ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 39 - 41 By Kumao






ตอนที่ 39 ปาร์ตี้รอบดึก

หลังจากที่ผมเก็บกวาดและเข้าไปแช่น้ำเป็นคนสุดท้าย ผมก็คิดว่าคืนนี้จะทำอะไรต่อดี เพราะผมไม่จำเป็นต้องนอน ร่างกายไม่เคยรู้สึกเหนื่อยล้า กลับยิ่งแข็งแรงขึ้นทุกวัน รวมถึงดุ้นผมด้วย ที่เหมือนจะต้องการเพิ่มขึ้นทุกวัน เลยคิดว่าอาจจะต้องไปเยี่ยมที่ซ่องอีกถ้ามีเวลาก็ไปลงดันเจี้ยนต่อ เพราะตอนนี้เลเวลฟรานทิ้งผมไปแล้ว ผมไม่อยากเป็นตัวถ่วงของปาร์ตี้อ่ะนะ
ส่วนสองแม่ลูก ก็ได้เลือกห้องที่อยู่ชั้นหนึ่งติดกับห้องของดาเซส โดยที่สองแม่ลูกอยู่ห้องเดียวกัน ผมคิดว่าจะไม่แตะต้องพวกเธออีก เพราะพวกเธอไม่ใช่ทาส ที่ผมจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ หนี้ของเมยอา โมอาก็จ่ายมาให้ผมจนเต็มคราบแล้ว เพราะงั้นหนี้ถือว่าหายกัน จากนี้ไปพวกเธอคือลูกจ้างผมก็เท่านั้น
แต่พอผมออกจากห้องอาบน้ำมา ก็เจอยูรินยืนรออยู่ด้วยส่วมแค่สปอร์ตบราสีขาวกับกางเกงในลายทางขาวแดง ใบหน้าเธอค่อนข้างแดง และแสดงสีหน้าที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนออกมา
ยูรินกำลังยิ้มอยู่
ผมยังไม่ทันได้พูดอะไร ยูรินก็อุ้มผมขึ้นมาในท่าอุ้มเจ้าหญิง ตัวเล็กๆ ของเธอแบกผมขึ้นบันไดมาโดยไม่มีแม้แต่อาการหอบ ร่างกายของดวาฟแข็งแรงดีเป็นบ้า เธอมาถึงห้องผม และจับผมวางลงบนเตียง
ยูรินขึ้นค่อมผมโดยไม่พูดอะไรสักคำจนถึงตอนนี้ เธอเพียงแค่ยิ้มและจับเอาดุ้นผมมุดเข้าไปในตัวเธอทันที ยูรินกรีดร้องลั่นบ้าน และขย่มผมอย่างบ้าคลั่งตั้งแต่เริ่ม อาการเหมือนตอนโดนผลกระทบของDawn of love เลย
แต่วันนี้ยิ่งกว่าอีก เพราะขนาดเสร็จแล้วเธอยังไม่เลิกขย่ม ผมถูกร่างเล็กๆ เหมือนเด็กประถมนั้นยึดดุ้นไว้ขย่มโดยไม่ปล่อยออกมาเลยนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ยูรินเสร็จจนถึงโควต้าของตัวเองแล้วก็กรีดร้องเสียงดังเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะทิ้งตัวลงมานอนบนตัวผม ส่วนผมเสร็จใส่เธอไปสองรอบ แถมตอนนี้ขนาดเธอสลบไปแล้ว เอวของเธอยังขยับอยู่เลย ผมจึงต้องค่อยๆ พลิกตัว และดึงดุ้นออกมา
เล่นเอาตกใจไปเหมือนกัน เพราะเสียงตอนดึงออกมามันดังบ็อบ ด้านในเธอเลื่อนติดออกมา ก่อนจะไหลกลับเข้าไปและฝาปิดสนิทเป็นรูป I เช่นเคย ขนาดผมมีอะไรกับยูรินบ่อยมาก แถมไม่ได้เปิดออฟชั่นรักษาภายในให้ด้วย หอยเธอยังคงคุณภาพเหมือนครั้งแรกไม่มีผิด
ระหว่างที่ผมใช้คลีนนิ่งให้อยู่ ประตูห้องก็เปิดออกเบาๆ คนที่เข้ามาก็…ครบเลย ฟราน ดาเซส มิรินมอเรีย
ไม่ต้องพูดให้มากความ ผมให้พวกเธอขึ้นมาบนเตียงพร้อมกัน พร้อมเปิดศึกทั้งสี่ฝ่ายพร้อมๆ กันและแต่ละคนเริ่มมีรสนิยมแปลกๆ ออกมาให้เห็น
มิรินชอบนอนอยู่ด้านล่างแล้วให้ฟรานทับอยู่ด้านบนขณะที่ผมกระแทกใส่ฟราน เธอบอกว่าชอบสีหน้าฟรานตอนโดนผมเอามากๆ เพราะงั้นเวลาเอาฟรานเสร็จผมจะเอาเธอต่อทันที
ส่วนของดาเซส กลายเป็นเสพติดเซ็กส์ทางประตูหลังไปแล้ว เธอร้องขอผมอย่างบ้าคลั่งให้เสียบเข้าไปทางตูดเธอ ดาเซสรู้ไหม ผมเองน่ะคิดถึงรูข้างหน้าเธอมากๆ เลย
ส่วนมอเรียติดน้ำเชื้อผม เธอชอบให้ผมเสร็จในปากของเธอ เธอกินน้ำเชื่อแบบหิวโหย ขนาดเวลาผมเสร็จใส่ข้างในคนอื่น เธอยังก้มลงไปดูดออกมาจากรูเลยไม่เว้นแม้แต่รูตูดของดาเซส หวังว่าน้ำเชื้อจะไม่ทำให้อ้วนนะ
ฟรานจะบอกว่าเหมือนเดิมก็คงได้ ชอบให้ผมทำรุนแรงจนได้เลือด ซึ่งตอนนี้ทั้งผมและทุกคนเริ่มชินแล้วกับรสนิยมอันรุนแรงของฟราน และวันนี้เธอเสร็จพร้อมกับดูดเลือดผมอีกเหมือนเดิม
หลังจากผมจัดการกับห้าสาวจนสลบหมดสภาพกันไปแล้ว ประตูห้องก็เปิดออกอีกครั้ง คนที่โผล่ออกมาครึ่งหน้าก็คือโมอา
ผมเข้าไปคุยกับเธอ บอกสิ่งที่คิดออกไป ว่าเธอไม่ต้องใช้หนี้แล้ว แต่เธอบอกว่าเธอมาด้วยความตั้งใจของตัวเอง เธอนอนไม่หลับเพราะคิดถึงแต่เรื่องที่ผมทำกับเธอเมื่อตอนเย็น และเธอขอร้องให้ผมทำกับเธออีกครั้ง ผมไม่ขัดอยู่แล้ว เลยอุ้มเธอขึ้นมา แต่บนเตียงเต็มแล้ว ผมเลยเสียบหอยเธอคาไว้แล้วพาเดินรอบบ้าน
ตอนเดินลงบันไดมาเธอเสียวหนักจนแตกไปก่อนรอบหนึ่ง จากนั้นผมพาเธอออกมานอกบ้าน ยืนกระเด้าเธอตรงน้ำพุ ซึ่งคนขี้อายแบบโมอาตื่นเต้นมากกับที่ผมทำกลางแจ้ง จนเธอควบคุมร่างกายตัวเองไม่อยู่ ผลักผมลงไปนอนบนพื้นหญ้าและขย่มผมอีกแล้ว อืม รายนี้พอถึงจุดแล้วชอบขย่มสินะ
หลังจากทำให้โมอาหมดแรงจนสลบไป ผมก็อุ้มเธอไปส่งห้อง แต่พอเข้าไปเมยอาก็จ้องมาที่ผมทันที ผมได้แต่หัวเราะแบบเขินๆ ขณะวางตัวโมอาลงบนเตียงและกลับออกไปอย่างรวดเร็ว เธอคงไม่ชอบขี้หน้าผมมากๆ ใครจะไปชอบคนที่มีอะไรกับแม่ตัวเองได้ลงล่ะ
ผมอาบน้ำอีกรอบเพราะตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ เอ่อ ไม่ใช่เหงื่อผมหรอก เหงื่อของทุกๆ คนน่ะ เป็นเรื่องน่าแปลกอีกอย่าง ถ้าผมวิ่งร้อยเมตร เหงื่อก็จะออก แต่ถ้าผมตะบันใส่พวกผู้หญิงติดต่อกันสองชั่วโมงกลับไม่มีเหงื่อสักหยด แต่ดีแล้วล่ะ ผมอาบน้ำเพื่อให้รู้สึกสบายตัวมากกว่าความสะอาด เพราะทำความสะอาดใช้คลีนนิ่งเอาดีกว่า
ผมขึ้นไปเอาอาวุธและกระเป๋านักเดินทางที่เคลียร์ของออกเกือบหมดแล้ว ส่วนใหญ่พวกแร่ก็เอาไปกองไว้ที่ Workshop ของยูริน เพราะไม่มีการเสื่อมสภาพเลยเอาไว้ข้างนอกกระเป๋าได้ ที่เหลือในกระเป๋าผมเลยมีแค่ยาฟื้นพลังกับกางเกงในของเทพเมดิซเท่านั้น ซึ่งไว้ตอนเช้าผมกะจะทำกรอบใส่ที่เป็นอุปกรณ์เวท ซึ่งต้องรอมิรินตื่นก่อน
ผมย่องออกมาจากบ้านเงียบๆ ตามเคย เพื่อไม่ให้คนอื่นตื่น
จากนั้นก็แวะไปที่กิลก่อน เพื่อสอบถามข้อมูลและดูเควสเพิ่ม
เรื่องเควสจะต้องคอยมาดูบ่อยๆ เพราะมันจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แถมพวกเควสจำกัดครั้งที่ทำเนี่ย มาเร็วไปเร็วมาก อย่างเควสหาแร่ที่พวกผมทำกันเมื่อตอนบ่าย พอกลับขึ้นมาก็เหลือไม่ถึงครึ่งแล้ว
พวกพนักงานกิลจะมีสองผลัด คือกลางวันกับกลางคืน ซึ่งกลุ่มกลางคืนผมไม่คุ้นหน้าเลย แถมส่วนใหญ่เป็นผู้ชายด้วย ผมเลยเดินเข้าไปหาตาลุงหน้าโหดแบบไม่เต็มใจนัก
ข้อมูลที่สอบถามคือดันเจี้ยนอื่นนอกจากลูปัน เพราะที่ลูปันถึงใช้เก็บเลเวลดี แต่มอนสเตอร์มันเยอะไปสู้คนเดียวไม่ไหว แถมรายได้ก็ต้องพึ่งแต่ดวงให้ได้แร่ทองมา เลยอยากจะลองไปสำรวจดูอื่นดูบ้าง ตาลุงหน้าโหดเลยแนะนำผมไปดันเจี้ยนหอคอยลาลาพัส ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองเลย
มันเป็นหอคอยสูงเสียดฟ้าที่อยู่มาตั้งแต่ก่อนมีเมืองกรอซ่าขึ้นมาซะอีก หรือต้องบอกว่าผู้คนตั้งเมืองนี้ขึ้นมาโดยมีดันเจี้ยนลาลาพัสเป็นศูนย์กลางก็ได้ เหตุผลที่ถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งดันเจี้ยนเพราะสิ่งนี้กับดันเจี้ยนที่มีอยู่มากมายนั้นเอง
เพียงแต่มันไม่เหมาะกับผมอีกเหมือนกัน เพราะมอนสเตอร์ขั้นต่ำสุดของลาลาพัสคือ lv 15 มากกว่าผมถึง 5 เลเวล ถ้าเป็นพวกฟรานน่ะ ผมว่าหวานหมูเลย แต่ผมน่ะแค่ระดับธรรมดาเท่านั้น เมื่อบ่ายขนาดสู้กับไมสเตอร์ลีดตัวต่อตัวที่เลเวลพอๆ กัน ผมยังแทบแย่เลย
ส่วนพวกมอนสเตอร์นอกเมือง ก็ไม่แนะนำให้ไปล่า เพราะตกกลางคืน พวกมอนสเตอร์ที่เป็นนักล่าจะออกมา พวกนี้จะเก่งมากและล่ากันเป็นฝูง ผมเลยตัดใจและคงต้องไปที่ลูปันชั้นหนึ่งตามเคย ถึงว่าทำไมนักผจญภัยที่หาปาร์ตี้ไม่ได้จะอัพเลเวลได้ช้ามาก เพราะพื้นที่ที่เก็บเลเวลได้มันน้อยนี่เอง…ปาร์ตี้เหรอ เอ่อแฮะ
ผมวิ่งไปที่ดูบอร์ดอีกที ตรงเควสไม่เกิน Rank 5 มีแปะหาสมาชิกปาร์ตี้อยู่ด้วย ผมมองหาที่ตัวเองสามารถเข้าได้ แต่ส่วนใหญ่รับแต่นักบวชไม่ก็นักเวท ไม่แปลกเพราะสองอาชีพนี้มีน้อยนี่น่าว่าแต่อย่างผมเนี่ยจะนับเป็นฮีลเลอร์ได้ไหมนะ แต่ให้ไปฮีลแยมขาวใส่ตัวผู้นี้ ผมก็ไม่ไหวเหมือนกัน
แต่แล้วผมก็เจออันที่มีคุณสมบัติตรงกับผม
-รับผู้เล่นที่มีกระเป๋านักเดินทางขนาดกลางขึ้นไป
Lv เพศและอายุไม่จำกัด สามารถอยู่ในดันเจี้ยนลูปันได้นานเกิน 3 ชั่วโมง
ไว้ใจได้ ส่วนแบ่งหารตามจำนวนสมาชิกเท่าๆ กันหลังขายไอเท็ม
ติดต่อออกัส รออยู่หน้ากิล
โอ้ว นี้แหละๆ ถึงจะเป็นงานลูกหาบก็เถอะ ผมเลยออกไปหน้ากิลและเรียกหาคนที่ชื่อออกัสทันที
แล้วก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งยกมือขึ้นมา ที่โต๊ะติดถนน
ผมเดินเข้าไปหาและบอกมาขอสมัครตามที่ใบประกาศรับสมาชิก บนโต๊ะของออกัสมีนั่งกันอยู่ห้าคน
ออกัสดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าปาร์ตี้ เป็นชายตัวใหญ่หัวโล้น ผมคุ้นๆ หน้าพี่แกอยู่ อ้อ ใช่ ตาลุงที่ร้านขายอาวุธนี่หว่า เขาเองก็คงจำผมได้เพราะวันนี้ก็พึ่งแวะไป
“อ่ะ นายที่ชอบควงเด็กสาวน่ารักๆ ไปที่ร้านฉันนี่หว่า”
“อ้าวลุง เป็นนักผจญภัยด้วยเหรอ”
“กลางวันเปิดร้านนั่งหลับกลางคืนลงดันน่ะ”
“เปิดร้านแล้วก็ตั้งใจดูแลลูกค้าด้วยสิเฟ้ย!”
ค่อยยังชั่ว เจอคนรู้จักแบบนี้อย่างน้อยก็ไว้ใจได้
“ว่าแต่ไม่พาเด็กๆ พวกนั้นมาด้วยเหรอ”
“กลางคืนพวกนั้นนอนเร็วน่ะ”
ระหว่างที่ผมคุยกับตาลุงอย่างคนรู้จักกัน สาวเอลฟ์ที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ก็ลุกขึ้นมา เธอเป็นคนสวยมากสมเป็นเอลฟ์ ผิวขาวบริสุทธิ์ รูปร่างผอมบางและสูง ใบหน้าสวยงดงามและมีหูแหลมแทรกเลือนผมสีทองออกมาเธอชื่อเนปฟ่า
“เดี๋ยวก่อน ออกัส จะให้เจ้านี้ไปกับพวกเราด้วยจริงๆ เหรอ ดูท่าทางไม่น่าไว้ใจเลย หน้าตาก็…”
“ทั้งหื่นทั้งปลวก”
ผมต่อให้เอง
“เอ่อ ก็ เอาเป็นว่าฉันไม่ไว้ใจนาย!”
“เอาน่าๆ เจ้านี้เป็นลูกค้าที่แวะไปที่ร้านฉันบ่อยๆ ถึงท่าทางจะดูไม่น่าไว้ใจ แต่เด็กๆ ที่เจ้านี้พามาโคตรน่ารักเลยนะ”
“เฮ้ยลุง! ไม่เกี่ยวกันเลย แถมยิ่งพูดยิ่งทำให้ผมดูน่าสงสัยไปใหญ่เลยนะ!”
ผมหันไปตบมุกลุงแกทันที
“ฮุบ! คิกๆๆ ฉันว่าไม่เป็นไรหรอก ดูเป็นคนสนุกสนานดีออก”
พี่สาวอีกคนพูดขึ้น เธอดูอายุราว 30 ใส่เกราะหนักทั้งตัว เธอมีเส้นผมสีน้ำนมตัดสั้นโดยที่ปลายผมงอเข้าหาตัวหมดเลย ถึงจะมีอายุแต่ดูร่าเริงดีทำให้ท่าทางเลยดูอ่อนกว่าอายุจริง ผมได้ยินพวกออกัสเรียกเธอว่า เมดาริน
“อืม เสียเวลามากแล้ว อย่าปฏิเสธเขาเลย”
โอ้ มีหนุ่มหล่อด้วยแฮะ ผมทองตาฟ้าใบหน้าคมรูปร่างกำยำ แต่จากที่สะพายธนูน่าจะเป็นพวกแถวหลัง แถมยังยิ้มเป็นประกายด้วย ไม่ถูกโรคกะพวกหนุ่มหล่อเลยแฮะ แบบอิจฉาอ่ะ เจ้านี้ชื่อว่า กาอิน
“…”
ส่วนคนสุดท้ายบนโต๊ะไม่ยอมพูดอะไรเลย เพียงแค่เหล่มาทางผมเท่านั้น แบบมองตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย คนนี้เป็นสาวน้อยน่ารัก ใส่ชุดคลุมสีขาวยาวถึงหัวเข่าน่าจะเป็นนักบวช เธอมีผมสีทองและไว้เป็นทรงทวินเทล ตัวเล็กน่าจะพอๆ กับฟรานเลยแฮะ เธอคนนี้ออกัสและนำว่าชื่อ ชีเอ้
“ก็ได้ๆ แต่นายน่ะ ห้ามเข้าใกล้ฉันเด็ดขาดเลยนะ!”
“จะอยู่ห่างเท่าที่ห่างได้เลยล่ะครับ”
ผมเองก็ไม่ชอบผู้หญิงนิสัยแบบเนปฟ่าเลย ถ้าให้เลือกผมชอบแบบเมดารินมากกว่า
หลังจากตกลงกันได้และแนะนำตัวกันแล้ว ลุงออกัสก็นำทีมมุ่งหน้าไปที่ดันเจี้ยนลูปันทันที
โดยที่เป้าหมายอยู่ที่ชั้น 3 ของดันเจี้ยนลูปัน มอนสเตอร์เลเวล 15-20 ซึ่งกลุ่มของลุงออกัสเลเวลน้อยกว่าที่ผมคิดไว้อีกแฮะ โดยเรียงจากลุงออกัสไปก็
ออกัส lv 15 เนปฟ่า lv 10 เมดาริน lv 12 กาอิน lv 14ชีเอ้ lv 10
แถมที่น่าตกใจคือพวกนี้เป็นนักผจญภัยกันมาได้เกือบเดือนแล้ว ยกเว้นลุงออกัสกับเมดาริน ที่เป็นมาหลายปีแล้ว แต่ไม่ค่อยได้ล่าเพราะเอาเวลาไปทำแต่งานหลักกันเทียบกับแล้วกลุ่มผมลงดันเจี้ยนไม่กี่ครั้งใช้เวลาไม่ถึงสัปดาห์ก็เลเวลพอๆ กันแล้ว แปลว่านี้กลุ่มผมเลเวลไปไวใช่ไหมเนี่ย เอ่อ ก็ไม่แปลกนะ มีฟรานที่จามทีเดียวจบอยู่ด้วยเลยฆ่ามอนสเตอร์ได้ไวนี่น่า
พวกที่จะไปล่ากันคือมอนสเตอร์ที่ชื่อ Wererat ตามชื่อนั้นแหละ เป็นมอนสเตอร์ครึ่งคนครึ่งหนู มันดรอปมีดสั้นเหล็กที่เป็นอาวุธ แต่ที่พวกลุงมองหาอยู่คือ อัญมณีเลือด ซึ่งเป็น Rare drop ของ Wererat แต่ถึงเป็น rare แต่โอกาสตกก็บ่อยมาก ชั่วโมงถ้าโชคดีก็จะได้ถึง 20 เม็ด ราคาของมันอยู่ที่เม็ดล่ะ 500 รีล
…นี้ปลาในดันเจี้ยนหลังบ้านตูยังแพงกว่าอีกเหรอฟ่ะ!
แต่ถ้าเทียบกับราคาของดรอปที่สองชั้นแรกแล้ว นี้ก็ถือว่าราคาดีนะ แถมตกบ่อยด้วย
ทว่าตอนที่ผมเข้าปาร์ตี้ของลุงออกัสไปนั้น ทุกคนก็รีบหันควับมามองผมทันที
“นี้นายมีสกิล Leadership ด้วยเหรอ แถมท่าทางเลเวลสูงด้วย!”
“ใช่ครับ? ทำไมเหรอ”
ผมไม่เข้าใจเลยว่าลุงออกัสจะตกใจทำไม
“จะ จะยังทำไมอีก นี้แกเป็นแม่ทัพของประเทศไหนกันแน่! ทำไมถึงมีสกิลนี้ได้!?”
พอเนปฟ่าโวยออกมา ผมเลยเข้าใจทันทีเลย สกิลที่ผมได้มาจากมุเอมะ เป็นสกิลระดับแม่ทัพที่จะไม่มีทางได้มาด้วยวิธีธรรมดาหรือจากอาชีพ สรุปเป็นสกิลโคตรแรร์ระดับอาณาจักรเลย ที่พวกเขารู้ได้ทันทีเพราะว่าพอผมเข้าปาร์ตี้ไป พลังของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นมาทันที แถมนี้ขนาดผมไม่ใช่หัวหน้าปาร์ตี้นะ สกิลมันเลยส่งผลลดลงครึ่งหนึ่ง
“เอ่อ ได้มาโดยบังเอิญน่ะครับ”
ผมไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไงดีเหมือนกัน จะบอกไปอึบกับดาร์คเอลฟจนได้มา ก็คง…ไม่ได้หรอกเนอะ
“นายนี้มันน่าสงสัยจริงๆ ด้วย”
เนปฟ่าจ้องผมแบบผู้ร้ายอีกแล้ว
“ถ้าไม่อยากบอก ก็จะไม่ซักหรอกนะ แต่แบบนี้ฉันให้นายเป็นหัวหน้าปาร์ตี้ล่ะกัน ผลของ Leadership จะได้แสดงผลเต็มที่ พวกเราเองก็จะได้สู้สบายขึ้นด้วย”
ออกัสเสนออกมา
“ไม่มีปัญหาครับ”
พวกผมจับปาร์ตี้กันใหม่โดยไม่มีใครค้าน ถึงเนปฟ่าจะชอบโวยผมก็เถอะ แต่เธอก็ยอมทำตามที่ว่าแต่โดยดี

ตอนที่ 40 ลูปันชั้นสาม

พวกเราลงไปผ่านทาง รันเนอร์เวย์ ที่ช่วงเวลาดึกแบบนี้ยังมีคนใช้อยู่เยอะกว่าตอนกลางวันซะอีก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกที่กลับออกมาจากชั้นล่างแล้วสวนทางกัน หือ พวกนักผจญภัยเลเวลสูงๆ นี้ท่าทางแตกต่างจากพวกผมเลยแฮะ ทั้งของส่วมใส่ทั้งบรรยากาศ
พอมาถึงชั้นสามออกัสก็พาไปจุดที่ใช้ล่าประจำ มันเป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีสุสานตั้งอยู่รอบๆ พวกWererat จะอยู่กลุ่มแค่สองสามตัวเท่านั้น ต่างจากจุดอื่นๆ ที่อยู่กันห้าถึงหกตัว
จากนั้นการล่าก็เริ่มต้นขึ้น ลุงออกัสกับเมดารินเป็นแนวหน้าอย่างที่คิด อาวุธของออกัสคือขวานใหญ่ ส่วนของเมดารินคือดาบใหญ่ ส่วนแถวกลางคือผมที่ยืนเฉยๆ กับกาอินที่คอยยิงธนูใส่ ส่วนเนปฟ่ากับชีเอ้ยืนอยู่แถวหลัง เนปฟ่าเป็นผู้ใช้เวทมนต์แฮะ ส่วนชีเอ้เป็นนักบวชจริงๆ ด้วย แถมยังใช้เวทมนต์ดีบัพได้นิดหน่อย
แต่หลังจากสู้ได้ไปสองสามรอบ ผมก็เข้าใจอะไรบางอย่าง…ปาร์ตี้นี้โคตรอ่อนเลย ออกัสช้ามาก กว่าจะเหวี่ยงขวานออกไปได้ Wererat ก็โจมตีใส่ก่อนแล้ว ในสิบครั้งจะจามโดนสักครั้ง ส่วนของเมดารินเรียกว่าไม่มีเชิงดาบเลย เอาแต่เหวี่ยงใส่ตรงๆ ใช้แรงเข้าว่า
ส่วนกาอินจะว่าไงดีล่ะ ปกติล่ะมั่ง ก็ยิงแม่นดีเข้าเป้าทุกดอก แต่ว่า…มอนสเตอร์ไม่เห็นกระจุยแบบตอนที่เดเม่ยิงใส่เลย?
แถวหลังอย่างเนปฟ่าเองใช้เวทได้สองชนิดคือ เวทลูกไฟกับเวทใบมีดสายลม แต่ว่าเธอยิงได้สองสามทีก็ลงไปหอบแล้ว…มาน่าน้อยหรือไงนะ ส่วนของชีเอ้ก็ยังประสานงานไม่ดี เวลาจะฮิลก็ต้องวิ่งไปแนวหน้า เลยวิ่งๆ ถอยๆ ดูวุ่นวายสับสน ทำให้เนปฟ่ากับกาอินเสียสมาธิจนยิงพลาดก็มี เรียกได้ว่ากะจังหวะเข้าไปช่วยรักษาไม่เก่งเลย
“สุดยอด! ไม่เคยฆ่าเจ้าพวก Wererat ง่ายขนาดนี้มาก่อนเลย เพราะนายแท้ๆ”
ลุงออกัสหันมาชมผมใหญ่ เดี๋ยวนะ นี้ง่ายแล้วเหรอ ปกติพวกลุงสู้กันอีท่าไหนเนี่ย ไม่เข้าใจอ่ะ ผมไม่เข้าใจสักนิด หรือว่าสามัญสำนึกผมผิดเพี้ยนไปแล้ว
“อ่ะ เลเวลอัพแล้ว เอ๋? นี้มันอัพง่ายกว่าปกติหรือเปล่านะ?”
กาอินพูดขึ้นมาอย่างสงสัยหลังจากกำจัด Wereratกลุ่มที่ห้าไป
“อ่ะ อัญมณีเลือดดรอปอีกแล้ว! แถมดรอปทีสองอันเลย? มีแบบนี้ด้วยเหรอ?”
เมดารินยืนทำหน้าสงสัยขณะผมเข้าไปเก็บอัญมณีใส่กระเป๋า
ไม่บอกเรื่องสกิล เทรนเนอร์กับพวกดรอปของไปดีกว่าแฮะ
“ไม่ไหวแล้ว พักกันก่อนเถอะ!”
เนปฟ่าทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นหลังจากกลุ่มที่หก คนอื่นเองก็เห็นด้วยเพราะต่างโทรมกันไปหมดแล้ว
…เอาจริงดิ แล้วที่พวกฟรานเดินไล่สับพวกมอนสเตอร์เป็นชั่วโมง แบบไม่มีหอบเลยนั้นมันอะไรกันฟ่ะ!
“…ลุง ปกติล่ากันแบบนี้ตลอดเลยเหรอ”
“อืม ไม่หรอก วันนี้น่ะทำได้เยี่ยมไปเลยนะ ปกติพวกฉันจะฆ่าพวกมันกลุ่มสองกลุ่มก็จะหลบไปพักกันแล้ว”
“สุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ มีไม่กี่ปาร์ตี้หรอกนะที่จะทำได้แบบพวกเรา”
“อืม ใช่ หายากมากเลย”
เอาไงกับพวกนี้ดีฟ่ะ ช้าเป็นเต่าคลานแบบนี้ถึงเช้าเลเวลตูก็ไม่ขึ้น
“เอ่อ ลุง ขอแนะนำอะไรหน่อยได้ไหม”
“หือ ได้สิ ว่ามาเลย”
“ลุงเปลี่ยนอาวุธเถอะ”
“หา! ไม่ได้โว้ย นี้มันของรักของข้าเลยนะ”
“ละ เหรอ งั้นพี่สาว เวลาสู้ยืนตั้งรับไว้ดีกว่าไหม”
ผมสิ้นหวังกะลุงไปล่ะ เลยหันไปบอกเมดารินแทน
“ไม่เอา! ยืนเฉยๆ ก็โดนมันโจมตีน่ะสิ!”
…ไอ้เจ้าพวกนี้ไม่เข้าใจอะไรเลยนี่หว่า!
ช่างเถอะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ไปล่ะกัน
ผมทำใจได้แล้วพลางยืนดูพวกเขาสู้กับมอนสเตอร์อย่างยากลำบากแสนเข็นต่อไป แต่แล้วจู่ๆ ก็มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น
เพราะตาลุงออกัสดันไปแหกปากเสียงดัง จนเรียกเอากลุ่ม Wererat อีกกลุ่มเข้ามา แถมเมดารินชอบพุ่งเข้าไปหามอนสเตอร์ เลยไม่สังเกตการณ์การเคลื่อนไหวของพวกมันให้ดี จนทำให้พวกมันหลุดมาที่แถวหลังด้วย
พอไม่มีกำแพงมนุษย์ช่วยกันมอนสเตอร์ให้ กาอิน ก็เริ่มรนและความแม่นยำลดลง เขายิงพลาดไปสองดอกติด ส่วนยัยเนปฟ่าแทนที่จะร่ายเวทเตรียมไว้ กลับเอาแต่โวยวายอยู่ได้ ช่วยไม่ได้แฮะ…
ผมชักดาบและเดินเข้าไปหา Wererat สองตัวที่หลุดเข้ามา พอเข้าใกล้ระยะก็หยุดยืนอยู่กับที่ วิธีนี้จะทำให้รับมือกับศัตรูจำนวนที่มากกว่าได้ดีกว่าการพุ่งเข้าชน
โชคดีที่ผมเห็นพวกลุงสู้กันจนเบื่อแล้ว เลยพอรู้ว่าพวก Wererat เคลื่อนไหวกันอย่างไง ผมตั้งรับโดยคอยระวังมีดของพวกมัน และรอกระทั่งมันโจมตีมา ผมก็โยกตัวหลบไปด้านหลัง มีดเฉียดตัวผมไป แน่ล่ะ ก็มีดน่ะระยะโจมตีสั้นเพียงแค่การโยกตัวก็หลบพ้นแล้ว
พอมันเสียหลักเพราะโจมตีพลาดแล้ว ผมก็ฟันใส่ข้อมือมันจนขาดทันที สมเป็นดาบมัจฉาคมดีจริงๆ แต่ว่าผมไม่อาจกำจัดมอนสเตอร์ได้ในดาบเดียว ผมเลยฟันไปที่ขามันต่อเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว จากนั้นก็ปิดฉากด้วยการตัดคอของมันอย่างแม่นยำ สามดาบเหรอเนี่ย ถ้าเป็นฟรานฉับเดียวก็จบแล้วแท้ๆ ผมหันไปทาง Wererat อีกตัวที่ชะงักไป และทำแบบเดิมซ้ำอีกรอบ
แน่ล่ะผมไม่ชอบเจ็บตัว แค่โดนไอ้วัวบ้านั้นชนมาทีเดียวก็เข็ดแล้ว เพราะงั้นผมเลยต้องสู้แบบตั้งรับและคอยสวนกลับตอนศัตรูเสียสมดุล แถมมอนสเตอร์น่ะชอบวิ่งเข้าใส่อยู่แล้ว วิธีผมเลยได้ผลเป็นอย่างดี
“สะ สุดยอด! นายนี้มันโคตรเก่งเลยไม่ใช่เหรอ!”
เนปฟ่าตะโกนขึ้นมาเป็นคนแรกอย่างตกใจสุดขีด จากนั้นทุกคนก็รุมมาที่ผมทันที
“หน้าไม่ให้เลย แต่ทำไมเก่งแบบนี้เนี่ย!”
ลุงออกัสทุบหลังผมใหญ่เลย
“ทำได้ไงน่ะ! โยกหลบแล้วฟันฉับๆ ใส่เลยน่ะ เท่ห์ไปเลยอ่ะ”
เมลาดินพยายามทำเลียนแบบท่าทางของผมแต่ไม่ได้ใกล้เคียงซะเลย
“ตะกี้นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว ขอบใจที่ช่วยนะ”
กาอินชอบคุณผมด้วยแววตาประทับใจ
“…”
ชีเอ้ไม่พูดอะไร เพียงแค่มองมาแบบทึ่งๆ เหมือนกัน
ครั้งแรกเลยล่ะ…นี้เป็นครั้งแรกเลยนะที่รู้สึกว่าตัวเองเก่งจริงๆ ผมดีใจจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลยล่ะ ทั้งๆ ที่ตอนอยู่กับพวกฟรานผมเป็นได้แค่ไอ้อ่อน ทำได้แค่เป็นกาฝากดูดเลเวลพวกเธอเท่านั้นเอง
“เก่งแบบนี้ขึ้นไปอยู่แถวหน้าด้วยเลยสิ”
เนปฟ่าบอกซึ่งผมก็กะทำแบบนั้นอยู่แล้ว แต่ว่าเรื่องอะไรจะยอมเหนื่อยคนเดียวล่ะ
“ได้ครับ แต่ว่าผมมีวิธีทำให้พวกเราล่าได้เร็วขึ้น สนใจไหมครับ”
ทุกคนพยักหน้ารับทันที ก็นะกับคนที่ดูมีฝีมือพูดอะไรไปคนอื่นเขาก็ฟัง ลองเป็นไอ้ลูกหาบคนตะกี้สิ พูดอะไรไปเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาหมด
วิธีของผมไม่ได้ยุ่งยากเลย แค่ปรับเปลี่ยนวิธีสู้ของพวกเราเท่านั้น
ลุงออกัสในเมื่อไม่ยอมทิ้งขวาน ผมเลยให้ลุงแกไม่ต้องเหวี่ยง เพราะเหวี่ยงไปก็ไม่โดน แต่ให้ใช้วิธีพุ่งชนใส่มอนสเตอร์เลย เพราะตัวลุงแกใหญ่อยู่แล้ว พอศัตรูเซหรือล้ม ค่อยใส่ขวานฟันไป แบบนี้มีโอกาสโดนมากกว่า
ส่วนเมดารินเธอไม่มีเชิงดาบ จะให้ทำแบบผมก็ไม่ได้ แต่เธอมีเกราะเหล็กอยู่ มีดของ Wererat ทำอะไรเธอได้ไม่มาก เพราะเลยบอกให้เธอห้ามโจมตีจนกว่าจะถูก Wererat โจมตีใส่ก่อน เพราะการพุ่งใส่แบบไม่คิดของเธอนั้นแหละที่ทำให้พลาดระยะลงดาบดีๆ ไป
ของกาอิน ผมว่าเขาเก่งอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นไปได้อยากให้เล็งไปจุดสำคัญมากกว่านี้ เช่นดวงตาหรือขา เพราะทำให้ศัตรูชะงักหรือหยุดเคลื่อนไหวไปได้ตัวหนึ่ง ส่งผลมหาศาลต่อทีม และอย่าสุ่มสี่สุ่มห้ายิงไปจนเรียกมอนสเตอร์มาหาตัวเอง
เนปฟ่านั้นผมต้องสอนเยอะหน่อย แต่โชคดีที่เธอยอมฟัง ผมบอกเธอว่าให้ยิงเวทเปิดไปครั้งเดียวพอ จากนั้นให้ร่ายเวทรอไว้รับมือกรณีที่มอนสเตอร์หลุดมาจากแถวแรก ถ้าสามารถใช้เวทหนึ่งครั้งต่อหนึ่งการต่อสู้ เธอก็จะใช้เวทได้ต่อเนื่องนานขึ้นเยอะเลย
ชีเอ้เองผมบอกให้เธอยืนเฉยๆ ไม่ต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงเพราะมันทำให้คนอื่นเสียสมาธิ ส่วนถ้าใครบาดเจ็บ ก็ให้เป็นฝ่ายนั้นค่อยๆ ถอยหามาให้รักษาที่แนวหลัง แนวหน้าตอนนี้มีสามคนแล้ว เพราะงั้นผลัดกันขึ้นกันลงได้สบาย แถมการไปรักษาที่แนวหน้านอกจากจะได้ผลที่ไม่ค่อยดีแล้ว ตัวเธอยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีเองด้วย
พอจัดระเบียบทีมเสร็จ พวกผมก็เริ่มการล่าต่อ ซึ่งผลออกมาดีจนพวกออกัสแทบไม่เชื่อว่าเป็นตัวเองคนก่อนหน้านี้
กลุ่มของ Wererat ไม่เพียงพอต่อการล่าของทีมผมอีกต่อไปแล้ว ผมเลยแนะนำให้ย้ายไปจุดที่มี 5-6ตัวแทน ซึ่งถึงจะตึงมืออยู่บ้าง แต่ก็สู้ได้แถมทำเวลาได้ดีอีกต่างหาก ดูมีความเป็นทีมเวิรก์ขึ้นมากว่าเดิมมาก และเมื่อเห็นว่ากำลังจะพลาดพรั้งผมก็จะใช้Glory ออกไป
“ตะกี้นี้มันอะไรกันนะ! แap: break-word;">เลเวลสูงขึ้นล่ะนอะไรกัน”
ออกัสที่พึ่งเหวี่ยงขวานสับจน Wererat กระเด็นตะโกนถามขึ้นอย่างตกใจ เพราะตะกี้เข้าเสียหลักจนโดน Wererat โดนเข้าใส่จนนึกว่าจะแย่ซะแล้ว
“Glory น่ะครับ เป็นบัพช่วยเพิ่มค่าพลังได้หนึ่งนาที”
ผมบอกไปขณะจัดการพวก Wererat ที่เหลือ อ่ะ รู้สึกจะง่ายขึ้นแฮะ ดาบเดียวก็ฆ่าได้เลย เพราะGlory เลเวลสูงขึ้นล่ะมั่ง
แต่กว่าผมจะรู้ตัว ทุกสายตาก็จ้องมาทางผมแล้ว
“นายมันจะสุดยอดเกินไปแล้วมั่ง มีทั้ง Leadershipใช้ดาบก็เก่ง แถมยังมีบัพอีก”
เนปฟ่าเดินมาวนดูรอบๆ ตัวผมแบบยิ่งระแวงหนักกว่าเดิม ดูท่าเด่นเกินไปก็เป็นผลลบนะ
คนอื่นๆ ก็สงสัยไม่ต่างกัน เอ๋? หรือว่ามีความสามารถหลายๆ อย่างมันแปลก จะว่าไปผมก็แปลกจริงๆ แหละ เพราะผมสามารถได้รับสกิลมาจากผู้หญิงที่ผมมีอะไรด้วยได้
แต่ผมก็ไม่คิดจะบอกความลับตัวเองให้ใครรู้ เลยบ่ายเบี่ยงหัวเราะกลบเกลื่อนไป แล้วก็ชวนทุกคนไปล่าต่อ พอเจอมอนสเตอร์เดี๋ยวก็คงลืมๆ กันไปเอง
จากที่ทุกคนคิดว่าจะใช้เวลาห้าถึงหกชั่วโมง กลับจบได้ในชั่วโมงครึ่ง ตอนเดินกลับขึ้นมาทุกคนเลยพูดคุยกันสนุกสนาน เพราะยังตื่นเต้นกับการล่าครั้งนี้ไม่หาย พวกเธอทำได้ดีจนเกิดความมั่นใจขึ้นมาบ้างแล้ว
ส่วนผมแย่หน่อย เพราะแทบไม่ได้อะไรเลย เลเวลขึ้นมาเพียงแค่หนึ่ง ส่วนสกิลไม่มีอันไหนที่เลเวลอัพเลย
เสียเวลาชะมัด

ตอนที่ 41 ความงามที่ห้ามแตะต้อง

ผมกลับขึ้นมารายงานตัวและไปที่กิลเพื่อขายอัญมณี ซึ่งพวกเราหามาได้ 120 เม็ด พอหารกันก็ได้คนละหมื่นรีลพอดี ถือเป็นรายได้ที่เยอะเอาเรื่องเลยนะสำหรับค่าครองชีพที่นี้ด้วยเวลาสองชั่วโมงในการไปกลับ
พอออกมาจากกิลออก้าก็ชวนผมไปดื่มด้วย แต่ผมขอตัวก่อน เพราะมีที่อยากไป แน่ล่ะแทนที่จะไปเสียเวลานั่งดื่มเหล้า ผมไปเที่ยวซ่องเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ดีกว่า เพราะดุ้นผมมันตุงขึ้นมาตั้งแต่ดูก้นงอนๆ ของชีเอ้ตอนขาเดินกลับขึ้นมาแล้ว
ผมเลือกไปซ่องอื่นดูบ้าง ซึ่งแห่งที่สองเนี่ยอยู่ใกล้บ้านผมพอสมควร เพราะมันอยู่ติดกับประตูทางทิศเหนือของเมือง
ที่นี้เป็นอาคารไม้สามชั้น ที่ชั้นล่างเป็นบ่อนพนัน ผมไม่สนใจเรื่องการพนันอยู่แล้ว เลยผ่านไป ส่วนชั้นสองจะเป็นแบบที่แรกที่ผมไป คือเป็นห้องๆ ให้ดูโสเภณีที่ต้องการ แต่อย่างว่าที่นี้นั้นเกรตต่ำกว่าที่แรกทที่ผมไป พวกโสเภณีเลยมีแต่แบบ…ค่อนข้างเน่าน่ะ
แต่พอผมถามถึงชั้นสามว่ามีอะไร คนคุมซ่องก็บอกว่าชั้นสามไว้สำหรับพวกลูกค้ามีระดับ และข้างบนจะมีแต่นางโลมเท่านั้น ส่วนที่ว่าโสเภณีต่างจากนางโลมตรงไหนนั้น ก็ประมาณว่าโสเภณีอึบได้นางโลมห้ามอึบ
พวกนางโลมจะเป็นคล้ายๆ สาวนั่งดื่ม คอยดื่มเหล้าเป็นเพื่อนและพูดคุย แต่ถ้าเป็นนางโลมชั้นสูง จะสามารถเล่นดนตรีหรือหนวดเพื่อนวดผ่อนคลายได้ ส่วนราคานั้นจะค่อนข้างแพง มีราคาตั้งแต่ 1,000 ถึง5,000 เลยทีเดียว เอ่อ สำหรับราคาเที่ยวซ่องของโลกนี้ก็คือแพงมากล่ะนะ
“แล้วตอนนี้มีคนไหนว่างบ้างล่ะ”
“เอ่อ เรียนคุณลูกค้า ตอนนี้มันดึกมากแล้ว นางโลมเลยถูกจองตัวเต็มหมดแล้วครับ”
“อ่า ถ้างั้นไม่เป็นไร”
แต่พอผมกำลังจะกลับ คนคุมก็เข้ามากระซิบบอกผม
“แต่ว่าถ้าไม่เกี่ยงเรื่องราคาก็ยังมีว่างอยู่อีกคนนะครับ”
“ราคาที่ว่าเท่าไร”
“เจ็ดเอ่อ ไม่สิหกพันครับ”
ผมควักจ่ายไปก่อนถามรายละเอียด
“แล้วทำไมถึงแพงกว่าคนอื่นแล้วตะกี้ยังบอกว่าไม่ว่างอีก”
“ก็เพราะราคาแพงน่ะครับ เลยไม่มีลูกค้าท่านใดสู้ราคา แถมเธอเองก็มีกฎที่ต้องปฏิบัติตามค่อยข้างจุกจิกมากเลย”
“ว่ามา”
“ก็…ข้อแรกเลยคือห้ามแตะต้องตัวเธอครับ ข้อสองถามพูดจาลามกหรือลวนลามเธอด้วยคำพูด ข้อสาม”
“เดี๋ยวมีกี่ข้อเนี่ย!”
“เอ่อ ไม่เยอะหรอกครับ ต่อเลยนะครับ ข้อสามคุณลูกค้าดื่มเหล้าได้แต่ห้ามบังคับเธอดื่ม ข้อสี่เธอจะเล่นดนตรีให้ฟังก็ต่อเมื่อตัวเธอต้องการเท่านั้น”
“โคตรเอาแต่ใจเลยนี่หว่า!”
“ครับ ขอโทษด้วยนะครับแต่ถ้าไม่ทำตามเธอก็จะไม่ยอมรับแขกเลยน่ะครับ”
“หืม…จะให้ไปนั่งมองเฉยๆ ก็น่าเบื่อนะ ต่อให้เป็นคนสวยก็เถอะ”
ผมนึกว่าแบบนี้คงได้เสียเงินฟรีแล้วแน่ แต่แล้วเซ็นเซอร์ความหื่นของผมก็ทำงานขึ้นมา พร้อมกับชี้ทางสว่างให้กับตัวผม เลยรีบไปซิบบอกคนคุมและจ่ายเงินให้ไปอีกห้าร้อย
“อ่ะ ได้ครับแบบนั้นไม่ผิดกฎ แล้วผมจะรีบไปจัดการให้ครับ เชิญคุณลูกค้าทางนี้ครับ”
จากนั้นคนคุมก็พาผมมายังห้องด้านในสุดของชั้นสาม ห้องนี้ค่อนข้างกว้างทีเดียวถ้าเทียบกับห้องอื่นๆ
พอเปิดเข้าไปก็มีคล้ายๆ โต๊ะน้ำชาอยู่ตรงขอบหน้าต่าง ด้านในสุดของห้องเป็นเตียงนอนที่ดูหรูหราทีเดียว นี้คงเป็นห้องนอนของเธอด้วยสินะ
นางโลมที่นั่งรอผมอยู่บนโต๊ะนำชา เห็นแว่บแรกผมนึกว่าเป็นตัวละคร 2D ที่หลุดออกมาจากเอโรเกะที่ผมเคยเล่นซะอีก ความสวยของเธอโดดออกจากความเป็นมนุษย์ไปแล้ว แบบนี้อย่าว่าแต่หกพันเลย เป็นหมื่นผมก็ยอมจ่ายเพื่อจะให้ได้มานั่งดูเธออย่างเดียว ผมหายสงสัยล่ะว่าทำไมที่นี้ยังเก็บเธอไว้ทั้งๆ ที่เรื่องมากขนาดนี้
ภาพลักษณ์ของเธอเหมือนกับราชินีของประเทศยุโรป ทั้งๆ ที่อายุไม่น่าจะเกิน 16-17 เลย ผมสีทองทรงสว่างที่ดูนุ่มมีสปริง ใบหน้าที่สวยคมและดูมีบารมี คิ้วเรียวบางเป็นเส้น ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพู เธอนั่งหลังตรงจิบน้ำตา จนหน้าอกคัพ D ตระหง่านเบียดชุดสีขาวอันหรูหรา ปกคอเป็นระบายตั้งสูง คอเสื้อเป็นจีบระบายยาวมาถึงท้อง เป็นแบบเสื้อสองจีบทับซ้ายขวา แขนยาวปลายแขนเป็นจีบเช่นกัน และผมไม่ใช้มองทะลุกับเธอ ไม่รู้สิ ผมรู้สึกว่ากับเธอคนนี้ ผมจะต้องทำให้เธอเปิดให้ดูเอง มันถึงจะตื่นเต้น
ผมเข้าไปนั่งตรงกันข้ามกับเธอ ซึ่งมีขวดเหล้าและแก้วคนละแบบกันเธอตั้งอยู่ เธอเหลือบมามองผมดวงปลายหางตาตอนที่เดินเข้าไป จากนั้นก็ไม่มองอีกเลย เธอหันออกไปนอกหน้าต่างแล้วทำเป็นไม่สนใจอีก
“หือ ผมคิดว่าผู้สูงศักดิ์จะมีมารยาทในการแนะนำตัวดีกว่านี้ซะอีก”
“เจ้าจะเอาอะไรกับหญิงนางโลม เหล้าอยู่นั้นจัดการเอง”
“เช่นนั้น”
ผมลุกจากเก้าอี้ และไปคุกเข่าลงข้างหนึ่งด้านข้างเธอ และก้าวแนะนำตัวอย่างสุภาพที่สุด
“ผมมีนามว่า โรมะ เป็นนักผจญภัยถึงมาอยู่เมืองนี้ได้ไม่นาน ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
พอเธอเห็นท่าทางของผมก็แปลกใจ ถึงท่าทางเธอจะสงบแต่แววตาและลมหายใจของเธอรนรานน่าดู
“ฉัน อาเดไลท์ อย่างที่เห็นเป็นแค่หญิงนางโลมเท่านั้น ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”
เธอลุกขึ้นจับชายกระโปรงและคำนับผมพร้อมกับแนะนำตัวกลับ
อย่างที่คิดไว้เลย เธอเป็นหรือเคยเป็นคนชั้นสูงมาก่อน การทักทายแบบให้เกียรติถือเป็นมารยาท ที่ต้องแนะนำตัวกลับไม่ว่าจะอย่างไงก็ตาม
“เจ้านี้แปลกนะ เป็นนักผจญภัยแต่กลับวางตัวได้ดีกว่าขุนนางบางคนซะอีก”
“ผมถือว่าเป็นคำชมนะครับ แล้วตัวผมคิดว่า มารยาทเป็นสิ่งที่ดีและสวยงาม ถึงแม้จะไม่ใช่ขุนนางแต่ก็ควรรู้จักไว้ ดังมีคำกล่าวไว้ว่า เมื่อใดที่เราให้เกียรติ เราจะเกียรตินั้นกลับคืนมา”
คำพูดของผมคงสร้างความประทับใจให้เธอได้นิดหน่อย แก้มเธอเลยแดงขึ้นมาหน่อยๆ
“ฉันไม่เคยได้ยินคำพูดเช่นนั้นมาก่อน แต่ฉันเห็นด้วยอย่างยิ่ง แล้วไม่ทราบท่านโรมะมาทำอะไรที่เมืองนี้เหรอคะ”
“ผมมาสร้างฮาเร็มที่นี้น่ะครับ”
พรืด!
เธอสำลักน้ำชาที่กำลังจิบอยู่ ถึงจะรู้ตัวว่าทำเสียมารยาทไป แต่เธอคงตกใจจริงๆ เลยรีบเช็ดปากและมองดูผมด้วยสายตาดูแคลนทันที
“ผมไม่ชอบโกหกน่ะครับ ถึงแม้บางคำพูดจะฟังดูไม่เข้าหู แต่ถ้าไม่เกินขอบเขตที่ตอบได้ ผมจะไม่โกหก โปรดให้อภัยถ้าเป็นเรื่องที่ทำให้ไม่พอใจนะครับ”
“มะ ไม่หรอก ก็ท่านเป็นผู้ชายนี่นะ แถมขนาดมีเงินมาซื้อเวลาอยู่กับฉันได้ แปลว่าคงมีฐานะอยู่พอสมควร”
“ฐานะไม่มีหรอกครับ แค่ใช้เงินที่หาได้เกือบทั้งหมดของคืนนี้เท่านั้นเอง แต่คุ้มค่าจริงๆ อาเดไลท์ซัง สวยจนค่าเงินไม่อาจเทียบได้จริงๆ”
“ฮิ ถึงชมไปฉันก็ไม่เปลี่ยนกฎหรอกนะ”
“เรื่องนั้นแน่นอนครับ ถึงอยากเปลี่ยนผมก็ไม่ให้เปลี่ยนแล้วด้วยล่ะ”
ตอนนั้นเองที่คนคุมเข้ามา พร้อมกับพาผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมจ่ายเงินให้ไปก่อนหน้านี้เป็นค่าตัวของเธอ
“เชิญตามสบายนะครับ”
คนคุมยิ้มร่า และรีบออกไปทันที
“นี้มันอะไรกัน?”
ดูเหมือนอาเดไลท์ยังตามไม่ทัน แต่ผมก็ได้กวักมือเรียกหญิงสาวที่เข้ามาใหม่ให้เข้ามาหา
เธอไม่ได้สวยอะไรมากนัก แต่ก็เป็นของคุณภาพดีของที่นี้ที่จ่ายด้วยเงินห้าร้อย เธอมีสีหน้าที่ไม่มีความสุขแม้แต่น้อย เหมือนแบบไม่เต็มใจรับแขก แต่ก็ยอมเดินมาหาตามที่เรียก
ผมไม่พูดอะไรมาก ดึงตัวเธอขึ้นมานั่งตัก และล้วงมือเข้าไปในกระโปรงเธอทันที ผมเขี่ยเล่นหอยเธอผ่านกางเกงในฝักทอง
อาเดไลท์ทุบโต๊ะดังปัง และลุกขึ้นมาต่อว่าผมทันที
“นี้ท่านคิดจะทำอะไรกัน! ถ้าจะทำเรื่องแบบนี้ก็ออกไปจากห้องนี้เลยนะ!”
“ใจเย็นๆ สิครับ ผมก็ทำตามกฎทุกอย่างเลยนะ มีตรงไหนที่ผมละเมิดกฎของอาเดไลท์ซังเหรอครับ”
“มะ ไม่มี แต่ว่า!”
“เงินผมก็จ่ายไปแล้ว แถมตั้งแต่เข้ามาผมก็ไม่ได้ทำผิด แต่จู่ๆ จะไล่ไป ไม่เท่ากับว่าผมโดนโกงเหรอครับ”
“…อยากจะทำอะไรก็เชิญ!”
ดูเธอจะโกรธมากจริงๆ แต่ว่านะ จ่ายเงินไปตั้งเยอะแล้ว ผมขอทำตามใจตัวเองบ้างเถอะ ถึงจะแตะต้องหรือลวนลามเธอไม่ได้ แต่ผมใช้เป็นกับแกล้มได้นี้ คนที่ผมให้คนคุมพามาถึงหน้าตาไม่ดี แต่ถ้าอึบเธอไปมองหน้าอาเดไลท์ไป มันก็แทนกันได้นะ
“ว่าแต่ชาที่อาเดไลท์ซังดื่มอยู่ เรียกว่าอะไรเหรอครับ”
หญิงสาวspan>…”
เธอเมิ่นผมอีกแล้ว แต่ขณะช่วยคุย ผมก็เล้าโลมหญิงสาวที่นั่งตักไปด้วย ตอนนี้หอยเธอเริ่มแฉะแล้ว สีหน้าจากดูไม่เต็มใจ เริ่มแดงขึ้นมาและเหมือนกำลังอดทนกับอะไรบางอย่างอยู่ด้วยความอึดอัดทรมาน
“ผมเองก็ชอบดื่มชานะครับ นอกจากนั้นยังสนใจเครื่องดื่มหลายๆ แบบด้วย ไม่ทราบว่าอาเดไลท์ซังรู้จักกาแฟไหมครับ”
“กาแฟ?”
ได้ผลหัวข้อสนทนาดึงเธอกลับมาพูดคุยได้อีกครั้ง
“ครับ มันมีลักษณะเหมือนเม็ดถั่วแต่สีดำ เวลาเอามาบดแล้วต้มจะได้น้ำออกมาเป็นสีดำที่หอมมาก ถึงจะมีรสขมไปบ้างแต่ถ้าเติมนมหรือน้ำตาลไปจะเพิ่มรสชาติให้อร่อยขึ้นได้ครับ”
“…หรือจะเป็นเคาสรู”
“อะไรคือเคาสรูเหรอครับ?”
“เป็นเครื่องดื่มที่คนแดนใต้นิยมน่ะ ฉันไม่เคยเห็นหรอกนะ แต่ฟังมาว่ามันมีสีดำและมีกลิ่นหอมมาก ทว่าเพราะมีรสขมจึงไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายนัก”
“กรี๊ดดดด!”
หญิงสาวบนตักผมเธอร้องกรี๊ดออกมาเพราะเธอเสร็จแล้ว ผมก็คุยเพลินเลย สีหน้าเธอตอนนี้หยาดเยิ้มไปด้วยความสุข ต่างจากตอนเข้ามาเป็นคนละคนเลย ดูท่าอาเดไลท์เองก็สงสัยว่าผมทำอะไรเธอเหมือนกันแน่ๆ เลยมองมาที่มือที่ล้วงเข้าไปในกระโปรง
“แล้วที่เมืองนี้พอจะหาซื้อได้ไหมครับ”
ผมชวนคุยต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังถอดกางเกงตัวเองและจับดุ้นยัดเข้าไปในหอยของหญิงสาวต่อเลย เธอซี๊ดปากเสียงดังขึ้นมาอีก
“ยะ ใหญ่จัง ใหญ่มากเลย ทั้งใหญ่ทั้งยาว นะ แน่นไปหมด”
“ซู่ เบาๆ สิ ผมกำลังคุยกับอาเดไลท์ซังอยู่นะ”
ผมบอกกับหญิงสาวเธอหันมามองผมด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยวแล้วรีบกล่าวขอโทษทันที
“แล้วที่ผมถามตะกี้”
“…อะ อ่ะเอ่อตะกี้ถามว่าอะไรนะ”
ดูอาเดไลท์จะจดจ่ออยู่กับใต้กระโปรงของหญิงสาวน่าดู ก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอไม่เคยเห็นโสเภณีที่อยู่ที่นี้ทำหน้าแบบนี้มาก่อน หน้าที่ดูมีความสุขจนเหมือนจะกลายเป็นบ้า
“ผมถามว่าจะหาซื้อเคาสรูที่เมืองนี้ได้ไหมครับ”
“จะ จะมีกองคาราวานมาที่เมืองกรอซ่าเดือนล่ะครั้ง บางครั้งก็จะมีเคาสรูมาขายเหมือนกัน”
“ขอบคุณมากครับ เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์จริงๆ ไว้ถ้าผมหาซื้อมาได้แล้ว จะทำมาให้ลองชิมดูนะครับ รับรองว่าอาเดไลท์ซังต้องชอบแน่”
ขณะที่ผมพูดไป ก็จับเอวของหญิงสาวกระแทกไปเบาๆ ด้วย แต่นั้นทำให้เกิดเสียงร้องขึ้นมาอีก
“อ่ะอืม ฉันก็อยากจะลองดื่มดูสักครั้งเหมือนกัน”
ถึงอาเดไลท์จะคุยกับผมตามปกติ แต่สายตาเธอจ้องมองแต่หญิงสาว
จากนั้นผมก็ชวนคุยไปเรื่อย ขณะที่หญิงสาวเป็นฝ่ายขย่มเองแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเธอขย่มแรงจนเกิดเสียงลามกออกมาไม่หยุด และในไม่กี่นาทีเธอก็ถึงจุดสุดยอด เสียงร้องกรี๊ดของเธอตอนถึง เล่นเอาอาเดไลท์สะดุ้งเฮือก ถึงอยู่ที่นี้มาจนชินแล้ว แต่เธอไม่เคยได้ยินเสียงร้องแบบนี้มาก่อนเลย
“อ้าว สลบไปซะแล้ว ขอตัวเดี๋ยวนะครับ”
ผมลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าเธอให้เข้าที่ แล้วแอบยัดเงินค่าขนมไปให้ร้อยหนึ่ง ก่อนจะอุ้มไปส่งคนคุมที่นอกห้อง และจ่ายเงินเพิ่มไปอีกสามพัน และคราวนี้ให้พามาสี่คนเลย ส่วนเงินที่เหลือให้จัดโต๊ะพร้อมอาหารมาให้ด้วย คนคุมทำหน้างงๆ แบบไม่คิดว่าผมจะต่อไหว แต่ก็รับเงินมาแล้วเลยต้องทำตามที่ผมบอกไป
ตอนที่ผมเดินกลับเข้ามาในห้อง อาเดไลท์ลุกหนีไปยืนติดกำแพงแล้ว ขณะสายตาจ้องไปที่จุดเดียว อ้อ ลืมใส่กางเกง แถมดุ้นยังตั้งเด่เลย ทำให้อาเดไลท์ตกใจซะแล้ว
“นะ นั้นมันอะไรน่ะ! เจ้าใช้สิ่งนั้นใส่เข้าไปในตัวหญิงสาวคนเมื่อกี้เหรอ! เป็นไปไม่ได้”
ผมนั่งลงที่เก้าอี้อย่างสงบ ส่วนกางเกงก็ไม่ต้องใส่หรอก เพราะเดี๋ยวก็ต้องถอดอีก
“ไม่ได้นะครับอาเดไลท์ซัง ตามกฎพวกเราจะไม่พูดคุยเรื่องลามกกันไม่ใช่เหรอครับ”
อาเดไลท์เหมือนพึ่งจะรู้สึกตัว เธอหลบหน้าและยอมกลับมานั่งตามเดิม
จากนั้นผมลองชวนเธอเล่นเกมดู เพราะเห็นในห้องมีกระดานหมากรุกอยู่ ถึงจะไม่เหมือนหมากรุกในโลกของผมซะทีเดียว แต่ผมศึกษาวิธีเล่นมันมาจากในห้องสมุดแล้ว เลยพอจะเข้าใจกฎและวิธีเล่นของมัน
“เจ้าเล่นเป็นด้วยเหรอ! ขนาดในวังยังแทบหาคนเล่นเป็นไม่ได้เลย”
“เอ๋? อาเดไลท์ซังเคยอยู่ในวังด้วยเหรอครับ”
เธอหลุดปากออกมา พอรู้ตัวก็รีบยกมือขึ้นปิดปากทันที และผมก็ไม่คิดจะบังคับถามให้เธอรำคาญใจ เลยปล่อยผ่านมันไป
“ผมเองก็ไม่เคยเล่นหรอกครับ แต่ศึกษาวิธีเล่นมันมาจากในหนังสือแล้ว ดีจังจะได้ลองเล่นดูจริงๆ สักที ว่าแต่จะให้เกียรติเล่นกับผมสักเกมได้ไหมครับ”
“ได้สิ แต่ฉันไม่ออมมือให้หรอกนะ”
“ดีเลยครับ”
แต่ขณะวางตัวหมากลงบนกระดานเพื่อเรียงตำแหน่งเริ่มต้นกันอยู่ คนคุมก็เข้ามาพร้อมกับหญิงสาวอีกสี่คน ทุกคนมีใบหน้าดูตื่นเต้นเล็กน้อย แถมดูแปลกใจที่โดนเรียกมาพร้อมกันสี่คน โดยแขกคนเดียว แถมคนนั้นยังอยู่ในห้องของอาเดไลท์ด้วยจากนั้นโต๊ะอาหารก็ตามมา
“อืม เธอก่อน มานั่งนี้ ส่วนพวกเธอที่เหลือก็นั่งกินกันไปตามสบายนะระหว่างรอ”
ผมชี้ไปที่คนตัวเล็กสุด แล้วเธอก็เดินมาหาแบบกล้าๆ กลัวๆ แต่ผมก็ทำแบบเดิม ให้เธอนั่งตักแล้วเล้าโลมจนกว่าเธอจะพร้อม
ที่โลกเก่าผมไม่เก่งหมากรุกเท่าไร แต่ก็พอเล่นได้ในระดับที่ไม่แพ้ใครง่ายๆ เพราะแม่ผมชอบมาก เลยบังคับผมไปนั่งเล่นเป็นเพื่อนมาตั้งแต่จำความได้เลย
ระหว่างที่เล่น อาเดไลท์จะเเดไลท์ซัง”
ยิ่งตอนที่ผมสอดใส่ดุ้นเข้าไปในตัวหญิงสาว ดูอาเดไลท์จะสนใจเป็นพิเศษ เธอคงไม่เข้าใจว่าของที่ใหญ่ขนาดนี้จะเข้าไปในตัวผู้หญิงได้อย่างไง แต่เพราะผมไม่ได้ถอดเสื้อผ้าพวกเธอออก อาเดไลท์เลยได้แต่ต้องคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้ชุดของพวกเธอไปเอง
หลังจากหญิงสาวตัวเล็กเสร็จไปสองรอบก็สลบไป ผมเลยให้พวกที่เหลือมาพาตัวออกไป แล้วก็ไม่ลืมยัดเงินค่าขนมให้ไปด้วย พร้อมกับดึงคนต่อไปเข้ามานั่งตักต่อ
“นี้เจ้าทำไปสองคนแล้ว ยังจะทำต่ออีกเหรอ!”
“ไม่ได้นะครับ ผิดกฎซะเองไม่ดีนะครับอาเดไลท์ซัง”
“…”
เธอก้มหน้าลงเล็กน้อย คงคาดไม่ถึงเลยว่าผมจะเล่นไม้นี้ใส่ แต่ว่าเธอคงอดสงสัยไม่ได้แล้วจริงๆ นั้นแหละ
“ฉันไม่ได้พูดเรื่องลามก แต่เรื่องนี้เป็นวิชาการความรู้ ฉันรู้มาว่าผู้ชายถ้าได้เสร็จไปแล้วรอบหนึ่ง ส่วนนั้นของร่างกายก็จะไม่ทำงานอีก มีเพียงส่วนน้อยที่สามารถทำได้ถึงสองรอบ แต่นี้เจ้าทำได้มากถึงสามรอบ มีเคล็ดลับอะไรกันแน่”
“คือว่าผมตอบเป็นวิชาการแบบที่อาเดไลท์ซังต้องการไม่ได้หรอกนะครับ แต่ว่าสำหรับผมแล้ว…”
ผมมองไปยังผู้หญิงอีกสองคนที่นั่งจ้องมาทางผมพลางหนีบขาและบิดตัวไปมาอยู่
“หมดนี้คงไม่พอดับความต้องการทางเพศของผมได้หรอกครับ”
จากนั้นผมก็ชวนเธอให้กลับมาเล่นเกมต่อ ซึ่งเกมแรกผมแพ้ไปอย่างเฉียดฉิว แต่ผมเริ่มจับจุดได้แล้ว
“เล่นเก่งนี้ อยากแก้มือไหม”
“เอาสิครับ”
ตอนนั้นเองหญิงสาวคนที่สามก็กรี๊ดออกมาและหลับคาอกผมไป เพราะเธอคนนี้ผมจับให้นั่งหันหน้าเข้าหาผม
จากนั้นก็เป็นคนที่สี่ เธอคนนี้รีบวิ่งเข้ามาเลย สงสัยจะทนไม่ไหวแล้ว พอล้วงดูหอยเธอเปียกแฉะเลย ผมเลยเล่นเธอพักหนึ่งแล้วจับใส่เลย แถมคนนี้ไม่ได้นั่งตัก แต่ขึ้นไปนั่งย่องๆ บนหน้าขาผม ทำให้กระโปรงเปิดออกจนอาเดไลท์เห็นเต็มตา
ตอนแรกอาเดไลท์นั่งอ้าปากค้างดูผมต่อคนที่สี่ได้โดยไม่ต้องพักแต่พอเธอเห็นหอยที่คาบดุ้นผมจนเนื้อปลิ้นออกมา เธอก็รีบยกมือขึ้นปิดหน้าทันที ผมคิดว่านี้คงมากไปสำหรับอาเดไลท์ เลยดึงกระโปรงหญิงสาวลงมาปิด และเล่นเกมกันต่อ
คนที่สี่อึดมาก ขนาดเสร็จไปแล้วสามรอบ ยังมีแรงขย่มผมต่อ ส่วนเกมที่ผมเล่นกับอาเดไลท์ เข้าสู่เกมที่ห้า โดยเกมที่สอง กับ สาม ผมก็แพ้เธออยู่ แต่เกมสี่ผมจับทางเธอได้แล้ว แต่ว่าก็แกล้งแพ้ในตอนท้าย ก็นี้มันเคล็ดลับเลยนะ เล่นเกมกับผู้หญิงห้ามเอาชนะเธอเด็ดขาด เพราะผู้หญิงน่ะไม่ชอบความพ่ายแพ้ ก็ตอนผมเล่นหมากรุกชนะแม่ครั้งแรก ผมโดนแม่งอนไม่ยอมให้เข้าบ้านไปสองวัน
แต่หลังจากคนที่สี่เสร็จรอบที่สี่ก็หมดแรงแล้วคอพับลง ผมจัดการไปส่งเธอข้างนอกเอง พร้อมกับดึงคนสุดท้ายกลับมาที่เก้าอี้พร้อมกัน เธอดูตื่นเต้นสุดๆ จนหน้าแดงไปหมดแล้ว
แต่ว่าทำอยู่ท่านั่งตลอดผมก็เริ่มเบื่อๆ พอตอนจะสอดใส่เข้าไป ผมเลยเปลี่ยนท่า จับเธอยื่นขึ้นให้เท้าแขนลงไปบนเก้าอี้ ส่วนผมยืนเสียบอยู่ข้างหลัง แต่ถึงยืนกระแทกเอวอยู่ก็ยังเล่นเกมกับอาเดไลท์ได้ตามปกติ แต่เป็นอาเดไลท์ที่เล่นต่อไม่ไหว เพราะเธอไม่เคยเห็นท่าร่วมเพศแบบนี้มาก่อน แค่ท่าให้ผู้หญิงนั่งทับเธอก็ว่าแปลกแล้ว
แถมท่านี้ผมเป็นฝ่ายนำ เลยดูรุนแรงยิ่งกว่าปกติ เสียงร้องของสาวคนที่ห้าเองก็เก็บไว้ไม่อยู่ ร้องโหยหวนออกมาตลอดเวลา
“โอ๋ พระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว สงสัยเกมนี้ต้องเป็นเกมสุดท้ายแล้วล่ะครับ”
ผมบอกขณะเร่งเครื่องตะบันสาวคนที่ห้าเพื่อส่งเธอให้ถึงสวรรค์ พร้อมกับเดินหมากไปยังจุดที่จะทำให้เกมนี้ออกมาเสมอกัน
แต่อาเดไลท์ไม่สนใจเกมแล้ว เธอมองดูดุ้นผมที่ไหลเข้าออกตัวหญิงสาวที่ทำหน้ามีความสุขจนแทบบ้า ส่วนผมก็ฟินสุดๆ ได้มีอะไรไปมองหน้าคนสวยๆ อย่างอาเดไลท์ไป เป็นสุดยอดกับแกล้มเลยนะเนี่ย
หลังจากเสร็จศึกคนสุดท้ายและพาเธอออกไปส่งแล้ว ผมก็กลับมาทำความสะอาดแล้วใส่กางเกงของตัวเองบ้าง ส่วนอาเดไลท์พึ่งรู้ตัวว่าหมากที่ผมเดินไป มันทำให้เกมจบแบบเสมอ เลยนั่งทำหน้าคิดหนักอยู่
“ตาเดินแบบนี้ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เจ้าทำได้อย่างไงน่ะ”
“บังเอิญครับ”
ผมตอบด้วยคำตอบที่เตรียมไว้
“ขอบคุณมากนะครับ วันนี้สนุกมากเลย”
ผมลุกขึ้นเตรียมตัวจะกลับ แต่อาเดไลท์รีบลุกขึ้นเพื่อพูดรั้งตัวผมเอาไว้
“ดะ เดี๋ยว…วะ แวะมาอีกนะ ฉันอยากหาเพื่อนเล่นเกมนี้ด้วยอีก”
“ด้วยความยินดีครับ”
ผมตอบรับทันทีพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะกลับออกมา แต่พอเจอคนคุมผมก็จ่ายเงินที่เหลือนิดหน่อยให้เขาไป พร้อมกับสอบถามความเป็นมาของอาเดไลท์
สิ่งที่ผมได้ฟังมาแทบจะไม่น่าเชื่อเลย อาเดไลท์นั้นเป็นถึงเจ้าหญิงของประเทศนี้ เพียงแต่เป็นเจ้าหญิงที่เกิดจากนางสนมลับที่อยู่นอกวัง ตอนแรกพระราชาพาเธอเข้าวัง ด้วยฐานะหลานของญาติห่างๆ แน่นอนว่าเป็นฐานะปลอม แต่พอความลับแตก
ราชินีคนปัจจุบันโกรธมาก เลยจับอาเดไลท์มาขายให้ที่นี้ พระราชาเองถึงจะไม่ยอม แต่เพราะกลัวเมียมาก เลยได้แต่แอบสั่งให้ลูกน้องมายัดเงินให้พวกคนคุมที่นี้ เพื่อดูแลอาเดไลท์ให้ดีๆ
พอผมถามค่าไถ่ตัวอาเดไลท์ ผมแทบเป็นลม เพราะมันมีราคาถึง 100ล้านรีล เพราะราชินีไม่ต้องการให้มีใครมาไถ่ตัวอาเดไลท์ไปได้ เลยตั้งราคาให้โอเวอร์สุดๆ
ผมเดินกลับออกมาอย่างคิดหนัก เพราะถ้าไถ่ตัวอาเดไลท์ ผมจะต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก แถมถ้ารู้ถึงราชา ราชินี ผมอาจจะมีปัญหาได้
แต่พอเดินออกมาจากร้าน ผมก็รู้สึกว่าถูกมองอยู่ เลยเงยหน้าขึ้นไปที่ชั้นสาม ผมเห็นอาเดไลท์กำลังยืนโบกมือให้ผมอยู่ ผมโบกมือรับพร้อมกับตัดสินใจบ้างอย่างลงไป

ความคิดเห็น

  1. ไม่ระบุชื่อ5 ตุลาคม 2560 เวลา 02:24

    ซื้อแน่นวล อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว // ทำตาปริบๆ

    ตอบลบ
  2. ตอนต่อไปมาวันไหน

    ตอบลบ
  3. ตอนต่อไปมาวันไหน

    ตอบลบ
  4. อยากอ่านต่อมากๆ มาต่อไวๆ นะครับ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ ตอนที่1 by KUMAO

ขอออกตัวก่อนเลยว่าแอบก็อปไว้ก่อนที่เว็บจะบินไม่ใช่นิยายของผม ซึ่งมันจะเป็นนิยายแต่งหรือแปลก็ช่างมันผมว่าโดยรวมมันดีถึงจะมีข้อด้อยไปบ้างแต่ก็อ่านได้ลื่นไหล สำหรับคนที่ไม่ชอบก็เบรคตัวเองไว้ไม่ต้องอ่านโวยวายไปก็ไม่ได้อะไรเพราะผมแอบก็อปมาลงไว้ให้บางคนที่ไม่เคยอ่านได้อ่านกันบางคนอยากอ่านซ้ำก็จะได้อ่าน ออกความเห็นได้แต่อย่าดราม่ามากนะคับ บ่นแค่นี้พอละแล้วจะรีบมาลงตอนต่อ เนื้อหามีความรุนแรงเกี่ยวกับเพศอายุต่ำกว่า18อ่านได้แต่อย่าทำตามมันไม่ควร ตอนที่ 1 คืนสุดท้าย                ผมมุเกน โรมะ นักเรียนชั้นปีที่ 2 และตอนนี้ ผมกำลังนั่งซักกางเกงในผู้หญิงอยู่ที่ต่างโลกล่ะเรื่องราวทั้งหมดก็ประมาณว่า เมื่อเดือนก่อน พวกผมทั้งหมดถูกส่งมาต่างโลกแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แบบนั่งสอบอยู่ดีๆ เงยหน้าขึ้นมาก็โดนมอนสเตอร์ล้อมแล้วอ่ะ                 แถมที่ซวยที่สุดก็คือ พวกผมไม่ได้ไปอยู่ในจุดของผู้เริ่มต้น แต่กลับมาอยู่ในปราสาทของจอมมารเลย แต่ก็ยังไม่ถึงกับซวยซะทั...

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 14 - 16 By Kumao

พอก่อนนอนดีกว่า ตอนที่ 14 ชายผู้มีอาวุธในตำนาน ผมกลับมาที่คฤหาสน์ก่อนทุกคนตื่นได้อย่างเฉียดฉิว เช้านี้ผมเตรียมเมนูเป็นข้าวสวยกับปลาย่างเกลือเสริฟพร้อมชุปมิโซะและสลักผัก เดเม่ตื่นลงมาช่วยผมเป็นคนแรกแบบทุกที แต่เธอดูยังคงไม่พอใจที่ตื่นนอนหลังผมอยู่ดี ทว่าก็มีท่าทางเอียงอายคงเพราะยังเขินเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนอาบน้ำ เธอเริ่มคุ้นเคยกับการทำอาหารของผมแล้ว จึงช่วยในการจัดเตรียมวัตถุดิบเป็นหลัก ผมใช้เวลาทำอาหารไม่ถึงสิบนาทีก็เสร็จเรียบร้อย เลยให้เดเม่ขึ้นไปปลุกทุกคนลงมากินข้าว แต่สงสัยยังติดใจหม้อไฟเมื่อวาน เลยพากันไปนั่งรอบโต๊ะเตี้ยกันหมด จนผมต้องไล่ให้ขึ้นมานั่งที่โต๊ะกินข้าวแบบเดิม พอผมตักข้าวในหม้อใส่จานให้ทุกคน ก็พากันทำหน้าแปลกใจ “ไอ้ขาวๆ นี้มันคืออะไรเหรอ?” ดาเซสถามขึ้นพลางชี้ไปที่ข้าวบนจาน คนอื่นก็มีคำถามแบบเดียวกันอยู่บนสีหน้า “ข้าวไง” “ข้าว! หมายถึงข้าวที่จะมีแค่ในร้านอาหารสุดหรู ของพวกขุนนางเท่านั้นใช่ไหม ไม่สิ ฉันเองก็เคยกินมันอยู่ครั้งหนึ่ง จำได้ว่าไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย มันมีสีคล้ำๆ แล้วก็ไม่ดูนุ่มๆ น่ากินแบบนี้ด้วย” “อ้อ เพราะไม่ได้คัดข้าวไงถึงเป็นแบบนั้น แล้...

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 147 - 149 By Kumao จบแค่นี้ไม่มีละ

จบแล้ว เห็นแว้บๆ ว่าคุณ Kazama Phoenix เขียนต่อ ooooooooooo ตอนที่ 147 เก็บแต้ม ผมเมิ่นเรเดียที่ทำท่าตกใจอยู่ และหันไปคุยในรายละเอียดกับกรอเรียให้เสร็จก่อน โดยก่อนจะจัดการเรื่องนิกายใหม่ เธอจะต้องไปกล่อมครอบครัวซะก่อน โดยผมจะให้เอนันโด้นำทีมคุ้มกันไป เอนันโด้ผมให้ลูกน้องไปขุดศพเขาขึ้นมา และใช้อำนาจแห่งจอมมารเปิดใช้งาน วิหารแห่งการกำเนิดใหม่ ซึ่งที่นี้จะเปลี่ยนให้ดวงวิญญาณของมนุษย์กลายเป็นปีศาจ เอนันโด้เลยคืนชีพขึ้นมาในฐานะปีศาจเศียรขาดดูลาฮาน เลเวลของเขายังเท่ากับตอนก่อนที่จะตาย แต่พอกลายมาเป็นปีศาจแล้ว ค่าพลังก็ต่างเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซํ้ายังปลดขีดจำกัดของเลเวลไปอีก เหตุที่ปีศาจมีเลเวลลิมิตมากกว่ามนุษย์ เพราะร่างกายของเผ่าปีศาจสามารถใช้พลังได้มากกว่า ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับมนุษย์ได้พลังของซุป XXX มาใช้ แต่ลองชกหมัดด้วยพลังขนาดนั้นดูสิ ร่างกายจะแหลกเหลวก่อนเป้าหมายถูกทำลายแน่ เพราะงั้นระบบเลยสร้าง Lv Limit ขึ้นมาเพื่อป้องกันในเรื่องนี้ และการเปลี่ยนเผ่านัน จึงได้ทำให้ Lv Limit เปลี่ยนแปลงไปด้วย แต่ถึงไม่มีเรื่อง Lv Limit ตอนนี้ก็หาคนมาสู้กับเอนันโด้ลำบากแล้ว เพราะ...