเองเอาไว้ “ขอบใจเร็วไปแล้ว ไว้ยาเสร็จแล้วค่อยว่ากัน เอานี้ เวลาเธอช่วยตัวเอง ก็เอาน้ำรักใส่ไว้ในขวดนี้ซะ” ผมส่งขวดปากกว้างให้ไป “ตะ ตะ ต้องใช้เท่าไรเหรอ” “ครึ่งขวดน่าจะพอ” “เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ!” “ค่อยๆ สะสมไปทีละนิดก็ได้ ยัยเทพธิดาสุดหื่นอย่างเธอปกติก็ช่วยตัวเองเช้ากลางวันเย็นอยู่แล้วนี้” “มะ ไม่ได้ทำบ่อยอะไรขนาดนั้นสักหน่อย” “ครับๆ เข้าใจแล้ว งั้นฉันไปล่ะนะ” ผมลุกขึ้นจากขอบเตียงและเดินไปที่ประตู แต่ยัยเอร่าทักขึ้นมา “ดะ เดี๋ยวสิ คะ คือว่า” “มีอะไรอีกล่ะ” “ตอนนี้ฉัน…มีอารมณ์นิดหน่อย นายช่วยฉันหน่อยได้ไหม” “ให้ช่วยอะไร ฉันแตะตัวเธอไม่ได้ก็รู้อยู่” “อะ อืมแต่ว่า เอ่อ บะ แบบที่เขาเรียกว่า กะ กับแกล้ม” “อ้อ เข้าใจล่ะ งั้นเริ่มกันเลย” สมเป็นยัยเทพธิดาสุดหื่นจริงๆ แต่ไม่เห็นเป็นอะไร ผมได้ทุกรูปแบบอยู่แล้ว ผมเลื่อนเก้าอี้ไปข้างเตียงแล้วจัดการถอดกางเกงงัดดุ้นออกมาโชว์ตรงหน้าเธอ เอร่ากรี๊ดออกมาเบาๆ แต่ก็จ้องตาไม่กระพริบ พอนั่งลงบนเก้าอี้ ผมก็เริ่มชักว่าวให้เธอดู เอร่าหน้าแดงจนเลือดกำเดาไหล ผมเลยต้องหยุดมือไว้ก่อน “เลือดกำเดาไหลแล้ว เช็ดก่อนๆ” “มะ ไม่เป็นไรต่อเลย!” เธอดึงผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาอุดจมูกแล้วดูผมชักหนอนต่อ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เริ่มนั่งชันเข่า และอ้าขาออกให้ผมดู กางเกงในฝักทองของเธอก็มีรูอยู่ตรงกลางเช่นกัน…เอ๋ ไม่ได้สั่งเลาะเป้าของเอร่าด้วยสักหน่อยนี้? สีฟ้าปกคลุมพื้นที่ป่าทั้งหมด ต้องแหวกป่าสีฟ้าออกไปถึงจะเจอถ้ำ ตรงปากถ้ำมีรอยแยกเล็กน้อย แต่มีน้ำไหลซึมออกมา นักผจญภัยชี้กับนางได้เปิดปากถ้ำออก ก่อนจะส่งนักผจญภัยกลางเข้าไปสำรวจข้างใน แต่ยิ่งเข้าไปก็ยิ่งมีน้ำไหลซัดจนต้องถอยออกมา แต่นักผจญภัยกลางก็ไม่ยอมแพ้ พยายามเข้าๆ ออกๆ ถ้ำ น้ำยิ่งออกมาเยอะ ความเร็วของนักผจญภัยกลางก็ยิ่งต้องเพิ่มขึ้นเพื่อสู้ศึก แต่ทว่าเมื่อเขื่อนภายในถ้ำแตก นักผจญภัยกลางก็ถูกดีดกระเด็นออกมา มันจบแล้ว ปากถ้ำปิดลงและรอคอยนักผจญภัยมาเยือนในครั้งต่อไป “โห ได้มาเยอะเลยนี้ เธอนี้น้ำเยอะชะมัด” ผมจับขวดที่เปียกเยิ้มมาปิดฝาแล้วเอาไปวางไว้บนโต๊ะ ขณะที่เอร่านั่งหอบแฮ่กๆ บนเตียง “นะ น่าอายชะมัด” “เดี๋ยวก็ชินไม่ต้องคิดมากหรอก มันเป็นเรื่องธรรมชาติ” ผมบอกเพื่อให้เธอสบายใจก่อนจะกลับออกมา แต่ก่อนปิดประตูห้อง เอร่าก็พูดขึ้นมา “คะ คราวหน้า ก็รบกวนด้วยนะ!” “ได้อยู่แล้ว” ตอนที่ 29 สมาชิกปาร์ตี้ของโกร่า ผมไม่ได้กลับไปที่ห้องตัวเอง แต่ออกจากคฤหาสน์เพื่อเข้าไปในเมือง บอกตรงนะ ถึงวันนี้จะเอาออกไปหลายน้ำแล้ว แต่ดุ้นผมมันปวดอยู่ต้องการระบายออกมากกว่านี้อีก การอดเช็กส์ของผมนี้ไม่ดีต่อสุขภาพจริงๆ เป้าหมายของผมเลยมุ่งหน้าไปหามอเรีย แต่พอมาถึงโรงแรมที่เธออยู่ก็ต้องตกใจ เพราะมันมีคนอยู่เยอะและวุ่นวายกันน่าดู แต่พอเห็นผมเข้ามาเสียงก็เงียบล่ะ และหันมามองทางเดียวกัน “กลับมาแล้ว! ท่านโรมะยังมีชีวิตอยู่!” มอเรียพุ่งเข้ามากอดผมจนเกือบล้มไปด้วยกัน นอกจากพวกพนักงานสาวที่ผมเคยนอนด้วยแล้ว โกร่าเองก็อยู่ด้วย “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” “ยังมีหน้ามาถามอีก ทุกคนเขาเป็นห่วงแกกันแทบตายแนะ” โกร่าตะโกนอัดใส่หน้าผม “ห่วงผม?” พอนึกๆ ดู…ซิบหายล่ะ ผมยังไม่ได้ไปรายงานตัวขากลับเลยนี่น่า เพราะใช้ใบวาปร์ออกมาเลย ทุกคนเลยคิดว่าผมหายเข้าไปในดันเจี้ยนสินะ “ขะ ขอโทษครับ! ผมลืมไปรายงานตัว” “ไอ้เจ้าบ้านี้! พวกข้าก็ตกใจหมดเลย มีคนบอกว่าพวกนายใช้ รันเนอร์เวย์ ตอนกลางวันกัน ข้าก็คิดว่าคงโดนดักปล้นแน่ ปาร์ตี้ของข้าเลยรีบตามเข้าไป พอไปถึงเห็นแค่ศพที่มีแต่ขาสองศพ ตอนแรกใจหายนึกว่าเป็นแกซะอีก” “เอ่อ แล้วทำไมรู้ว่าไม่ใช่ผมล่ะครับ” “อ่อ ถกกางเกงดูควยก็รู้แล้ว” โกร่าพูดออกมาได้ง่ายๆ เลยแฮะ อืม ก็ตรงๆ สมกับเธอดี จากนั้นผมก็รู้ว่าทำไม รันเนอร์เวย์ ถึงเป็นที่นักสุ่มโจมตีของพวกโจรไปได้ เพราะว่ามันไม่มีคนใช้กัน นักผจญภัยเลเวลสูงๆ ที่จะลงไปชั้นล่างๆ จะจับปาร์ตี้ออกไปกันแต่เช้าตรู่ และกลับออกมาช่วงเย็นๆ ค่ำๆ ช่วงกลางวันเลยมีแต่พวกมือใหม่ที่จะลงไปชั้นสองหรือสามเท่านั้น ฉะนั้นเลยมีพวกเลวไปดักปล้นกันอยู่เป็นประจำ จนส่วนใหญ่รู้กันดีและไม่ใช่ทางรันเนอร์เวย์อีก ผมเลยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง มอเรียรีบขอดูบัตรของผม ซึ่งด้านหลังบัตรมีรูปหัวกะโหลกขึ้นมาสองอัน เธอบอกว่าพวกที่ผมฆ่าไปมีค่าหัวด้วย สามารถไปรับเงินได้ที่กิล แถมยังเตือนผมด้วยว่า ต่อไปอาจจะมีแบบนี้เข้ามาอีก เพราะมีหลายคนสนใจทาสของผมน่าดู โดยเฉพาะฟราน เอ่อ ไอ้พวกนี้มันอยากดุ้นขาดกันหรือไงฟ่ะ “โฮ้ย คุยเสร็จแล้วยัง” เพื่อนในปารตี้ของโกร่าร้องทักขึ้นมา ผมเองก็เข้าไปขอบคุณพวกเธอด้วย เพราะปาร์ตี้ของโกร่ายอมเสียเวลา ไปตามหาผมในดันเจี้ยนตลอดสองวันที่ผ่านมา “ให้ผมเลี้ยงเหล้านะครับ” ผมบอกพวกเธอ แต่โกร่ารีบปฏิเสธ “อย่าเชี่ยว เพื่อนของข้าแต่ละตัวกินเหล้าอย่างกับน้ำเลยนะ” “ฮ่าๆๆ เหล้าไม่ต้องหรอก แต่พอดีฉันกับโกร่ามีเดิมพันกันอยู่ นายจะช่วยหน่อยได้ไหมล่ะ” “ได้สิครับ ว่ามาเลย” “ดี งั้นไปที่ห้องกัน” ก่อนตามพวกโกร่าขึ้นไป ผมหันไปบอกมอเรียว่าเสร็จแล้วจะไปหาที่ห้อง ซึ่งเธอก็ยิ้มรับอย่างดีใจ แถมผมกระซิบบอกไปด้วยว่า คืนนี้อาจจะรุนแรงหน่อยให้เตรียมใจไว้ด้วย แค่นั้นมอเรียก็ยื่นหอบหายใจแฮ่กๆ แล้ว ปาร์ตี้ของโกร่าประกอบไปด้วยสี่คน โดยมีนักรบเถื่อน(บาบาเรี่ยน)โกร่า เป็นหัวหน้าปาร์ตี้เพราะอาวุโสสุด คนที่สองนักรบสัตว์(บีสวอริเออร์) ทีโมที เธอคนนี้เป็นคนที่ชวนผมขึ้นมาห้องมา เห็นว่าเดิมพนันอะไรกับโกร่าไว้ก็ไม่รู้ เธอตัวสูงพอๆ กับโกร่าที่เกือบถึงสองเมตร แต่ตัวบางกว่า กล้ามเนื้อดูน้อยกว่าหน่อยแต่ดูกระซับเข้ารูป ใบหน้าดูทั่วๆ ไปไม่เด่นอะไรแต่มีกระที่เห็นชัด ผมสีแดงกระเซิงชี้ไม่เป็นทรงไว้ยาวถึงกลางหลัง ผมล่ะแปลกใจที่มันไม่พันกันเป็นก้อน เธอใส่ชุดสีน้ำเงินครามทรงคล้ายชุดกี่เพ้าของจีน มีเสื้อโค้ตตัวใหญ่ยาวถึงขาส่วมทับ แต่เพราะชุดที่เธอใส่ผ่าข้างสูงมาก จนเห็นเชือกข้างของกางเกงในที่ใส่เลย แต่ว่าขาที่เรียวยาวนั้น รูปทรงสวยงามมาก คนที่สามนักรบคลั่ง(เบอเซริกเกอร์)คายุน เธอคนนี้แค่ใบหน้ากับทรงผม ให้ความรู้สึกเหมือนสาวงามจากประเทศผมเลย จะบอกว่าให้อารมณ์ของ ยามาโตะนาเดะชิโกะ(กุลสตรีผู้เพียบพร้อมตามแบบฉบับญี่ปุ่น) ก็ว่าได้ เธอเป็นคนที่สวยที่สุดในกลุ่ม และเป็นคนที่ผมอยากเอาผมเธอมาพันดุ้นไว้และชักว่าวจริงๆ แต่เธอตัวสูงมากสองเมตรได้ สูงกว่าโกร่ากับทีโมทีอยู่กว่าครึ่งศีรษะ เธอใส่เกราะตัดแขน หน้าท้องเปิดโล่งจนเห็นสะดือ ท่อนล่างใส่เป็นฮากามะสีดำ ใบหน้าเธออย่างที่ว่าไป ผมยาวถึงก้นไว้ทรงฮิเมะคัตแบบสามขั้นบันได ผมเธอเป็นสีดำยาวตรงราวกับไม้บรรทัดทีเดียว ถึงจะผอมแต่ลักษณะกล้ามเนื้อราวกับใยเหล็กเลยทีเดียว ดูไม่ออกเลยว่าจะมีอาชีพนักรบคลั่ง ส่วนคนสุดท้ายนักรบทาส(เกอดิเอเตอร์)บลูม เธอเป็นเผ่าดวาฟ เลยเป็นคนที่เตี้ยที่สุดในกลุ่ม ยิ่งมายืนกับสามสาวร่างยักษ์ เธอเหมือนเป็นเด็กทารกไปเลย ส่วนสูงเธอน่าจะเตี้ยกว่ายูรินสิบเซนได้ ผมสั้นสีน้ำตาลมัดไว้สองข้าง แต่เพราะผมสั้นนั้นแหละ ผมที่มัดไว้เลยเหมือนไม้กวาด อาจเพราะเธอมีผมเส้นใหญ่และหนาด้วยก็ได้ ใบหน้าเธอดูเด็กเป็นลักษณะเด่นของดวาฟอยู่แล้ว ตาโตแก้มยุ้ย แขนขาสั้นแต่หนา เธอใส่เกราะเหล็กที่เป็นเหมือนกับเกราะอก ที่น่าประหลาดคือ หน้าอกเธอใหญ่มาก! คัพ…Dไม่สิน่าจะ E ใหญ่จนดูไม่สมดุลกับตัวเลย เวลาเดินนี้ผมกลัวเธอจะล้มไปข้างหน้าเพราะเสียสมดุลจัง แต่ที่ทำให้ผมต้องเหล่ไปทางเธอบ่อยๆ เพราะว่าท่อนล่างเธอใส่แค่กางเกงในสีชมพูที่มีริบบิ้นใหญ่ๆ อยู่ตรงกลางเท่านั้นอ่ะสิ กับถุงน่องยาวสีคลีมที่ผูกติดกับคาเตอร์เบล พวกดวาฟนี้อย่างไงกันนะ ยูรินก็ชอบใส่บราโชว์ไม่ใส่เสื้อ บลูมนี้ก็โชว์กางเกงในกันให้ดูจะๆ เลย ถ้ามีโอกาสผมต้องไปเยือนหมู่บ้านของดวาฟสักหน่อยล่ะ เรียวขาของทีโมที เส้นผมของคายุน กางเกงในของบลูม…ดุ้นผมมันใกล้จะระเบิดแล้วล่ะ โอย ขอวาปร์กลับปราสาทไปหามุเอมะกับมิรินก่อนได้ไหมอ่ะ ทีโมทีเปิดประตูห้องพักห้องหนึ่งที่อยู่บนชั้นสองออก ห้องนี้เหมือนๆ กับห้องของมอเรีย มีเตียงหนึ่ง โต๊ะเก้าอี้หนึ่ง ตู้หนึ่ง มีแค่นั้นเรียบๆ แต่ที่เก้าอี้มีคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว เขาเป็นชายหนุ่มร่างใหญ่ลักษณะเหมือนช่างตีเหล็ก มีหนวดเครายาวคลุมปาก อายุน่าจะสามสิบกว่าๆ “ขอแนะนำนะ นี้สามีฉันเองชื่อว่าโดร” ทีโมทีแนะนำตัวเขา ซึ่งเขาก็แค่ผงกหัวให้โดยไม่พูดอะไร “อ่ะ สวัสดีครับ” เอ๋ ตัวละครเริ่มเยอะแล้ว สรุปพนันอะไรกันไว้ล่ะเนี่ย “ที่รัก ให้เขาดูหน่อย” ทีโมทีบอกพร้อมกับที่สามีเธอลุกขึ้น และถอดกางเกงออก ทีโมทีใช้มือจับดุ้นของสามีบีบๆ ลูบๆ สองสามทีมันก็พองตัวขึ้นมา เอ่อ อืม…ไม่ตลกนะโว้ย! เรียกมาดูดุ้นตัวผู้เนี่ยนะ มันเกมส์ลงทัณฑ์แบบไหนกันฟ่ะ “เป็นไง! บอกแล้วไงของสามีฉันใหญ่ที่สุด” อ่าครับ ใหญ่ครับ ถ้าเทียบตามเซ็กส์ออฟชั่นที่ถูกปรับต่ำสุดของโลกนี้ ก็ถือว่าใหญ่อ่ะนะ ขนาดตั้งนิ้วโป้งแนะ “โรมะ โชว์ของแกให้เธอดูเลย” “เอ่อ โกร่าซังช่วยผมหน่อยสิ แบบว่าต้องมายืนดูดุ้นของผู้ชายคนอื่นแล้ว มันหมดอารมณ์เลยอ่ะ” “ฮ่าๆๆ ได้เลย” โกร่าถอดกางเกงให้กับผมอย่างอ่อนโยน แล้วพอดุ้นผมโผล่ออกมาทุกคนในห้องก็ตกใจจนหน้าซีด เอ่อ นี้ยังไม่แข็งเลยนะอย่าพึ่งตกใจกันดิ โกร่าเอื้อมมือมาจะจับเพื่อปลุกอารมณ์ให้ แต่ผมยกมือห้ามไว้ เพราะของผมมันสั่งได้ และดุ้นของผมก็ตื่นขึ้นมาและตั้งตัวขึ้นตรง บลูมตกใจจนถึงกับถอยไปล้มก้นกระแทกพื้น พอเห็นของผมเข้าไป ดุ้นของโดรก็หดลงทันทีราวกับเสือที่โดนไดโดเสาจ้องใส่ “กะ โกหกน่ายะ ใหญ่แบบนี้มันไม่ใช่ดุ้นแล้ว!” “ถึงบอกไงเจ้านั้นมันสัตว์ประหลาด เธอรับไม่ไหวหรอก เลิกตอนนี้ยังทันนะ” โกร่าเกาหัวพลางถอนหายใจออกมา แต่ก็เหลือบมามองดุ้นผมเป็นระยะ สงสัยอยากกินอีก “ไม่! ฉันไหวอยู่แล้ว อย่าลืมพนันของเราล่ะกัน” ทีโมทียังไม่ยอม แต่หน้าเธอนี้ซีดเผือกแล้วนะ “พนันอะไรกันไว้เหรอ” ผมหันไปถามโกร่า “เอ่อ พนันว่าแกจะจับยัยนี้เป็นทาสน้ำกามได้น่ะ” “้ภรรยาคุณตกเป็นทาสน้ำกามผมแล้ว จ"word-wrap: break-word;">เอ่อ แบบนี้ผมขอปฏิเสธล่ะกัน”
“เฮ้ยเดี๋ยวสิ! ทำไมล่ะ ปกตินายบอกว่ากับใครก็ได้นี้”
“ไม่เคยพูดสักหน่อย ถึงผมหื่นผมก็เลือกนะ!”
ผมหันไปว่าโกร่าทันทีก่อนจะหันไปทางทีโมที
“คุณมีสามีที่ดีอยู่แล้ว ผมไม่อยากไปทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยก เพราะงั้นผมไม่ยุ่งกับคนที่มีสามีแล้ว”
“แต่ข้าก็มีสามีแล้วนะ”
โกร่าชี้มาที่ตัวเอง
“อย่างคุณไม่นับสิ”
“ใจร้าย”
“เดี๋ยวก่อน!”
ทีโมทียกมือขึ้นค้านบ้าง
“สามีฉันรับเรื่องนี้ได้ พวกเราคุยกันไว้แล้ว เพราะงั้นไม่ต้องสนใจเริ่มกันได้เลย”
“เฮ้ย…ทีโมทีซัง อย่าดีกว่าครับ พนันครั้งเนี่ยคุณเสียแน่ๆ แบบนั้นแล้วคุณกับสามีรับได้เหรอ”
“นายนี้มันมั่นใจตัวเองจังนะ แค่ไอ้นั้นใหญ่นิดหน่อยอย่าคิดว่าจะทำให้ฉันหลงได้เลยไม่มีทาง”
“งั้นขอพูดให้เคลียร์ก่อน ถ้าผมทำให้ภรรยาคุณตกเป็นทาสน้ำกามผมแล้ว จะไม่มาโกรธกันทีหลังนะครับ”
ผมหันไปถามคุณสามี ซึ่งเขาก็พยักหน้ารับ
“ข้าไม่เคยเห็นภรรยาของข้าเสร็จมาก่อน แต่แกทำได้อย่างที่คุย ข้าก็ขอนั่งดูด้วย”
โดรกลับลงไปนั่งลงที่เก้าอี้
“งั้นก็ตามใจครับ อย่ามาเสียใจทีหลังล่ะกัน”
ผมเดินไปนั่งที่ขอบเตียง และยกมือขึ้นตบไปที่ตัก
“มานั่งนี้ครับ”
ผมบอกทีโมที ที่มองดูดุ้นผมพลางกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่
“ใจกล้าไม่เลวนี้”
ทีโมทีเริ่มถอดเสื้อโค้ตออก แต่พอเธอจะถอดชุดกี่เพ้าผมก็ยกมือห้ามไว้
“ไม่ต้องครับ มาทั้งแบบนั้นเลย ผมไม่เคยอึบใครในชุดกี่เพ้ามาก่อน วันนี้ขอลองหน่อยครับ”
“อะ อะ ไอ้นี้มันโรคจิตนี้! แกแน่ใจเหรอโกร่าว่าจะไม่เป็นอะไร”
“โรคจิตหรือเปล่า แกก็ไปลองดูเองสิ”
โกร่ายิ้มอย่างผู้ชนะ
ทีโมทีเดินมาหาผมท่าทางเธอคงเริ่มเขินแล้ว ผมจับเธอลงมานั่งหันหน้าออกไปทางสามีเธอ ที่นั่งหายใจฟืดฟาดอยู่
จากนั้นก็ส่งนิ้วลอดผ่านขอบข้างของกี่เพ้าเข้าไปลูบไล้กางเกงในเธอ ว้า ผ้าฝ้ายล่ะ ไม่ชอบเลย งั้นถอดดีกว่า
ผมดึงที่เชือกผูกข้างจนกางเกงในเธอหลุดติดมือออกมาทันที ผมเอามันมาสูดดมกลิ่นที่ข้างหูเธอ
“อืม มีกลิ่นนิดหน่อย แต่หอมหวานใช้ได้ ปกติคงไม่ค่อยได้ทำกันบ่อยสินะครับ”
“ไอ้โรคจิตเอาคืนมานะ!”
เธอแย่งเอากางเกงในคืนไป แต่มือผมเริ่มทำงานไปแล้ว ผมลูบฝ่ามือไปบนต้นขาที่แสนสวยของเธอ อูย เรียบลื่นอย่างที่คิดเลย เพราะไม่มีรูขุมขนเลยสินะ
“แกจะทำก็รีบทำซะ มัวแต่ยึกยักอยู่ได้กลัวแล้วหรือไง”
“เอ่อ ทีโม แกเองนั้นแหละที่ต้องกลัว”
โกร่ารู้ว่าที่อันตรายของผมก็คือการเล้าโลมเนี่ยล่ะ
แต่วันนี้ไม่มีจำกัดเวลาแบบตอนโกร่า ผมขอเล่นสนุกกับเธอให้เต็มที่เลยล่ะกัน เล่น NTR ต่อหน้าสามีเนี่ย ไม่ใช่แนวผม แต่บอกแล้วไง ได้หมดแหละ
ผมยังคงวนมือไปตามหน้าขาขอเธอ สัมผัสเบาเสียงยิ่งกว่าขนนก ไล่ตั้งแต่หัวเข่าขึ้นมาจนถึงง่ามขาด้านในและวกมืออย่างชำนาญมาตรงสะโพก
ทีโมทีเงียบเสียงไปตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว แต่ขาเธอยังหนีบแน่น และผมจะไม่ถางมันออก คนที่จะถางมันคือตัวเธอเองเท่านั้น ผมเลยยังวนฝ่ามือไปตามขาที่เรียบลื่นนี้ต่อไป
ผ่านไปสองนาที ขาของทีโมทีเริ่มสั่น
ผ่านไปห้านาที ขาของทีโมทีเริ่มขยับออก
ผ่านไปเจ็ดนาที ขาของทีโมทีเหยียดกางออกจนสุดราวกับนักยิมนาสติก
ทุกคนในห้องตะลึงมองตาค้างราวกับดูผมเล่นมายากลอยู่
ในเมื่อเธอยอมเชื้อเชิญผมแล้ว ผมก็ต้องเข้าไปตามมารยาท ผมสอดนิ้วเข้าไปด้านในผ้ากี่เพ้าที่ปิดอยู่ หอยของเธอเป็นแบบทรงแคบไม่มีโหนก ถึงว่าไม่เคยเสร็จ กับคนที่มีลักษณะหอยแบบนี้ จะเสียบๆ แทงๆ อย่างเดียวไม่ได้หรอก เพราะเนื้อหอยน้อย มันจะเจ็บง่ายมาก
ผมสำรวจพื้นที่ต่อ ด้านบนนั้นไม่มีทุ่งหญ้า แบบเดียวกับขาของเธอคือไม่มีรูขุมขนเลยเรียบเนียนลื่น ผมกดนิ้วลงไปเบาๆ บนท้องน้อย ทีโมทีก็อ้าปากออกและพ่นลมหายใจออกมา จุดที่ผมกดลงไปคือมดลูกเธอ ผมต้องตรวจเช็คระยะก่อน ไม่งั้นถ้าผมแทงเข้าไปโดยไม่ปรับสภาพ หอยเธอฉีกกระจายต่อหน้าสามีเธอแน่
“หือ แบบนี้เองมดลูกอยู่ลึกทีเดียว พวกคุณน่ะพยายามทำลูกกันแต่ไม่สำเร็จใช่ไหม”
ถ้ามดลูกอยู่ลึกแล้วดุ้นสั้นเกินไป แยมขาวจะไปไม่ถึงที่หมายปลายทางเพราะสิ้นแรงซะก่อน เป็นเรื่องปกติมาก
“ระ รู้ได้อย่างไง!”
ตัวสามีตกใจจนลุกพรวดขึ้นมา
“รู้สิ เพราะผมมีหน้าที่ต้องให้ความสุขกับสาวๆ ผมเลยสนใจร่างกายของพวกเธอเป็นพิเศษ แต่ตอนนี้ใจเย็นๆ แล้วนั่งลงก่อน คืนนี้ยังอีกยาวไกลนัก”
โดรยอมนั่งลง แต่ยกมือขึ้นมาประสานเท้าคางไว้ เหมือนกำลังคิดหนักอยู่
“ทะ ทำ สักทีสิ อ ไอ้ เจ้าบ้า”
ทีโมทีพูดเร่งเสียงกระเส่า บรรดาเพื่อนๆ เธอคงรู้แล้วว่าทีโมทีกำลังทนความเสียวอยู่
“ใจร้อนจริง ของอร่อยก็ต้องค่อยๆ กินสิ”
ผมบอกพร้อมกับลูบนิ้วลงไปที่ปากถ้ำไล่ไปถึงรูก้นและตวัดนิ้วกลับมา ทีโมทีอ้าปากค้างและโก่งเอวจนตัวลอยขึ้น แต่ผมไม่หยุดมือ ใช้จังหวะนี้แทงนิ้วเข้าไปในล่องเธอและสอยนิ้วแบบถี่ๆ แต่ทั้งหมดนั้นไม่มีใครเห็น เพราะผ้าของกี่เพ้าด้านหน้ามันบังอยู่
แต่ทุกคนรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นด้านหลังผ้าแน่ เลยยื่นหน้าเข้ามาดูกันใหญ่
“หือ! นี้เดี๋ยวสิ”
เลยรู้ว่าเธอกำลังจะเสร็จแล้ว เร็วไปแล้วเฟ้ย ทั้งๆ ที่ผมอยากจะเล่นกับเธออยู่ต่ออีกสักหน่อยแท้ๆ ช่วยไม่ได้ ผมใช้อีกมือเปิดผ้ากี่เพ้าด้านหน้าออก พร้อมกับที่หอยของทีโมทีพ่นน้ำออกมา เธอทำหน้าเย้เกและลากเสียงกรีดร้องอย่างยาวนานจนถึงตอนที่หยุดเสร็จ
น้ำหอยเธอพุ่งไปเปรอะหน้าของโดรจนไหลเป็นทาง เขาตะลึงทำตาโตจ้องมองภรรยาตัวเองที่สิ้นสภาพอยู่บนตักผม
“รอบที่หนึ่ง”
ผมเอาที่นิ้วชุ่มไปด้วยน้ำหอยของเธอขึ้นมาเลีย
“สัตว์ประหลาดจริงๆ ด้วย”
บลูมพึมพำออกมาขณะที่ตัวสั่นไม่หยุด

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ ตอนที่1 by KUMAO

ขอออกตัวก่อนเลยว่าแอบก็อปไว้ก่อนที่เว็บจะบินไม่ใช่นิยายของผม ซึ่งมันจะเป็นนิยายแต่งหรือแปลก็ช่างมันผมว่าโดยรวมมันดีถึงจะมีข้อด้อยไปบ้างแต่ก็อ่านได้ลื่นไหล สำหรับคนที่ไม่ชอบก็เบรคตัวเองไว้ไม่ต้องอ่านโวยวายไปก็ไม่ได้อะไรเพราะผมแอบก็อปมาลงไว้ให้บางคนที่ไม่เคยอ่านได้อ่านกันบางคนอยากอ่านซ้ำก็จะได้อ่าน ออกความเห็นได้แต่อย่าดราม่ามากนะคับ บ่นแค่นี้พอละแล้วจะรีบมาลงตอนต่อ เนื้อหามีความรุนแรงเกี่ยวกับเพศอายุต่ำกว่า18อ่านได้แต่อย่าทำตามมันไม่ควร ตอนที่ 1 คืนสุดท้าย                ผมมุเกน โรมะ นักเรียนชั้นปีที่ 2 และตอนนี้ ผมกำลังนั่งซักกางเกงในผู้หญิงอยู่ที่ต่างโลกล่ะเรื่องราวทั้งหมดก็ประมาณว่า เมื่อเดือนก่อน พวกผมทั้งหมดถูกส่งมาต่างโลกแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แบบนั่งสอบอยู่ดีๆ เงยหน้าขึ้นมาก็โดนมอนสเตอร์ล้อมแล้วอ่ะ                 แถมที่ซวยที่สุดก็คือ พวกผมไม่ได้ไปอยู่ในจุดของผู้เริ่มต้น แต่กลับมาอยู่ในปราสาทของจอมมารเลย แต่ก็ยังไม่ถึงกับซวยซะทั้งหมด เพราะพวกเราที่มาจากต่างโลก ต่างได้รับสกิลมาด้วย แถมในโลกนี้ก็มีเวทมนต์ที่ทำให้สามารถแสดงค่าสถานะต่างๆ ได้แบบเกมส์                 สก

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 147 - 149 By Kumao จบแค่นี้ไม่มีละ

จบแล้ว เห็นแว้บๆ ว่าคุณ Kazama Phoenix เขียนต่อ ooooooooooo ตอนที่ 147 เก็บแต้ม ผมเมิ่นเรเดียที่ทำท่าตกใจอยู่ และหันไปคุยในรายละเอียดกับกรอเรียให้เสร็จก่อน โดยก่อนจะจัดการเรื่องนิกายใหม่ เธอจะต้องไปกล่อมครอบครัวซะก่อน โดยผมจะให้เอนันโด้นำทีมคุ้มกันไป เอนันโด้ผมให้ลูกน้องไปขุดศพเขาขึ้นมา และใช้อำนาจแห่งจอมมารเปิดใช้งาน วิหารแห่งการกำเนิดใหม่ ซึ่งที่นี้จะเปลี่ยนให้ดวงวิญญาณของมนุษย์กลายเป็นปีศาจ เอนันโด้เลยคืนชีพขึ้นมาในฐานะปีศาจเศียรขาดดูลาฮาน เลเวลของเขายังเท่ากับตอนก่อนที่จะตาย แต่พอกลายมาเป็นปีศาจแล้ว ค่าพลังก็ต่างเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซํ้ายังปลดขีดจำกัดของเลเวลไปอีก เหตุที่ปีศาจมีเลเวลลิมิตมากกว่ามนุษย์ เพราะร่างกายของเผ่าปีศาจสามารถใช้พลังได้มากกว่า ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับมนุษย์ได้พลังของซุป XXX มาใช้ แต่ลองชกหมัดด้วยพลังขนาดนั้นดูสิ ร่างกายจะแหลกเหลวก่อนเป้าหมายถูกทำลายแน่ เพราะงั้นระบบเลยสร้าง Lv Limit ขึ้นมาเพื่อป้องกันในเรื่องนี้ และการเปลี่ยนเผ่านัน จึงได้ทำให้ Lv Limit เปลี่ยนแปลงไปด้วย แต่ถึงไม่มีเรื่อง Lv Limit ตอนนี้ก็หาคนมาสู้กับเอนันโด้ลำบากแล้ว เพราะ

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 14 - 16 By Kumao

พอก่อนนอนดีกว่า ตอนที่ 14 ชายผู้มีอาวุธในตำนาน ผมกลับมาที่คฤหาสน์ก่อนทุกคนตื่นได้อย่างเฉียดฉิว เช้านี้ผมเตรียมเมนูเป็นข้าวสวยกับปลาย่างเกลือเสริฟพร้อมชุปมิโซะและสลักผัก เดเม่ตื่นลงมาช่วยผมเป็นคนแรกแบบทุกที แต่เธอดูยังคงไม่พอใจที่ตื่นนอนหลังผมอยู่ดี ทว่าก็มีท่าทางเอียงอายคงเพราะยังเขินเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนอาบน้ำ เธอเริ่มคุ้นเคยกับการทำอาหารของผมแล้ว จึงช่วยในการจัดเตรียมวัตถุดิบเป็นหลัก ผมใช้เวลาทำอาหารไม่ถึงสิบนาทีก็เสร็จเรียบร้อย เลยให้เดเม่ขึ้นไปปลุกทุกคนลงมากินข้าว แต่สงสัยยังติดใจหม้อไฟเมื่อวาน เลยพากันไปนั่งรอบโต๊ะเตี้ยกันหมด จนผมต้องไล่ให้ขึ้นมานั่งที่โต๊ะกินข้าวแบบเดิม พอผมตักข้าวในหม้อใส่จานให้ทุกคน ก็พากันทำหน้าแปลกใจ “ไอ้ขาวๆ นี้มันคืออะไรเหรอ?” ดาเซสถามขึ้นพลางชี้ไปที่ข้าวบนจาน คนอื่นก็มีคำถามแบบเดียวกันอยู่บนสีหน้า “ข้าวไง” “ข้าว! หมายถึงข้าวที่จะมีแค่ในร้านอาหารสุดหรู ของพวกขุนนางเท่านั้นใช่ไหม ไม่สิ ฉันเองก็เคยกินมันอยู่ครั้งหนึ่ง จำได้ว่าไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย มันมีสีคล้ำๆ แล้วก็ไม่ดูนุ่มๆ น่ากินแบบนี้ด้วย” “อ้อ เพราะไม่ได้คัดข้าวไงถึงเป็นแบบนั้น แล้