ตอนที่ 36 ต่อรองสวรรค์
ที่เลือกอาชีพTreasure hunter มาเพราะว่าในปาร์ตี้ผมมีสายโจมตีอย่างฟรานและเดเม่อยู่แล้ว แต่ยังไม่มีสายสำรวจเลย แถมผมดูสกิลของอาชีพนี้แล้ว มีหลายอันตรงกับที่ผมต้องการพอดี อย่างเช่นที่ได้มาตอนนี้เลยคือ
-เรดาร์ lv1 สามารถทำให้มองเห็นตำแหน่งของมิตรและศัตรูในแผนที่ได้ในระยะ 100 เมตร ระยะจะเพิ่มขึ้นตามเลเวลสกิล
“นี้เนมแล้ว…”
พอจะถามเพิ่ม ผมก็เห็นว่าเนมนั้นหมดสติไปแล้ว เธอตาเหลือกขึ้นจนเป็นสีขาว น้ำลายฟูมปาก สิ้นสภาพโดยสิ้นเชิง ผมดึงดุ้นออกมาจากตูดเธอ ซึ่งมันสะอาดเอี่ยมเลย คงเพราะเทพบนสวรรค์ไม่ต้องกิน เลยไม่ต้องขับถ่ายด้วย รูตูดพวกนี้เลยสะอาดหมดจดเหมาะแก่การทะลวงยิ่งนัก
“แต่ระดับของเทพนี้ ขนาดโลลิแล้วยังไม่ค่อยเท่าไรแฮะ เอากับยูรินยังรู้สึกดีกว่าอีก”
ผมผิดหวังกับเผ่าเทพนิดๆ อาจเพราะผมไม่สามารถเสร็จใส่พวกเธอได้ด้วยล่ะ อารมณ์มันเลยค้าง
เรื่องกลับผมว่าไม่มีปัญหา แค่ใช้ใบวาปร์หรือใช้แหวนวาปร์กลับปราสาทจอมมารก็โอเคแล้ว แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว ผมคงต้องทำอะไรสักอย่าง
ผมเปิดใช้เรดาร์ขึ้นมาเพื่อหาตำแหน่งเทพสูงสุด แต่ระยะมันแค่ร้อยเมตร ผมคงต้องเสียเวลาเดินหาหน่อย
ก่อนไปผมเปิดดูสกิลที่ได้มาจากเนม มันคือสกิล
Job change ไร้ระดับ
ด้วยสกิลนี้ผมสามารถเปลี่ยนอาชีพให้ใครตอนไหนก็ได้ เสียแต่ว่าสกิลนี้ใช้กับตัวเองไม่ได้
ผมเดินผ่านวิหารต่างๆ พวกเทพที่เห็นผมต่างทำหน้าประหลาดใจ ผมใช้ตรวจสอบดู อย่างที่คิดไว้เลย ทุกคนเป็นเลเวลหนึ่งหมด แบบนี้ถ้าผมอาละวาดขึ้นมานี้ ไม่ทำให้พวกเทพสูญพันธุ์เลยหรอกเหรอ แต่เพื่อความไม่ประมาท ผมเรียกใช้สถานะจอมมารออกมา และเกราะก็มาส่วมทับลงบนตัวผม ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เกราะก็จะมาหาผมได้ทันที เหมือนติดเวทวาปร์ไว้เลย
ระหว่างเดินๆ ไปตรวจสอบไป ก็เจอเทพสาวๆ หลายคนที่น่าเขมือบอยู่มิใช่น้อย แถมมีสกิลแหล่มๆ ที่น่าเอาเพียบ แต่ว่านะ ไม่ไหวล่ะ มีอะไรแล้วเสร็จไม่ได้เนี่ย โคตรทรมานเลย
หลังจากเดินมาพักใหญ่ ในที่สุดผมก็เจอที่อยู่ของพวกสิบเทพจนได้ โดยที่ตอนนี้ข้างหลังผมมีกองทหารเทพตามมาเป็นพรวนเลย แต่พวกมันไม่กล้าลงมือ คงเพราะรู้ว่าเข้ามาก็ตายแน่ๆ
อีกอย่างหนึ่งพลังจอมมารของผมฟื้นขึ้นมาเกินครึ่งแล้ว แถมมันยังบวกค่าพลังและความสามารถของตัวผมเข้ากับสถานะจออมมารไปด้วย สรุปยิ่งตัวผมเก่งขึ้น จอมมารก็จะเก่งขึ้นตาม ขี้โกงพอสมควร เหมือนเอาความสามารถของสองไอดีมารวมกันเลย แถมไอ้ตัวผมมันเลเวลไม่มีลิมิต ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าผ่านไปสักห้าสิบปี ผมจะกลายเป็นจอมมารที่โหดที่สุดที่โลกนี้เคยมีมาเลยล่ะมั่ง
ระหว่างที่คิดเรื่อยเปื่อยผมก็มาถึงห้องโถงขนาดใหญ่ ลักษณะเหมือนห้องประชุม พวกสิบเทพรู้ว่าผมกำลังมา เลยถอยหนีไปรวมกันอยู่ที่ด้านหนึ่งของห้อง
ผมเลยเดินไปนั่งที่เก้าอี้ และหันไปทางพวกเขา
“พวกคุณคือสิบเทพสินะ ข้าขอเข้าเรื่องเลยล่ะกัน ช่วยอนุญาตให้เอร่ากลับสวรรค์ได้ไหม”
“มะ ไม่ได้ พวกข้าตัดสินใจลงโทษกันไปแล้ว!”
“หือ จะเอางั้นก็ได้ แต่ตอนนี้พวกคุณคงรู้แล้วใช่ไหมว่า ข้าได้รับพรคุ้มครองจากเอร่าอยู่ พวกคุณในตอนนี้ไม่มีทางทำอะไรข้าได้อีกแล้ว งั้นถ้าข้าคิดจะทำลายสวรรค์ มันก็ง่ายนิดเดียวเลย”
“แก ไอ้จอมมารชั่ว! คิดจะทำลายสวรรค์เหรอ ใครจะปล่อยให้แกทำได้กัน!”
“แล้วน้ำหน้าอย่างพวกคุณจะทำอะไรได้ เป็นเทพที่มีเลเวลเพียงแค่หนึ่งเท่านั้น แถมไม้ตายที่ใช้ปราบข้า ก็ใช้ไม่ได้ตราบใดที่ข้ามีพรคุ้มครองจากเอร่า”
“งั้นข้าก็ขอแลกชีวิตกับแก!”
สิบเทพสาวคนหนึ่งถือดาบแล้วพุ่งเข้ามาหา แต่ผมปล่อยให้เธอฟันใส่ ดาบเป็นดาบของเทพที่มีอนุภาพพอตัว แต่ก็เท่านั้นแหละ ถึงดาบนั้นกับเกราะผมจะมีระดับเดียวกัน แต่คนใช้ระดับต่างกันฟ้ากับเหว ดาบกระเด็นหลุดมือเทพสาวไปทันที
ผมจับตัวเธอไว้และกดตัวให้คุกเข่าลง
“แกจะทำอะไรข้า! ข้าเป็นถึงสิบเทพสูงสุดเลยนะ!”
“หนวกหูน่า”
ผมงัดเอาดุ้นที่ยังแข็งค้างอยู่ออกมา และจับเอาหัวเทพสาวกระสวบมันเข้าไป ผมจับหัวเธอโยกราวกับเป็นจิ๋มกระป๋องในเมื่อเสียงดังนักก็ใช้ดุ้นปิดปากซะเลย
“มีใครอยากลองดีอีกไหม”
ผมหันไปถามที่เหลือซึ่งพากันสั่นกลัวกันหมด
“อยากจะลองคิดทบทวนดูข้อเสนอข้าไหม ถ้าพวกเจ้าเอาเอร่ากลับมา พวกเจ้ามีแต่ได้นะ”
ขณะที่ต่อรองกันไป ผมก็สนุกกับการจับหัวของเทพสาวโยกขึ้นโยกลงด้วย เธอพยายามกัดดุ้นผมอยู่หลายที แต่ไม่มีทาง ผมใช้มารราคะ ทำให้ดุ้นผมเหนียวยิ่งกว่ายางซะอีก มีเจ็บนิดๆ แต่ยิ่งทำให้เสียวมากขึ้น
พวกสิบเทพเริ่มหันมาปรึกษากัน ก่อนจะหันมาถามผม
“ถ้าพวกข้าตกลง แกจะยอมกลับไปแต่โดยดีเหรอ”
“แน่นอน ข้าไม่อยู่ให้โดนพวกคุณฆ่าตายที่นี้หรอก”
“งะ งั้นก็ตกลง พวกข้าอนุญาตให้เอร่ากลับมาได้”
“ตามนั้น แต่ถ้าผิดคำพูดล่ะก็ คราวหน้าข้าจะมาพรากพรหมจรรย์ของเทพสาวทุกคนบนสวรรค์ให้ดู”
“พวกข้าคือเทพ พูดแล้วไม่คืนคำ”
“ดี”
“ถ้าเช่นนั้นก็จงปล่อยนางมาเสียที!”
“อ่ะ โทษที เพลินไปหน่อย แต่เธอนี้ดูดเก่งนะ ฝึกอีกหน่อยนี้เซียนเลย”
ผมดึงหัวเทพสาวออกมาจากดุ้น เกิดเสียงดังบ๊วบขึ้นมาเลย
“กะ แก ข้าขอสาบานต่อนามของข้าเมดิซ ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้!”
“หา? อย่าทำปากดีไปหน่อยเลยน่า ดูสิ แค่ให้ดูดดุ้นหน่อยเดียวหัวนมก็แข็งขึ้นเลย”
ผมชี้ไปที่หน้าอกซึ่งโนบราของเธอ จุกของเธอนี้แข็งจนยื่นออกมาหลายเซนเลย
“มะ ไม่ใช่นะ!”
เธอปฏิเสธ แต่ผมใช้มองทะลุใส่
“โหว เจอเทพลามกเข้าแล้วสิ”
ผมเดินเข้าไปหาแล้วเปิดกระโปรงเธอออก ที่อยู่ตรงนั้นคือ กางแกงในลูกไม้สีดำติดระบายหลายชั้น ที่สำคัญตรงเป้าเปียกน้ำเงี่ยนอยู่ด้วย ผมเลยจัดการถอดกางเกงในของเธอออกมาดมซะเลย
“กรี๊ด!”
“หือ กลิ่นดีนี้ ยังบริสุทธิ์อยู่จริงๆ ด้วย งั้นข้าขอไปเป็นที่ระลึกล่ะกัน กางเกงในลามกของเทพสาวบริสุทธิ์ที่มีน้ำเงี่ยนติดอยู่ ฮุๆๆ เจ้าสิ่งนี้สมควรจะเป็นหนึ่งในคอเลกชั่นของข้า”
“แก!!!”
เทพสาวที่ชื่อเมดิซกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น แต่ผมไม่อยู่ฟังเธอด่าหรอก ใช้ใบวาปร์กลับไปที่เมืองทันที
ตอนนี้ผมกลับมาอยู่ที่ห้องที่ใช้เปลี่ยนอาชีพในกิลแล้ว ก่อนอื่นผมต้องรีบเก็บกางเกงในของเมดิซใส่กระเป๋านักเดินทาง เพื่อไม่ให้น้ำเงี่ยนที่ติดอยู่แห้งไปซะก่อน ผมอยากเก็บมันเข้าคอเลกชั่นโดยที่ยังมีน้ำติดแบบแฉะๆ อยู่แบบนี้
ผมดูเวลาแล้ว พึ่งผ่านไปแค่สิบนาทีเอง ดูเหมือนเวลาของโลกกับสวรรค์จะไม่เท่ากัน ผมกลับออกมาจากห้อง พร้อมกับอัพเดตข้อมูลบัตรกิลไปด้วย
จากกนั้นก็ไปลามอเรียแล้วบอกว่าจะเก็บมือเย็นไว้ให้ เพราะเธอต้องเลิกงานตอนสองทุ่ม คงกลับไปกินพร้อมทุกคนไม่ได้ ก่อนจากกันเธอก็จูบผมให้ทุกคนเห็นกันแบบไม่อายเลย ถึงขั้นนี้แล้วไม่มีอะไรต้องปิดบังแล้วล่ะนะ
พอออกมาผมก็ไปที่ตลาด เพื่อซื้อของไปลองทำอุปกรณ์เวทมนต์ รวมถึงเอาตะเกียงไปเพิ่มด้วย กะติดไว้ทุกส่วนของบ้านอ่ะนะ เลยซื้อไปเยอะหน่อย จากนั้นก็ไปดูพวกเครื่องปรุงที่ต้องการเพิ่ม ทั้งหมดก็หมดเงินไปสี่พันกว่า ถึงจะหักค่าใช้จ่ายของวันนี้ไป ก็ยังเหลืออีกหลายแสนในกระเป๋า
ผมยังไม่มุ่งหน้ากลับคฤหาสน์ เพราะยังมีเวลาเหลือ แต่เพราะยัยเนมกับเมดิซทำให้เจ้าหนูผมแข็งจวนจะระเบิดอยู่แล้ว ผมต้องหาที่ระบายออกด่วนเลย จึงไปยังที่ที่อยากไปเป็นที่แรกแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไป
ซ่องไงล่ะ
ผมสืบแหล่งมาแล้ว ที่เหมือนนี้มีซ่องอยู่สี่แห่ง ผมเลือกเอาที่ดูสะอาดๆ หน่อย หลังจากเข้าไปสอบถามราคาดู ปรากฏว่า…ถ้าเป็นโสเภณีทั่วๆ ไปแบบปกติ ราคาจะอยู่ที่ 100-300 ต่อคืน ส่วนเกรตA จะอยู่ที่ราคา 400-500 ส่วนถ้าจะเอาแบบของดีเลยและยังบริสุทธิ์อยู่ ก็ราคา 1000
ผมยืนติดสตันอยู่หลายวินาที ค่าตัวของผู้หญิงโลกนี้ทำไมมันถูกแบบนี้ล่ะ!
เหล่าโสเภณีนั้นจะถูกให้รออยู่ในห้อง ลูกค้าสามารถเข้าไปดูและพูดคุยดูก่อนได้ ถ้าถูกใจก็กลับออกมาจ่ายค่าตัว แล้วปิดห้องทำตามใจได้เลย
ที่นี้เป็นตึกสองชั้นที่ค่อนข้างกว้าง ผมเดินเลือกทั้งแต่ห้องแรก ส่วนใหญ่ไม่ถูกใจเท่าไร อ้วนไปบ้าง โทรมไปบ้าง ปลาตายมั่ง สมเป็นเกรตทั่วไป ผมเลยขึ้นไปดูเกรตA ที่อยู่ชั้นสองต่อ พวกนี้ดูดีขึ้นมา สวยกันหมดเลยสมเป็นเกรตA แต่ผมมีวิธีเลือกของผมอยู่ ด้วยตามองทะลุไงล่ะ ผมตัดสินpan lang="TH" style="word-wrap: หลัก
เรียบไป ไม่เอาผ้าฝ้ายโว้ย! ฝักทองเบื่อแล้ว แต่ระหว่างเดินเลือกชุดชั้นใน…เลือกสาว ผมก็ไปเจอเข้ากับโสเภณีคนหนึ่ง
เธอดูสวยมาก แตกต่างจากคนทั่วไปเลย อายุน่าจะถึง 14-15 พอๆ กับเดเม่ ผมสีดำยาวถึงเอว ถึงจะไม่สวยเท่าคายุนแต่ก็เป็นเส้นผมที่สลวยน่ามอง ร่างกายเธอค่อนข้างผอม หน้าอกน่าจะคัพB เธอมีดวงตาที่กลมโตสีไพริน รูปหน้าหวาน แต่สีหน้าเศร้าๆ ผมตัดสินใจได้ทันที
“เท่าไร”
ผมหันไปถามคนคุมที่คอยเก็บเงิน
“เธอคนนี้พึ่งมาใหม่ เป็นสินค้าชั้นดีแถมยังบริสุทธิ์อยู่ด้วย ราคา 1200”
“เปล่า ฉันหมายถึงค่าไถ่ตัวเธอน่ะเท่าไร”
“หือ? นี้คิดจะซื้อไปเลยเหรอ ยัยนี้มันเป็นหนี้พวกเราอยู่ 30,000 เลยต้องมาขายตัวใช้หนี้ แกมีปัญญาจ่ายเหรอ”
ผมไม่พูดมากหยิบเงินออกมายัดใส่ไปทันทีแถมเพิ่มไปอีก 10,000 เป็นค่าหุบปาก
“ขอสัญญาหนี้คืนด้วย”
ผู้คุมรีบวิ่งไปเอาสัญญามาให้ทันที
ระหว่างนั้นผมก็เข้าไปหาเธอในห้อง
“มีชื่อว่าอะไรเหรอ”
“…”
เธอไม่ตอบ
“ฉันชื่อโรมะ และตกลงจ่ายค่าตัวเธอแล้วนะ”
“อยากทำอะไรก็ทำเถอะไม่ต้องพูดมาก”
“ไม่เป็นมิตรซะเลยนะ”
เธอออกแนวดุนิดๆ แต่ผมไม่สนใจหรอก เพราะนี้มันตรงสเปกผมมาก
พอผู้คุมกลับมาพร้อมใบสัญญาหนี้ ผมก็ยื่นมันให้เธอดู
“จากนี้ไปมากับผม”
“…ไม่ต่างกันสินะ แค่เปลี่ยนที่เปลี่ยนคน”
เธอถอนหายใจแบบปลงตก และลุกขึ้นเดินตามผมออกไป
ตอนที่ 37 เมยอาและโมอา
ผมมุ่งหน้ากลับคฤหาสน์ เพราะถ้าเป็นที่นั้นสามารถทำอะไรได้เต็มที่มากกว่า ระหว่างทางผมก็เอาใบสัญญาหนี้ขึ้นมาอ่านไปด้วย
“หือ ชื่อเมยอาเหรอ ไปกู้เงินแล้วไม่มีจ่ายดอก แบบนี้เอง แล้วพอจะบอกได้ไหมเธอกู้เงินไปทำอะไร”
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า”
“ไม่ให้ความร่วมมือซะเลยนะ เอาแบบนี้ไหม ถ้ายอมตอบคำถามดีๆ ผมก็จะทำแบบนุ่มนวล แต่ถ้ายังตอบแบบนี้อยู่ ผมจะข่มขืนเธอจนพังเลยนะ”
“อะ ไอ้สารเลว!”
“อ้อ นั้นชื่อเล่นผมเอง”
ใช่โดนเรียกแบบนี้จนชินแล้ว
“งั้นจะถามอีกครั้งนะ เธอกู้เงินไปทำอะไร”
“…แม่ของฉันป่วยหนัก ต้องการเงินค่ายาและอาหารดีๆ”
“แล้วไม่มีคนอื่นที่บ้านคอยช่วยเลยเหรอ”
“ไม่มี ทั้งบ้านมีแค่ฉันกับแม่”
“แล้วตอนนี้ใครดูแลแม่ของเธอล่ะ”
“…ไม่มี”
ผมหยุดเดินทันที แล้วหันกลับไปมองเธอใหม่ แบบนี้ไม่ดีแฮะ ผมเองไม่สบายใจเลย
“งั้นไปบ้านเธอกัน”
“…บ้านฉันไม่มีของมีค่าอะไรให้แกหรอกนะ”
“มีสิ รีบไปจะดีกว่านะ อยากเจอแม่ใช่ไหมล่ะ”
เมยอาเองก็ห่วงแม่อยู่ เลยยอมนำทางไปที่บ้านของเธอ
บ้านของเธอนั้นอยู่ในชุมชมแออัดของคนจน เรียกว่าเป็นสลัมก็ได้ แล้วพอมาถึงผมก็อยากจะตะโกนออกไปเลยว่า นี้น่ะมันไม่เรียกว่าบ้านแล้ว มันแค่มีแผ่นไม้สองสามแผ่นเอาผ้ามาขึงแล้วเอาหินทับขนาดแค่พอแมวดิ้นตาย มีสาววัยประมาณสามสิบกลางๆ นอนขดตัวและไอไม่หยุด
“แม่ค่ะ! แล้วยาล่ะ ไม่ได้กินยาเหรอ?”
เมยอารีบเข้าไปหาแม่เธอทันที
“ดะ โดนเอาไปแล้ว พวกเด็กแถวนี้เข้ามาขโมยยาไป”
แม่ของเมยอาตอบด้วยเสียงที่ไร้เรี่ยวแรง
“ทะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้!”
“เรื่องมันแล้วไปแล้วโกรธไปก็เท่านั้น ตอนนี้รีบพาแม่ของเธอไปรักษาก่อนเถอะ”
ผมบอกพลางให้อุ้มแม่ของเมยอาขึ้นหลัง
“จะ จะช่วยฉันเหรอ?”
“เปล่า จะช่วยแม่ของเธอต่างหาก”
ผมบอกขณะรีบเดินกลับไปคฤหาสน์ เมยอาก็ตามมาโดยไม่พูดอะไร
พอเห็นผมออกนอกเมืองมา เมยอาก็ทำหน้าสงสัย ผมเลยบอกไป
“ไม่ต้องกลัว ผมมีคฤหาสน์อยู่นอกเมือง ผมจะพาแม่เธอไปรักษาที่นั้น”
เมยอาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง อาจระแวงว่าทำไมไม่พาไปหาหมอในเมือง ก็ผมมีวิธีรักษาที่เร็วกว่าหมอไงล่ะ
พอได้เห็นคฤหาสน์เมยอาก็มองตาค้าง เพราะมันหรูหรากว่าที่เธอคิดไว้ซะอีก พอเธอคิดไปว่าผมคงเป็นขุนนางที่ใหญ่โตแน่ๆ ท่าทีเลยเปลี่ยนเป็นสุภาพมากขึ้น
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะนายท่าน”
เดเม่มายืนรับผมที่ประตู ส่วนคนอื่นๆ ก็วิ่งมาหาเกือบจะพร้อมๆ กัน
“โอ้ จะแตกแล้ว ถอยก่อng="TH" style="word-wrap: break-word;">“กลับมาแล้ว เดี๋ยวค่อยคุยกันตอนนี้ฉันต้องรีบรักษาเธอคนนี้ก่อน ใครจะอาสาช่วยรอบนี้”
พอผมถามไปทุกคนรีบยกมือขึ้นทันที ฟรานที่มาช้าที่สุดยกมือขึ้นไม่ทันเลยได้แต่ทำหน้าเจ็บใจ
“อืม งั้นมิรินฝากด้วยนะ”
มิรินยกมือเร็วกว่าใคร ผมเลยให้เธอเป็นผู้ช่วย พอแบกแม่ของเมยอาไปถึงห้องนั่งเล่น ผมก็ให้เธอนอนลงบนโซฟา จากนั้นก็เริ่มถอดกางเกงออก เมยอารีบวิ่งมาขวางผมกับแม่เธอทันที
“นี้แกคิดจะทำอะไรแม่ของฉัน!”
“รักษาไง”
ผมตอบไปตามตรง พร้อมกับที่มิรินพุ่งเข้ามาดูดดุ้นผมอย่างตระกะตะกราม ส่วนยูรินอ้อมไปด้านหลังล็อคตัวเมยอาเอาไว้
“อยู่เฉยๆ ให้นายท่านเป็นคนจัดการเอง”
ยูรินบอก ก่อนจะลากเมยอาไปนั่งที่เก้าอี้อีกตัว เดเม่เองก็รู้หน้าที่ไปนำพวกชามาเสิรฟให้แขก
ผมปล่อยให้มิรินดูดดุ้นขณะผมนั่งจิบชา แต่พอผ่านไปหลายนาทีผมยังไม่เสร็จสักที ฟรานเลยทนไม่ไหวเข้ามาช่วยมิรินด้วยการช่วยเลียไข่ผม
เมยอานั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน มองดูผมอย่างโกรธแค้น เพราะคิดว่าผมเพียงจะเล่นตลกกับเธอ แต่ยูรินยืนคุมเธอไว้แจจนไม่อาจลุกขึ้นมาทำอะไรได้
“โอ้ จะแตกแล้ว ถอยก่อนๆ”
พอผมบอกมิรินกับฟรานก็ลุกขึ้นไปจับตัวแม่ของเมยอาขึ้นมาอย่างรู้งาน
“นี้คิดจะทำอะไร!”
แม่ของเมยอาพึ่งได้สติขึ้นมา แต่สิ่งแรกที่เห็นคือดุ้นยักษ์ของผมที่ทะลวงเข้าไปปากของเธอ
ผมกระดกเอวสองสามที ก่อนจะฉีดน้ำเชื้อลงคอเธอไป
“ไอ้บัดซบ!”
เมยอาพึ่งขึ้นมาจากเก้าอี้ แต่โดนยูรินจับกดลงพื้น
“ใจเย็นๆ”
“ฉันจะฆ่าแก ฉันจะฆ่าแก!”
“วันนี้โดนขู่ฆ่าทั้งวันเลยวุย”
ผมดึงดุ้นออกมาจากปากของแม่เมยอา และกลับไปนั่งที่เดิม โดยมีฟรานมาเลียทำความสะอาดให้ก่อนจะใส่กางเกงกลับเข้าที่
แม่ของเมยอากลับไม่แสดงโกรธออกมาเหมือนกับที่ผมคิดไว้ เธอเพียงแค่นั่งยกมือขึ้นป้องปาก แต่ผมเห็นว่าเธอกำลังแลบลิ้นเลียเอาน้ำเชื้อที่ติดอยู่ตรงริมฝีปากอยู่ สงสัยจะชอบแฮะ
“เป็นอย่างไงบ้างครับ”
“อะ อร่อยมากค่ะ”
“เอ่อ ผมหมายถึงอาการป่วยนะครับ”
พอแม่ของเมยอารู้ว่าตัวเองตอบอะไรออกไป ก็รีบปิดหน้าที่แดงจัดทันที ท่าทางไม่สมอายุเลยวุ้ย
“ดะ ดีขึ้นแล้ว…เอ๋ ไม่เจ็บคอแล้ว ไม่ปวดหัวด้วย หะ หายแล้วค่ะ”
“ดีแล้วครับ”
ผมยิ้มให้ส่งแก้วชาให้เธอดื่ม เธอรับไปอย่างเกรงใจพลางมองไปรอบๆ คงพึ่งรู้ตัวว่าอยู่ในคฤหาสน์ เลยทำหน้าตกใจและรีบลุกไปนั่งที่พื้นแทน แต่ผมรีบห้ามไว้
“ตามสบายเถอะครับ แต่ถ้าหายดีแล้ว งั้นเราคุยเรื่องงานกันดีกว่า”
“คะ คือ ฉัน มะ ไม่มีเงินทองอะไรเลย มะ ไม่สามารถจ่ายเงินค่ารักษาให้ท่านได้ค่ะ”
“ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นครับ แต่ผมอยากจะให้พวกคุณมาทำงานให้กับผมที่นี้ ไม่ทราบว่าพอจะทำอะไรได้บ้างครับ”
“จะ จริงเหรอคะ! ฉันทำได้หมดเลยค่ะ จะสักผ้า ทำอาหาร ดูแลเด็ก ทำความสะอาด ทำสวน ทุกอย่างเลยค่ะ”
“ผมให้งานเป็นคนรับใช้ของบ้าน คงไม่รังเกียจนะครับ”
“ไม่ค่ะๆ ได้โปรดจ้างฉันด้วยเถอะค่ะ”
แม่ของเมยอาเองก็ตกงานตั้งแต่ป่วย เลยว่างงานอยู่ พอมีคนมาจ้างเธอเลยรีบรับไว้ทันที
“ครับ แต่ผมคงต้องให้พวกคุณแม่ลูกย้ายมาอยู่ที่นี้เลยนะครับ เพราะมันจะสะดวกมากกว่า”
“ที่นี้? เอ๋! ไม่ได้หรอกค่ะ คฤหาสน์ท่านใหญ่โตสวยงามเช่นนี้ พวกเรามิบังอาจ!”
“เอ๋ ตกลงไม่อยากทำงานกับผมเหรอครับ”
ผมแกล้งทำหน้าเศร้า
“ไม่ค่ะ! อยากทำค่ะ อยากทำที่สุดเลยค่ะ”
“งั้นก็ตกลงตามนี้”
ผมมัดมือชกทันที เรื่องอะไรจะให้เธอกลับไปนอนในรูหนูนั้นอีกล่ะ ผมหันไปทางเมยอาที่นั่งทำหน้างงอยู่บ้าง ท่าทางเธอยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเลย
“แล้วเธอล่ะเมยอา ทำอะไรได้บ้าง”
“…ฉะ ฉัน อ่านออกเขียนได้ คำนวณได้บ้างนิดหน่อย งานบ้านไม่ค่อยถนัด คะ คือฉันพึ่งเรียนจบมาเลยไม่มีประสบการณ์ทำงานเลย”
ผมค่อนข้างประทับใจนะเนี่ย ขนาดที่บ้านยากจน แม่ของเมยอายังพยายามส่งเสียลูกสาวเรียนจนจบได้
“แบบนั้นก็ดี ผมจะให้เธอช่วยงานเมดของผมทำพวกบัญชีรายรับรายจ่ายของบ้านนะ”
“ได้”
เมยอามองไปทางเดเม่ที่ใส่ชุดเมดเพียงคนเดียว เธอมองด้วยดวงตาแบบหลงใหล เพราะเดเม่นั้นทั้งสง่างามและดูเรียบร้อย เต็มไปด้วยมารยาทที่งดงามทั้งๆ ที่น่าจะอายุเท่ากันแท้ๆ
“แต่ว่างานก็ส่วนงาน ผมจ่ายค่าตัวเธอไปแล้ว เพราะงั้นวันนี้ต้องยอมมีอะไรกับผมนะ”
“…เข้าใจแล้ว”
ผมลุกขึ้นเตรียมพาเมยอาขึ้นห้อง แต่แม่ของเธอกลับรีบลุกขึ้นมาห้ามไว้
“ดะ เดี๋ยวก่อนค่ะ เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะฉัน ฉะนั้นให้ฉันรับผิดชอบแทนลูกสาวเถอะค่ะ”
“ไม่นะค่ะแม่!”
ระหว่างที่แม่ลูกถกเถียงกันอยู่ ผมก็พูดแทรกขึ้นมา
“แต่ที่ผมจ่ายเงินซื้อเมยอามาเพราะเธอยังบริสุทธิ์และยังสาวอยู่ คุณแม่มีอะไรที่เทียบเท่ากับราคาที่ผมจ่ายให้เมยอาได้เหรอครับ”
พอเจอผมถามไปแบบนี้ แม่ของเมยอาเลยทำหน้าซีดเพราะตอบไม่ได้
“อย่างไงก็เถอะ ฉันก็เป็นแม่ จะทนเห็นลูกต้องถูกย่ำยีได้อย่างไง ฉันจะทำงานชดใช้หนี้ให้เองค่ะ ขอร้องปล่อยลูกสาวฉันไปเถอะ”
ผมปล่อยมือเมยอาและเดินกลับลงมาหาแม่ของเธอ
“ผมชอบนะ คุณเป็นแม่ที่ประเสริฐ แค่นั้นก็มีค่ามากกว่าความบริสุทธิ์หรือความสาวแล้ว ผมรับข้อเสนอ”
แล้วผมก็อุ้มแม่ของเมยอาขึ้นมาในท่าอุ้มเจ้าหญิง เธอตกใจมาก แต่ก็ไม่กลk-word;">เดเม่รับคำสั่งผมเสร็จก็ต่โดยดี
“เดเม่ ฝากเมยอาด้วย หาอะไรให้เธอกินรองท้องไปก่อน เดี๋ยวเสร็จแล้วผมจะลงมาทำมื้อเย็นให้”
“ค่ะ นายท่าน”
เดเม่รับคำสั่งผมเสร็จก็ตรงเข้ามาจับแขนเมยอาที่พยายามตามมาคัดค้านไว้ และพากลับเข้าไปในห้องนั่งเล่น
พอผมพาแม่เมยอามาถึงห้องก็วางเธอลงบนเตียง โดยไม่พูดพร่ำทำเอง ก็จับเธอถอดเสื้อผ้าจนหมด และใช้คลีนนิ่งให้รอบหนึ่งก่อน เพราะเนื้อตัวเธอสกปรกมาก
ผมนอนลงข้างๆ เธอและสำรวจส่วนต่างๆ ไปพร้อมกับทำความรู้จักกับเธอ
เธอมีชื่อว่า โมอา อายุ 38 สามีทิ้งไปตั้งแต่เมยอาเกิด ปกติทำงานรับจ้างตามบ้าน เธอมีใบหน้าเหมือนกับเมยอาเพียงแต่ดูอายุมากกว่า และหางตาเธอตกทำให้ดูเป็นคนอ่อนโยน
แต่ร่างกายเธอก็สมกับอายุและเคยมีลูกมาก่อน แถมไม่ได้ดูแลตัวเองสักเท่าไร เลยต่างจากโกร่าที่มีกล้ามเนื้อเยอะทำให้ดูฟิตเฟิรมดูดีแม้มีลูกแล้ว น่าอกเธอคล้อยลงมาคล้ายถุงน้ำ หัวนมดำลานนมกว้างกินพื้นที่ไปถึงครึ่งหนึ่งของหน้าอก ขนาดก็น่าจะคัพ Cหน้าท้องลาย อ้วนนิดหน่อย ไม่สิ มีไขมันเยอะแต่ไม่ถึงกับอ้วน แต่หอยเธอฝายังไม่เปิดมาก ดูท่าจะไม่ค่อยได้ใช้งาน
“มีเซ็กส์ครั้งสุดท้ายเมื่อไรครับ”
“มะ มะ”
เธออายจนต้องปิดหน้าไว้
“ไม่มีมาตั้งแต่ตั้งท้องเมยอาค่ะ”
“แล้วเคยช่วยตัวเองไหมครับ”
ผมชอบถามคำถามสัปดนอ่ะนะ
โมอาไม่ตอบเพียงแต่ส่ายหน้า
“งั้นก็คงเก็บกดไว้มากเลยสินะครับ”
จากนั้นก็เริ่มเล่นไปที่หอยของเธอด้วยการเขี่ยปลุกมันเบาๆ โมอาตอบสนองน้อยกว่าที่คิด เธอเม้มปากไว้และหนิบขาแน่น
“บอกไว้ก่อนนะครับ ผมเป็นคนลามกสุดๆ เพราะงั้นอาจจะไม่จบเร็วแบบที่คุณคิด”
จากนั้นผมก็ลงไปเล่นลงลิ้นที่หอยของเธอ น่าแปลกมากที่ไม่มีกลิ่นเลย แถมข้างในสียังดูสดใหม่ด้วย ผมเลียไปได้สักพักเริ่มทนไม่ไหว อยากเข้าไปสำรวจเต็มแก่ อัดอั้นมาทั้งวันแล้วด้วย พอเธอเริ่มมีน้ำออกมา ผมก็ยกตัวขึ้นถอดกางเกงออก แต่พอโมอาเห็นดุ้นผมเท่านั้น เธอสลบไปเลยก็ไม่แปลกหรอก ก็ตอนที่ยัดเข้าปากเธอผมปรับขนาดให้เล็กลง ไม่งั้นขากรรไกรเธอค้างแน่
ผมต้องปลุกเธออยู่นานกว่าจะฟื้นขึ้นมา พอตื่นมาแล้วเธอก็ส่ายหน้าไม่เอาลูกเดียว แต่สายไปแล้วล่ะ เพราะตอนเธอสลบไป ผมจัดการให้ดุ้นผมเข้าไปในตัวเธอเรียบร้อยแล้ว
ข้างในเธอคุณภาพดีจริงๆ ยังกระซับแน่นแถมปุ่มเนื้อนิ่มและจัดเรียงตัวรับกับดุ้นทำให้เวลาขยับเข้าขยับออกเสียวสุดๆ โมอาถึงจะมีลูกแล้ว แต่ท่าทางของเธอเหมือนกับสาวน้อยไร้เดียงสาและขี้อาย ทว่าพอโดนดุ้นผมสวนเข้าออกตัวแบบนี้ เธอก็ทนได้ไม่นานก็แตกรอบแรก เธอนอนหอบใหญ่ โดยไม่รู้เลยว่าร่างกายตัวเองกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง
ผมปรับออฟชั่นเสริมความงามแบบจัดเต็มให้เธอ ตอนนี้ผิวเธอเลยดูดีขึ้น เส้นผมที่รุงรังก็คลายตัวเหยียดตรงแบบเมยอา ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง หน้าอกกลับไปกระซับเข้ารูป หัวนมที่เคยดำผลัดสีเป็นสีเนื้อออกไปทางสีส้มดูน่ากินสุดๆ หน้าท้องแบนราบไม่มีลายให้เห็น ไขมันหายไปจนกลับมาผอมหุ่นดี หอยเธอของเดิมว่าดีแล้ว ตอนนี้มันฟื้นสภาพจนเหมือนหอยของเด็กสาวบริสุทธิ์เลย
ถ้าจับเธอไปยืนกับเมยอาแล้วคงเหมือนฝาแฝดกันแน่ๆ เพราะนอกจากหางตาที่ตกกับขนาดหน้าอกแล้ว ทุกอย่างเหมือนกันอย่างกับแกะ แน่นอนผมต้องจัดต่ออีกยกหนึ่งซึ่งรอบนี้เธอเริ่มคุ้นกับดุ้นผมแล้ว เลยมีการตอบสนองได้ดีขึ้น จนพอเธอเริ่มเด้งเอวกระแทกสวน ผมก็หยุด เธอทำหน้าแบบทรมานสุดขีด ผมเลยจับเธอพลิกขึ้นไปนั่งค่อมผมไว้ แต่เธอไร้เดียงสาจริงๆ ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไง ผมเลยนำให้โดยจับเอวเธอขย่มดุ้นผม
ท่านี้เธอเสียวหนักกว่าเดิม จนไม่นานผมก็ไม่ต้องจับเอวเธอ และปล่อยให้เธอขย่มตามใจชอบ โมอาแข็งแรงมากขย่มผมได้ไม่มีหยุดจนพวกเราเสร็จไปพร้อม ๆ กัน
ตอนที่ 38 ปาร์ตี้สั่งลา
ผมออกมาไปห้องของมิรินที่อยู่ติดห้องผม ซึ่งห้องของเอร่าอยู่ติดทางซ้าย ส่วนของมิรินอยู่ติดทางขวา และยืมเอาเสื้อผ้าเธอมาชุดหนึ่งเพื่อให้กับโมอา แต่เธอนั่งเลือกชุดชั้นในที่ให้กับโมอาอยู่นานมาก เพราะเกือบทั้งหมดเป็นแบบออกศึกที่เตรียมไว้ใช้กับผม
ผมปลุกโมอาขึ้นมาแต่งตัว และพากลับลงมาข้างล่าง เธอเดินขาถางๆ เพราะบอกว่ายังเจ็บหอยอยู่ ก็เล่นขย่มลืมตายแบบนั้นไม่เจ็บก็แปลกแล้ว
พอเมยอาได้เห็นแม่ของเธอ ก็พูดอะไรไม่ออก เพราะตอนขึ้นไปกลับตอนกลับลงมาเป็นคนละคนกันเลย
“นะ นี้แกทำอะไรแม่ของฉันน่ะ!”
“แค่จับเสริมความงามนิดหน่อย”
ผมตอบไปขณะที่โมอาทำหน้าดุใส่เมยอา
“เมยอา กับนายท่านพูดจาให้มันดีๆ หน่อย ตอนนี้นายท่านเป็นเจ้านายพวกเราแล้วนะ”
พอเจอแม่ดุ เมยอาก็ก้มหัวลงขอโทษผม และจัดท่าทางวางตัวซะใหม่ ผมเองก็ไม่ว่าอะไรหรอก ไม่เสียดายด้วย ถึงวัตถุประสงค์ตอนแรกคือได้หม่ำเธอก็เถอะ แต่ของแม่ของเธอแหล่มจริงๆ ไม่ทำให้ผิดหวังเลย
ผมให้ฟรานกับดาเซสพาทั้งสองไปเดินดูรอบๆ บ้าน ส่วนเดเม่มาช่วยผมทำมื้อเย็น
วันนี้ตอนแรกผมกะจะทำเป็นสเต็กปลา แต่ไหนๆ ก็มีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามา และยังมีอีกวัตถุประสงค์หนึ่งด้วย ผมเลยว่าจะทำเมนูที่มันดูสร้างบรรยากาศหน่อย
ผมให้เดเม่ไปตามยูริน มิรินกับเอร่ามาช่วย เพราะวันนี้ผมจะเอาโต๊ะมาตั้งที่ด้านหลัง ตรงที่มองไปเห็นน้ำตก ที่ผมจะทำวันนี้คือ บาบีคิวแบบเสียบเหล็กย่าง
เป็นเมนูง่ายๆ แต่อร่อยแถมทุกคนได้สนุกด้วย ที่ต้องเตรียมก็มีแต่ซอสกับของที่ไว้ย่าง ซอสผมทำออกมาสามแบบสามรส ทั้งแบบเปรี้ยว แบบหวาน และแบบเค็ม ส่วนเหล็กที่จะใช้เสียบย่าง ก็ให้ยูรินทำให้ เธอขอเวลาแค่สิบนาที ก็ทำออกมาได้ตามที่ผมต้องการแล้ว
ส่วนเอร่ากับมิรินช่วยกันยกโต๊ะส่วนจานเดเม่เป็นคนเอาออกมาเรียงตามที่ผมบอก ทุกคนดูตื่นเต้นมาก
ผมกลับมาเตรียมของย่าง ซึ่งมีเนื้อไก่ เนื้อวัว ปลา และผักต่างๆ เดเม่เองพอเห็นแล้วก็อาสามาช่วยผมเสียบด้วย เลยเสร็จเร็วขึ้น ส่วนเตาบาบิคิวก็แค่ดัดแปลงจากเตาย่างสเต็กนิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว แถมเพราะใกล้มืด ผมเลยให้มิรินเอาตะเกียงออกมาวางไว้รอบๆ เพื่อให้แสงสว่างด้วย
พอเมยอากับโมอาออกมาเห็น ก็อ้าปากค้างและถามใหญ่เลยว่าจะมีงานเลี้ยงของแขกใหญ่โตหรือเปล่า และพวกเธอต้องทำอะไรบ้าง
“ถ้าแขกก็พวกเธอสองคนไง”
ผมบอกไปสั้นๆ แต่สองแม่ลูกยังดูไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี ผมเลยให้ยูรินลากทั้งคู่ไปที่โต๊ะ จากนั้นก็เริ่มสอนวิธีทำบาบิคิวพร้อมทุกคน ซึ่งก็ไม่ยากเลย ใครอยากกินก็แค่เอาไปย่างบนเตาจนสุก จะยืนกิน เดินกิน นั่งกิน ก็ได้ทั้งนั้น ส่วนเครื่องดื่มผมก็เตรียมไว้แล้ว
แล้วผมก็เปิดงานด้วยการหยิบขึ้นไปย่างเป็นคนแรก ทุกคนดูสนุกกับการได้ย่างเอง แต่สองแม่ลูกยังดูกลัวๆ อยู่ และไม่กล้า ผมรู้อยู่แล้วเลยย่างเผื่อทั้งสองคนไว้ แต่ทุกคนกลับคิดเหมือนกัน เลยย่างเผื่อด้วย จนตอนนี้ตรงหน้าของสองแม่ลูกมีกองบาบิคิวสูงเป็นภูเขา
“จะ จะดีเหรอคะ เอาอาหารชั้นสูงแบบนี้มาให้คนอย่างฉันทาน”
โมอาไม่กล้ารับเอาไว้ เมยอาเองนั่งน้ำลายไหลแต่ก็ไม่กล้าแตะเหมือนกัน
“ช่วยไม่ได้นะ เป็นแขกที่เอาแต่ใจจริงๆ”
ผมยิ้มออกมาและทำการป้อนเธอด้วยตัวเอง โมอาทำหน้าตกใจแถมรู้ว่าโดนทุกคนจ้องอยู่เลยยิ่งอายหนักกว่าเดิม แต่ผมไม่ยอมแพ้ยื่นรอจนเธอพร้อม สุดท้ายเธอก็กินลงไปจนได้ พอเมยอาเห็นว่าแม่ทานแล้ว เธอก็ทานบ้าง แค่กัดเนื้อเข้าไป เธอก็น้ำตาไหลแล้ว
“กะ เกิดมาไม่เคยกินของอร่อยแบบนี้มาก่อนเลย”
เมยอาบอกทั้งน้ำตา
“กินให้เยอะๆ ล่ะ มีอีกเพียบเลย”
ผมบอกขณะหันไปป้อนให้ฟรานด้วย เพราะตอนนี้มีการมาต่อแถวให้ผมป้อนให้แล้ว
แต่สองแม่ลูกยิ่งตกใจไปใหญ่ เมื่อเห็นว่าในไม้เสียบ ไม่ได้มีแค่ไก่กับเนื้อและผัก แต่ยังมีปลาด้วย
“อะ อาหารของขุนนางนี้!”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ จะอาหารของขุนนางหรือคนธรรมดา สำหรับท่านโรมะแล้วก็คืออาหารที่พวกเรากินแล้วมีความสุขเท่านั้นเอง”
มิรินเป็นคนบอกให้กับโมอา
“ทะ ทำไมท่านถึงได้ใจดีแบบนี้”
“เพราะเป็นท่านโรมะที่รักของพวกเราไงล่ะ”
มิรินยิ้มตอบ เธอดูเข้ากับโมอาได้ดี ส่วนเมยอาก็ไปสนิทกับยูรินได้แล้ว อย่างตอนนี้ก็พยายามถามไม่หยุด ทั้งๆ ทีกินไปด้วย
“อ่ะ จริงสิ เกือบลืมไปเลย”
ผมเดินกลับเข้าไป และกลับออกมาพร้อมกับเหล้าหลายขวด
“เอานี้ของขวัญของเธอยูริน”
ผมส่งเหล้าให้ยูรินไปสองขวด ส่วนที่เหลือผมไว้รวมกับเครื่องดื่มอื่นๆ แต่ห้ามไม่ให้ฟรานกับเดเมะและเมยอาดื่ม เพราะอายุยังน้อยอยู่
พอยูรินรับไป ก็มือสั่นและเงยหน้าขึ้นมาถามผม
“ขะ ข้าดื่มได้เหรอ”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ นี้ยังมีอีกเยอะเลยนะ แต่ว่าอย่าดื่มทีเดียวหมดล่ะ ผมเป็นห่วงสุขภาพ”
ผมพูดยังไม่ทันจบ ยูรินก็กระโดดขึ้นมากอดผมไว้แน่นมาก เหมือนเธอจะร้องไห้ด้วย ขณะที่ผมปลอบเธออยู่ก็ได้ยินเสียงเธอกระซิบเบาๆ
“รัก”
“อืม ผมก็รักยูริน”
ผมจูบเธอเบาๆ และให้เธอลงไปรวมวงกับเอร่า มิรินและโมอาที่ดื่มเหล้าได้ แต่โมอาไม่ได้ดื่มมานานมากแล้ว แถมเคยดื่มแต่เหล้าถูกๆ แค่แก้วสองแก้วเท่านั้น เลยเกร็งๆ ที่จะได้มาดื่มของแพงแบบนี้ ว่าแต่ยัยเอร่าเธอเป็นสิบเทพเชี่ยวนะ มาเมาแบบนี้จะดีเหรอ ส่วนตัวผมเองก็ดื่มได้ แต่ไม่อยากให้พวกฟรานเหงา เลยมานั่งร่วมกลุ่มเด็กแทน พวกเรานั่งกินกันไป คุยกันไป ดูดาวไป ฟังเสียงน้ำตก นี้ล่ะคือความสุขที่ผมใฝ่หา
วันนี้ผมให้ทุกคนนั่งกินเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบ จนตอนทุ่มครึ่ง มอเรียก็กลับมาถึง ดูเธอทนไม่ไหวเลยรีบกลับมาก่อน แถมวิ่งมาตลอดทางด้วย เพราะเธอหอบใหญ่เลย ผมจับให้เธอนั่งพักและดื่มอะไรเย็นๆ ก่อน แล้วค่อยให้ไปร่วมวงบาบิคิว
พอเห็นบาบิคิวมอเรียก็ตื่นเต้นสุดๆ แถมยังมีเหล้าให้ดื่มอีก เลยไปร่วมก๋วนกับยูริน ทั้งคู่คอแข็งพอๆ กันเลย แต่มอเรียนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ขนาดดื่มสู้กับดวาฟได้สูสีแบบนี้
ผมเห็นสองแม่ลูกอิ่มแล้ว พวกฟรานเองก็อิ่มแล้วเช่นกัน เลยให้ฟรานกับเดเม่พาสองแม่ลูกไปสอนวิธีแช่น้ำรวมถึงวิธีใช้ชักโครกด้วย ส่วนที่เหลือยังตั้งวงเหล้ากันอยู่ ผมเลยให้พวกนั้นไว้ไปอาบที่หลัง ระหว่างนี้ผมก็เข้าไปสะกิดเอร่า ให้ออกมาคุยกัน
ผมพาเธอมาตรงใกล้ๆ น้ำตก และมองให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามมา ด้วยการเปิดเรดาร์ค้างเอาไว้
“นะ นี้พามาที่เปลี่ยวๆ แบบนี้ ยะ อย่าบอกนะว่านายทนความงามของฉันไม่ไหวแล้ว เลยคิดจะข่มขืนฉัน”
“เลิกเพ้อเจ่อได้แล้ว! ฉันแค่จะบอกว่า ตอนนี้เธอกลับสวรรค์ได้แล้ว”
“กลับสวรรค์? พูดเรื่องอะไรอ่ะ”
“พอดีวันนี้ฉันมีโอกาสได้ไปที่สวรรค์มา เลยไปต่อรองกับสิบเทพสูงสุดให้เธอกลับสวรรค์ได้แล้ว”
“จริงเหรอ! นายทำได้อย่างไงอ่ะ ไม่น่าเชื่อ”
“จะอย่างไงก็ช่างเถอะ แต่เธอรู้วิธีกลับแล้วใช่ไหม”
“อ่ะ เดี๋ยวนะ…เอ๋ กลับได้จริงด้วย!!”
“แล้วก็นะ จะกลับไปตอนไหนก็ตามใจเธอ แต่ไม่ต้องขอบคุณหรือบอกลาอะไรทั้งนั้น เพราะฉันไม่ชอบการจากลา ไม่ชอบอะไรที่มันดูเศร้าทั้งหมดเลย เพราะงั้นจะไปก็ไปได้เลย ที่จะบอกก็มีเท่านี้แหละ”
“นี้นายทำเพื่อฉันขนาดนี่ แล้วจะไม่ให้ฉันขอบคุณได้อย่างไงกัน”
“ก็บอกว่าไม่ต้องไง อ้อ จริงสิ เธอให้พรคุ้มครองฉันมาตั้งแต่เมื่อไรอ่ะ”
“พรคุ้มครอง? เอ๋! นี้นายมีพรคุ้มครองของฉันด้วยเหรอ!!!”
“ให้ตายสิ สมเป็นเธอจริงๆ ขนาดพลังของตัวเองยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย…งั้นก็โชคดีล่ะกัน บาย”
ผมโบกมือลาและเดินกลับมาที่คฤหาสน์
“เดี๋ยว”
พอเอร่าทักผมก็หันกลับไปแต่ผมก็เป็นฝ่ายพูดออกไปซะก่อน
“เจอกันคราวหน้าพวกเราอาจจะเป็น…ศัตรูกันก็ได้นะ เพราะงั้นไม่ต้องเยอะหรอก”
ผมเองก็รู้สึกไม่ดีที่เอร่าต้องกลับสวรรค์ เพราะแบบนั้นเธอก็จะต้องรู้ว่าผมเป็นจอมมารแน่ๆ จุดยืนของพวกเราจะไม่ใช่เพื่อนกันอีกแล้ว แต่คือด้านตรงกันข้ามที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้อีก
…เหงาเหรอ นี้ผมกำลังรู้สึกเหงาอยู่เหรอ ก็อาจจะใช่ ถึงจะเป็นยัยเทพธิดาไร้ประโยชน์ แต่มีเธออยู่ด้วยก็ทำให้รู้สึกสนุกดี ใช่ผมรู้สึกเหงาที่ขาดเอร่าไป แต่นี้แหละดีที่สุดแล้ว เธอเป็นเทพ ส่วนผมเป็นจอมมาร นี้แหละ…ดีที่สุดสำหรับเธอแล้ว
และคืนนั้นในคฤหาสน์ก็ไม่มีเอร่าแล้ว
…………………….
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น