ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 30 - 32 By Kumao







ตอนที่ 30 เบอเซริกเกอร์

“จะหยุดเท่านี้ไหมครับ”
ผมถามข้างหูของทีโมทีพลางขบกัดใบหูเธอเบาๆ และแทงลิ้นเข้าไปเล่นในรูหูเธอด้วย แต่ท่าจะรุนแรงเกินไปสำหรับเธอ ทีโมทีเลยเหวี่ยงตัวหนีลงไปนอนดิ้นกับพื้น
“เป็นอะไรไหมที่รัก!”
โดรรีบเข้าไปพยุงตัวภรรยาสาวขึ้นมา แต่เธอรีบส่ายหน้า
“มะ ไม่เป็นไร แต่รู้สึกเหมือนมีอะไรวิ่งไปทั่วร่างกายเลย มะ มันรู้สึกดีสุดๆ”
เธอตอบก่อนจะค่อยๆ ไต่กลับขึ้นมานั่งบนตักผม แบบนี้ถ้าผมไม่ต่อให้ มีหวังโดนฆ่าแน่เลยใช่ไหม
แต่แล้วก็เรื่องให้ต้องตกใจอีกครั้ง เพราะโดรคุกเข่าลงต่อหน้าผม และขอร้องออกมา
“ข้าขอร้อง ช่วยทำให้เมียข้าท้องทีเถอะ บ้านข้าต้องการผู้สืบทอดจริงๆ”
“…จะดีเหรอครับ นี้ภรรยาคุณนะ”
“ที่รัก เธอเองก็เห็นด้วยใช่ไหม”
“…อืม เอาเลย ทำให้ฉันท้องเลยถ้าทำได้”
ตอนนั้นเองสกิลท้องแน่นอน ก็เด้งไปเป็น ON จนได้ ผมล่ะปวดหัวกับสกิลนี้จริงๆ เลย ไม่ใช่อะไรหรอก บางทีจะทำกับหลายคน แล้วกลัวลืมเปลี่ยนกลับ
“งั้นก็ตามใจครับ”
ผมเล่นหอยเธอจนน้ำออกอีกหน่อย ผมก็จับดุ้นผมเขี่ยไปที่ปากถ้ำของเธอ แต่ยังไม่ใส่เข้าไป วนเล่นที่ปากถ้ำบ้างไปเขี่ยคริตอริสเธอบ้าง เอวทีโมทีอยู่ไม่สุขส่ายเป็นส่ายมาเป็นพายุ คงเสี่ยนเต็มที่แล้วแน่ๆ ผมเลยจับเอวเธอไว้ และกดลงมาเต็มแรง จนดุ้นผมผลุบเข้าไปสุดทางในครั้งเดียว
และเพราะผมปรับขนาดของดุ้นไว้แล้ว โดยคงความยาวเท่าเดิมไว้ แต่ให้มันเล็กลงจนพอดีกับพนังถ้ำ เป็นขนาดที่จะทำให้เธอเสียวจนถึงขีดสุดนั้นเอง แต่บางทีอาจจะทำเกินไปหน่อย เพราะเพียงแค่เสียบเข้าไป ทีโมทีถึงเสร็จไปอีกรอบ
งานนี้ทุกคนพากันอ้าปากค้าง เพราะไม่ใช่แค่เสร็จครั้งเดียว แต่ถึงสองครั้ง
ในโลกนี้ปกติพวกเธอไม่เคยเจอสิ่งที่เรียกว่า เสร็จสองครั้ง ไม่นับว่ากว่าครึ่งของผู้หญิงที่เคยมีอะไรแล้ว ไม่เคยเสร็จเลย และเกือบครึ่งที่เหลือก็เสร็จครั้งหนึ่งจากการตกเบ็ดตัวเองหลังเสร็จกิจ ส่วนผู้ชายหลังจากเสร็จครั้งแรกไปแล้ว ก็หายากมากที่จะสามารถแข็งขึ้นมาได้อีกในวันนั้น
โกร่าที่ผ่านประสบการณ์เสร็จหลายครั้งมาจากผมแล้ว เข้าใจความรู้สึกของทุกคนตอนนี้ดี
ผมเสียบดุ้นคารูของทีโมทีไว้ ขณะที่มีน้ำหอยของเธอ พุ่งกระฉูดออกมาทีล่ะปี๊ดสองปี๊ด เธออ้าปากค้างไร้เสียงใดๆ ออกมา
ระหว่างรอให้เธอพักเหนื่อย ผมก็สอดมือเข้าไปด้านข้างของชุดกี่เพ้าและเล่นสนุกกับน่าอกของเธอ อุหวา หน้าอกเหลวจัง แถมไม่ใส่บราอีก ไม่ได้นะแบบนี้เดี๋ยวหน้าอกก็เสียทรงหมดหรอก
ผมคิดในใจขณะเล่นหัวนมเธอไปด้วย และคราวนี้เริ่มมีเสียงออกมาจากปากของทีโมที มันเป็นเสียงร้องกระเส่าเป็นจังหวะตามการบีบของผม ทุกคนยื่นหน้าออกมาอีกครั้ง เพราะสนใจมือของผมที่อยู่ในเสื้อของทีโมทีว่ามันกำลังทำอะไรกันอยู่แน่ ทำไมถึงทำให้ทีโมทีเสียวจนส่งเสียงร้องออกมาได้
พอภายในถ้ำของเธอเริ่มคลายตัว ผมก็เริ่มกระดกเอวกระแทกดุ้นเข้าออกถ้ำ ด้วยที่ช่องคลอดยาว ผมเลยชักยาวๆ ได้ ผมกระแทกขึ้นอย่างแรงจนตัวของทีโมทีลอยขึ้น แล้วผมก็รีบหย่อนตัวลง พอดุ้นถอยตัวออกมาเกือบสุด ก็เด้งกระแทกกลับเข้าไปอีก
ทีโมทีเสียวจนต้องส่งเสียงที่ไม่เคยปล่อยออกมาก่อน มันคือเสียงร้องแบบสัตว์ เสียงที่ดิบเถื่อนมีแต่ความสะใจและสนุก เอวของเธอกดทับลงรับจังหวะการเด้งของผม ก้นของเธอปะทะกับหน้าขาของเสียงดังป๊าบๆ ดังสะนั่น
โกร่าเริ่มทนไม่ไหวเลยดูไปตกเบ็ดไป พอผมเห็นเลยกวักมือให้เธอมานั่งข้างๆ โกร่าพุ่งมาทันที แถมแหกกางเกงในรอเลย
ผมจับขาเธอขึ้นมาตั้งไว้บนเตียง อีกขาหนึ่งไว้ด้านล่าง โดยหันหน้าเข้าหาผม จากนั้นผมก็แทงนิ้วเข้าไปในหอยเธอจนเธอต้องซี๊ดปากดังๆ ออกมา
ตอนนี้นอกจากเสร็จสองครั้งแล้ว ทุกคนยังได้เห็นทำสองคนอีกด้วย เลยยิ่งงงคูณสอง
“อย่าเงียบสิครับทีโมทีซัง บอกความรู้สึกให้คุณสามีรู้ด้วยสิ”
พอผมบอกทีโมทีก็ส่ายหัว ผมเลยหยุดกระแทกใส่และหันไปเล่นหอยของโกร่าอย่างสนุกสนานแทน
“ยะ อย่าหยุดสิ! ทะ ทำสิ ได้โปรด แทงมันเข้ามาอีก ระ เร็วสิ!”
“งั้นก็บอกคุณสามีไปสิครับ ไม่งั้นผมไม่ทำต่อนะ”
“ดะ ได้ ได้! ฉันบอก ฉันบอกแล้ว ที่รัก! นี้มันเสียวมากเลย เสียวจนถึงหัวเลย ดุ้นของเขามันวิเศษจริงๆ! อร่อยเหาะไปเลย บอกให้เขาแทงฉันอีกสิ ฉันต้องการมันอีก! เร็วๆ แทงมาอีก!”
“ต้องแบบนั้น”
ผมเริ่มโยกเอวต่อ ทีโมทีเองก็เพิ่มแรงกระแทกเอวใส่ราวกับจะชดเชยเวลาที่หยุดไปตะกี้ น้ำของเธอไหลเยิ้มออกมาจนเปียกหน้าขาผมหมดแล้ว เสียงเวลากระแทกเลยเป็น ตั่บๆ น๊าบๆ
ขณะที่แทงนิ้วใส่โกร่าเอวผมก็เร่งจังหวะไปด้วย เพราะผมรู้สึกว่าปากมดลูกของทีโมทีตอดผมถี่ๆ แล้วราวกับร้องขอน้ำเชื้ออย่างด่วน
ผมเร่งจนทีโมทีต้องเกร็งสะโพกค้างไว้ และเมื่อผมอัดเข้าไปครั้งสุดท้าย น้ำเชื้อผมก็พุ่งทะลักเข้าไปรวมกันในมดลูกเธอจนล้น ทีโมทีกรีดร้องด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวอีกครั้ง ก่อนจะทิ้งตัวลงหมดแรงทับผมไว้
นิ้วผมเร่งจังหวะเพื่อส่งให้โกร่าไปถึงก่อนจะเล่นเกมส์ใหม่ ซึ่งหอยของโกร่าก็ไม่ทำให้ผิดหวัง มันพ่นน้ำไล่ผมทันที
ผมลุกขึ้นโดยที่ดุ้นยังเสียบคารูของทีโมทีอยู่ ผมใช้มือช้อนขาเธอไว้และแหวกออกให้เห็นหีที่อมดุ้นผมอยู่ให้โดรเห็น ดุ้นเขาแข็งขึ้นมาและสั่นหงิกๆ
“ต่อไปมาทำด้วยกันเถอะครับ”
ผมบอกพร้อมกับดึงดุ้นที่ยังแข็งออกมา
“นี้ยังจะทำต่ออีกเหรอ!”
ทุกคนดูตกใจมาก
“อะไรกัน มันพึ่งเริ่มเองนะ ว่าไงครับจะทำด้วยไหม ถ้าทำก็ถอดกางเกงเลย”
ผมหันไปบอกโดรซึ่งเขาก็รีบถอดกางเกงออกทันที ผมให้เขาไปนอนบนเตียง และอุ้มทีโมทีที่ยังสลบอยู่ขึ้นไปเหนือตัวเขา และหย่อนหอยที่อมน้ำเชื้อผมเอาไว้จนเต็มลงใส่ดุ้นของโดร ทีโมทีร้องอือออกมาเบาๆ แต่ยังไม่ฟื้น
แต่มันยังไม่จบ ผมจับดุ้นของผมไปจ่อที่รูก้นของเธอ เตรียมเล่นแบบทูเวย์
ดุ้นผมเคลือบน้ำรักของเธอจนชุ่ม เลยมุดเข้าไปในรูตูดเธอได้ไม่ยาก ผมลดขนาดลงก่อน แล้วค่อยไปค่อยๆ ขยายกลับข้างใน มันเลยเข้าไปได้ในที่สุด พอทีโมทีรู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในรูตูดก็สะดุ้งเฮือกฟื้นขึ้นมาทันที
แต่สิ่งที่เธอเห็นคือใบหน้าของสามีที่เสียวจนทำหน้ายับยู่ยี่ ดุ้นของสามีเธออยู่ในตัวเธอ แต่อันที่ทำให้เธอต้องสะดุ้งขึ้นมามันคืออันที่อยู่ในก้นเธอ
“อะ อะไรน่ะ! นี้แกจะทำอะไรฉัน!”
ผมตอบคำถามของทีโมทีด้วยการเริ่มโยกเอว พอผมโยกเอวเธอก็จะโยก แล้วดุ้นของโดรก็จะถูกโยก
ทั้งสองสาทีภรรยาส่งเสียงครางออกมาพร้อมกัน
“ขี้โกงนี้ กับข้าไม่เห็นทำแบบนี้บ้างเลย”
“ทำเหมือนกันมันจะไปสนุกอะไรครับ จริงไหม”
“แกนี้มันสัตว์ประหลาดชัดๆ”
โกร่าว่าผมก่อนจะก้มลงมาดูดปากผม พวกเราดูดปากแลกลิ้นกันอยู่นาน โดยที่เอวผมไม่หยุดตะบันก้นของทีโมที
“ทะ ที่รักขอโทษ ฉันไม่ไหวแล้ว ฉะ ฉันต้องเป็นทาสน้ำกามเขาแล้ว! ยกโทษให้ด้วยนะ ไอ้ดุ้นของเขามันเสียวเหลือเกิน มันอร่อยโคตรๆ มันจะกินฉันไปทั้งตัวแล้ว!”
โดรฟังที่ทีโมทีตะโกนออกมาพร้อมกับที่เขาชิงเสร็จไปก่อนและพ่นน้ำเข้าไป เขารู้สึกเสียวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
พอผมเห็นว่าโดรเสร็จแล้ว เลยยกตัวทีโมทีขึ้นมา และผลักไปนอนคว่ำหน้าอยู่บนโต๊ะ ผมจะได้ตะบัดก้นเธอได้ถนัดๆ เพราะเธอสูงกว่าผมพอสมควร ทีโมทีเสร็จไปเป็นรอบที่เท่าไรเธอก็จำไม่ได้ เธอนอนแน่นิ่งให้ผมสอดใส่ แต่ข้างในยังตอบสนองรัดผมแน่นเป็นจังหวะ เหมือนเธอจะเก็บแรงเอาไว้ใช้แต่ภายในเท่านั้น ผมสอยตูดเธออยู่กว่าสิบห้านาที ก่อนจะพ่นน้ำใส่ในก้นเธอ
ทีโมทีสั่นกระตุกราวกับโดนไฟดูด ก่อนที่เธอจะกรีดร้องและปล่อยให้น้ำเชื้อให้พุ่งออกมาจากก้น
“ฟู่ ยอดเยี่ยมไปเลย”
ผมรู้สึกดีมาก ทั้งด้านหน้าด้านหลัง ของทีโมทีนี้ใช้ได้จริงๆ แต่พอหันไปดูคนอื่น พวกเธอก็กำลังมองดุ้นผมที่กำลังกระดกหัวหงึกๆ อยู่
“ยะ ยังแข็งอยู่อีก!”
บลูมทำหน้าเหมือนกลัวดุ้นผม ราวกับกำลังมองดูสัตว์ประหลาด
ผมใช้คลีนนิ่งกับดุ้นรอบหนึ่งก่อน เพราะพึ่งใช้งานสำรวอ่า ก็แบบว่าชอบอ่ะ ถูกใจโคตร จะเร่าต่อ เพราะเธอเองก็เครื่องร้อนพร้อมรับมือผมอยู่ก่อนแล้ว
แต่ว่าจู่ๆ ตัวผมก็ลอยขึ้นจากพื้น พอหันไปก็เห็นคายุนที่ยืนดูเงียบๆ มาโดยตลอด เป็นคนอุ้มผมขึ้นมาในท่าอุ้มเจ้าหญิง
เธออุ้มผมออกมาจากห้อง และเข้าไปที่ห้องด้านข้าง ซึ่งเหมือนจะเป็นห้องของเธอ และปิดประตูใช้เท้าดันโต๊ะมาขวางไว้ราวกับจะปิดตาย แล้วเหวี่ยงผมขึ้นไปบนเตียง
เธอเดินเข้ามาหาราวกับราชสีห์ กระชากเกราะตัวเองเหวี่ยงออกไป หน้าอกของเธอ…แบนราบ ราบสนิท เป็นผาที่ตั้งชัน 180 องศา ไม่ได้ใส่บราแต่เป็นผ้าพันอก เธอไม่คิดแม้แต่จะค่อยๆ ปลดมันออก แต่กระซากขาดในทีเดียว พละกำลังนี้มหาศาลจริงๆ
ช่วงล่างเธอถูกดึงลงไปกองกับพื้นเหลือแต่กางเกงใน ผมคิดไว้ว่าจะได้เจอกับผ้าเตี่ยวซะอีก แต่กลับเป็นกางเกงในตัวจิ๋ว เป็นกางเกงในสีครีมแบบเอวต่ำ ต่ำมากจนคริตอริสเธอโผล่พ้นขอบกางเกงในออกมา มีลวดลายจางๆ กลืนไปกับเนื้อผ้าเป็นรูปสายลม ถ้าไม่สัมผัสหรือดูใกล้ๆ อาจจะเป็นกางเกงในพื้นเรียบๆ
“เดี๋ยวเสร็จแล้ว ผมขอกางเกงในคุณไปเป็นที่ระลึกได้ไหมครับ”
อ่า ก็แบบว่าชอบอ่ะ ถูกใจโคตร จะเอาไปเข้าคอเลกชั่นแลย แต่คายุนไม่พูดอะไร ผมยังไม่ได้ยินเสียงพูดเธอเลยตั้งแต่เจอกัน จิตนาการไม่ออกเลยว่าเสียงเธอจะเป็นแบบไหน แต่เธอยิ้มที่มุมปาก และถอดกางเกงในออกมาครอบไว้บนหัวผม กลิ่นตรงเป้าเธอเข้าจมูกผมพอดี
ฟุดๆ ฟิดๆ
ผลการวิเคราะห์กลิ่นออกมาแล้ว…เคยมีประสบการณ์มาแล้วโชกโชน แต่ดูแลตัวเองดีมาก เป็นคนรักสะอาด แต่จากรอยยุ้ยตรงกลางเป้า เป็นพวกเซ็กส์จัดชอบช่วยตัวเองบ่อยๆ
ระหว่างที่วิเคราะห์ คายุนก็ปีนขึ้นมาค่อมบนตัวผม และจับเอาดุ้นเตรียมสอดเข้าไปในถ้ำของเธอ แต่ผมรีบร้องห้ามไว้
“อย่านะ! หอยเธอยังแห้งอยู่เลย เดี๋ยวก็เจ็บหรอก”
แต่คายุนไม่ฟัง ตั้งหน้าตั้งตายัดดุ้นผมเข้าไปอย่างเดียว เธอเองเจ็บปวดจนทำหน้ายับยู่ยี่
เนื่องจากหอยของคายุนใช้งานมาแล้วเยอะ เนื้อมันเลยกางออกมาและมีสีคล้ำ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่ผ่านมาแล้วหลายคนจะมีหอยที่หลวม มันขึ้นอยู่กับหลายอย่าง แต่เท่าที่ผมใช้เซ็นเซอร์ดุ้นผมสัมผัสได้ คายุนมีช่องคลอดที่แคบมาก แถมไม่มีเนื้ออีก ปุ่มข้างในก็เป็นแบบหยาบและมีน้อย คือไม่ค่อยให้สัมผัสด้านในสักเท่าไร หือ อะไรเนี่ย?
ข้างในเธอเหมือนมีรอยหักพับอยู่…ผมรู้แล้ว เธอคงเคยโดนใครยัดอะไรแข็งๆ ใหญ่ๆ เข้าไปแรงๆ มาแล้วจนข้างในเธอพังเละแบบนี้ งั้นที่เธอไม่มีน้ำหล่อลื่นเลยก็น่าจะเพราะเหตุนี้ น่าสงสารเกินไปแล้วแฮะ
ช่วยไม่ได้แบบนี้ต้องรักษาเธอก่อน ไหนๆ แล้วปรับสภาพภายในเธอไปด้วยเลย ผมใช้จังหวะที่เธอเจ็บปวดเพราะดุ้นติดอยู่กลางทาง พลิกตัวกลับขึ้นมาอยู่ด้านบนแทน
“เฮ้ย! นี้เจ้าอยู่เฉยๆ สิ อุ๊บ!”
คายุนหลุดปากพูดออกมา พอรู้ตัวก็รีบยกมือขึ้นปิดปากทันที เพราะเสียงของเธอ…เป็นเสียงที่ทุเรศมาก เสียงเหมือนผู้ชายที่แหบต่ำและเหมือนมีอะไรติดอยู่ในคอ เธอหันหน้าหนีผมไปเลย ไม่แปลกล่ะ ใครเจอเสียงแบบนี้เข้าไปก็พาลหมดอารมณ์กันแน่ๆ
“คายุนช่วยอ้าปากให้ผมดูหน่อยครับ”
“…”
เธอทำหน้าสงสัย แต่ก็ยอมอ้าปากตามที่ผมบอก ผมใช้นิ้วกดลิ้นเธอลง และส่องดูข้างในปาก จนแน่ใจว่าเธอเคยกลืนบางอย่างร้อนจัดลงคอไป อาจถูกบังคับหรือทรมานมาก่อน
ระหว่างที่ผมตรวจร่างกายเธออยู่ มือของเธอก็ลูบดุ้นผมไปด้วย คงแปลกใจที่ของผมยังแข็งพร้อมใช้งานอยู่ล่ะมั่ง โธ่ แค่เสียงกับสภาพหอย ไม่ทำให้ผมหมดอารมณ์หรอก อย่ามาดูถูกความหื่นของผมเชี่ยวนะ ต่อให้เป็นป้าแก่ๆ อายุ 50 อ้วนเป็นหมูผมก็สู้นะเฟ้ย…ถ้าจำเป็นล่ะก็นะ
ผมตรวจดูร่างกายของคายุนต่อ หลายจุดมีแผลจากการถูกทรมาน หน้าอกเธอก็ด้วย
“ผลิกตัวหน่อยครับ”
ผมขอให้เธอพลิกตัว เธอทำหน้าลังเล จนผมต้องออกแรงพลิกเอง และก็ตามคาด บนหลังเธอเต็มไปด้วยแผลเป็นจนเละไปหมดแล้ว ไม่เรียกว่าหนังมนุษย์แล้วแบบนี้ ทั้งแผลจากการถูกฟัน ถูกเผา ถูกราดด้วยน้ำร้อน อะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด ตกลงนี้เธอมีชีวิตแบบไหนมาเนี่ย จากนั้นผมก็ตรวจดูทวารหนักของเธอ ซึ่งเธอพยายามดิ้นหนีและผมกดตัวเธอเอาไว้ และแค่ผมสัมผัสหูรูดก็รู้ได้ทันที แม้แต่รูตูดก็ไม่เว้นเหรอเนี่ย ก้นเธอ ขาเธอ เท้าเธอ ทุกส่วนเลย อย่างรู้จริงๆ ไปผ่านนรกขุมไหนมามีแต่ใบหน้าและเส้นผมเท่านั้นที่ปกติแลดูงดงาม
“คายุนซัง”
ผมเรียกเธอ แต่เธอไม่ตอบสนองแล้ว คงหมดอารมณ์ไปเหมือนกัน ก็โดนสำรวจร่างกายที่น่าอายแบบทุกซอกทุกมุมไปแล้วนี้
“หอยของคุณน่ะ ไม่พร้อมใช้งานหรอกครับ เพราะงั้น…”
ผมจับดุ้นผมวางไปบนล่องก้นของเธอ และจับแก้มก้นให้บีบรัดดุ้นผมเอาไว้ และเริ่มโยกเอว คายุนเริ่มมีอารมณ์ร่วมเธอขมิบแก้มก้นไว้จนผมไม่ต้องจับแล้ว พอมือว่างผมก็ใช้มือล้วงเข้าไปเล่นตรงหอยของเธอ เขี่ยคริตอลิสไปด้วย นวดปากถ้ำเธอไปด้วย
คายุนคงเริ่มเสียง เลยหอบหายใจและส่งเสียงกระเส่าออกมา แต่ผมรู้ว่าเธอกำลังเก็บเสียงเต็มที่
“ร้องออกมาให้เต็มเสียงเลยครับ ปลอดภัยความทรมานของคุณออกมา เอาออกมาให้หมดเลย ผมจะปอกลอกจิตใจคุณให้เปลือยเปล่าเหมือนร่างกายคุณตอนนี้ เพราะงั้นร้องออกมาให้ดังๆ ครับ ร้องสิ!”
“อ๊าคคคคคคค! เสียงร้องที่ดังสะนั่น ราวกับเสียงอสูรกายดังไปทั่วโรงแรม แต่ผมไม่สนใจ ผมให้เธอร้องอีก ขณะที่เร่งความเสียวให้จนทำให้เธอเสร็จ ผมเองก็เร่งสอยจนเสร็จแล้วเหมือนกัน ผมจับตัวเธอพลิกขึ้นมา และยัดเอาดุ้นเข้าไปในปาก ปล่อยแยมขาวให้เธอกินและผมตั้งให้ปล่อยออกมาเยอะกว่าปกติ เธอพยายามดิ้นหนี แต่ผมกดหัวเธอไว้
“กลืนลงไปครับ กลืนอีก”
ผมบังคับให้เธอกินมันลงไป เธอถึงกับร้องไห้ออกมา แต่ผมก็ปาดแยมขาวที่ล้นออกมาจากปากเธอ ไปใส่ในหอยและรูตูดของเธอ ผมชักดุ้นและปล่อยเอาส่วนที่เหลือราดใส่ทั่วตัวเธอ ก่อนจะเริ่มละเลงมันไปให้ทั่วทุกจุด คายุนนอนนิ่งปล่อยให้ผมทำแบบไม่สนใจ เธอคงคิดว่าว่าผมเป็นแค่ไอ้โรคจิตล่ะมั่ง
“อืม ใช้ได้ล่ะ”
ผมลุกขึ้นมาดูผลงานตัวเอง แผลเป็นทุกจุดหายไปหมดแล้ว ผิวเธอกับมาใสปิ๊งอย่างกับผิวเด็ก หน้าอกเธอ…นูนขึ้นมาจนน่าจะอยู่ในระดับคัพC
“ไหน ลองพูดสิครับ”
“จะให้พูดอะไรล่ะเจ้าโรคจิต!!!”
คายุนตกใจจนสะดุ้งพรวดดันผมตกเตียงเลย เสียงของเธอกลับมาเป็นปกติแล้ว แถมเสียงเธอยังเหมือนเสียงนักพากย์เอโรเกะที่ผมชื่นชอบด้วย
“ปะ ปะ เป็นไปได้อย่างไง!!??”
“จะเป็นไปได้อย่างไงก็ช่างมันเถอะครับ หายดีก็ดีแล้ว”
ผมลุกขึ้นจากพื้นโดยยังมีกางเกงในของคายุนครอบหัวอยู่เลย
คายุนสำรวจตัวเองจนพบว่าแผลเป็นหายไปหมดแล้ว แถมเธอบีบเค้นหน้าอกตัวเองใหญ่ สงสัยนึกว่าเป็นของปลอม เธอก้มหัวลงไปดูที่หอยของตัวเอง ก่อนจะร้องกรี๊ดออกมา แค่เสียงร้องดีใจน่ะ
“เจ้าให้ชีวิตใหม่ข้า! ให้ข้าตอบแทนเจ้าอย่างไงดี!”
“ถือว่าเป็นค่าตอบแทบสำหรับกางเกงในตัวเองนี้ล่ะกันครับ”
“ไม่ได้! บอกมาเจ้าต้องการสิ่งใด ข้าจะทำให้ทุกอย่าง!”
“จริงเหรอครับ! งั้นก็”
ฮุๆๆ ฝันเป็นจริงแล้ว
ผมขอใช้ผมเธอมาพันดุ้นล่ะครับ อูย!! อย่างที่คิดเลย เรียบลื่นแบบนี้เสียวสุดๆ เลย แถมผมยังขอให้เธอด่าทอผมแบบเดี๋ยวกับในเอโรเกะที่มีเสียงแบบเธอพากย์ด้วย
“ไอ้เจ้าหมูสกปรก! ไปกินขี้ซะ!”
“โอ้ว!! เหมือนมากครับ เสียงได้อารมณ์สุดๆ เลย เสียงคุณเพราะจริงๆ เหมือนเจ้าหญิงที่เอาแต่ใจเลย ขออีกประโยคได้ไหมครับ”
“ไปตายซะ! ตายไปสิบรอบเลย!”
“อูย!! ขอประโยคสุดท้ายครับ ด่วนเลย”
“อย่าปล่อยน้ำเชื้อโสโครกของแกใส่ฉันนะ!”
พอได้ยินประโยคสุดท้าย ผมก็กระฉูดน้ำเชื้อเต็มหัวเธอเลย แต่นี้จะยิ่งทำให้เส้นผมเธอเงางามและนิ่มยิ่งกว่าใช้ครีมนวดซะอีก
“ฟู่ ขอบพระคุณมากครับ เท่านี้ก็พอใจแล้ว”
“…ชอบผมของข้าขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อ่ะ ใช่ครับ ตอนเห็นทีแรกก็คิดจะทำแบบนี้มาตลอดเลย ผมของคายุนซังสวยมากเลย ทั้งเหยียดตรง ดำขลับ แถมเป็นทรงผมที่ผมชอบที่สุดด้วย ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสทำจริงๆ ขอบคุณสำหรับอาหารแสนอร่อยครับ”
คายุนยกมือขึ้นมาลูบผมตัวเองด้วยสีหน้าเขินๆ
“เอาล่ะ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
ผมลุกขึ้นไปดันโต๊ะออก เพราะเสื้อผ้าของผมยังอยู่ที่อีกห้องเลย แต่ว่าจู่ๆ ผมก็ถูกเหวี่ยงกลับขึ้นมาบนเตียง
“จะไปไหน ข้ายังไม่เสร็จธุระกับเจ้านะ”
“เอ่อ ถ้าคำขอบคุณก็ได้รับมาแล้ว ไม่ต้องให้มากไปกว่านี้หรอกครับ”
“คำขอบคุณก็ส่วนคำขอบคุณ แต่นี้คือส่วนของที่ข้าทำค้างตะกี้”
คายุนจับดุ้นผมเข้าไปในหอยเธอแบบเดียวกับตอนแรกเลย แต่รอบนี้ลื่นไหลเข้าไปได้สะดวกขึ้น เพราะถ้ำเธอมีน้ำหล่อลื่นออกมาแล้ว แถมรูปทรงถ้ำก็ดูสวยงามไฉไล
เธอไม่เคยได้รับประสบการณ์ความสุขจากการมีเซ็กส์มาก่อน ที่บ้านของเธอต้องการลูกชาย แต่กลับดันได้เธอที่เป็นผู้หญิง เธอเป็นลูกที่พ่อแม่ไม่อยากได้ ชีวิตเธอเลยถูกทรมานมาตลอดตั้งแต่เด็ก แต่เพราะต้องการรักษาหน้าไม่ให้โดนนินทาได้ พวกเขาเลยไม่ทำอะไรบนใบหน้าของคายุน
ด้วยความสวยของคายุนมีผู้ชายมากมายมาติดพันเธอ แม่ของเธอเลยลงโทษด้วยการทับหน้าอกและให้กินยา รวมถึงให้กลืนลูกเหล็เผาไฟ ซึ่งเป็นวิธีที่จะทำให้ได้รู้ร่างเหมือนผู้ชาย ซึ่งแน่นอนว่ามันทรมานมาก ต่อมาพอแม่ของเธอเสียไป พ่อของเธอก็ใช้เธอเป็นที่ระบาย ทารุณกรรมทางเพศกับเธอโดยใส่ท่อนไม้เข้ามาทั้งในช่องคลอดและรูก้นของเธอ
พึ่งพอหนีออกมาจากบ้านได้แล้ว แต่ร่างกายเธอก็ไม่อาจรับรู้ถึงความสุขได้อีก เธอมองหาผู้ชายมากหน้าหลายตา แต่ก็ไม่เคยมีใครทำให้เธอมีความสุขได้ ตรงกันข้ามพวกเขากับยิ่งสร้างความทุกข์ให้กับเธอ เพราะทุกคนต่างเมินหน้าหนีเมื่อได้เห็นส่วนที่อยู่ในร่มผ้าของเธอ โดยเฉพาะเสียงร้องของเธอ ที่ทำให้ผู้ชายบางคนถึงขั้นหมดสมรรถภาพทางเพศไปเลย
แต่ตอนนี้เธอกำลังมีความสุข กับดุ้นยักษ์ที่ทะลวงเธอ เป็นความรู้สึกที่เธอไม่เคยได้ริมรสมาก่อน ตอนที่ใส่เข้ามาทีแรกมันเจ็บมาก แต่ว่ามันให้ความรู้สึกเหมือนกับเธอได้เสียความบริสุทธิ์ที่ไม่มีอยู่นานแล้วให้กับเขาไป แต่จากนั้นก็มีแต่ความสุขสนุกจนหัวเธอขาวโพล่นไปหมด เธอคิดอะไรไม่ออก นอกจากความรู้สึกที่ต้องการสิ่งนี้มากขึ้นอีก
“ดี! ดี! โอ้ย! สุดยอด! แรงอีก แรงอีก!มากกว่านี้อีก! อ๊ากกกก!”
ถึงเสียงคายุนจะกลับเป็นมาปกติแล้ว แต่เธอยังร้องเหมือนสัตว์ประหลาดอยู่เลยแฮะ แต่ผมก็ว่ามันแปลกดีได้อารมณ์ไม่อีกแบบ ร้องดังๆ แบบนี้ผมชอบด้วย แต่นี้เธอขย่มผมไม่หยุดมาเป็นสิบนาทีแล้วนะ ขนาดตอนเสร็จยังไม่ยอมหยุดเลย แต่เดี๋ยวคงถึงขีดสุดแล้ว
พอผมคิดแบบนั้น คายุนก็กรีดร้องออกมาพร้อมกับสั่นกระตุกแสดงว่าเสร็จอีกแล้ว รอบนี้เธอหมดแรงจนทิ้งตัวลงมากดหน้าอกเข้าเต็มหน้าผมเลย แนะนอนว่าผมเองก็พยายามแตกใส่เธอทุกครั้งด้วยที่เธอเสร็จ ตอนนี้ในท้องเธอเลยเต็มไปด้วยน้ำของผมแล้ว
แต่ขณะผมกำลังจะพลิกตัวขึ้นมา เธอก็กลับกดผมลงบนเตียง ผมพึ่งเห็นสีหน้าของเธอตอนนี้ มันเป็นสีหน้าที่ควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วไงล่ะ
“บะ เบอ”
“เบอร์?”
“เบอเซริกโหมด”
“เฮ้ย!!!”
ผมตกใจที่เธอใช้สกิลออกมา ผิวของเธอเรืองแสงสีแดงออกมา ผมใช้ตรวจสอบเพื่อดูว่ามันเป็นสกิลแบบไหน
เบอเซริกโหมด ไร้ระดับ เมื่อใช้สกิลนี้ ค่าพลังของผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ไม่รู้สึกเจ็บปวด ไม่รู้สึกเหนื่อย แต่พลังชีวิตจะลดลงเรื่อยๆ และไม่อาจจะฟื้นคืนพลังชีวิตได้ระหว่างใช้งาน สกิลจะหยุดทำงานเองทันทีเหมือนพลังชีวิตเหลือไม่ถึง10%
“นี้กะเอาตายกันไปข้างเลยเหรอ!”
“มอบความสุขให้ข้ามากกว่านี้อีก เจ้าเป็นผู้ชายของข้าแล้ว”
พูดจบคายุนก็กระแทกใส่ผมจนเตียงหัก เธอขย่มผมแรงเป็นสองเท่า เร็วเป็นสองเท่า ร้องดังเป็นสองเท่า ทั้งโรมแรมสั่นสะเทือนไปเพราะเธอ แต่เหมือนกับว่าเบอเซริกโหมดจะทำให้เธอเสร็จเร็วขึ้นเป็นสองเท่าด้วย สุดท้ายเธอก็ทนได้ไม่นานก็หมดสติไป แต่สีหน้านี้แบบว่า over ahegao ไปแล้ว แบบว่าเห็นคนสวยๆ แบบเธอทำหน้าแบบนี้ ดุ้นผมนี้แข็งปั่กเลย
ผมกลับออกมาจากห้องของคายุน โดยที่หน้าห้องมีโกร่ากับบลูมรออยู่ พวกเธอดูเป็นกังวลมาก
“ไม่เป็นไรครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี”
ผมรีบเก็บกางเกงในของคายุนเก็บไว้พร้อมกับรับเสื้อผ้ามาใส่
“ว่าแต่ตะกี้มันเสียงของใครน่ะ มีใครอยู่ในห้องด้วยเหรอ”
“เปล่าครับ แค่ผมกับคายุนซัง พอดีเสียงเธอกลับมาเป็นปกติแล้ว”
โกร่ากับบลูมตกใจมากจนหันมามองหน้ากัน จริงๆ ก็อยากต่อกับพวกเธอ โดยเฉพาะกับบลูม แต่ผมมีนัดกับมอเรียเอาไว้ และนี้ก็เสียเวลาไปมากแล้ว ผมเลยขอตัวพวกเธอไปก่อน
แต่ห้องของมอเรียกลับไม่มีคนอยู่ ทว่าที่บันไดทางขึ้น มอเรียยื่นหน้าออกมาพลางกวักมือเรียกผมไป
เธอพาผมมาที่ชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องใต้หลังตาของโรงแรม มันถูกทำความสะอาดแล้ว และตรงมุมหนึ่งมีผ้าปูนิ่มๆ กองเอาไว้เป็นภูเขา เหตุที่ต้องย้ายมาที่นี้ เพราะห้องขอมอเรียคับแคบเกินไปกับจำนวนคน แถมตอนนี้มีเพิ่มมาจากไหนไม่รู้อีกสอง แถมไม่ใช่สมาชิกกิลด้วย
เธอคนหนึ่งเป็นพนักงานงานที่ร้านขายของ ส่วนอีกคนเป็นพนักงานร้านอุปกรณ์เวท ผมไม่ทันได้ถามชื่อหรือทำความรู้จัก ก็โดนพวกสาวๆ รุมเข้ามาจับถอดเสื้อผ้าแล้ว นับรวมมอเรียไปด้วย คืนนี้ผมต้องรับมือพวกเธอ 13 คนพร้อมกันเลย ผมจัดไปให้คนละสองรอบแบบเดิม ส่วนมอเรียผมจัดไปสาม แต่รอบสี่เธอไม่ไหวแล้วผมเลยพอก่อน
เล่นเอาเกือบเช้าอีกแล้ว แต่ว่าผมคิดว่าผมลืมอะไรไปบางอย่าง…อ้อ รู้แล้ว สกิล ท้องแน่ๆ ON อยู่ล่ะ…เซี่ย!!!!
ผมพลิกหาตัวมอเรียที่สลบอยู่กลางกองร่างอันเปลือยเปล่าเหล่านั้น จริงๆ วันนี้ผมตั้งใจจะมาชวนเธอไปอยู่ด้วยที่คฤหาสน์อยู่แล้ว (จะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา)
แต่เพราะมีเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนเลยยังไม่ได้ชวนเธอ แต่ไหนๆ ผมก็ทำเธอท้องแล้ว แถมยังเป็นคนพิเศษด้วย ผมเลยคิดจะพาเธอกลับไปด้วยเลย คงไม่โดนข้อหาลักพาตัวหรอกนะ ไว้เดี๋ยวค่อยถามความสมัครใจเธออีกที ถ้าเธอไม่อยากอยู่ก็แค่พาตัวกลับมาส่งเท่านั้นเอง
และแล้วผมก็แบกมอเรียขึ้นหลัง เดินฝ่าความมืดที่มีแสงของรุ่งอรุณวันใหม่ที่อยู่โพ้นขอบฟ้า โดยมีกางเกงในของคายุนอยู่ในกระเป๋า
สกิลที่ได้มาใหม่วันนี้
ทีโมที >>>Trainer lv1 (Passive skill)
คายุน >>>เบอเซริกโหมด ไร้ระดับ(Active skill)
เด็กสาวร้านขายของ >>>มองทะลุ lv 2 (Active skill)
พี่สาวร้านอุปกรณ์เวท >>>Magic item lv 1(Creation skill)

ตอนที่ 31 ทดลองสกิล

ได้ปลอดปล่อยไปพอสมควร ดุ้นผมเลยสงบลงหน่อย เพราะผมไม่อยากจะรบกวนสาวๆ ในคฤหาสน์ตอนช่วงเช้าหรอก มันจะทำให้พวกเธอหมดแรงจนทำอะไรไม่ได้ไปทั้งวัน
พอถึงคฤหาสน์ผมก็ปลุกมอเรียขึ้นมา และถามความเห็นเธอเรื่องจะให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน เธอตอบรับในทันที แถมร้องไห้ออกมาอย่างมีความสุขด้วย แต่ผมก็ไม่ปิดบังเธอเรื่องฮาเร็มของผมหรอก ซึ่งเธอบอกว่ารู้อยู่แล้ว และไม่ว่าอะไรและจะช่วยผมเต็มที่ด้วย
พอเดเม่ตื่นลงมาผมก็แนะนำให้เธอรู้จักมอเรีย ซึ่งเป็นฝ่ายมอเรียที่พอเห็นเดเม่ก็พุ่งเข้าไปกอดทันที เพราะทนความน่ารักของอีกฝ่ายไม่ไหว จากนั้นผมกับเดเม่ก็มาช่วยกันทำอาหารเช้า วันนี้เป็นข้าวสวย กินกับไก่ย่างรสอ่อน และพัดผักราดซอส ข้าวน่ะกินกับอะไรก็อร่อย
ระหว่างที่ทำอาหารมอเรียก็นั่งดูแบบอ้าปากค้างไปด้วย เพราะเธอคิดว่ามันจะเป็นอาหารง่ายๆ แบบที่เธอกินที่โรงแรมตอนเช้า เพียงแค่ข้าวสวยเธอก็ไม่เคยเห็นมาก่อนแล้ว แถมกลิ่นของมันยังหอมอีกด้วย ยิ่งพอนำมาแบ่งเป็นชุดๆ และจัดเรียงลงบนโต๊ะอาหารยิ่งดูราวกับอาหารในบ้านขุนนาง
“เดเม่ไปตามทุกคนที”
“รับทราบค่ะ!”
พอผมสั่งเดเม่ก็เดินหายไปในทันที ผมสอนเธอไว้ว่ารีบอย่างไงก็ห้ามวิ่ง เมดนั้นต้องสง่างามและภูมิฐานอยู่ตลอดเวลา แต่เวลารีบเธอก็ใช้วิธีก้าวเท้าสั้นๆ ให้เร็วขึ้นเท่านั้น ซึ่งเธอทำออกมาได้ดีทีเดียว มอเรียมองตามเดเม่ไปอย่างด้วยสายตาประทับใจสุดๆ
“ทะ ท่านโรมะขอถามหน่อยสิคะ ท่านซื้อเดเม่มาในราคาเท่าไรคะเนี่ย ฉันไม่แคยเห็นคนรับใช้ที่มารยาทงามเช่นนี้มาก่อนเลย ราคาต้องแพงมากแน่ๆ”
“อ่า…ได้มาฟรีน่ะครับ”
ผมตอบขณะรินนมใส่แก้วสำหรับทุกคน
“ฟรี…”
“อืม ฟรี ฟรานก็ด้วยได้มาพร้อมกันเลย”
“โกหก!”
มอเรียไม่อยากจะเชื่อเลย สำหรับเดเม่จัดว่าเป็นเมดระดับสูงไปแล้ว ส่วนฟรานก็น่าจะเรียกว่าเป็นทาสสะสมก็ว่าได้ ทาสสะสมนั้นจะต่างจากทาสทั่วไป คือต้องมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่นสวยงามอย่างที่สุด เก่งอย่างที่สุด ซึ่งพวกขุนนางจะยอมจ่ายเงินเป็นร้อยๆ ล้านเพื่อซื้อตัวพวกเธอมาไว้สะสม แต่นี้ของระดับนั้นโรมะกลับมาได้ฟรี
“ถ้าอยากรู้ก็ลองไปถามเจ้าตัวเองดีกว่าครับ ผมเองก็ไม่ได้จำพวกรายละเอียดไว้หรอก”
หลังจากทุกคนลงมาแล้ว ผมก็แนะนำตัวมอเรียกับทุกคนอีกรอบ ก่อนจะเริ่มมื้อเช้ากัน
พอรู้ว่ามื้อเช้าวันนี้เป็นข้าวสวย ทุกคนก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที แต่ว่ามอเรียกลับยืนอยู่เฉยๆ ด้วยสีหน้ามึนงง
“เอ่อ ท่านโรมะคะ ทะ ทำไมปล่อยให้ทาสขึ้นไปนั่งด้วยล่ะคะ?”
“ที่บ้านนี้จะทาสหรือจะเจ้านาย มีความสำคัญเท่ากันครับ และพวกเราต้องกินข้าวพร้อมกัน มานั่งเถอะเดี๋ยวอาหารก็เย็นก่อนพอดี”
มอเรียเดินมานั่งด้วยท่าทางกระอักกะอวน เพราะสามัญสำนึกของเธอเป็นแบบคนปกติของคนโลกนี้ ไม่แปลกเลยที่เธอจะไม่เคยเห็นทาสนั่งร่วมโต๊ะกับเจ้านาย
“นายท่าน สิ่งนี้คือ?”
ยูรินถามขึ้นเป็นคนแรก
“จริงสิ เธอยังไม่เคยกินข้าวสวยสินะ ดาเซสจัดการ”
ผมหันไปสั่งให้ดาเซสเป็นคนอธิบาย เพราะรายนี้ก็ถามแบบเดียวกันมาก่อนแล้ว ดาเซสก็รีบอธิบายให้ฟังอย่างดุเดือดด้วยดวงตาเป็นประกาย มอเรียที่ฟังไปด้วยก็กลืนน้ำลายดังเฮือก ก่อนจะก้มมองดูข้าวในจานของตัวเอง
“นายท่าน ไก่นี้อร่อยมากค่ะ รสชาติอ่อนๆ นี้เพราะเอาไปต้มในน้ำซุปก่อนหรือเปล่าคะ”
เดเม่หันมาถามอย่างสนใจ
“การต้มในซุปจะช่วยล้างกลิ่นคาวได้น่ะ ส่วนที่รสอ่อนอยู่ที่การปรุงรส”
“นายท่านใส่ใจเรื่องกลิ่นของอาหารด้วยนี้เอง”
เดเม่พยักหน้าเหมือนทำความเข้าใจอยู่ ส่วนฟรานจ้องมาที่มือผม ซึ่งเป็นคนเดียวที่ใช้ตะเกียงกินข้าว
“นายท่านคะ ช่วยสอนหนูใช้ตะเกียบทำแบบนั้นด้วยสิคะ”
ฟรานร้องขอด้วยสายตาแน่วแน่
“ใช้ตะเกียบกินข้าวมันยากกว่าตอนหม้อไฟนะ ตอนนี้ใช้แบบที่ถนัดไปก่อนเถอะ ไว้เดี๋ยวใช้ตะเกียบชินแล้วก็ทำได้เอง”
“ค่ะ”
ถึงฟรานจะขานรับแต่เธอก็มองดูวิธีใช้ตะเกียบของผมแบบตาไม่กระพริบ
“เธอน่ะ กินผักด้วยเซ่!”
ผมหันไปว่าเอร่าที่กวาดกินแต่ไก่ส่วนผักยังไม่ลดเลย
“เจ้าจะให้เทพธิดาอย่างฉันมากินผักที่น่าสงสารแบบนี้เหรอ บังอาจ!”
ผมลุกขึ้นไป และจับจานผักกรอกใส่ปากเอร่าทันที
“ขอโทษค่าๆ หนูผิดไปแล้ว จากนี้ไปจะกินผักแล้วค่ะ”
มอเรียดูบรรยากาศของโต๊ะอาหารด้วยความประหลาดใจ ทั้งดูเป็นกันเองเรียบง่ายแต่อบอุ่น ทุกคนมีสีหน้ามีความสุข ไม่ใช่บรรยากาศก้มหน้ากินกันเงียบๆ แบบน่าอึดอัด
ตอนแรกมอเรียคิดว่าจะต่อว่าพวกเดเม่ ที่ทำไมลามปามถึงขนาดนี้ แต่จากสิ่งที่เธอสัมผัสได้ตอนนี้ เธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไม เพราะทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของมัน ส่วนหนึ่งของที่นี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดความอบอุ่นเช่นนี้ขึ้นมา และเธอเองก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของที่นี้เหมือนกัน
แต่แล้วจู่ๆ มิรินก็โผล่เข้ามาในบ้าน
“อ้าว มาช้าไปเหรอคะเนี่ย”
“ไม่ช้าหรอก มานั่งสิ”
ผมแนะนำมิรินให้มอเรียรู้จัก แต่ไม่รู้ทำไมทั้งคู่จ้องตากันเป็นประกายไฟเลย
“แหม ที่กันท่าฉันเพราะแบบนี้เองสินะคะ”
“กับคนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า ฉันไม่ยอมให้เข้าใกล้ท่านโรมะได้หรอก”
“เหรอ แต่คนไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าคนนี้ สร้างความพึงพอใจให้กับท่านโรมะได้ถึงสี่ยกเลยนะ”
“สะ สี่ยก!”
มอเรียทำหน้าเหมือนกับพ่ายแพ้อะไรบางอย่าง
“แล้วฉันก็รู้ว่าท่านโรมะชอบแบบไหนด้วย”
“!!!”
มอเรียซ็อคจนพูดไม่ออก
“พอเลยทั้งคู่ ถ้าไม่กินข้าวฉันจะเก็บละนะ”
“กินค่ะกิน!”
มิรินกับมอเรียรีบตักข้าวเข้าปากทันที และก็ต้องปล่อยรีแอกชั่นแบบเดียวกับพวกฟรานเมื่อก่อนออกมา ทั้งน้ำตาไหลทั้งชื่นชมไม่หยุด
หลังมื้อเช้าแล้ว มอเรียขอตัวไปทำงานที่กิล และจะได้แวะไปเก็บข้าวของที่โรงแรมมาด้วย ส่วนยูรินกับดาเซสก็พากันออกไปสร้างกำแพงกันต่อ ส่วนเดเม่พอช่วยผมทำความสะอาดเสร็จ ก็ไปนั่งเรียนหนังสือกับฟรานต่อ โดยมีมิรินนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั้นด้วย ส่วนตัวผมนั้น ได้ใช้เวลาว่างช่วงเช้าทำการทดสอบสกิล แต่ก่อนหน้านั้น ผมก็ขึ้นห้องเพื่อนำกางเกงในของคายุนไปใส่กรอบติดผนังไว้ก่อนและก็กลับลงมาทดสอบสกิล
แน่นอนต้องเริ่มจากมองทะลุที่เลเวลอัพมาแล้ว
“แหล่มเป็ด!”
ผมต้องรีบยกมือขึ้นปิดปาก หลังจากใช้สกิลนี้กับพวกฟราน
“มีอะไรเหรอคะ นายท่าน”
ฟรานลุกขึ้นมาหาผม แต่ผมรีบยกมือบอกปัดไป
“ไม่มีอะไรๆ เรียนหนังสือกันต่อไปเถอะ”
ผมยิ้มบอกแต่ในใจกำลังหัวเราะแบบหื่นๆ อยู่ เพราะสกิลมองทะลุเลเวลสองให้ความคมชัดทุกรายละเอียด ไม่ใช่แค่ทำให้โปร่งแสงแล้วเป็นภาพเบลอๆ แต่นี้มองทะลุเสื้อผ้า จนเห็นชุดชั้นในได้อย่างชัดราวกับซูมภาพดูได้
ผมหันไปมองมิรินที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ ตอนแรกผมมองทะลุเสื้อผ้า จนเห็นซับในของเธอ ซึ่งเป็นชุดผ้าสายเดี่ยว เนื้อผ้าเบาบาง บางมากๆ! สีขาวบริสุทธิ์ ตรงปลายชุดเป็นระบายจีบ ตรงกลางอกเป็นโบว์เล็กๆ น่ารัก และพอปรับการมองเห็น ซับในก็จะหายไป เหลือแต่ชุดชั้นในให้เห็น
วันนี้มิรินใส่สีขาว เป็นแบบเหมือนครั้งแรกที่พวกเรามีอะไรกัน คือแหวกตรงเป้ากับตรงจุก นี้เธอใส่แบบพร้อมรบตลอดเวลาเลย แต่นี้คือสูงสุดของตอนนี้ ยังไม่อาจมองทะลุชุดชั้นในได้ สงสัยต้องเลเวล 3 ก่อน
ของฟรานเดาได้ไม่ยาก เพราะมีแค่สองสี ไม่แดงก็ดำ แค่แบบไหนเท่านั้น แต่ฟรานไม่ได้ใส่ซับใน เพราะชุดโกธิคมีสิ่งที่คล้ายๆ ซับในติดอยู่กับชุดอยู่แล้ว
ข้างบนเธอไม่ได้ใส่อะไรผมไว้ ผมเลยเห็นเป็นชุดเสื้อผ้าเธออยู่ ส่วนท่อนล่างเป็นสีดำแบบเว้าสูง แบบเธอดึงจะตึงจนตรงเป้ารั้งเข้าไปในหอยของเธอ ผมแค่มองดูดุ้นก็แข็งขึ้นมาแล้ว แต่ไม่อยากกวนเวลาเรียนของพวกเธอ เลยเดินออกมาดูพวกยูรินที่อยู่นอกบ้าน
ตอนนี้กำแพงสูงขึ้นมาจากพื้นครึ่งเมตรได้ เป็นกำแพงอิฐฉาบสองชั้น โดยเริ่มสร้างจากด้านข้างของบ้านที่ติดกับป่าก่อน ตัวยูรินมีหน้าที่สร้างอิฐและจะออกมาช่วยเป็นบางครั้ง ส่วนของดาเซสก็มีหน้าที่ก่อกำแพง
ตอนนี้ผมมายืนดูดาเซสก่อกำแพงขึ้นโดยฉาบสิ่งที่คล้ายๆ ดินเหนียวลงก่อนจะวางอิฐลงไป ดูเธอสนุกมากจนไม่ทันสังเกตเห็นผม แต่แบบนี้ล่ะดีแล้ว ผมใช้มองทะลุกับเธอทันที
ดาเซสเองก็ไม่ใส่ซับใน ด้านบนเธอเป็นบราสีเหลืองแบบเชือกเส้นเล็ก ด้านหน้าเป็นผ้าแบบสามเหลี่ยม ส่วนของข้างล่าง….นั้นมัน ของฟรานไม่ใช่แหรอ!?
ดาเซสกำลังใส่กางเกงในสีดำแบบลูกไม้ทั้งตัว แถมเพราะมันเป็นไซส์เล็กสำหรับเด็กแบบฟราน มันเลยรัดแน่นส่วนเป้าจมหายเข้าไปในเนื้อหอยของดาเซส มันแน่นมากจนผมกลัวมันจะฉีกเป็นชิ้นๆ
คือผมรู้ล่ะนะยัยนี้ชอบแบบไหน แต่ถึงขนาดขอของฟรานมาใส่เนี่ยก็เกินไปหน่อย แถมใส่รัดๆ แบบนี้ตลอดก็ไม่ดีด้วย ไว้ผมค่อยสอนเธอทีหลังล่ะกัน ตอนนี้ไปหายูรินที่ด้างหลังบ้านก่อน
ด้านหลังบ้านตอนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นWorkshop ของยูรินโดยสมบูรณ์แล้ว มีทั้งเตาเผา เตาหลอม ทั่งตีเหล็ก แบบหล่อขึ้นรูปแบบต่างๆ และอะไรอีกมากมาย มันเป็นเพิงแบบด้านหน้าเปิดโล่ง มีกำแพงแค่สามด้านและหลังคาซึ่งมีช่องระบายอากาศ ถึงภายในจะดูร้อนแต่อากาศถ่ายเทได้ดีมาก ตอนนี้ยูรินนั่งเฝ้าเตาเผาที่อยู่ด้านนอกอยู่ สงสัยกำลังทำอิฐอยู่ ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ และใช้มองทะลุกับเธอ
ส่วนบนเป็นสปอร์ตบราเลยมองไม่ทะลุอยู่แล้ว วันนี้เป็นลายทางสีขาวชมพูอ่อน ส่วนกางเกงในเป็นลายทางเหมือนกันสีชมพูเขียว แต่เป็นแบบกางเกงในเด็ก คือตัวใหญ่ๆ ปิดตั้งแต่เอวไปถึงต้นขา ไม่ค่อยเว้าขึ้นมา นอกจากตรงขอบแล้วก็ดูหลวมๆ นิดหน่อย กางเกงที่เธอใส่วันนี้เลยเป็นแบบเอวปกติ
ผมทนไม่ไหวแล้วเลยเข้าไปหาแล้วจัดการอุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตัก เป็นท่าประจำของผมกับเธอไปแล้ว ยูรินรู้เลยไม่พูดอะไรออกมา ปล่อยให้ผมทำตามใจชอบ แต่เธอร้องออกมาทันทีที่ผมเสียบเข้าไป ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันเข้าไปถึงจุดกระตุ้นของเธอ ดูเหมือนว่าช่วงนี้เธอจะเก็บอาการได้น้อยลงเรื่อยๆ
เสียงร้องและคำพูดเธอเหมือนกำลังโดนข่มขืนอยู่เช่นเคย ถึงการร้องแบบคู่รักแบบตอนที่โดน Dawn of love จะสยิวดีก็เถอะ แต่แบบนี้มันเหมือนผมข่มขืนเธออยู่จริงๆ เลย ซึ่งก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
หอยของยูรินก็ยังคงกระซับแน่นเหมือนเคย หลังจากผมปล่อยใส่ข้างในเธอแล้ว ก็ยังแช่อยู่แบบนั้นสักพัก ยูรินมาบอกขอต่อยกสองเลย แต่ผมบอกว่าไม่อยากให้เธอหมดแรงซะก่อน เพราะยังต้องทำงานอยู่ เลยไว้คืนนี้จะต่อให้ ซึ่งเธอก็พยักหน้ารับแต่โดยดี ก่อนจะลุกขึ้นแล้วก้มลงมาเลียทำความสะอาดดุ้นผมให้ เอ๋? ไปเรียนมาจากไหน ปกติเธอไม่เคยใช้ปากกับผมเลย แต่ปากเล็กๆ ของเธอทำได้แค่เลียเท่านั้น เพราะเอาดุ้นเข้าไม่ไหว
ระหว่างที่ให้ยูรินเลียไปจนกว่าเธอจะพอใจ ผมก็เปิดดูสกิลอื่นไปด้วย สกิล Trianer ที่ได้มาจากทีโมทีซัง มีประโยชน์มากทีเดียว เพราะมันจะทำให้คนที่อยู่ในปาร์ตี้ผมได้รับ Exp มากขึ้นจากการล่ามอนสเตอร์ แต่ตอนนั้นเองยูรินก็ลุกขึ้นมา ผมนึกว่าเธอจะกลับไปทำงานต่อ แต่ทว่าพอมองดู เธอกลับกำลังถอดกางเกงในออกมา และส่วมลงบนดุ้นของผมพร้อมกับเริ่มชักว่าวให้
โห! ทำแบบนี้เป็นตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย อูย เนื้อผ้าลื่นๆ มันทำเสียวดีชะมัด แถมมือของยูรินกำดุ้นได้ไม่รอบเลยต้องใช้สองมือ เธอชักแบบเร็วๆ ราวกับรู้ว่าผมชอบแบบไหน กำลังความอึดของดวาฟทำให้เธอแรงไม่ตกด้วย หลังจากปล่อยให้เธอชักให้ประมาณสิบนาทีผมก็กระฉูดออกมาเลอะเต็มกางเกงใน แต่พอผมจะคลีนนิ่งให้ ยูรินกลับรีบดึงมันออกไป เธอนำกางเกงในที่ชุ่มไปด้วยน้ำเชื้อผม ส่วมกลับเข้าไปและดึงรั้งขึ้นมาจนแน่นเข้าที่ เธอครางออกมาเบาๆ ด้วยความพึงพอใจ และตัวสั่นเบาๆ ไปด้วย ก่อนจะเอากางเกงมาใส่และทำท่าเหมือนไม่มีอะไร ทั้งๆ ที่ใส่กางเกงในที่ชุ่มน้ำเชื้อผมอยู่
ถ้าเป็นความพอใจของเธอผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก จากนั้นผมก็มาดูสกิลต่อ เบอเซริกโหมดนี้ผมเก็บไว้เลย ถ้าไม่ซวยถึงสุดๆ จริงๆ ผมไม่ใช้มันแน่ สกิลนี้อันตรายเกินไป แต่สกิลที่น่าสนใจจริงๆ คือสกิลสายผลิตอันแรกที่ผมได้มา อุปกรณ์เวท(Magic item)
“ยูริน พอรู้ไหมสกิลสายผลิตของอุปกรณ์เวทนี้มันใช้ทำอะไรได้บ้าง”
“ทำให้ใส่เวทมนต์เข้าไปในวัตถุบางอย่างได้ วัตถุชิ้นนั้นกลายเป็นอุปกรณ์เวท ยิ่งเลเวลสกิลสูงขึ้น จะยิ่งใส่เวทมนต์หลายชนิดลงไปในวัตถุชิ้นเดียวกันได้ แต่ด้วยที่เป็นสกิลที่เลเวลอัพยากมาก ยังไม่เคยเห็นใครที่มีเลเวลสองมาก่อนเลย จึงเป็นแค่ข้อมูลคาดเดาเท่านั้น”
“สมเป็นยูริน รู้เยอะจริงๆ”
“…”
ยูรินเดินมาจับมือผมไปวางบนหัว อ้อ รางวัลสินะ ผมเลยลูบหัวเธอให้ตามที่ขอ
“แล้วอย่างฉันถ้าไม่มีเวทมนต์ จะใช้สกิลนี้อย่างไงอ่ะ”
“ให้คนที่ใช้เวทมนต์ได้ช่วย แค่แตะตัวของคนที่ใช้เวทมนต์ไว้ และวางมือลงบนวัตถุก็ใช้ได้แล้ว”
“อืม ขอบใจนะยูริน”
ผมลูบหัวยูรินต่อีกพักหนึ่ง ก่อนจะปล่อยให้เธอไปทำงานต่อ ส่วนผมก็กลับเข้ามาในบ้าน พอคุยเรื่องสกิลอุปกรณ์เวทกับมิริน เธอเองก็บอกว่าไม่เคยลอง เพราะคนที่มีสกิลอุปกรณ์เวทหาตัวยากมาก ชนิดที่ขนาดเมืองใหญ่ๆ จะมีเพียงแค่คนเดียว
อูย แบบนี้พี่สาวร้านอุปกรณ์เวทคนเมื่อคืนก็เป็นเซเลบสิ นี้ผมได้มีอะไรกับเซเลบเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อ!!
มิรินบอกอีกว่าอย่างใบวาปร์ที่ผมมี นั้นก็เป็นอุปกรณ์เวทที่ใส่เวทเคลื่อนย้ายระดับสูงไว้ ซึ่งเป็นเวทที่มีแต่ปีศาจระดับอย่างมุเอมะเท่านั้นที่จะใช้ได้ เรื่องราคานั้นไม่สามารถประเมินค่าได้เลย แถมเธอยังเตือนว่าไม่ควรให้ใครรู้ว่าผมมี เพราะมันอันตราย อย่างใช้วาปร์ไปที่ห้องพระราชาเพื่อสังหาร หรือวาปร์ส่งทหารจำนวนมากเข้าไปในเมืองศัตรู ถ้าใครรู้ว่าผมมีของแบบนี้อยู่ในมือเป็นจำนวนมาก แถมสั่งผลิตได้ตามใจนึก ผมซวยแน่
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมได้ให้ใบวาปร์ให้กับทุกคนไว้คนละใบ โดยสั่งให้พกติดตัว ถ้าเกิดอันตรายขึ้นก็ให้ใช้หนีทันที
จากการทดสอบดู ใส่เวทมนต์ในอาวุธ ไม่สามารถทำได้ ไม่ทราบเหตุผล
ใส่เวทมนต์ในชุดเกราะ ไม่สามารถทำได้ ไม่ทราบเหตุผล
“อืม หรือจะใส่ได้เฉพาะในวัตถุชิ้นเล็กๆ อ่ะ มิรินเหนื่อยไหม”
ผมให้มิรินใช้เวทมนต์ไปตั้งหลายสิบชนิดแล้ว ทดลองเพลินจนลืมไปเลย
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ท่านโรมะ ในสายจอมเวทด้วยกันพลัง MP ของฉันค่อนข้างเยอะและยังมีสกิลMP regen ด้วย ถ้าเป็นเวทขั้นกลางล่ะก็ ใช้ได้ประมาณ 20-30 ครั้งต่อชั่วโมงเลยล่ะค่ะ”
“โอ้ว สุดยอดเลย”
“แหมๆ เทียบกับท่านโรมะตอนเป็นจะ”
ผมรีบพุ่งเข้าไปปิดปากมิรินไว้ทันที เกือบไป
“ขอโทษค่ะ”
มิรินยิ้มแห้งๆ
“อย่าเผลอบ่อยสิ…งั้นต่อไปลองนี้หน่อย”
ผมเอาตะเกียงใส่เทียนไขออกมา และลองให้มิรินใส่เวทมนต์ไฟ ถึงจะทำให้มีแสงได้แต่ก็ไม่สว่างเท่าไร แบบเปิดปิดไม่ได้ ใช้ไปแล้วจะอยู่ได้ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น
คือผมจะลองเลียบแบบอุปกรณ์ให้แสงสว่างที่ติดตามถนนในเมืองน่ะ เพราะตอนนี้ในคฤหาสน์ยังใช้เทียนกันอยู่เลย ถึงผมจะไม่เป็นไรเพราะมองเห็นในที่มืดได้ดีก็จริง แต่ก็อยากมีไว้ให้คนอื่นใช้
“…จะว่าไปมิรินก็มีเวทธาตุแสงนี่น่า”
ผมลองเปลี่ยนไปให้ใช้เวทธาตุแสง ผลออกมายอดเยี่ยม คือให้แสงสว่างระดับที่ต้องการได้แล้ว และอยู่ได้นานพอควร แต่ก็ยังไม่พออยู่ดีสำหรับการใช้งาน สุดท้ายผมต้องติดต่อไปถามมุเอมะดู เธอเลยส่งตำราเกี่ยวกับการสร้างอุปกรณ์เวทมนต์ขั้นสูงมาให้ (เอ่อ ไม่มีเบื้องต้นกับขั้นกลางให้ก่อนเหรอ)
ผมเป็นคนศึกษาเรียนรู้และค้นข้อมูลด้วยตัวเองเก่งอยู่แล้ว มุเอมะเลยปล่อยให้ผมสนุกกับการเรียนรู้ด้วยตัวเองดู ไม่ถึงชั่วโมงผมก็รู้แล้วว่าปัญหามันอยู่ที่ไหน
อุปกรณ์เวทมนต์จะสามารถวางวงจรเวทมนต์ลงไปได้ วงจรเวทมนต์ที่ว่าก็คือชุดคำสั่งที่ใช้งาน โดยสลักเป็นอักขระชุด เหมือนกับพันธะทาสนั้นแหละ หลังจากลองใส่วงจรเวทมนต์ลงไปตรงพื้นใต้ตะเกียง และให้มิรินใช้เวทแสงอีกครั้ง ผมก็วางมันลงบนโต๊ะ และตบมือหนึ่งครั้ง ไฟติดขึ้นมา
“ท่านโรมะสุดยอดเลยค่ะ! ทำได้อย่าไงคะเนี่ย”
มิรินตกใจตาค้าง สวนของฟรานกับเดเม่ยังไม่ค่อยเข้าใจ เลยออกจะงงๆ มากกว่า
“ลงวงจรเวทมนต์ให้ทำงานเมื่อได้ยินเสียงตบมือน่ะ พวกเธอก็ลองดูสิ”
พอผมบอกทุกคนก็เล่นกันใหญ่เลย ดูท่าจะใช้กันเป็นล่ะ แถมวงจรเวทมนต์ผมยังให้มีส่วนของการสะสมเวทมนต์ระยะยาวด้วย สำหรับตะเกียงหนึ่งอัน อันใส่พลังเวทของมิรินไปสิบรอบ น่าจะใช้งานได้สักอาทิตย์ ผมทำตะเกียงเวทมนต์ออกมาสี่อันก่อน ไว้ค่อยไปซื้อตะเกียงมาเพิ่มและตอนนี้จะได้ให้มิรินได้พักด้วย

ตอนที่ 32 ดันเจี้ยนน้ำตก

ตอนนี้พึ่งเก้าโมงเช้า ผมกะจะไปลงดันเจี้ยนช่วงบ่าย เลยยังพอมีเวลา
“ฟรานมาด้วยกัน เอามาอาวุธมาด้วย”
“จะไปไหนกันเหรอค่ะ”
มิรินลุกขึ้นมาทำท่าจะตามไปด้วย
“จะไปสำรวจดันเจี้ยนน้ำตกด้านหลังบ้านนี้หน่อยนะ มิรินพักผ่อนไปเถอะ แล้วก็เลือกห้องมาสักห้องด้วยนะ”
“เอ๋ อยู่ห้องเดียวกับท่านโรมะไม่ได้เหรอ”
“ได้น่ะได้ แต่คิดดีแล้วเหรอ เดี๋ยวก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอนหรอก”
“อ่ะ แฮะๆ จริงด้วย งั้นฉันขอไปเลือกห้องเลยนะ”
แต่พอผมกับฟรานกำลังจะออกไป เดเม่ก็เข้ามาหา
“นะ นายท่านคะ ขอฉันไปด้วยได้ไหมคะ”
ตอนผมซื้อเดเม่มาผมตรวจดูแล้ว เธอไม่เหมาะกับการต่อสู้ ค่าพลังพื้นฐานต่ำมาก ไม่มีสกิลอะไรเลยด้วย แต่ที่ไม่ให้เธอไปเพราะกลัวจะเป็นอันตรายหรอก
“ให้เดเม่ไปด้วยเถอะค่ะนายท่าน ดันเจี้ยนน้ำตกมีมอนสเตอร์แค่สามตัว หนูคนเดียวเอาอยู่ค่ะ”
“นั้นสินะ งั้นก็ได้ แต่อยู่ใกล้ๆ ผมไว้ล่ะ”
ผมย้ำกับเดเม่ไว้ ซึ่งเธอก็ยิ้มรับหน้าบานเลย
“แต่หาอาวุธไว้ให้ป้องกันตัวเผื่อไว้ด้วยดีกว่า”
ผมคิดว่าในกระเป๋าน่าจะมีหอกที่ได้มาจากลิตเติ้ลลิซาร์ดแมนเหลืออยู่ แต่เดเม่กลับหยิบอาวุธของเธอออกมาจากข้างในผ้ากันเปื้อนก่อนแล้ว
“ถ้าอาวุธหนูมีแล้วค่ะ”
…มีดอีโต้ครับ นี้หล่อนพกของแบบนี้ติดตัวตลอดเวลาเลยเหรอ! แล้วทำไมต้องทำหน้ายันเดระแบบนั้นตอนถือมีดด้วยฟ่ะ! สยองโคตร!
แล้วพวกผมสามคนก็มาที่น้ำตก จากบ้านเดินแค่ห้านาทีเอง ทางเข้าอยู่ด้านหลังน้ำตกแห่งนี้ ซึ่งมีทางเดินเลาะเข้าไปได้ เหมือนมาเที่ยวมากกว่าแฮะ
พอเข้าไปแล้ว ด้านในเป็นเหมือนโพล่งถ้ำโล่งๆ ทรงกลม ใหญ่พอประมาณ เพดานสูงห้าเมตร บนพื้นเป็นแอ่งน้ำสูงเกือบถึงหัวเข่า ผมให้ทุกคนถอดรองเท้าและถุงเท้าออก เพราะเวลาเดินลุยน้ำแบบนี้มันจะเดินไม่ถนัด แถมหนักด้วย
แถวๆ ตรงกลางห้องมีกบยักษ์สามตัว พวกมันตัวใหญ่เท่าสุนัขได้ ไม่เก่งเท่าไร แถมไม่ค่อยเคลื่อนที่ด้วย มันจะปักหลักโจมตีด้วยลิ้นกับการพ่นน้ำย่อยของมัน
พวกผมใช้รูปแบบเดิม คือผมเข้าไปดึงความสนใจก่อน แล้วค่อยให้ฟรานเข้าไปจามปิดฉาก
ผมเปลี่ยนไปใช้มีดเพื่อจะได้ใช้สกิลขโมยด้วย แต่พอเข้าไปในระยะห้าเมตร เจ้ากบก็เริ่มโจมตีทันทีเลย เป็นพวกโจมตีก่อนแถมระยะไกลกว่าที่คิดแฮะ
แต่ผมถึงโดนเข้าไปก็คิดว่าไม่เป็นอะไรมาก เพราะขนาดโดนวัวชนยังรอดมาได้แล้วเลย แต่พอลิ้นมันตวัดมาใกล้ มีดอีโต้ของเดเม่ก็สับลิ้นมันจนละเอียดทันที แถมฟรานก็วิ่งแทรกผมไป ไม่ใช่วิ่งสิ ลอยตัวไปต่างหาก เท้าเธอไม่ได้แตะพื้นที่เป็นน้ำเลย นี้เธอกระทืบเท้าทีเดียวพุ่งได้ไกลเกือบสิบเมตรเลยเหรอ!
แล้วพอฟรานจามขวานลงไปใส่กบโชคร้ายตัวแรก ร่างของมันไม่ได้ถูกผ่า แต่ถูกแรงอัดบดขยี้จนแหลกละเอียด แถมแรงอัดได้ผ่าน้ำบนพื้นจนเกิดเป็นคลื่นซัดเอากบอีกสองตัวลอยไปอัดกับผนังจนแหลกไปด้วย

ผมยืนตะลึงค้างไปจนกว่ากระทั่งฟรานวิ่งกลับเข้ามาหา
“ไม่มีอะไรดรอปเลยค่ะนายท่าน”
ผมเดินกลับออกมาที่ด้านหน้าน้ำตก หาจุดนั่งพักและปล่อยให้ทั้งสองคนไปเล่นน้ำ พลางใช้ตรวจสอบกับพวกเธอทั้งสองอีกที เพราะนี้มันประหลาดเกินไปแล้ว
และผลที่ออกมาก็แปลกจริงๆ ด้วย ค่าพลังทั้งหมดของเดเม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากครั้งแรกที่ผมดู ส่วนของฟรานค่าพลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเลย

ชื่อ เดเม่
เผ่า มนุษย์
อาชีพ เมด
Lv 2 / 50
Hp 43 / 43
Mp 8 / 8
Str 28
Vit 10
Dex 55
Int 40
Agi 9
Love and loyal 240,000
Passive skill
-Battle Maid lv 1 เมื่อร่วมต่อสู้กับเจ้านาย ค่าพลังจะเพิ่มขึ้นโดยคำนวณจากค่า Love and Loyal

ชื่อ ฟราน
เผ่า แวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์
อาชีพ Royal vampire
Lv 4/30
Hp 1890 / 1890 + 240up
Mp 1200 / 1200 +140up
Str 340 + 200up
Vit 300 + 103up
Dex 180 + 101up
Agi 390 + 214up
Int 260 + 104up
Charm 2,400 + 200up
Skill
-Mind control Lv1
-Strike pike Lv1
Passive skill
-Drain lv 2
-True Vanpire lv1
-Surrender lv1

พอเห็นแล้วผมถึงกับกุมขมับ
ทั้งสองคนได้อาชีพมาก่อนผมซะอีก แถมได้มาตอนไหนก็ไม่รู้
ของเดเม่เองนอกจากค่าพลังที่เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งผมเดาว่ามันมาจากการได้อาชีพมา แล้วยังมีค่า รักและภักดี เพิ่มขึ้นมาด้วย แล้วมันจะสูงเกินไปหรือเปล่าเนี่ย! แถมสกิล Battle maid นี้เข้าขั้นขี้โกงเลยนะ เพราะดูสิค่า รักและภักดี ค่าตัวเลขมันเฟ้อสุดๆ เลย เอามาคำนวณกับค่าพลังอื่นไม่ได้หรอก ถ้าเป็นเกมก็ต้องบอกว่า เป็นค่าพลังที่ทำให้เสียสมดุลแน่นอน
ส่วนของฟราน ผมว่าเริ่มต้นจากตอนที่เลือดแวมไพร์ของเธอตื่นขึ้นมาแหละ แต่ถึงกับได้อาชีพด้วยเลยนี้ เกินคาดเหมือนกัน ค่าพลังนี้ยังถือว่าอยู่ในระดับรับได้นะ แต่ที่น่าตกใจคือค่าพลังจากการบวกของซูปเปอร์แยมขาวเนี่ยสิ จากทีละหน่วย เพิ่มเป็นร้อยเลยเหรอ พุ่งพรวดในทีเดียวเลยแฮะหรือว่าจะเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์
ค่า Charm นี้ก็พอรู้ล่ะว่าคืออะไร ค่านี้ยิ่งเยอะ ยิ่งทำให้ Mind control ทรงพลัง และยังส่งผลกับสกิล Surrender ด้วย ก็ตามตัวเลย เป็นสกิลที่ทำให้อีกฝ่ายยอมสวามิภักดิ์ ซึ่งยิ่งค่า Charm เยอะเท่าไร ก็ยิ่งทำให้มีโอกาสทำให้อีกฝ่ายยอมสวามิภักดิ์สูงตามไปด้วย เดี๋ยวดิ นี้มัน Passive skillนะ แบบนี้จะไม่เป็นไรแน่เหรอ ถ้านี้เป็นสกิลพื้นฐานที่พวกแวมไพร์มีกันล่ะก็ ไม่แปลกเลยที่จะโดนล่ากันเกือบจะสูญพันธุ์อยู่แล้ว
ส่วนสกิล True vampire เป็นสกิลเสริมพลัง เอาง่ายๆ ก็คือ ยิ่งเลือดเธอเหลือเยอะเท่าไร ยิ่งโจมตีแรง ในสภาพ Hp เต็มก็คือสภาพที่โจมตีแรงสุดนั้นเอง แล้ว Strike pike เป็นสกิลประเภทโจมตีล่ะ แถมเป็นแบบวงกว้างด้วย ใช่ไอ้ท่าที่ใช้สับกบตะกี้เปล่าหว่า แต่ละอย่างนี้โหดเวอร์จริงๆ อุ๊ แย่ล่ะสิ จุดยืนในฐานะเจ้านายของเราเริ่มสั่นคลอนแล้วไม่ใช่เหรอเนี่ย ไม่ได้ๆ แบบนี้มีหวังได้แต่ยืนตาปริบๆ ดูฟรานสู้แทนอยู่อย่างเดียวแน่ๆ
จากนั้นผมก็กลับเข้าไปในน้ำตกคนเดียว ฟรานกับเดเม่จะตามมาด้วย แต่ผมบอกว่าไม่ต้องห่วง เพราะมอนสเตอร์ก็ไม่มี แถมอยู่ใกล้แค่นี้ มีอะไรแล้วเดี๋ยวผมตะโกนเรียกเอาก็ได้ ถึงจะไม่ค่อยยอมรับ แต่ทั้งคู่ก็อยู่เล่นน้ำต่อตามที่ผมสั่ง
เหตุที่ผมเข้ามาในน้ำตก เพราะว่ามันมีอะไรแปลกๆ น่ะสิ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะไม่คิดอะไรเมื่อมาเห็นดันเจี้ยนแบบนี้ แต่ผมที่เคยฟังระบบการทำงานของดันเจี้ยนจากดราเกียมาแล้ว เลยรู้ทันทีว่ามันไม่ปกติ เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะผมยังไม่เจอคอร์ของดันเจี้ยนน่ะสิ
ถ้าเป็นดันเจี้ยนก็ต้องมีคอร์ มีคอร์ก็ต้องมีบอส มีบอสดันเจี้ยนก็ต้องเติบโตได้ สรุปเลยว่า มีห้องลับแน่ๆ ผมเลยสำรวจไปรอบๆ พร้อมกับใช้มองทะลุไปด้วย ไม่นานนักก็เจอ มันมีทางลงไปอีก แต่มีหินก้อนโตปิดเอาไว้ ผมออกไปเรียกทั้งสองคนเข้ามา และให้ฟรานใช้ขวานทำลายหินที่ปิดทางให้
และก็ ตูม แหลกเป็นผุยผง พลังทำลายเหลือกินจริงๆ
พอหินถูกทำลาย น้ำที่ขังอยู่ในชั้นนี้ก็ไหลลงไปตามทางลง จนเมื่อน้ำทั้งหมดหายไป ก็เห็นบันไดที่พาลงไปสู่ชั้นล่าง
“ระวังตัวนะ จากนี้ไปเป็นส่วนดันเจี้ยนที่ไม่มีข้อมูลมาก่อน อาจจะเจอตัวอะไรเก่งๆ ก็ได้”
“ค่ะ!”
ทั้งคู่ประสานเสียงตอบ เอ่อ แต่ที่ผมพูดไปตะกี้น่ะ เตือนตัวเองมากกว่านะ
ชั้นสองของดันเจี้ยนน้ำตก เป็นเหมือนถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ ที่ยังมีน้ำขังเป็นน้ำสาปแบบตื้นๆ แบบไม่รู้จะเดินไปทางไหนก่อนดีเลย แต่ผมก็เดินตรงไปเรื่อยๆ เพราะถึงหลงก็ใช้ใบวาปร์กลับคฤหาสน์เอา ที่นี้มีแสงสว่างอยู่พอสมควร คงมาจากสาหร่ายเรืองแสงที่โตตามพื้นและเพดานของถ้ำ
เดินเข้ามาไม่กี่นาทีก็เจอมอนสเตอร์เข้า ผมใช้ตรวจสอบกันมันทันที
เทมโปกะนะ เผ่า มัจฉา lv 11
ไอ้เจ้าเทมโปกะนะเนี่ย อย่างไงดี มันเป็นปลาที่มีสองขาสองแขนแบบคน บนหัวมีดอกเทมโปโปะงอกอยู่ บางทีชื่อมันอาจจะมาจาก เทมโปโปะ+ซากะนะก็ได้ เจ้านี้เป็นมอนสเตอร์ที่ชื่อน่าสงสารสุดที่ผมเจอมาเลย
แต่จะประมาทไม่ได้ พวกมันใช้อาวุธเป็นฉมวก ตัวหนึ่งมีสะพายฉมวกไว้ 3-4 อัน บางทีอาจจะใช้ขว้างก็ได้
ตรงหน้าผมมีเทมโปกะนะอยู่สองตัว ผมให้ฟรานจัดการตัวหนึ่ง อีกตัวผมจะลองสู้ดูเอง
ด้านฟรานจบในพริบตาตามคาดด้วยการจามทีเดียว ส่วนของผมยังไม่ไปถึงไหนเลย แค่วิ่งหลบฉมวกของมันก็แทบแย่แล้ว แต่ระว่างที่ผมสู้กับมันอยู่นั้น รอบตัวก็มีเสียงเคลื่อนไหว ก่อนที่ผิวน้ำจะระเบิดขึ้นมา และมีเทมโปกะนะโผล่ขึ้นมาอีก 5 ตัว
แย่แล้ว ผมคิดในใจ เพราะเป็นดันเจี้ยนที่มีพื้นเป็นน้ำ ทำให้พวกมันปรากฏตัวที่ไหนก็ได้เหรอ ผมโดนพวกมันล้อมไว้สองตัว ที่เหลืออีกสี่ตัวหันไปเล่นงานพวกฟราน แต่ผมหลงเป็นห่วงอย่างเปล่าประโยชน์ เทมโปกะนะ ถูกฟรานฟันทีเดียวล่วงไปถึงสองตัว ส่วนอีกสองตัว ถูกอีโต้ของเดเม่สับเป็นซาซิมิไปแล้ว…น่ากินแฮะ
สุดท้ายแล้ว ผมก็ฆ่ามันได้ตัวเดียว ส่วนอีกตัวฟรานเข้ามาช่วยจัดการไป ผลจากการจัดการ เทมโปกะนะ ไป 7 ตัว
เดเม่เลเวลอัพมาเป็น 3 ผมเลเวลอัพมาเป็น 7
ไอเท็มดรอป
ปลาเกล็ดเงินทั้งตัว x 10
Rare drop ชิ้นเนื้อปลาสายรุ้ง X 1
เหรียญเงินเล็ก x7
Super rare drop ตั๋วพบเจ้าหญิงโช X 1
พอใช้ประเมินราคาแล้วพบว่า
ปลาเกล็ดเงิน ตัวล่ะ 500 รีลส่วนชิ้นเนื้อปลาสายรุ้ง ชิ้นล่ะ 2000 รีล อย่างที่คิดไว้ ราคาปลาในโลกนี้แพงมาก จะว่าไปเทมโปกะนะนี้ก็เป็นแหล่งทำรายได้ชั้นดีเลย เพราะมีเหรียญเงินเล็ก (100รีล) ดรอปด้วย ซึ่งผมให้พวกฟรานเก็บไว้และเอาไปแบ่งกันเป็นค่าขนม ส่วน Super rare drop เนี่ยพึ่งเคยเจอ มันเป็นตั๋วใบหนึ่ง ที่ไม่ได้เขียนวิธีใช้ไว้ เลยซุกไว้ที่ก้นกระเป๋าก่อน
“เดี๋ยววันนี้เราจะวนล่าเจ้าพวกนี้ไปเรื่อยๆ เลยนะ”
“ค่า!”
พวกฟรานขานรับอย่างดีใจ ไม่รู้เพราะดีใจที่เดี๋ยวจะได้กินปลา หรือดีใจที่ได้ค่าขนมกันแน่นะ
พวกเราวนฆ่าเทมโบกะนะ พร้อมกับทำแผนที่ชั้นนี้ไปด้วย ซึ่งยากทีเดียว เพราะมันไม่มีอะไรให้สังเกตมากนัก และนอกจากเทมโบกะนะแล้ว ยังมีมอนสเตอร์ประเภทปลาอีกสองแบบที่โผล่ออกมาคือ
มุลุบุม เผ่า มัจฉา lv 13
อาร์มฟิชโซลเยอร์ เผ่า มัจฉา lv 16
มุลุบุม เป็นเหมือนฟองอากาศที่มีแมงกะพรุนอยู่ข้างใน เจ้านี้เอาเรื่องทีเดียว เพราะปล่อยสายฟ้าแบบวงกว้างได้ ผมลองโดนไปทีหนึ่ง แทบสลบเลยทีเดียว แถมติดสถานะชาด้วย ต้องเกือบนาทีถึงจะหาย
ส่วนอาร์มฟิชโซลเยอร์ เก่งมาก ผมนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย ฟรานเองก็ไม่สามารถตูมเดียวจอดได้เหมือนกัน เวลาเจอพวกมันมากกว่าหนึ่งผมเลยบัพGlory ให้ก่อนเข้าไปสู้ พวกมันเป็นมนุษย์ที่มีหัวเป็นปลาฉลาม ใช้อาวุธหลากหลายแบบ ที่ทั้งแบบดาบคู่ไปถึงธนู แถมพอใกล้ตายยังชอบพุ่งเข้ามากัดอีก
ผมกับเดเม่ไม่ให้สู้กับเจ้าสองตัวนี้ เพราะ Hpเธอน้อยเกินไป บางทีอาจโดนโจมตีตายคาที่ในทีเดียวเลยก็ได้
และตอนนี้ผมกำลังลังเล ข้างหน้าตอนนี้มี อาร์มฟิชโซลเยอร์อยู่ถึงสามตัว ซึ่งกับเจ้าพวกนี้ที่ต้องพึ่งฟรานอย่างเดียว ผมไม่แน่ใจว่าเธอจะรับมือมันไหวไหม
“จริงสิ ฟรานลองใช้สกิล Strike pike ดู ถ้าใช้แล้วล้มพวกมันได้ตัวหนึ่งก็สู้ต่อเลย แต่ถ้าใช้แล้วมันไม่ตาย ก็ให้รีบหนีกันเลยนะ”
ผมบอกแผนออกไป ฟรานก็พยักหน้ารับ และเดินตรงเข้าไปหาพวกมัน
พออยู่ในระยะ 3 เมตร ตัวของฟานก็หายฟุบไป ตัวเธอไปโผล่แทบจะในเวลาเดียวกันเหมือนวาปร์ที่ด้านหลังของพวกมันสามตัว พร้อมกับที่มีแผลบนตัวจนเลือดพุ่งออกมา
เป็นท่าพุ่งด้วยความเร็วสูงเหรอ ผิดคาดแฮะ เพียงแต่ว่าสกิลมันยังไม่จบแค่นั้น
ทันทีที่เลือดของพวกอาร์มฟิชหยดลงพื้น ก็มีหอกแหลมยาวหนึ่งเมตร พุ่งขึ้นมาใต้เท้าพวกมันจำนวนนับไม่ถ้วน ร่างของพวกมันถูกเสียบทะลุจนลอยขึ้นไปติดบนเพดาน และยังถูกกระหน่ำยิงต่อราวกับถูกปืนกลยิงอัด จนร่างกายแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี
…พอทีเถอะ! สกิลเธอมันจะโหดไปไหนฟราน!
แถมที่โหดร้ายคือ เธอใช้ท่านี้ได้เรื่อยๆ เพราะมี Drain ค่อยดูดพลังให้ การล่าในชั้นสองของดันเจี้ยนน้ำตก เลยดูง่ายไปในพริบตา ปล่อยให้ฟรานจัดการแล้วพวกเราเดินตามเก็บไอเท็มอย่างเดียว ผมนี้ก้มเก็บไอเท็มไปน้ำตาไหลไปเลย
แต่สกิลนี้ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อน เพราะมันจะใช้ได้ต่อเมื่อศัตรูอยู่ในแนวเดียวกัน และระยะใกล้กันพอสมควร ระยะการแดชคือ 4 เมตร ส่วนขอบเขตคือระยะที่อาวุธในมือส่งไปถึงตอนแดช ซึ่งถ้าตอนแดชผ่าน ไม่อาจทำให้เกิดแผลได้ หอกแหลมก็จะไม่โผล่ออกมา แถมไม่น่าจะใช้กับพวกเผ่าอันเดดที่ไม่มีเลือดได้ เป็นท่าที่รุนแรงแต่ใช้ยากแถมป้องกันง่ายด้วย เหมาะใช้กับมอนสเตอร์ แต่ไม่เหมาะใช้สู้กับคน โดยเฉพาะถ้าคนที่เคยเห็นสกิลนี้ไปแล้ว น่าจะรู้วิธีรับมือทันที
พวกเราล่าประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็ยังไม่เจอทางลงไปชั้นต่อไป เลยกลับออกมากัน เพราะจะได้เวลามื้อเที่ยงแล้ว ผลของการล่า
ผมเลเวลอัพเป็น 9 เดเม่เลเวล 8 ฟรานเลเวล11 โดนฟรานเลเวลแซงซะได้ สกิลเทรนเนอร์เห็นผลแล้ว
สกิลที่อัพมาของผม
Glory Lv 3
เทรนเนอร์ Lv2
Leadership Lv 2
Drop Rare Ratex2 lv3
Double Drop lv3
ก็ผมไม่ได้สู้เลยนี่น่า นอกจากบัพ Glory ให้แล้วตามเก็บไอเท็มอย่างเดียว
ส่วนของฟราน
Skill
-Strike pike Lv 3
Passive skill
-Drain lv 3
-True Vanpire lv2
แต่ไอเท็มle="word-wrap: break-word;"> ปลาเกล็ดเงินทั้งตัว x 121
Rare drop ชิ้นเนื้อปลาสายรุ้ง X 7
Super Rare drop ปลาสายรุ้ง X1
เหรียญเงินเล็ก x74
เหรียญเงินใหญ่ x26
Rere drop เหรียญทองเล็ก x 14 (ได้จากอาร์มฟิช)
แมงกะพรุนสด x30
วุ้น x 10
หัวปลาอาร์มฟิช x45
Rare drop คริสตัลวิญญาณ X2
ดาบมัจฉาเงิน x2
โล่มัจฉาเงิน x3
Rare drop ธนูเงือก X1
Rare drop รองเท้าเหนือน้ำ x1
เกราะเกล็ดมัจฉา x1
Super Rare drop ง้าวจันทร์สมุทร (Halberd Moon-Sea) x1
Super rare drop ตั๋วพบเจ้าหญิงโช X 3
บอกได้คำเดียว…รวย!!! แค่เหรียญก็ทำเงินได้เกือบสองแสนแล้ว ไหนจะมีพวกของส่วมใส่ดรอปอีกที่ไม่น่าเชื่อคือปลาสายรุ้งทั้งตัว สมเป็น super rare เพราะราคากลางมันคือ 100,000 ต่อตัว ขนาดตัวมันใหญ่ปลา เท่ากับชิ้นปลาสายรุ้งสิบชิ้นได้ แต่เหตุที่มันแพงคงเพราะหนังของมัน
ถ้าได้มาแบบทั้งตัว จะสามารถลอกหนังมันออกมาเป็นแผ่นหนังสายรุ้งคุณภาพดี ซึ่งเอาไปทำเป็นส่วนผสมทำผ้าคลุมได้ กระดูกกับเครื่องในก็เอาออกมาทำเป็นยาได้ ราคาแบบทั้งตัวเลยแพงกว่าเป็นชิ้นที่มีแต่เนื้อมาก
แมงกะพรุนสดกับหัวปลาอาร์มฟิช ราคาเท่ากัน คือชิ้นล่ะ 1,000 รีล วุ้นราคา 50 รีลส่วนคริสตัลวิญญาณไม่มีราคา ไว้ผมไปถามยูรินอีกทีมันว่ามันใช้ประโยชน์อะไรได้หรือเปล่า
แต่ว่าพวกอาวุธกับชุดเกราะที่ได้มากับไม่สามารถดูราคาได้สักอัน คงเป็นเพราะไม่เคยมีวางจำหน่ายหรือเปล่านะ แต่ผมไม่กะจะขายอยู่แล้ว มันเป็นของดีมากเลยล่ะ ตัวผมเก็บดาบกับโล่ไว้ ส่วนธนูให้กับเดเม่ไป เพราะเธอมีค่า Str dex ที่สูงน่าจะเหมาะกับอาวุธระยะไกล ที่สำคัญปาร์ตี้ผมยังขาดแนวหลัง แต่ลูกธนูคงต้องไปซื้อเอาต่างหาก ธนูเงือกมีสกิลเฉพาะติดอาวุธด้วย คือ ศรวารี คือสร้างลูกธนูจากน้ำแล้วยิงออกไป มีคลูดาวน์ของสกิล 3 นาที และกิน Mp ของผู้ใช้ด้วย
ส่วของฟรานนี้ผมให้ไปแบบจัดเต็ม เพราะจากนี้ไปผมจะให้เป็นแนวหน้าเต็มตัวล่ะ แต่กว่าจะกล่อมให้เธอยอมใส่เกราะเกล็ดมัจฉาได้นี้เล่นเอาเหนื่อยเลย เพราะเธอยึดถือคำสั่งผมว่า ให้แต่งตัวสวยเสมอ เลยจะไม่ยอมใส่เกราะท่าเดียว
ส่วนรองเท้าเหนือน้ำผมก็ให้ฟราน เพราะมันมีสกิลเดินบนผิวน้ำได้ ฟรานมีจุดเด่นที่การเคลื่อนไหวอยู่แล้วเลยเหมาะที่สุด ส่วนอาวุธเจ้าปัญหาก็คือง้าวจันทร์สมุทรเนี่ยล่ะ เพราะมันเป็นอาวุธ Super rareทีเดียว ฟรานเลยไม่กล้ารับไว้ สุดท้ายเลยต้องสั่งให้ใช้จนได้
ง้าวจันทร์สมุทรมีสกิลติดมาถึงสองอย่างคือ
Dancing Moon (Active skill)
Power of Moon-Sea (Passive skill)
Dancing Moon คงเป็นสกิลโจมตีไว้ค่อยลองทีหลัง ส่วน Power of Moon-Sea เป็นสกิลเสริมพลัง โดยพลังโจมตีของอาวุธจะเพิ่มขึ้นตามลักษณะของดวงจันทร์ เมื่อจันทร์เต็มดวงพลังโจมตีจะมีสูงสุด
จริงๆ ที่ได้ของมาเยอะแยะแบบนี้ต้องขอบคุณสกิล Double Drop ด้วยล่ะ เพราะบางทีไอเท็มจะออกมาทีเดียวสองชิ้นเลย อย่างตอนได้คริสตัลวิญญาณกับตั๋วมา ก็ได้ครั้งเดียวสองอันเลย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ ตอนที่1 by KUMAO

ขอออกตัวก่อนเลยว่าแอบก็อปไว้ก่อนที่เว็บจะบินไม่ใช่นิยายของผม ซึ่งมันจะเป็นนิยายแต่งหรือแปลก็ช่างมันผมว่าโดยรวมมันดีถึงจะมีข้อด้อยไปบ้างแต่ก็อ่านได้ลื่นไหล สำหรับคนที่ไม่ชอบก็เบรคตัวเองไว้ไม่ต้องอ่านโวยวายไปก็ไม่ได้อะไรเพราะผมแอบก็อปมาลงไว้ให้บางคนที่ไม่เคยอ่านได้อ่านกันบางคนอยากอ่านซ้ำก็จะได้อ่าน ออกความเห็นได้แต่อย่าดราม่ามากนะคับ บ่นแค่นี้พอละแล้วจะรีบมาลงตอนต่อ เนื้อหามีความรุนแรงเกี่ยวกับเพศอายุต่ำกว่า18อ่านได้แต่อย่าทำตามมันไม่ควร ตอนที่ 1 คืนสุดท้าย                ผมมุเกน โรมะ นักเรียนชั้นปีที่ 2 และตอนนี้ ผมกำลังนั่งซักกางเกงในผู้หญิงอยู่ที่ต่างโลกล่ะเรื่องราวทั้งหมดก็ประมาณว่า เมื่อเดือนก่อน พวกผมทั้งหมดถูกส่งมาต่างโลกแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แบบนั่งสอบอยู่ดีๆ เงยหน้าขึ้นมาก็โดนมอนสเตอร์ล้อมแล้วอ่ะ                 แถมที่ซวยที่สุดก็คือ พวกผมไม่ได้ไปอยู่ในจุดของผู้เริ่มต้น แต่กลับมาอยู่ในปราสาทของจอมมารเลย แต่ก็ยังไม่ถึงกับซวยซะทั้งหมด เพราะพวกเราที่มาจากต่างโลก ต่างได้รับสกิลมาด้วย แถมในโลกนี้ก็มีเวทมนต์ที่ทำให้สามารถแสดงค่าสถานะต่างๆ ได้แบบเกมส์                 สก

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 147 - 149 By Kumao จบแค่นี้ไม่มีละ

จบแล้ว เห็นแว้บๆ ว่าคุณ Kazama Phoenix เขียนต่อ ooooooooooo ตอนที่ 147 เก็บแต้ม ผมเมิ่นเรเดียที่ทำท่าตกใจอยู่ และหันไปคุยในรายละเอียดกับกรอเรียให้เสร็จก่อน โดยก่อนจะจัดการเรื่องนิกายใหม่ เธอจะต้องไปกล่อมครอบครัวซะก่อน โดยผมจะให้เอนันโด้นำทีมคุ้มกันไป เอนันโด้ผมให้ลูกน้องไปขุดศพเขาขึ้นมา และใช้อำนาจแห่งจอมมารเปิดใช้งาน วิหารแห่งการกำเนิดใหม่ ซึ่งที่นี้จะเปลี่ยนให้ดวงวิญญาณของมนุษย์กลายเป็นปีศาจ เอนันโด้เลยคืนชีพขึ้นมาในฐานะปีศาจเศียรขาดดูลาฮาน เลเวลของเขายังเท่ากับตอนก่อนที่จะตาย แต่พอกลายมาเป็นปีศาจแล้ว ค่าพลังก็ต่างเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซํ้ายังปลดขีดจำกัดของเลเวลไปอีก เหตุที่ปีศาจมีเลเวลลิมิตมากกว่ามนุษย์ เพราะร่างกายของเผ่าปีศาจสามารถใช้พลังได้มากกว่า ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับมนุษย์ได้พลังของซุป XXX มาใช้ แต่ลองชกหมัดด้วยพลังขนาดนั้นดูสิ ร่างกายจะแหลกเหลวก่อนเป้าหมายถูกทำลายแน่ เพราะงั้นระบบเลยสร้าง Lv Limit ขึ้นมาเพื่อป้องกันในเรื่องนี้ และการเปลี่ยนเผ่านัน จึงได้ทำให้ Lv Limit เปลี่ยนแปลงไปด้วย แต่ถึงไม่มีเรื่อง Lv Limit ตอนนี้ก็หาคนมาสู้กับเอนันโด้ลำบากแล้ว เพราะ

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 14 - 16 By Kumao

พอก่อนนอนดีกว่า ตอนที่ 14 ชายผู้มีอาวุธในตำนาน ผมกลับมาที่คฤหาสน์ก่อนทุกคนตื่นได้อย่างเฉียดฉิว เช้านี้ผมเตรียมเมนูเป็นข้าวสวยกับปลาย่างเกลือเสริฟพร้อมชุปมิโซะและสลักผัก เดเม่ตื่นลงมาช่วยผมเป็นคนแรกแบบทุกที แต่เธอดูยังคงไม่พอใจที่ตื่นนอนหลังผมอยู่ดี ทว่าก็มีท่าทางเอียงอายคงเพราะยังเขินเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนอาบน้ำ เธอเริ่มคุ้นเคยกับการทำอาหารของผมแล้ว จึงช่วยในการจัดเตรียมวัตถุดิบเป็นหลัก ผมใช้เวลาทำอาหารไม่ถึงสิบนาทีก็เสร็จเรียบร้อย เลยให้เดเม่ขึ้นไปปลุกทุกคนลงมากินข้าว แต่สงสัยยังติดใจหม้อไฟเมื่อวาน เลยพากันไปนั่งรอบโต๊ะเตี้ยกันหมด จนผมต้องไล่ให้ขึ้นมานั่งที่โต๊ะกินข้าวแบบเดิม พอผมตักข้าวในหม้อใส่จานให้ทุกคน ก็พากันทำหน้าแปลกใจ “ไอ้ขาวๆ นี้มันคืออะไรเหรอ?” ดาเซสถามขึ้นพลางชี้ไปที่ข้าวบนจาน คนอื่นก็มีคำถามแบบเดียวกันอยู่บนสีหน้า “ข้าวไง” “ข้าว! หมายถึงข้าวที่จะมีแค่ในร้านอาหารสุดหรู ของพวกขุนนางเท่านั้นใช่ไหม ไม่สิ ฉันเองก็เคยกินมันอยู่ครั้งหนึ่ง จำได้ว่าไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย มันมีสีคล้ำๆ แล้วก็ไม่ดูนุ่มๆ น่ากินแบบนี้ด้วย” “อ้อ เพราะไม่ได้คัดข้าวไงถึงเป็นแบบนั้น แล้