ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 51 - 53 By Kumao






ตอนที่ 51 แอบฟังข้างโต๊ะ

ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทุกครั้งหลังจากจบศึกต้องมาอาบนํ้าอีกรอบ เลยยังไม่อาบตอนหลังมื้อเย็น แต่รอมีอะไรกับพวกเธอก่อน แต่ผมไม่สกปรกนะ เพราะใช้คลีนนิ่งกับตัวเอง
ตลอดเวลาที่เหงื่อออก เพราะไม่ชอบเหงื่อตัวเองนะ มันร้อนแล้วก็เหนียวตัวด้วย ถึงที่โลกเก่าผมจะชอบออกกำลังกายก็เถอะ แต่ผมชอบอยู่ในสปอร์ตคลับที่มีแอร์เย็นๆ มากกว่า การทำให้ร่างกายแข็งแรงมันไม่จำเป็นต้องให้เหงื่อท่วมตัวหรอกนะ
ส่วนกีฬาที่ผมชื่นชอบที่สุดก็คือว่ายนํ้า เพราะทั้งได้อยู่ในร่ม ได้แช่นํ้า ไม่มีเหงื่อ ส่วนกีฬาที่เกลียดที่สุดคือบาสเกตบอล เพราะนอกจากจะต้องอาบเหงื่อตัวเองแล้ว ยังต้องอาบเหงื่อของชาวบ้านอีก ถ้าเป็นเหงื่อของสาวๆ ผมยินดีเลียให้เลยนะ แต่นี้เหงื่อของตัวผู้อ่ะ ไม่ไหวจะรับจริงๆ
ระหว่างคิดถึงเรื่องของโลกเก่าผมก็แช่นํ้าเพลินไปเลย
“ไปเก็บเลเวลต่อดีกว่าเรา”
ใช่ ผมจะต้องไม่ประมาท ถึงจะมีสัมผัสแห่งราคะที่ใช้ปราบทุกคนได้ แต่ถ้ามีศัตรูที่ผมใช้สัมผัสแห่งราคะปราบไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาล่ะ ผมเลยต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ ให้มี
พลังที่ใช้ปกป้องผู้หญิงของผมได้อย่างแน่นอน ทั้งพลังความสามารถ และพลังเงิน
ผมก็คิดไว้แล้วว่า เกิดสักวันความลับเรื่องจอมมารของผมแตก จนผมไม่อาจอยู่ร่วมกันทุกคนได้อีก ผมก็อยากให้พวกเธอสามารถดูแลตัวเองกันได้ ผมเลยเพิ่มเลเวลให้พวกฟราน ให้เธอเป็นนักผจญภัยที่สามารถหาเงินได้เอง และปกป้องตัวเองได้
ผมออกมาจากคฤหาสน์เข้าสู่ตัวเมือง แต่ผมไม่ได้ใส่หน้ากาก เพราะพลังของมันยังชาร์ตไม่เต็ม เลยเก็บเอาไว้ที่บ้าน ก็กลัวเหมือนกันว่าจะมีแค่ใครแอบส่องสกิลผม เลยเปิดเรดาร์ระวังตัวไว้ตลอดเวลา เพราะเวลามีคนใช้สกิลใส่ จุดในเรดาร์จะกระพริบขึ้นมาทันที
แต่ดีซะอีก ด้วยใบหน้าที่แท้จริงทำให้ไม่มีใครจำผมได้ แบบนี้เวลาเจอพวกลุงออกัสจะไม่ได้ต้องฝืนใจโดนจับลงดันเจี้ยนด้วย
ขณะที่ผ่านร้านเหล้าแห่งหนึ่งไป ผมก็ต้องหยุดและวกกลับมาใหม่ เพราะในร้านผมเห็นปาร์ตี้ของโกร่านั่งดื่มกัน แถมที่หน้าร้านเองคายุนก็กำลังยืนอยู่โดยมีผู้ชายนับสิบคนยืนล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ด้วยที่เธอตัวสูงกว่าพวกนั้นเลยเห็นเด่นชัดเลย
คายุนในตอนนี้เป็นสาวงามประจำเมืองไปแล้ว ใบหน้าเธอดูมีนํ้ามีนวลและอ่อนโยนขึ้น เส้นผมของเดิมที่ว่าสวยงามไร้ติแล้ว ตอนนี้ยิ่งเลอค่ากว่าเดิมซะอีก แถมพอมีหน้าอกขึ้นมาแล้ว เธอก็เปลี่ยนการแต่งกาย เป็นชุดกิโมโนสีชมพูที่ดูสมหญิงและเรียบร้อยขึ้นมาทันที
“พวกเจ้าไปซะเถอะ ข้ามีผู้ชายของข้าแล้ว และไม่ต้องการคนอื่นอีก”
คายุนกำลังปฏิเสธพวกหนุ่มๆ ที่กำลังรุมจีบเธออยู่
“ตะ แต่ไอ้เจ้าโรมะมันมีสาวน้อยน่ารักล้อมหน้าล้อมหลังอยู่แล้วนะ วันนี้ข้ายังเห็นมันพาสาวๆ เป็นฝูงไปซื้อเสื้อผ้ากันอยู่เลย”
เอ๋? นี้กำลังพูดถึงกระผมอยู่เหรอ
“ผู้ชายดีย่อมมีเมียเยอะ สมเป็นคนที่ข้าเลือกจริงๆ”
อ้าว เป็นงั้นไป
“แถมข้าเห็นมันเข้าๆ ออกๆ ซ่องด้วยนะ”
“ฮ่าๆๆ สมแล้วๆ ก็เขาเป็นผู้ชายที่เย็ดข้าคนนี้จนสลบคาที่ได้ แค่ผู้หญิงสิบยี่สิบคนรับมือเขาไม่ไหวหรอก”
“อึก! ข้าไม่เชื่อหรอกว่ามันจะมีดีกว่าข้าได้”
“นั้นก็เรื่องของเจ้า แต่ข้าสาบานไว้กับตัวเองแล้ว ว่าจากนี้ไปร่างกายของข้าจะเป็นของเขาคนเดียว ถ้าพวกเจ้าไม่ยอมเข้าใจ ก็จงหยิบอาวุธออกมา”
ว่าแล้วคายุนก็ชักดาบออกมา ดาบที่เธอใช้เป็นดาบฟันม้าที่ยาวมาก เหวี่ยงที่เดียวน่าจะสับคนได้เป็นสิบ ทั้งๆ ที่น่าจะหนักมาก แต่เธอถือมันได้ด้วยมือเดียวแถมดูเบาราวกับขนนก แน่นอนทุกคนพากันเผ่นป่าราบ แล้วคายุนก็กลับเข้าไปดื่มต่อกับพวกโกร่า
“ข้าล่ะอิจฉาเจ้าจริงๆ สามารถเปิดเผยความรู้สึกออกมาได้ตรงๆ แบบนี้”
โกร่าร้องบอกพร้อมกับกระดกเหล้าจากขวดเลย
“ส่วนข้าก็แปลกใจที่ทำไมเจ้ายังทนอยู่ได้หลังจากที่มีอะไรกับเขาแล้ว”
“ใครว่าข้าทนได้ล่ะ! ข้าคันหีจะแย่อยู่แล้วเนี่ย เดี๋ยวนี้ขนาดตกเบ็ดยังไม่เสร็จเลย! นี้ถ้าข้าไม่มีผัวกับลูกล่ะก็ คงหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่กับโรมะแล้ว”
“ฉันก็ด้วย ถึงเดี๋ยวนี้ฉันจะเสร็จกับสามีได้แล้วก็เถอะ แต่เพราะฉันหลับตานึกถึงแต่ควยของโรมะหรอกถึงได้เสร็จ อยากได้มันเข้ามาในตัวอีกจังเลย!”
โกร่ากับทีโมทีพูดกันอย่างโจ้งครึมไม่กลัวคนรอบข้างได้ยินเลยแม้แต่น้อย สมกับเป็นปาร์ตี้สาวกล้ามสุดเถื่อน
“นี้พวกเจ้าเลิกคุยถึงเรื่องนี้สักทีได้ไหม บ่นถึงแต่โรมะมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ!”
“บลูมเจ้าเองก็ไม่ต้องมาทำเป็นปากแข็งหรอก ปกติไม่เคยเห็นช่วยตัวเองเลย เดี๋ยวนี้ว่างเป็นต้องแอบไปตกเบ็ดเลยไม่ใช่เหรอ”
โกร่าหันไปแซวบลูมที่นั่งหน้าแดงอยู่
“ไม่ใช่สักหน่อย!”
“แต่ข้าเห็นโรมะแอบมองเจ้าอยู่เหมือนกันนะ ไม่สนใจแน่เหรอ”
คายุนรู้ด้วยเหรอว่าผมมองบลูมอยู่ พวกผู้หญิงนี้หูตาไวชะมัด
“จะ จริงเหรอ”
แล้วบลูมก็นั่งขดตัวลงจนยิ่งดูตัวเล็กกว่าเดิมไปใหญ่
“โอ้ย!!! ทนไม่ไหวแล้ว!!! คราวหน้าถ้าเจอโรมะพวกเราจับเขามัดเลยเถอะ”
ทีโมทีลุกขึ้นแล้วร้องตะโกนออกมา
“ดี! ข้าเห็นด้วย”
โกร่าก็ด้วยเหรอ
“อืม ไม่เลว จับมัดแล้วเอาไปขังไว้ ให้พวกเราเล่นสนุกสองสามวันแล้วค่อยปล่อยไป”
คายุนบอกด้วยรอยยิ้มที่โคตรน่ากลัวเลยอ่ะ
“ขะ ข้ามี Workshop ใต้ดินอยู่ ใช้ที่นั้นได้”
บลูมก็เอาด้วยสินะ นี้ไม่คิดจะค้านกันเลยสักคนเลยเหรอ โชคดีที่ถอดหน้ากากออก
“หือ?”
“มีอะไรเหรอทีโม”
“ฉันได้กลิ่นโรมะ ไม่ผิดแน่ กลิ่นควยของโรมะอยู่ใกล้ๆ แถวนี้”
ซิบหาย! นี้ถึงขนาดได้กลิ่นดุ้นเลยเหรอ!
ผมเลยต้องรีบเผ่นออกมาจากตรงนั้นทันทีก่อนพวกเธอจะออกมาเจอ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากมีอะไรกับพวกเธอหรอกนะ แต่ขืนโดนจับมัดก็แย่อ่ะสิ ผมต้องกลับไปทำข้าวเช้าให้ทุกคนกินด้วยนะ
พอวิ่งมาถึงกิลผมก็เห็นปาร์ตี้ของออกัสนั่งกันอยู่ที่เดิม แต่ผมไม่คิดจะไปกับพวกเขาในวันนี้ เลยเดินผ่านเข้าไปในกิลก่อน
เพราะการเก็บเลเวลกับพวกฟรานเมื่อตอนกลางวัน ทำให้ตอนนี้ผมเลเวลขึ้นมาเป็น 13 แล้ว เลยคิดจะไปลุยที่ลาลาพัสชักตั้งดู แถมมีเควสให้ทำด้วย
-เควสรวบรวม จำกัดจำนวนครั้ง ต้องการกางเกงในของไรโมดอล 10 ชิ้น รางวัล 1500 รีล
พระเจ้า!!! มีเควสแบบนี้ด้วยเหรอ ไม่ได้ล่ะ นี้มันเควสในฝันของผมเลยนี่น่า ไม่รู้ล่ะไรโมดอลเป็นตัวอะไร แต่ผมต้องทำเควสนี้ให้ได้ เลยรีบออกมาจากกิลทันที แต่พอผ่านโต๊ะของออกัสอีกรอบ ผมก็ได้ยินที่พวกเขาคุยกัน
“แล้วก็นะ เด็กที่เหมือนเจ้าหญิงคนนั้นก็ใช้สกิลออกมา ฉับๆๆๆ เธอฟันจนราชาหนูเละเป็นชิ้นๆ เลย ฉันไม่เคยเห็นสกิลอะไรที่สวยงามและทรงพลังขนาดนี้มาก่อน แค่สกิลเดียวเองนะ ราชาหนูก็ตายทันที!”
“โม้แล้วเนปฟ่า ฉันรู้ว่าเธอปลื้มโรมะ แต่ที่พูดมามันไม่น่าเชื่อสักนิด ขนาดพวกเลเวล 30 ยังทำแบบที่ว่าไม่ได้เลยนะ”
ขณะที่ออกัสกำลังขัดคอเนปฟ่าที่เล่าอย่างดุเดือดอยู่ ไอ้เจ้าโรคจิตชอบแต่งหญิงชีเอ้ก็ดึงแขนเสื้อออกัสไว้ และพยักหน้าราวกับจะยืนยันเรื่องที่เนปฟ่าพูด
“เห็นไหม ชีเอ้เองก็อยู่ด้วย เธอเป็นพยานได้”
“แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ บางทีพวกโรมะอาจจะโกหกเรื่องเลเวลก็ได้นะ”
กาอินที่เป็นนักธนูรูปหล่อยังแย้งออกมา
“ฉันก็คิดแบบนั้น พอตอนแยกกันแล้ว ฉันเลยไปถามข้อมูลของพวกโรมะจากพนักงานกิลมา ซึ่งมันตรงกับที่เขาบอกฉันเลย แถมพอดูวันที่ของกลุ่มโรมะที่เริ่มมาเป็นนักผจญภัยแล้ว มากสุดคือของโรมะที่พึ่งเป็นมาได้เพียงอาทิตย์เดียวเองนะ”
“เอ่อ จะว่าไปตอนเห็นเจ้านั้นครั้งแรกที่มาตัวเปล่า ก็พึ่งผ่านมาไม่กี่วันนี้เอง”
“แล้วที่แปลกกว่านั้นนะ ดูสิ เลเวลฉันกับชีเอ้พุ่งขึ้นมาพรวดๆ เลย ปกติตั้งหกเจ็ดวันกว่าจะอัพสักเลเวล แต่นี้ลงไปวันเดียว ได้มาสามเลเวลเลย!”
เนปฟ่านี้ขนาดเล่าไปยังโวยวายไปได้ เชื่อเลย แต่ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าเธอคิดอย่างไง เลยอยู่นั่งฟังต่อ โดยทำเป็นสั่งเหล้ามานั่งดื่มรอเพื่อน อย่างตอนนี้ผมรู้ล่ะว่า การเติบโตของพวกฟรานไม่ปกติ เลเวลกลุ่มผมเพิ่มเร็วมาก แต่ถ้าคำนวณจากความเร็วและจำนวนที่ฆ่าต่อวัน มันก็ไม่ถือว่าผิดปกตินะ บวกสกิลเทรนเนอร์ไปด้วย
“อืม ฉันก็ว่ามันแปลกๆ มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ตอนไปกับโรมะของดรอปง่ายมากเลยนะ ถึงจะเพราะพวกเราฆ่าได้เร็วขึ้นก็เถอะ จำนวนไอเท็มดรอปมันก็มากผิดปกติ”
เมดารินเองก็เริ่มเห็นถึงความผิดปกติที่ว่า
“ใช่ ไม่ผิดแน่ วันนี้แค่ลงไปกันไม่กี่ชั่วโมงยังได้เงินเป็นแสนๆ เลย นี้มันยิ่งกว่ารายได้ทั้งเดือนตามปกติของฉันอีกนะ”
“ถ้าเป็นแบบนั้น ยิ่งต้องให้เขาเข้าปาร์ตี้ของพวกเราแบบถาวรเลย”
ออกัสคิดจะดึงตัวผมจริงๆ ด้วย
“เห็นด้วย”
เมดารินยกมือสนับสนุนทันที
“ฉันด้วย”
แปลกแฮะไม่คิดว่าเนปฟ่าจะยกมือสนับสนุนแข็งขันซะขนาดนี้ ส่วนเจ้าแต่งหญิงชีเอ้ก็ยกมือสนับสนุนด้วย คงคิดจะให้ผมลากพวกฟรานเข้ามาในปาร์ตี้นี้ด้วยล่ะสินะ ฝันไปเถอะ
“เดี๋ยวก่อน”
ในที่สุดก็มีคนค้าน เจ้ากาอินรูปหล่อนี้เอง
“ฉันพึ่งได้ยินข่าวลือมา เห็นว่าโรมะน่ะที่แท้เป็นพวกหื่นกามแบบสุดๆ นอนกับผู้หญิงไม่เลือกหน้า ทั้งแต่เด็กยันคนแก่เลย พวกพนักงานกิลกะกลางวันก็เห็นว่าโดนเจ้านั้นฟาดมาเกือบครึ่งแล้ว”
ยอมรับทุกข้อกล่าวหาครับ แต่ว่าคนแก่นี้ก็เกินไปนะ ผมให้ได้แค่ห้าสิบเท่านั้นแหละ เหี่ยวกว่านั้นไม่ไหวเหมือนกันนะเฟ้ย!
“แล้วก็เมื่อวาน ฉันเห็นมันมองเธอด้วยสายตาลามกด้วย”
“ฉันเหรอ!”
เนปฟ่าชี้นิ้วมาที่ตัวเอง
“อืม มันจ้องหน้าอกเธอแถมเลียปากไปด้วยนะ”
เฮ้ย ไอ้หล่อแบบนี้เขาเรียกว่าใส่ร้ายกันแล้วเฟ้ย! กับเมดารินตูมองจริง แต่กับเนปฟ่าไม่เคยสักหน่อย
“ไม่เป็นไร ถ้าเพื่อจะให้เขามาเข้าปาร์ตี้ประจำกับพวกเรา ฉันยอมเสียตัวให้เขา”
พรืด!!!
ผมพ่นเหล้าออกมาดังพรืด จนโต๊ะของพวกออกัสต้องหันมามอง ผมเลยต้องแกล้งสำลักเพราะรีบดื่มไปหน่อย แต่พูดจริงเหรอเนี่ย ไม่ใช่ว่าเธอเกลียดผมจะตายหรอกเหรอ
“ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย เธอเองก็ไม่ชอบเขาไม่ใช่เหรอ”
ใช่ๆ ผมแอบพยักหน้าเห็นด้วยกับไอ้หล่อกาอิน
“ก็ใช่แต่นั้นเพราะพึ่งเจอหน้ากันต่างหาก เมื่อวานตอนลงดันเจี้ยนด้วยกัน นายก็เห็นไม่ใช่เหรอว่าเขาพึ่งพาได้ แถมยังสุภาพมากอีกต่างหาก ขนาดตอนสอนรูปแบบต่อสู้ให้กับพวกเรา เขายังบอกแบบเกรงใจทั้งๆ ที่ควรด่าว่าแล้วออกจากปาร์ตี้ไปเลยด้วยซํ้า”
“ฉันไม่เถียงเรื่องนั้นหรอก แต่หน้าตาแบบนั้นเธอรับมันได้เหรอ”
“ทำไมจะไม่ได้ ถึงหน้าเขาไม่หล่อแต่ใจเขาหล่อมากๆ เลยนะ นายต้องไปเห็นพวกหนูทาสของเขาซะก่อนแล้วจะเข้าใจ ทุกคนดูดีมากเลยล่ะ ดูอย่างไงก็ไม่มีส่วนไหนเหมือนทาสสักนิด แถมท่าทางราวกับจะตายเพื่อเจ้านายได้เลย”
“พวกทาสก็ต้องยอมตายเพื่อเจ้านายอยู่แล้ว แปลกตรงไหน”
กาอินขัดขึ้นมาทันที
“แปลกสิ ขนาดสั่งทาสเองก็ใช่ว่าจะเต็มใจไปตายนะ แต่พวกเธอน่ะไม่จำเป็นต้องสั่งเลยสักคำ สีหน้าแววตายามปกป้องเจ้านาย เหมือนอัศวินที่พร้อมพลีชีพให้อย่างไม่เสียดายเลย การที่ทำให้ทาสมีความรู้สึกที่รุนแรงขนาดนี้ได้ ฉันว่าเขาต้องเป็นคนที่อ่อนโยนมากแน่ๆ”
“นั้นเพราะเขาอาจจะฝึกพวกทาสมาอย่างทารุณเพื่อให้ทำแบบนั้นก็ได้”
“ถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมทาสของเขาดูมีความสุขจังเลยล่ะ?”
“ก็นั้นไง พวกชอบรักษาหน้าตัวเองไว้ เลยสั่งทาสให้ยิ้ม เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น”
“เหรอ? อืม แต่ฉันรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้นนะ”
“เนปฟ่าฉันฟังเธอพูดแล้ว เหมือนเธอจะชอบโรมะเลยนะ”
เมดารินแกล้งแซวขึ้นมาเพื่อหยุดบทสนทนาของทางกาอินอย่างชัดเจน เพราะออกัสเองก็ทำสีหน้าขรึมๆ แล้วเหมือนกัน ก็แน่ล่ะ คงไม่ชอบที่คนในกลุ่มมานั่งพูดจาไม่ดีใส่คนที่ตัวเองจะเชิญเข้าปาร์ตี้
“ชอบหรือเปล่าไม่รู้หรอกนะ ก็พึ่งรู้จักกันแค่เมื่อวานนี้เอง แต่…ว่าไงดีล่ะ ฉันแค่รู้สึกว่าถึงต้องเสียตัวให้เขาก็ไม่รู้สึกเสียใจน่ะ”
“ฮุๆๆ ฉันเข้าใจนะ โรมะน่ะเร้าอารมณ์ดีใช่ไหมล่ะ”
“อืม ฉันเองก็ไม่มีประสบการณ์เรื่องแบบนี้เลยไม่รู้เหมือนกัน แค่รู้สึกเขาจะปกป้องฉันได้และจะใจดีกับฉันน่ะ เพราะงั้นถึงเขาจะเป็นคนลามกที่จ้องมีอะไรกับฉัน ก็คิดว่ายอมให้เขาได้”
“แบบนั้นแหละที่เขาเรียกว่าชอบ”
“ก็บอกแล้วไง ว่ายังไม่รู้ขอดูไปอีกสักระยะก่อน”
“อย่างไงฉันก็ไม่เห็นด้วย”
กาอินค้านแบบเริ่มไม่มีเหตุผลล่ะ
“…เอาแบบนี้ล่ะกัน รอดูไปอีกสักระยะก่อน ถ้าโรมะมีท่าทางจะเข้ามาเพื่อล่วงเกินเนปฟ่า เราก็ค่อยกันเขาออกไป”
“ถ้าจะเอาแบบนั้นฉันมีข้อเสนอ”
“ว่ามาเนปฟ่า”
“ถ้าอยากรู้ว่าเขาจะทำอะไรฉันหรือเปล่าก็ไม่ต้องเสียเวลาหรอก พรุ่งนี้ฉันกับชีเอ้จะไปเข้าปาร์ตี้กับโรมะอีกครั้ง ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่พวกนายสงสัยกัน ฉันคงไม่รอดมือเขาแน่”
“มะ ไม่เห็นต้องทำแบบนั้นเลย”
“ต้องแบบนี้แหละ ถ้าพวกนายอยู่ด้วยเขาก็จะไม่กล้าทำอะไรออกมาหรอกจริงไหม ส่วนฉันอยากได้ตัวโรมะมาเข้าปาร์ตี้พวกเราเร็วๆ ก่อนจะมีคนแย่งเขาไป”
“แต่ถ้าเขาทำอะไรเธอขึ้นมาพวกเราก็ช่วยไม่ได้น่ะสิ”
ออกัสทำหน้าเป็นกังวลขึ้นมาทันที
“ไม่เห็นเป็นอะไร บอกแล้วไงถ้าเป็นโรมะฉันไม่ถือ”
“ไม่ใช่ว่าเธอได้กับเขาแล้วจะแยกตัวออกไปนะ”
กาอินดูไม่พอใจมาก แถมปากเริ่มร้ายขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
“พวกเราเป็นเพื่อนกันมานานฉันไม่ทิ้งใครเพื่อสบายคนเดียวหรอกน่า และก็ตามกฎของกลุ่มถ้าเห็นด้วยก็ต้องเห็นด้วยกันทุกคน ฉะนั้นถ้าโรมะทำให้พวกนายไม่พอใจ ฉันจะไม่ดื้อเรื่องที่จะเอาเขาเข้าปาร์ตี้อีก”
“ถ้าแบบนั้นก็ได้ ถ้ามันทำอะไรเธอฉันไม่ขอญาติดีกับมันอีก”
“ตามนั้น”
“ว่าแต่อยู่ต่อหน้าคนเยอะๆ เขาคงไม่กล้าทำอะไรอยู่ดีหรอกมั่ง”
เมดารินพูดขึ้นมา แต่เนปฟ่าส่ายหน้าทันที
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันพอหาวิธีอยู่กันสองต่อสองได้”
“อืม ก็ได้ แต่ระวังตัวด้วยล่ะ มันเป็นครั้งแรกของเธอ คิดให้ดีๆ ล่ะ”
เมดารินเตือน ซึ่งเนปฟ่าก็พยักหน้ารับอีกครั้ง
“งั้นวันนี้จะเอาอย่างไงดี ใกล้จะได้เวลาโรมะจะมาแล้วนะ”
เนปฟ่าถามต่อ เพราะดูเหมือนทุกคนยังไม่อยากเอาผมเข้าปาร์ตี้คืนนี้
“ไปลงชั้น 3 กันแบบเดิมล่ะกัน ได้ของแค่ไหนก็แค่นั้น ของเต็มแล้วก็กลับกันเลย”
ออกัสเสนอ ซึ่งทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ดีเลย เพราะวันนี้เลเวลขึ้นมาเยอะ แถมได้เรียนเวทมนต์ใหม่มาแล้วด้วย จะใช้พวก wererat เป็นเป้าฝึกซะเลย พรุ่งนี้โรมะจะได้ไม่เห็นฉันเป็นตัวถ่วงอีก”
“จริงจังไปแล้ว”
เมดารินยิ้มแห้งๆ จากนั้นปาร์ตี้ของออกัสก็ลุกขึ้นและมุ่งหน้าไปทางดันเจี้ยนลูปันทันที
ส่วนผมนั่งกุมขมับ
“เอาไงดีวะ”
ปัญหามีหลายจุดทีเดียว อย่างแรกผมไม่ได้อยากเข้าปาร์ตี้ของลุงออกัสเลย คือให้ลงเป็นเพื่อนบางครั้งบางคราวก็โอเคอยู่หรอก แต่ให้ไปอยู่ประจำเนี่ย ไม่เอาดีกว่า ส่วนเนปฟ่าเนี่ยถึงจะบอกว่ายอมเสียตัวให้ ผมก็ดีใจหรอกนะ แต่แบบว่าผมไม่ได้คิดกับเธอแบบนั้นเลยอ่ะสิ ผมไม่ชอบผู้หญิงขี้โวยวายเอาแต่ใจ แล้วถึงผมจะหื่นแต่บอกแล้ว ว่าผมก็เลือกนะ ไม่ใช่ใครยอมแล้วจะเอาไม่เลือกหน้า
แล้วเห็นๆ กันอยู่ ว่าไอ้หล่อกาอินมันชอบเนปฟ่าอยู่ ขืนผมสอดมือไปยุ่ง มีหวังได้ศัตรูเพิ่มแน่ ผมน่ะไม่อยากเป็นศัตรูกับพวกลุงด้วยเพราะรู้สึกว่าเป็นพวกที่น่าคบหาเอาไว้
หรือว่าพรุ่งนี้จะให้เป็นวันหยุดดี ช่วงนี้ก็ให้ลงดันเจี้ยนมาติดๆ กันด้วย เหมือนหนีปัญหาเลยแฮะ…ไว้ผ่านพรุ่งนี้ไปแล้ว ค่อยไปคุยกับลุงออกัสอีกทีล่ะกัน
พอคิดจัดการลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ไว้ในหัวเรียบร้อยแล้ว ผมก็ลุกขึ้นไปลงดันเจี้ยนบ้าง กางเกงในของไรโมดอลจ้า พี่มาแล้วจ๊ะ

ตอนที่ 52 การหายตัวไปอย่างลึกลับของไรโมดอล

ดันเจี้ยนหอคอยลาลาพัสไม่ใช่อย่างที่ผมคิดไว้ ถึงภายนอกมันจะดูไม่ต่างจากหอคอยทั่วไป แต่พอเข้ามาแล้วมันคนละเรื่องเลย
เพราะเมื่อดูจากด้านนอก ความกว้างของมันไม่น่าเกิน 250 ตารางเมตร แต่พอเข้ามาแล้ว ข้างในนี้ไม่ตํ่ากว่า 25 ตารางกิโลเมตรต่อชั้นแน่ กว้างจนเวอร์ มองไม่เห็นกำแพงอีกด้านเลย ความสูงของชั้นน่าจะสัก 30 เมตรเป็นอย่างตํ่า แถมทางเดินก็โคตรซับซ้อนเลย มีบันไดทางเดินพาดไปมาเป็นร้อยๆ แห่ง มีห้องที่เชื่อมต่อภายในชั้นอีก แค่เห็นก็ให้คะแนนความยากเต็มก่อนเลย
ผมเดินกลับออกมาเพื่อขอซื้อแผนที่จากพนักงานที่เฝ้าทางเข้า เธอยิ้มแห้งๆ เหมือนประมาณว่ากะไว้แล้วต้องกลับมา ก่อนจะยื่นแผนที่ชั้นหนึ่งให้กับผม ราคาแผนที่อยู่ที่ 1,000 รีล แพงนะเนี่ย
ด้วยอาชีพของผมไม่จำเป็นต้องเดินกางแผนที่หรอก แค่ใช้มันครั้งหนึ่ง ก็จะเข้าไปรวมกับเรดาร์เลย พอเปิดเรดาร์ขึ้นมา ก็จะเห็นเป็นแผนที่ด้วย จริงๆ จุดที่ผมเคยผ่านไปมาแล้ว มันก็จะถูกทำแผนที่ขึ้นในเรดาร์เองเลย ขนาดสวรรค์พอเปิดเรดาร์และขยายออกกว้างๆ จนถึงระดับแผนที่โลก ก็จะเห็นตำแหน่งด้วยล่ะ…พวกเทพนี้อ่อนซิบ
แผนที่ที่ซื้อมามีความละเอียดสูง แถมยังบอกตำแหน่งมอนสเตอร์ด้วย ที่นี้มอนสเตอร์ไม่อยู่กันเป็นฝูงก็จริง แต่ความยากอยู่ตรงมันมีมอนสเตอร์หลายประเภท แถมวันดีคืนดียังมี Raid Monster เกิดมาแบบสุ่มด้วย ว่ากันว่า 80% ของคนที่ตายที่นี้ ก็มาจากการถูก Raid ฆ่า
ส่วนที่อยู่ของไรโมดอลอยู่บนชั้นลอยที่ต้องขึ้นบันไดไป มันมีพื้นที่พอๆ กับห้องบอสราชาหนูเลย คืออัดมอนสเตอร์กับนักผจญภัยได้รวมกันแค่ประมาณ ไม่เกิน 30 คน ส่วนเลเวลอยู่ที่ 16 ไม่ยาก แต่ปัญหาคือตอนหาทางไป กับพวกมอนสเตอร์ตามทางเนี่ยสิ
ในหอคอยลาลาพัส มอนสเตอร์เกือบทั้งหมดจะเป็นเผ่าจักรกล ซึ่งมีความยุ่งยากในการฆ่าสุดๆ บางตัวขนาดทุบเป็นชิ้นๆ แต่ถ้า Hp ไม่หมด มันก็จะค่อยๆ ประกอบตัวเองขึ้นมาใหม่ได้ บางตัวถ้ามีร่างกายเสียหาย ก็จะทำการเปลี่ยนสภาพร่างกายส่วนนั้นให้เป็นอาวุธแทน
แถมแทบทุกตัวบนชั้นหนึ่ง มีสกิลที่น่าปวดหัวสุดๆ ที่ชื่อว่า ‘ระเบิดตัวเอง’ พอฆ่าเสร็จถ้าไม่รีบหนีก็จะโดนมันระเบิดตัวเองใส่ ถึงจะไม่รุนแรงมาก แต่ก็เสีย Hp ไปอยู่ดีล่ะ
และเพราะความซับซ้อนหรือความยากของที่นี้ก็ไม่อาจรู้ได้ ทำให้มีนักผจญภัยน้อยจนแทบหากันไม่เจอ อารมณ์ประมาณโรงงานร้างกลางป่าช้าล่ะมั่ง
ผมลัดเลาะไปตามกำแพงสูง เลี่ยงที่จะสู้เพราะอยากไปให้ถึงไรโมดอลเร็วๆ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องสู้ มอนสเตอร์ในนี้พลังป้องกันไม่ค่อยมาก เลยใช้มีดสู้ได้สบาย แต่ถ้าเจอตัวที่ทำมาจากเหล็กอย่างไงก็ต้องใช้ดาบสู้
ว่าไงดีล่ะ ผมว่าง่ายกว่าลูปันน่ะ เพราะพวกมันเป็นเครื่องจักรล่ะมั่ง เลยเคลื่อนไหวดูมีแบบแผนกว่าสิ่งมีชีวิต แต่เพราะมีแบบแผนเลยทำให้ผมจับทางได้ไม่ยาก บางตัวสู้ครั้งเดียวผมดูออกหมดเลยว่ามันจะทำอะไรต่อไป
แต่ที่ต้องระวังคือ Hp ที่ค่อนข้างเยอะกับการระเบิดตัวเองของมัน ระหว่างทางผมโชคดีได้การ์ดของหมาเลโก้มาด้วย agi+10 เก็บเอาไว้ให้ฟรานล่ะกัน
ของที่ดรอปผมตรวจดูราคากลางก่อนจะโยนเข้ากระเป๋า จะถูกหรือแพงผมเก็บหมดล่ะ ไว้ไปคิดที่หลังว่าจะมันทำอะไร ของที่มีราคาแพงสุดเป็นกระจกแฮะ ชิ้นหนึ่งขนาดเท่าฝ่ามือ ราคา 800 รีลเลยทีเดียว ลองมาก็พวกม้วนผ้า 300 รีล ที่เหลือก็เป็นพวกฟันเฟืองขนาดต่างๆ แผ่นไม้ ตาของตุ๊กตา ของพวกนี้แทบไม่มีราคา ส่วนใหญ่อยู่ที่ 1-2 รีล
มีอยู่ครั้งหนึ่งผมลองโดนระเบิดของมันดู เพื่อทดสอบความแรง พลังผมลดไปแค่ 10% ไม่แรงเท่าไร หรือเพราะพลังชีวิตผมเยอะล่ะเนี่ย แต่เอาเป็นว่าไม่ต้องเป็นกังวลมาก สิ่งที่น่ากลัวตอนระเบิดคือเสียง เพราะเสียงมันจะทำให้หูอื้อ ไม่ได้ยินเสียงมอนสเตอร์ตัวอื่นที่เข้ามาใกล้ ส่วนความเจ็บปวดนั้นไม่เท่าไร กระดกยาเอาแปบเดียว อ้อ อีกอย่างในนี้ Drain ใช้ไม่ได้ผลล่ะ เพราะเป็นเครื่องจักรเลยไม่มีเลือดเนื้อล่ะมั่ง
ขนาดมีแผนที่ผมยังหลงไปหลงมาอยู่เป็นชั่วโมง กว่าจะมาถึงจุดที่ไรโมดอลอยู่กัน ผมเปิดประตูผัวะเข้าไปทันทีอย่าง
ไม่รอช้า สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือ…สวรรค์ล่ะ สวรรค์ของผมอยู่ตรงนี้แล้ว
เบื้องหน้าคือเหล่าตุ๊กตาวงนํ้าชา (ตุ๊กตาฝรั่งเศส) ที่มีหน้าตาเหมือนคนจริง พวกเธอมีสีและทรงผมที่แตกต่างกัน รวมถึงเครื่องแต่งกายด้วย
แย่แล้วสิ! ผมไม่อาจลงมือทำร้ายมอนสเตอร์ที่น่ารักแบบนี้ได้ลงคอหรอก เดี๋ยวนะ…เควสบอกแค่ว่ารวบรวมกางเกงในนี่น่า ไม่ต้องฆ่าก็ได้
“ฮุๆๆ ไรโมดอลจังจ๋า มาเล่นกับพี่ชายม่ะ”
เอ๋? ทำไมพากันถอยหนีหมดเลยล่ะ มอนสเตอร์ต้องพุ่งเข้าใส่นักผจญภัยสิ
ผมต้อนพวกไรโมดอลจนติดมุมห้อง กระทั่งพวกเธอผลักพวกเดียวกันคนหนึ่งออกมา ผมคว้าหมับไว้ทันที
“วันนี้พวกเราจะเล่นหมอกับคนไข้กันนะ”
ไรโมดอลจังที่มีทรงผมทวินเทลทรงสว่านรีบส่ายหัว
“เอ๋ ว่าไงนะ ‘หนูอยากเล่นจังเลยค่ะ’ แหมๆ เขินจังเลยนะ”
ผมพูดเองเอ่อเอง แล้วจับไรโมดอลถอดเสื้อผ้าออกทันที กางเกงในลูกไม้สีชมพูล่ะ
“หุๆๆ เด็กไม่ดีใส่กางเกงในลามกจังเลยนะ แบบนี้ต้องถอด”
ผมไม่ให้ไรโมดอลขัดขืนได้ ส่วนไรโมดอลตัวอื่นๆ ยืนเบียดตัวสั่นกันอยู่ที่มุมห้อง
แล้วพอผมถอดกางเกงในออก ตรงพื้นที่สามเหลี่ยมที่ผมคิดว่าคงเป็นแบบราบเรียบไม่มีอะไรเลย มันกลับ…มีอยู่ล่ะ มีกลีบหอยสีชมพูพลาสติกอยู่ด้วยล่ะ ผมลองใช้นิ้วแหวกมันดู สัมผัสหยาบกว่าเนื้อหนังจริงๆ เหมือนกับเป็นยางมากกว่า พอส่องดูข้างในนั้น…นี้มันจิมิเทียมชัดๆ ทำออกมาได้สุดยอดไปเลยแฮะ ถ้านี้มีนํ้าไหลออกมาด้วยนี้ จะสุดยอดเลยนะ
ผมลองเขี่ยติ่งคริตอลิสดู ร่างของไรโมดอลสั่นกระตุกตามด้วยล่ะ เฮ้ย เอาจริงดิ นี้รู้สึกด้วยเหรอ ผมลองเลียลงลิ้นหอยไรโมดอลดู เธอกระตุกใหญ่เลย แต่ตัวเธอเล็กมากส่วนสูงแค่ประมาณ 70 เซนเท่านั้นเอง ลิ้นของผมเลยเข้าไปจนสุดด้านได้ ผมใช้ปลายลิ้นเลียตรงปากมดลูกเธอ พอตวัดลิ้นใส่สองสามทีเท่านั้น ข้างในถํ้ายางนั้นก็บีบรัดลิ้นผมและพ่นนํ้าออกมาใส่เข้าปากผม
อืม รสชาติดีแฮะ ต่างจากของตามธรรมชาติ เลยไม่มีรสฝาดๆ เลย
ไรโมดอลจัง สุดยอด!!!
ผมไม่รอช้างัดดุ้นออกมา และจ่อเข้าถํ้าเธอทันที แต่ผมปรับขนาดให้พอดีด้วย พอใส่เข้าไปข้างในก็ตอดรัดผมไม่หยุด เสียดายที่ไรโมดอลพูดไม่ได้แสดงสีหน้าก็ไม่ได้ สรุปคือตุ๊กตายางดีๆ นี้เอง แต่ไม่เป็นไร เพราะพวกเธอน่ารักกันทุกตัว ผมเลยกระหนํ่าสอยจนคอของไรโมดอลพับลงมา
“อ่ะ อ้าว? เฮ่! สลบไปแล้วเหรอเนี่ย ไม่อึดเลยนะ”
ผมจับเธอใส่เสื้อผ้า ใช้คลีนนิ่งให้ด้วย จากนั้นก็เอากางเกงในของเธอเก็บใส่กระเป๋า และมองไปที่ไรโมดอลตัวที่เหลือ
หนึ่ง สอง สาม สี่
เหลือสี่ตัวแฮะ
“เอา เข้ามาพร้อมกันเลยล่ะกัน”
พวกไรโมดอลวิ่งแตกกระเจิงทันที แต่ผมก็ตามไล่จับได้จนครบ และเอาม้วนผ้าที่ดรอปได้ มาพันมัดพวกเธอเอาไว้
และจัดการศึกถล่มตุ๊กตายางแบบรวดเดียวจบ พวกไรโมดอลเอาสนุกดี แต่ตัวหนึ่งจะทนผมสอยได้แค่ประมาณ 4-5 นาทีเท่านั้น ผมเอากางเกงในพวกเธอออกมาจนครบ ซึ่งพวกเธอใส่กันไม่ซํ้าแบบเลย เอ๋ หรือว่าคนที่รีเควสจะเป็นพวกร้านเสื้อผ้าในเมือง?
จากนั้นผมก็ย้ายห้องไปหาไรโมดอลห้องอื่นต่อ โดยที่ในห้องหนึ่งผมจะแตกใส่พวกเธอทีหนึ่ง ตัวที่ได้รับนํ้าเชื้อผมไปนี้ถึงกับท้องบวมขึ้นมาเหมือนคนท้องเลย
ผมผ่านตะลุยไปสามห้องติด แปลกที่พวกไรโมดอลไม่คิดแม้แต่จะสู้ ทั้งๆ ที่พวกเธอมีอาวุธเป็นมีดขนาดจิ๋ว แต่พอเห็นหน้าผมพวกเธอก็พากันทิ้งอาวุธแล้ววิ่งหนีกันหมดเลย ทำไมกันล่ะ??
ตอนนี้ได้กางเกงในมาแล้ว 15 ตัวแต่ผมเก็บไว้เอง 5 ตัวเพราะเป็นแบบที่ผมชอบมาก เลยว่าจะเอาไปฝากฟรานกับยูรินสักหน่อย เพราะขนาดน่าจะพอดีกับพวกเธอ
แต่ตอนที่ผมกำลังจะกลับออกมาจากห้องที่สามนั้น เสียงในหัวก็ดังขึ้นมา
Raid ปรากฏตัว
ผมมองกลับไปที่กลางห้องทันที ที่ตรงนั้นมีแสงมารวมกัน และพอแสงหายไป ก็กลายเป็นไรโมดอลที่ตัวสูงหนึ่ง
ร้อยเซน เธอมีผมสีทองหน้าม้าใส่ที่คาดผมสีนํ้าเงิน ลักษณะของเธอกับชุดที่ใส่ เหมือนกับภาพลักษณ์ของอลิสในแดนมหัศจรรย์เลย
ผมใช้ตรวจสอบกับเธอทันที
Raid ไรโมดอล คริสติน่า Lv 22
Skill
-Doll contact
สกิลที่ใช้สื่อสารกับตุ๊กตาได้! แบบนี้ผมจะได้ยินเสียงพวกเธอร้องครวญครางแล้วสิ! อยากได้ยินอ่ะ โดยเฉพาะน้องทวินเทลสว่านห้องแรก อยากได้ยินโว้ย!
ผมตรงเข้าสู้กับคริสติน่าแบบไม่กลัวตาย เธอกวักไม้เท้าอันเล็กๆ ในมือ เหมือนมันจะมีสกิลประเภทเวทมนต์ประจำอาวุธอยู่ด้วย แต่ผมกระโดดหลบ ม้วนตัวถอดกางเกงกลางอากาศ แล้วกระแทกดุ้นเข้าปากเธอทันที ถึงคริสติน่าพยายามขัดขืนก็สู้แรงผมไม่ได้ เธอพยายามใช้ไม้เท้าอีกครั้ง
แต่ผมปัดมันทิ้งไป พอผมเสร็จใส่ปากเธอไปรอบหนึ่ง ผมก็เริ่มทำการข่มขืนคริสติน่าจังทันที
ถึงจะเป็นหอยยางแต่มันเอาสนุกสุดๆ แต่พอผมปลดเสื้อผ้าคริสติน่าออก ก็เห็นหัวนมของเธอถึงจะแบนราบ แต่ก็มีหัวนม ผมเลยก้มลงไปดูดเล่นด้วย ข้างในเธอตอดรัดผมขึ้นมาทันที ถึงผมจะกลัวว่าพวกข้อต่อแขนขาเธอจะหลุด แต่ผมก็ทนไม่ไหวกระแทกใส่เต็มแรง คริสติน่าอึดกว่าไรโมดอลทั่วไป ผมทำเธอมากว่าสิบนาทีแล้ว แต่เธอยังไม่คอพับไป แต่คงได้แค่นี้ล่ะ เพราะตาของเธอเริ่มไม่มีโฟกัสแล้ว ผมเลยเร่งถี่ยิบก่อนจะพ่นนํ้าใส่ข้างในเธอจนล้น คริสติน่าสั่นกระตุกแรงๆ ก่อนจะคอพับไป
“ฟู่! สุดยอด ไหนๆ ดูสิ ได้สกิลไหม”
-Doll contact ไร้ระดับ (Passive skill)
“วะฮาฮ่าๆๆ”
“นะ หนอยไอ้โจรข่มขืน ฝะ ฝากไว้ก่อนเถอะ คราวหน้าฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้”
“อ้าว ฟื้นแล้วเหรอคริสติน่าจัง มาต่อกันอีกยกไหม”
“ไม่เอา! เอ๋? นี้เจ้าคุยกับฉันได้ด้วยเหรอ”
“อืม ใช่แล้วล่ะ พึ่งได้เนี่ยล่ะ ฉันชื่อโรมะยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“เชอะ”
เธอสะบัดหน้าหนีไปซะแล้ว ผมเลยจับเธออุ้มขึ้นมานั่งบนตักและยัดดุ้นใส่เข้าไป
“โอย!! มันเจ็บนะไอ้เจ้าบ้า เอาไอ้หนอนยักษ์ของแกออกไปนะ มันเข้ามาลึกกกก!!”
คริสติน่าส่งเสียงร้องสูงที่น่ารักออกมา ขาเธอก็เกร็งเหยียดตรงชี้ไปข้างหน้า
“มะ มันเข้าไปสุดเลย กะ แกทำฉันได้นะ ไอ้เจ้าบ้า แกมันบ้า ทำได้กระทั่งกับมอนสเตอร์อย่างฉัน”
“ก็พวกเธอน่ารักจะตายไปใครจะไปทนไหว”
“นะ น่ารักเหรอ!? พวกฉันเนี่ยนะ โอย! ทำไมมันใหญ่ขึ้นล่ะ อย่าขยับสิ! หนอนของแกมันจะฉีกฉันเป็นเสี่ยงๆ แล้ว!”
“แล้วไม่รู้สึกดีเหรอ ทั้งๆ ที่ตรงนี้ของเธอตอดไม่หยุดเลยนะ”
“มะ ไม่ อึก! อ๊า! ดะ ดี แต่มัน ใหญ่ไป”
“ไม่ใหญ่ไปหรอก แค่ต้องใช้เวลาให้คุ้นเคยก่อน”
ผมแช่ไว้นิ่งๆ และคุยต่อ
“นี้ คริสติน่า สนใจไปอยู่กับผมไหม”
“ไปอยู่กับแกเหรอ? จะบ้าหรือไง ฉันเป็นมอนสเตอร์นะ”
“ก็บอกแล้วไง พวกเธอน่ารักจะตาย ผมไม่สนหรอกจะคนหรือมอนสเตอร์”
“เลิกโกหกได้แล้ว!”
“ถ้าคิดว่าผมโกหก ลองถามหนอนของผมที่อยู่ในตัวเธอสิ”
จากนั้นผมก็เริ่มกระเด้งเอวใส่เธอ เบาๆ แต่เน้นทุกจังหวะ
“อา! อา! อึก! อ๊า!”
“เริ่มเสียวแล้วใช่ไหมล่ะ”
“อะ อืม มันแปล็บๆ ข้างใน แต่ดีจัง รู้สึกดีมากเลย”
“เห็นไหม พวกเรากำลังมีความสุขกันอยู่ ไม่ได้โกหกสักหน่อย ทีนี้ก็ไปอยู่กับผมนะ พวกเราจะได้ทำแบบนี้กันบ่อยๆ”
“จะ จะทำแบบนี้กับฉันอีกเหรอ! อูย! จะ จะมีอะไรออกมาแล้ว!”
“เสร็จเลย ไม่ต้องอั้นปล่อยออกมาเลย”
ผมเร่งเครื่องเพื่อจะได้เสร็จพร้อมกับเธอ และพอผมฉีดนํ้าเชื้อใส่รอบสองเธอก็คอพับไปอีกรอบ
“ว่าไง ตกลงไหม”
“อะ อืม”
คริสติน่าสะดุ้งตื่นขึ้นมา ผมเลยถามไปอีกรอบ แต่เธอกลับทำนํ้าเสียงลำบากใจ
“ไม่ได้หรอก ฉันเป็นตุ๊กตาต้องสาปที่ยังไม่สมบูรณ์ เดี๋ยวก็ต้องหายตัวไปแล้ว”
“หายตัวไป? เพราะไม่ได้คงอยู่ได้ตลอดเวลา เลยเป็น Raid มอนสเตอร์สินะ”
คริสติน่าพยักหน้ารับ
“แล้วมีวิธีอะไรทำให้เธออยู่ตลอดไปได้บ้างไหม”
“ก็มี ขอแค่ได้ชิ้นส่วนที่ขาดไป ฉันจะกลายเป็นตุ๊กตาที่สมบูรณ์ได้”
“อะไรบ้างล่ะ?”
คริสติน่าบอกของที่เธอต้องการออกมา พอผมฟังต้องเกาหัวแกร่กๆ ก็แบบว่า…ไอ้ที่ว่ามาน่ะ อยู่ในกระเป๋าผมหมดแล้ว ผมเลยเทมันออกมาให้เธอดู
“ใช่พวกนี้หรือเปล่า”
“ใช่!!”
“งั้นก็เอาไปเลย ขาดอันไหนอีกบอก เดี๋ยวผมไปหามาให้”
“ไม่ๆ ครบแล้ว”
คริสติน่าบอกพลางรีบหยิบเอาฟันเฟืองเข้าปาก จากนั้นมันก็หายไป ไม่ได้เคี้ยวแล้วกลืนหรอกนะ แต่โยนเข้าปากแล้วหายไปเลย
จากนั้นเธอก็หยิบแผ่นไม้ขึ้นมาแทะเหมือนกระรอก แล้วก็ตาของตุ๊กตา และพวกของไร้ราคาที่ผมเก็บมาด้วย และพอ
เธอกินนอตตัวสุดท้ายลงไป ร่างกายของเธอก็เปล่งแสงออกมา
ร่างของตุ๊กตาหายวับไป ก่อนจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเป็นเด็กสาวที่มีใบหน้าเหมือนคริสติน่าทุกประการ ข้อต่อของเธอหายไป เปลี่ยนเป็นผิวหนังแบบมนุษย์ ดวงตาของเธอดูมีแววและชุ่มชื่นกว่าเดิม ถึงแม้ส่วนสูงเธอจะเท่าเดิม แต่เธอดูเหมือนมนุษย์มากขึ้น ที่สำคัญเธอแสดงออกทางสีหน้าได้แล้ว
“อ่ะ เอ๋ นี้มันอะไรกัน!?”
“มีอะไรผิดปกติเหรอ?”
“มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้ไปได้ มันต้องเปลี่ยนให้ฉันเป็นตุ๊กตาสมบูรณ์แบบนี่น่า แล้วนี้ทำไมเปลี่ยนฉันให้กลายเป็นครึ่งมนุษย์ไปได้?”
“ครึ่งมนุษย์!?”
“อืม ครึ่งมนุษย์ครึ่งจักรกล เอ่อ เรียกว่าออโตมาต้าน่ะ”
“สุดยอด!”
“เป็นเพราะไอ้นํ้าอุ่นๆ ที่แกฉีดมาในตัวฉันเนี่ยล่ะ มันมอบพลังชีวิตให้แบบมหาศาลเลยทำให้เป็นแบบนี้”
“จริงสิ! สุดยอดเลยแฮะซูปเปอร์แยมขาวเนี่ย เอ่อ แต่แบบนี้เธอก็ไปกับผมได้แล้วสินะ”
“อืม ได้แล้ว แต่เอาจริงเหรอ ถึงจะเปลี่ยนสภาพแล้วแต่ฉันก็ยังเป็นมอนสเตอร์นะ”
“ขอแค่เธอเต็มใจไป จะเป็นอะไรก็ช่างเถอะ”
“งั้นก็ตกลง”
“อ่ะ จริงสิผมว่าจะพาพวกไรโมดอลไปด้วย เธอช่วยเจรจาให้หน่อยได้ไหม”
“ไม่ได้หรอก พวกเธอเป็นตุ๊กตาต้องสาปที่ดูดกินพลังจากที่นี้ ถ้าออกไปพวกเธอก็จะกลายเป็นแค่ตุ๊กตาธรรมดาไป”
“ต้องการพลังสินะ…งั้นถ้าให้กินพลังของผมล่ะได้ไหม”
“ได้น่ะได้ แต่แกจะตายเอาน่ะสิ”
“งั้นถ้าเป็นแบบนี้ล่ะ จะได้ไหม”
ผมเปลี่ยนสถานะเป็นจอมมารทันที สีหน้าสบายๆ คริสติน่าเปลี่ยนเป็นตกใจกลัว และรีบคุกเข่าลงทันที
“ฉะ ฉันไม่รู้ว่าเป็นท่านจอมมาร ดะ ได้โปรดให้อภัยที่หยาบคายใส่ ดะ เดี๋ยวสิ นะ นี้ฉัน มะ มีอะไรกับท่านจอมมารเหรอเนี่ย ปะ เป็นเกียรติอะไรเช่นนี้!”
“เอ๋ รู้จักผมด้วยเหรอ”
“ก ก็ต้องรู้จักสิคะ ก็ท่านไรโมที่สร้างพวกเรา ก็เป็นลูกน้องคนหนึ่งของท่านจอมมาร”
“อ้อ แบบนี้เอง แต่ว่าผมปิดบังฐานะตัวเองอยู่ ต่อไปอย่าเรียกผมว่าท่านจอมมารอีก เรียกแค่โรมะก็พอ”
“รับทราบค่ะท่านโรมะ”
“แล้วตกลง พลังของจอมมารอย่างผมเนี่ย พอให้พวกไรโมดอลกินไหม”
“ยิ่งกว่าพออีกค่ะ ขอแค่ได้อยู่ในที่ที่ท่านโรมะอาศัยอยู่ พวกเธอก็จะดูดกลืนเศษวิญญาณที่ตกค้างอยู่มาเป็นพลังได้ คิดว่าน่าจะได้มากกว่าที่ได้จากในดันเจี้ยนแห่งนี้ซะอีกค่ะ”
“ดีจังแฮะ เอ่อ ว่าแต่ไม่ต้องสุภาพกับผมได้ไหมคริสติน่า ผมชอบเวลาเธอพูดแบบปกติมากกว่าน่ะ”
“จะดีเหรอคะ”
ผมคืนร่างกลับเป็นปกติ
“ดีสิ วิธีพูดแบบแก่นนิดๆ ของเธอน่ารักดีออก”
“อะ อีกแล้ว แกล้งชมฉันอีกแล้ว”
“ก็บอกไม่ได้แกล้งไง แต่ตอนนี้ช่วยไปตามไรโมดอลทั้งหมดมาทีสิ แล้วอธิบายให้พวกเธอฟังด้วยล่ะ”
“ได้ๆ รอแปบนะ”
ไม่นานคริสติน่าก็กลับมาพร้อมไรโมดอลยี่สิบตัว รวมที่อยู่ในห้องนี้อีกห้ารวมเป็นยี่สิบห้าตัว
“พวกเราตกลง แต่มีข้อแม้”
ไรโมดอลทวินเทลสว่าน เดินออกมาและชี้มาที่หน้าผม อย่างที่คิดไว้เลย เสียงน่ารักมาก เป็นแนวซึนเดระล่ะ
“ว่ามาเลย”
“พวกเราชอบการตัดเย็บเสื้อผ้า ถ้าให้พวกเราไปอยู่ก็ต้องให้พวกเราทำเสื้อผ้าด้วย”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ อ้อ จริงสิ เอานี้ยกให้”
ผมเอาพวกม้วนผ้าหลายๆ ชนิดที่เก็บได้ออกมา พวกไรโมดอลต่างรุมเข้ามาทันที
“ผ้าล่ะ พวกเรามีผ้าตัดชุดเยอะแยะเลย”
“ไปๆ เจ้านายเป็นคนดี พวกเราไปอยู่ด้วย”
ท่าทางจะดีใจกันใหญ่เลยแฮะ เอ๋ เดี๋ยวนะ
“นี้ แล้วกางเกงในที่พวกเธอดรอปเนี่ย ก็ตัดเย็บกันเองเหรอ”
“ใช่แล้ว ทั้งเสื้อผ้าและชุดชั้นในพวกเราทำเองหมด”
ทวินเทลสว่านตอบ
“แล้วทำขนาดแบบคนใส่ได้ไหม”
“จะขนาดไหนก็ทำได้ แค่เห็นรูปร่างของแบบครั้งเดียว พวกเราก็ทำได้ทันที”
“สุดยอดเลยแฮะ แบบนี้ก็ไม่ต้องไปซื้อเสื้อผ้าแพงๆ อีกแล้ว แถมออกแบบชุดชั้นในได้เองอีกด้วย พวกเธอนี้สุดยอดจริงๆ ทั้งน่ารักทั้งเก่งเลย”
“ถึงจะชมก็ไม่ดีใจหรอกนะ เจ้าบ้า!”
เฮ้ย! ซึนเดระจริงๆ ด้วยล่ะ แจ่มแมว
“จริงสิ ที่บ้านผมน่ะ มีคนอื่นอยู่ด้วย พวกเธอต้องสัญญานะว่าจะไม่ทำร้ายคนในบ้านเด็ดขาดและจะต้องช่วยปกป้องด้วยเมื่อมีอันตราย”
“ตกลง”
ตอบตกลงทันทีเลยแฮะ แต่ท่าทางไว้ใจได้ ดูไม่เหมือนพวกชอบความรุนแรงด้วย
“เอ่อ แต่จะพากันออกไปอย่างดีล่ะ เดินกันไปเป็นฝูงแบบนี้ มีหวังโดนนักผจญภัยเล่นงานแน่”
คริสติน่าทักขึ้นมา แต่ผมก็คิดไว้แล้วล่ะ
“ไม่มีปัญหา พวกเธอเข้าไปหลบในกระเป๋าของผมก่อนได้ไหม ไว้เดี๋ยวถึงบ้านแล้วผมค่อยให้พวกเธอออกมา”
“อ้อ แบบนี้เอง งั้นฉันขอเข้าไปด้วยนะ ไม่อยากเจอนักผจญภัยเหมือนกัน พวกนั้นนิสัยไม่ดี”
“เอาตามสะดวกเลย แล้วไว้เจอกันที่บ้านนะ”
จากนั้นผมก็ขนเอาทั้งไรโมดอลและRaid ไรโมดอลคริสติน่า ออกไปจากดันเจี้ยนลาลาพัส หลังจากวันนี้ไป ก็ไม่มีใครเคยพบไรโมดอลและ Raid ไรโมดอลอีกเลย
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ ภายหลังได้ถูกเล่าต่อๆ กันไป จนกลายเป็นหนึ่งในเรื่องสยองขวัญของเมือง โดยเรียกกันในชื่อเรื่องว่า ‘การหายตัวไปอย่างลึกลับของไรโมดอล’

ตอนที่ 53 ร้านประมูล

หลังจากส่งเควสที่กิลแล้ว ผมก็มุ่งหน้ากลับบ้านทันที ส่วนกระจกผมขายไปครึ่งเดียว อีกครึ่งจะเก็บไว้ไปให้ยูรินเผื่อจะใช้ทำอย่างอื่นต่อ
เพราะไม่ได้สู้แบบจริงจังเท่าไรนัก เลเวลเลยไม่ขึ้นมาเลย เลเวลสกิลก็ด้วยนิ่งสนิทเลย ไม่ไหวแฮะ ชอบหลงวัตถุประสงค์อยู่เรื่อยเลย
แต่ทำรายได้พอสมควรล่ะ ขนาดขายไปแค่กระจกนะ ยังได้มาเกือบหมื่นรีลเลย
ผมกลับมาถึงคฤหาสน์ช้ากว่าปกติ เพราะผมเสียเวลาไปในดันลาลาพัสค่อนข้างนาน ตอนหลงไปหลงมานั้นแหละ แต่พอเปิดประตูออก ผมก็ได้กลิ่นหอมลอยออกมา เลยตามกลิ่นเข้าไปถึงในครัว
แล้วผมก็ได้เห็นเดเม่กับโมอาช่วยกันเตรียมอาหารเช้าอยู่
“ขอโทษทีนะ กลับมาช้าไปหน่อย เลยต้องลำบากพวกเธอเลย”
“ยินดีต้อนรับกลับค่ะนายท่าน แล้วก็ลำบากอะไรกันคะ นี้มันหน้าที่พวกหนูอยู่แล้ว”
เดเม่ดูสดใสร่าเริงกว่าปกติแฮะ สงสัยเพราะเมื่อคืนได้จัดการความกังวลใจออกไปหมดแล้วก็ได้
พอผมมองดูเมนูที่เดเม่ทำ รู้สึกจะเป็นข้าวสวยแฮะ โอ๋ หุงออกมาได้ดีเลยนี่น่า แล้วนั้นปลาย่างสินะ อืมๆ ซุปมิโซะที่โมอาทำก็หอมดี เรียนรู้เร็วแฮะ พอเห็นแบบนี้แล้วผมก็หมดห่วง เลยไปล้างหน้าและขึ้นไปปลุกทุกคนแทนเดเม่
ฟรานทำหน้าตกใจมากตอนลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นหน้าผม เพราะคนที่มาปลุกทุกทีจะเป็นเดเม่ เธอรีบปัดผมให้เข้าที่และใช้แขนเสื้อเช็ดหน้าเช็ดตาใหญ่ ผมลูบหัวเธออย่างอดไม่ไหวเพราะความน่ารัก
จากนั้นผมก็ให้ฟรานไปปลุกคนอื่นไล่จากชั้นสามลงมา ส่วนผมลงไปปลุกดาเซสกับเมยอา แต่จังหวะไม่ดีแฮะ ตอนเข้าไปในห้องเมยอาเธอกำลังเปลี่ยนชุดอยู่พอดี แล้วนั้นอะไรอ่ะ กางเกงในแบบถักเชือกสีดำ!!
“กรี๊ด!! ออกไปเจ้าคนลามก!!”
ผมโดนหมอนป่าใส่จนต้องรีบหนีออกมา แต่ไม่เป็นไร บันทึกภาพไว้ในหัวเรียบร้อยแล้ว
เมื่อทุกคนลงมากันครบ ผมก็ตัดสินใจให้กินข้าวเช้ากันให้เสร็จก่อนดีกว่า ค่อยแนะนำพวกคริสติน่าให้รู้จัก ไม่งั้นเดี๋ยวอาหารจะเย็นซะก่อน
“ว้าว! เดเม่เป็นคนทำเหรอเนี่ย เหมือนกับที่ท่านโรมะทำเลย”
มิรินตาลุกวาวทันทีที่เห็นข้าวสวย
“ค่ะ รับรองว่ารสชาติเหมือนกันแน่นอน หนูจดจำทุกอย่างที่นายท่านทำได้ไม่มีขาดตกแม้แต่นิดเดียวค่ะ”
เดเม่ดูจะมั่นใจมาก แค่ผมมองดูก็รู้ว่าข้าวสวยของเธอนั้นสมบูรณ์แบบมาก เม็ดข้าวเองก็เรียงตัวสวย ขนาดไม่ได้ใช้ไฟที่ผมเป็นคนจุดนะ ยังสามารถกะความร้อนได้อีก ยอดเยี่ยมไปเลยแฮะ
และพอเริ่มทานกัน ทุกคนก็ร้องชมเดเม่ทันที ผมเองก็ด้วย
“อืม อร่อยมาก”
“ขอบคุณค่ะ!”
เดเม่ยิ้มแก้มแทบปริเลย ผมเองก็พลอยยิ้มไปด้วย
“โมอาเองก็ยอดเยี่ยมเหมือนกันนะครับ ขนาดพึ่งเคยทำครั้งแรก รสชาติของซุปก็ออกมากลมกล่อมมาก”
“ค่ะ! ได้เดเม่ช่วยบอกสูตรและวิธีทำให้อย่างละเอียด เลยทำได้ทันทีเลยค่ะ”
“ขะ ข้าวสวย เจ้าสิ่งนี้เรียกว่าข้าวสวยเหรอ ทะ ทำไมมันนุ่มหอมได้ขนาดนี้เนี่ย แถมยิ่งเคี้ยวยิ่งอร่อย ต่างจากข้าวที่ฉันเคยกินลิบลับเลย!”
ประโยคพูดของอาเดไลท์ผมรู้สึกคุ้นมากเลยอ่ะ คนที่รับบทอธิบายให้ฟังก็คือดาเซสเจ้าเก่า บางครั้งฟรานก็จะช่วยเสริมเป็นบางจุด แต่มิรินนี้ชอบ
ปลามากเลยแฮะ เคี้ยวงุบงับๆ ไม่พูดไม่จาเลย นี้เธอเป็นแมวเหรอ!
จริงๆ แล้วคนส่วนใหญ่จะใส่นํ้าชาในข้าวแล้วกินกัน แต่ผมไม่ชอบทำแบบนั้น เพราะมันเหมือนดูถูกข้าวอย่างไงไม่รู้ แถมยังเป็นท่ากินที่ไร้มารยาทสิ้นดี ครั้งหนึ่งพี่สาวผมเคยทำแบบนั้นให้ผมเห็น ผมเลยไม่ทำอาหารประเภทข้าวอีกเลย จนกระทั่งพี่ต้องยอมเลิกพฤติกรรมการกินแบบนั้นไป
แน่นอนผมจะไม่แสดงวิธีกินแบบนั้นให้พวกฟรานเห็นเด็ดขาด ให้มันสูญพันธุ์ไปซะไอ้วิธีกินพรรคนั้น
เช้านี้เอร่าเรียกหาไอศกรีมเป็นของหวาน แต่มื้อเช้าผมไม่มีเมนูของหวานให้ เดเม่เองก็รู้เรื่องนี้ เพราะกินหวานแต่เช้ามันไม่ดีต่อสุขภาพและจะทำให้ขี้เกียจไปตลอดวันด้วย ผมเลยขู่ไปว่ากินทุกวันจะทำให้อ้วนเป็น
หมู เอร่าเลยรีบปิดปากไปทันทีเลย เห็นกินจุแบบนี้แต่ก็กลัวอ้วนสินะ ใช่ สมควรกลัวหรอก กับคนอื่นผมยังใช้แยมขาวรักษาหุ่นให้ได้ แต่ยัยนี้กินแยมขาวผมไม่ได้ ถ้าอ้วนขึ้นมาล่ะก็ จบเลย
พอจบมื้อเช้าขณะที่ทุกคนมานั่งพักที่ห้องนั่งเล่น ผมก็หยิบกระเป๋าออกมา ทุกคนมองตามมาทันที เพราะสงสัยว่าผมจะทำอะไร ผมหยิบเอาการ์ดหมาเลโก้ออกมาก่อน
“ฟราน เอานี้ของฝาก”
“นี้นายท่านไปเสี่ยงอันตรายในดันเจี้ยนคนเดียวอีกแล้วเหรอคะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่ได้ฝืนตัวเองเลย แค่ไปทีตัวเองสามารถเอาตัวรอดได้สบายๆ น่ะ”
“หมาเลโก้ ดันเจี้ยนลาลาพัสชั้นหนึ่ง นั้นมันอันตรายนะ ยังจะบอกว่าไม่ต้องห่วงอีกเหรอ”
ดาเซสนี้สมเป็นนักผจญภัยเลเวลสูง รู้ด้วยว่าหมาเลโก้อยู่ที่ไหน
“โห! แค่สัปดาห์เดียวก็ไปเริ่มที่ชั้นหนึ่งลาลาพัสแล้วเหรอคะ! ท่านโรมะจะพัฒนาเร็วไปแล้วหรือเปล่าเนี่ย”
มอเรียเองก็ทำท่าเป็นห่วงผมเหมือนกัน
“น่าๆ ผมไม่รีบเป็นอะไรไปหรอก ผมยังอยากมีอะไรกับพวกเธอเยอะกว่านี้อีก”
เจอคำพูดตรงๆ แบบไร้ยางอายของผมเข้าไป ทุกคนเลยพากันหน้าแดงกันหมด
“งั้นหนูขอใช้เลยนะคะ”
“อืม”
ผมพยักหน้าแล้วดูฟรานใช้การ์ดจนมันแตกละเอียดไป
“แล้วก็ยังมีอีกนะ”
ผมเปิดกระเป๋าออกอีกครั้ง แล้วค่อยๆ หยิบเอาพวกไรโมดอลออกมาทีละตัว
“นี้มันไรโมดอล!”
ทุกคนที่รู้จักต่างลุกขึ้นตั้งท่าสู้ขึ้นมาทันที
“เดี๋ยวก่อนสิ พวกนี้เป็นสมาชิกใหม่นะ ผมไปชวนมาจากลาลาพัสเองเลย”
พอผมบอกทุกคนก็คลายความระวังลง พวกไรโมดอลดูจะเป็นฝ่ายกลัวซะเอง เลยไปยืนกอดกันกลมซ่อนตัวอยู่ด้านหลังผม
“เอ๋? ชวนมา? นี้ท่านโรมะคุยกับมอนสเตอร์ได้ด้วยเหรอคะ”
มอเรียทำหน้าสงสัย
“อืม ได้เฉพาะบางพวกน่ะ”
“นี้มัน…ไม่ปกตินะคะ”
“อ่า ผมไม่ปกติล่ะ”
“ยอมรับหน้าตาเฉยเลยนะ”
เมยอาถอนหายใจใส่ผม สงสัยจะโกรธเรื่องเมื่อเช้าอยู่ ไม่สิ คงรวมเรื่องเมื่อคืนไปด้วยแน่ๆ
จากนั้นพอคริสติน่าออกมาเป็นคนสุดท้าย ทุกคนก็ต้องทำหน้าตกใจอีกครั้ง
“Raidไรโมดอล! อ่ะ ไม่สิ รู้สึกจะต่างไปนิดหน่อยนะ?”
ดาเซสจ้องใส่คริสตาน่าใหญ่ แต่คริสติน่าก็แนะนำตัวไปได้อย่างเหมาะสม
“ฉันชื่อคริสตาน่า เคยเป็น Raidไรโมดอล แต่ตอนนี่ได้โรมะช่วยทำให้กลายเป็นออโตมาต้าไปแล้ว จากนี่จะอยู่ที่นี้ ขอฝากตัวด้วยนะ”
“สวัสดีค่ะ”
ทุกคนเห็นท่าทางมีมารยาทของคริสติน่าแล้ว เลยต้องคำนับให้ตามไปด้วย
“แล้วก็ จากนี้ไปถ้าพวกเธออยากจะได้ชุดอะไร ก็ให้บอกพวกไรโมดอลได้เลยนะ”
“โห! สุดยอดเลยค่ะ”
มิรินคงคาดไม่ถึง ว่าผมจะเอาพวกมอนสเตอร์มาเป็นช่างตัดเสื้อประจำบ้านได้
“…สวัสดีค่ะ”
ฟรานพยายามเข้าไปทักไรโมดอลตัวหนึ่ง แต่เพราะสื่อสารกันไม่เข้าใจ เลยไร้การตอบสนอง ว่าแล้วถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องอย่างไงก็ลำบากอยู่ดี
“เดี๋ยวนะฟราน ผมนึกอะไรออกแล้ว”
ผมหยิบม้วนผ้าออกมา และให้พวกไรโมดอลช่วยตัดเป็นแทบริบบิ้นแบบผูกข้อมือหรือพันรอบคอให้ จากนั้นก็ลงวงจรเวทไป และตอนใส่เวทผมนึกถึงสกิล Doll contact และหวังว่ามันจะใช้ได้ พริบตานั้นก็รู้สึกมีอะไรเกิดขึ้นกับแทบผ้า เลยลองใช้ตรวจสอบดู มันขึ้นมาว่าเป็นอุปกรณ์เวทที่มี Doll contact ติดอยู่ไปแล้ว
ผมเอาไปผูกที่ข้อมือของฟราน และให้เธอลองทักอีกฝ่ายดูใหม่
“สวัสดีค่ะ”
“สะ สวัสดีค่ะ”
ไรโมดอลตอบกลับมา ฟรานดีใจมากเลยเข้าไปกอดไรโมดอลตัวนั้นขึ้นมา ระหว่างนั้นผมก็ทำอุปกรณ์เวทแปลภาษาเพิ่ม และใส่ให้กับทุกคน
“ไม่ชอบให้กอดหรือเปล่า”
ไรโมดอลไม่สามารถแสดงสีหน้าได้ ฟรานเลยถามออกไปเพราะความสงสัย
“เปล่า ชอบมากเลย พวกเราเป็นตุ๊กตาเลยต้องการสัมผัสจากเจ้าของ เชิญกอดพวกเราได้ตามสบายเลยค่ะ”
“ดีจัง หนูฝันไว้ว่าอยากได้ตุ๊กตามาตั้งนานแล้ว ขอบคุณนะคะนายท่าน”
“อืม แต่ถึงพวกนี้จะเป็นตุ๊กตาแต่ก็มีความรู้สึกเหมือนพวกเรานะ ทำอะไรก็นึกถึงความรู้สึกอีกฝ่ายด้วย”
“ค่า!”
“พวกเธอชอบดื่มนํ้าชาไหม”
อาเดไลท์เข้าไปคุยกับพวกไรโมดอลดูบ้าง
“ชอบๆ”
พวกไรโมดอลยกมือกันใหญ่ เลยมีส่วนหนึ่งเดินตามอาเดไลท์ออกไปปูเสื่อตั้งวงนำชากันที่สวน ถึงพวกไรโมดอลจะดื่มกินไม่ได้ แต่พวกนี้กินเอาความรู้สึกร่วมเข้าไปแทน อย่างแค่ไปนั่งร่วมวงนํ้าชาด้วย พวกนี้ก็จะได้ความรู้สึกเหมือนได้กินได้ดื่มจริงๆ
พริบตาเดียวไรโมดอลทั้งหมดก็ถูกสาวๆ พาตัวไปกันหมดแล้ว ท่าทางจะเข้ากันได้ง่ายกว่าที่คิดอีกแฮะ แถมไม่ถึงครึ่งวัน ไรโมดอลทุกตัวก็มีชื่อกันหมดแล้ว แต่ผมจำไม่ไหวหรอก ส่วนคริสติน่าไปติดหนึบกับยูริน
แล้ว แถมขนาดตัวยังพอๆ กันอีก สุดท้ายก็กลายเป็นลูกมือของยูรินไป
ผมเคลียร์ห้องที่ชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องเก็บโต๊ะเก้าอี้ที่ไม่ได้ใช้ ผมขนมันไปไว้นอกบ้าน และฝากให้ยูรินช่วยสร้างห้องเก็บของไว้ที่ด้านหลังบ้านเพิ่มให้หน่อย ยูรินไม่บ่นเรื่องที่ผมชอบโยนงานให้เธอตลอด แถมยังออกจะชอบที่ได้สร้างนู้นสร้างนี้ด้วย
ส่วนห้องเดิมที่ใช้เก็บโต๊ะเก้าอี้ ผมก็ยกให้พวกไรโมดอล เป็นWorkshop ตัดเสื้อของพวกเธอไป พลางเอาม้วนผ้าและอุปกรณ์ตัดเย็นออกมากองไว้ที่มุมหนึ่งของห้อง
ตอนนี้ในบ้านไม่ว่าพวกฟรานจะเดินไปไหน ก็จะมีไรโมดอลเดินตามไปด้วย ไม่ก็กำลังถูกอุ้มอยู่ บรรยากาศดูสดใสขึ้นมากทีเดียว
ส่วนผมก็เอาหน้ากากมาใส่ตามเดิมแล้ว เพราะพลังชาร์ตเต็มตอนกลับมาถึงพอดี สาวๆ ไม่มีใครว่าอะไรหรอก ทำเหมือนปกติทุกอย่าง ค่อยโล่งอกหน่อย
วันนี้ผมคิดว่าจะไม่ไปลงดันเจี้ยนเพื่อหลบหน้าพวกเนปฟ่า แถมตอนนี้ยังเช้าอยู่ แต่ไม่มีอะไรทำเลยว่างสุดๆ ผมเลยชวนยูรินไปร้านประมูลด้วยกัน ตอนแรกว่าจะให้เดเม่ขับรถม้าไปให้ แต่เจ้าตัวบอกจะอยู่ทำมื้อเที่ยงรอผม เลยให้ดาเซสไปแทน ฟรานก็ไม่ต้องถาม ผมไปไหนเธอไปด้วยอยู่แล้ว
มอเรียเองก็ออกไปทำงานแต่เช้าแล้ว มิรินเองก็ยุ่งอยู่กับการจัดหนังสือในห้องสมุดกับเมยอาและเหล่าไรโมดอล ส่วนโมอาก็อยากจะจัดสวนให้เสร็จในวันนี้เลย เพราะมีพวกไรโมดอลช่วยอีกแรง ดอเรียเองก็กำลังจัดคลังแสงอยู่และขออาวุธของพวกผมไปบำรุงรักษาให้อีก
เลยไม่ได้มาด้วย คนที่ตามมาด้วยเลยเป็นอาเดไลท์ที่อยากจะไปเปิดหูเปิดตาดูการประมูล กับเอร่าที่จะตามออกไปเที่ยวเล่นเอาสนุก
ร้านประมูลนั้นอยู่ทางทิศใต้ของเมือง เลยเสียเวลาเดินทางนานกว่าปกตินิดหน่อย แล้วผมก็พกเงินมาด้วยพอสมควร เผื่อเจออะไรน่าสนใจจะได้ประมูลมาเลย แต่หลักๆ ที่จะประมูลก็คือคริสตัลวิญญาณล่ะนะ ว่าจะซื้อไปกักตุนไว้มากหน่อย ทุนที่เอามาด้วยเลยมี 50ล้านรีล ก็เป็นส่วนที่เหลือจากการได้ส่วนลดของอาเดไลท์มา
ร้านประมูลนั้นเป็นอาคารใหญ่ที่กินเนื้อที่ทั้งช่วงตึกในแถบนั้นทั้งหมด เรียกว่ากว้างใหญ่สุดๆ ทางเข้าจะมีแจกแผนที่บอกโซนต่างๆ เพราะที่นี้มีตั้งแต่โซนจัดแสดงสินค้า โซนประมูล โซนของหลุดประมูล โซน
แลกเปลี่ยน โซนร้านอาหาร และอีกหลายๆ อย่าง แถมในแต่ละวัน จะมีตารางเวลาที่ใช้ในการประมูลแต่ละรอบบอกไว้ด้วย ตอนนี้พึ่งจะเก้าโมงเช้า ประมูลรอบแรกจะเริ่มตอนสิบโมง พวกผมเลยยังมีเวลาอยู่พอสมควร เลยพากันไปเดินดูที่โซนจัดแสดง
แต่ไม่ว่าจะเดินไปไหน กลุ่มผมก็ตกเป็นเป้าสายตาตลอด เพราะแค่ฟราน อาเดไลท์กับเอร่าเดินด้วยกันก็โคตรเด่นเลย ดาเซสเองก็ดึงดูดความสนใจไม่น้อยในมาดอัศวินสาว ส่วนยูรินถึงจะน่ารักแต่ก็โดนรัศมีสามคนด้านบังหมด เลยเดินอยู่กับผมที่ด้านหลังแบบไม่เป็นที่สนใจนัก
ที่โซนจัดแสดงสินค้า ส่วนใหญ่กว่าครึ่งที่เอามาโชว์ ล้วนเป็นทาสทั้งนั้น ตรงนี้ถ้าถูกใจก็จะสามารถซื้อได้เลย สินค้าที่มีจำนวนลองลงมาก็คือพวกอาวุธเครื่อง
ป้องกันที่หายาก เป็นของที่ได้จากดันเจี้ยนระดับสูง ส่วนที่มีน้อยสุดแต่ว่าราคาแพงสุดก็คืออุปกรณ์เวทมนต์ ตอนเดินๆ ดู ผมก็เหลือบไปเห็นมือถือที่ผมหลอกขายไปตอนมาที่เมืองนี้ครั้งแรกด้วย ราคาที่ตั้งแสดงไว้คือ 1,000 ล้าน!! นี้ราคาดีดตัวขึ้นไปเป็นเท่าหนึ่งแล้วเหรอ! แต่ว่ามันใช้ไม่ได้แล้วนี้ แค่ดีไซน์แปลกตาเท่านั้นแหละ คงมาตั้งหลอกขายอีกต่อแน่ๆ
ระหว่างเดินๆ อยู่ก็มีคนมาสะกิดเรียก เพื่อติดต่อขอซื้อทาสของผม โดยเฉพาะฟรานที่มีคนเสนอราคาให้ถึง 200ล้านรีล ซึ่งเป็นค่าตัวทาสที่แพงสุดในประวัติการณ์เลย ตอนแรกที่ได้ยินราคาที่เสนอให้ ฟรานถึงกับหน้าซีดเพราะกลัวผมจะตกลงขายเธอ แต่ผมตอบไปทันทีแบบไม่ต้องคิดว่าอย่างไงก็ไม่ขาย ทาสของ
ผมไม่ว่าคนไหนก็ไม่ได้มีไว้ขาย ฟรานเลยยิ้มออกแล้วเข้ามากอดแขนผมไว้แน่น
พอเดินๆ ดูสักพัก ผมก็เจออันที่ผมสนใจ ทาสล่ะ เธออยู่ในกรงขนาดเล็กที่ไม่ค่อยมีคนสนใจ แต่ที่เรียกความสนใจจากผมได้ในตอนแรกก็คือ ปลายหางสีเงินที่ยื่นออกมาจากกรง พอผมก้มลงไปมอง ก็เห็นสาวน้อยวัยประมาณ 5-6 ขวบที่มีใบหูสีเงินตั้งขึ้นมาบนเรือนผมสีเดียวกัน แถมยังมีหางฟูฟ่องดูนุ่มนิ่มอีกเก้าหาง จิ้งจอกเก้าหางล่ะ! แถมราคาแค่ 1000 รีลเอง ทำไมถูกจังฟ่ะ ออกจะน่ารักน่ากอดจะตาย!
ผมสงสัยมากเลยตรงเข้าไปถามพ่อค้าทาสที่เป็นเจ้าของทันที คำตอบที่ได้คือ พ้นวันนี้ไป เจ้าจิ้งจอกเก้าหางตัวนี้ก็จะตายแล้ว สำหรับคนที่จะซื้อไปก็แค่เอา
ไปเล่นสนุกวันเดียวแล้วทิ้งเลย แถมยังเด็กเกินไป ราคาเลยตกลงมาถึงขนาดนี้
จิ้งจอกเก้าหางนั้นเป็นบอสของดันเจี้ยนป่า แต่ตัวที่จับมาได้นั้นเป็นบอสใหม่ที่พึ่งเกิด เลยยังมีอายุน้อยและไม่มีพลังอะไร ทว่ามอนสเตอร์ในดันเจี้ยนนั้น ถ้าออกมาข้างนอกก็จะต้องตายภายในสองถึงสามวัน เพราะขาดพลังที่ได้จากดันเจี้ยน โดยเฉพาะจิ้งจอกเก้าหางนั้นเป็นมอนสเตอร์ที่ต้องการกินพลังชีวิตที่เข้มข้นอยู่ทุกวัน
โดยไม่รอช้าผมตัดสินใจซื้อทันที หางพวกนั้นมันน่ากอดจะตายไป อย่างไงก็ไม่ปล่อยไปแน่ แต่พอจ่ายเงินแล้วทำพันธะทาสเสร็จ ผมก็สังเกตเห็นว่าเธอตัวผอมมาก แก้มซูบตอบดวงตาไร้แววด้วย คงใกล้ถึงขีดสุดแล้วมั่งเผลอๆ ไม่น่าพ้นวันนี้
เดี๋ยวนะ รู้สึกว่าจะมีให้เช่าห้อง VIP ด้วย ผมเปิดเรดาร์ขึ้นมาและหาตำแหน่งห้องที่ว่า ซึ่งก็มีจริงด้วย
ผมจึงเรียกทุกคนมารวมกัน แล้วตรงไปที่ห้องนั้น ค่าเช่าห้อง VIP คือชั่วโมงล่ะ 2,000 รีล ผมจ่ายไปทันทีสำหรับสามชั่วโมง ที่นี้เป็นห้องใหญ่ที่ติดกระจกลงไปมองการประมูลด้านล่างได้ แถมยังร่วมประมูลผ่านห้องนี้ด้วย ความกว้างจุได้ประมาณสิบคน มีโซฟาและมีบริการเครื่องดื่มฟรี
พอมาถึงผมก็อธิบายเรื่องแม่หนูจิ้งจอกเก้าหางนี้ให้ทุกคนฟังทันที และไม่ต้องอธิบายให้มากความ ทุกคนรู้ว่าผมจะทำอะไร ยูรินกับฟรานเลยตรงเข้ามาถอดกางเกงผมทันที
ช่วงแรกฟรานใช้ปากดูดให้ผม จากนั้นยูรินก็ถอดกางเกงในออกมาแล้วครอบใส่พร้อมกับชักว่าวให้
ฟรานเลยเปลี่ยนไปดูดไข่ผมเล่นแทน อาเดไลท์ชินแล้วล่ะมั่ง เลยนั่งลงดูอย่างสนใจแต่ไม่ถามอะไร ส่วนเอร่ากับดาเซสทำท่าเหมือนอยากจะช่วยตัวเองเต็มแก่แล้ว
พอผมจะแตกก็รีบลุกขึ้น ปรับขนาดดุ้นแล้วแทงเข้าไปในปากของแม่หนูจิ้งจอกเก้าหางทันที ผมแทงจนสุดลำจนดุ้นลงไปในคอเธอ ผมอยากจะให้แน่ใจว่าเธอจะกินมันลงไปให้หมด ผมปล่อยนํ้าเชื้อออกไปแบบเต็มที่ เพราะไม่มีอะไรที่จะมีพลังชีวิตมหาศาลมากไปกว่านํ้าเชื้อผมอีกแล้ว ผมดึงดุ้นออกมา แม่หนูจิ้งจอกเก้าหางก็สำลักออกมานิดหน่อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม
“เป็นไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นไหม”
ผมถามไปแต่ก็รู้คำตอบได้ด้วยการมองดูตัวเธอ ที่ตอนนี้เริ่มกลับมามีเนื้อมีหนังและสีหน้าดูสดใจขึ้น ได้ผลจริงๆ ด้วย
“ตะ ตะกี้ให้หนูกินอะไรไปเหรอคะ มันให้พลังชีวิตที่มหาศาลมากกว่าในดันเจี้ยนตั้งหลายเท่าเลย”
ถ้าจำไม่ผิด เผ่าพันธุ์จิ้งจอกเก้าหาง เป็นพวกที่มีภูมิปัญญาสูง สามารถพูดได้หลายภาษารวมถึงภาษามนุษย์ด้วย คุยกันได้แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย
“ที่ให้กินไปคือนํ้าเชื้อของผมเองล่ะ”
“นะ นํ้าเชื้อ!!”
พอพึ่งรู้ตัวว่ากินอะไรลง เธอก็ทำหน้าเหมือนอยากจะอาเจียนออกมาทันที
“นี้ทำไมต้องให้เธอกินนํ้าเชื้อนายด้วยล่ะ”
อาเดไลท์เองก็ไม่เข้าใจ
“นํ้าเชื้อของนายท่านเป็นยาค่ะ รักษาได้ทุกอย่าง”
ฟรานช่วยอธิบายให้
“จริงเหรอ!”
อาเดไลท์ตกใจจนก้มลงมองดุ้นผมที่ยังแข็งสู้ชีวิตอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวนี้เธอมองดุ้นผมตรงๆ โดยไม่อายแล้วแฮะ
“นี้หนูเป็นทาสของคุณแล้วสินะคะ”
เหมือนจะพึ่งรู้ตัวเธอแตะไปที่คอตัวเองที่มีพันธะทาสติดอยู่
“ใช่แล้วล่ะ ว่าแต่เธอมีชื่อว่าอะไรเหรอ ผมชื่อโรมะ”
“ชื่อ?? ไม่มีหรอกค่ะ แต่ทุกคนเรียกหนูว่า พญาจิ้งจอกเงินเก้าหางเก้าตะวันเก้าจันทรา”
“ยาวไป! งั้นผมตั้งชื่อให้เอง อืม…กิน จากนี้ไปเธอชื่อว่ากิน ผมตั้งตามสีผมที่เป็นสีเงินของเธอล่ะนะ”
“กิน…ชื่อของหนู ขอบคุณมากค่ะเจ้านาย”
“ไม่เป็นไร แล้วตอนนี้เป็นอย่างไงยังหิวอีกไหม”
“ถ้าได้กินอีกหน่อยก็คง…อ่ะ ไม่ค่ะ! หิวแล้วค่ะ”
พอกินนึกได้ว่าที่ตัวเองกินคือนํ้าเชื้อผม เลยรีบปฏิเสธทันที
“ไม่ต้องเกรงใจน่า ถ้าเธอท้องว่างจนตายไปล่ะก็ คนที่ลำบากคือผมนะ”
รอบนี้ผมให้ดาเซสเข้ามาทำให้บ้าง เธอดูดดุ้นผมอย่างเอาเป็นเอาตายมาก เธอดูดแรงจนแก้มตอบเข้ามาและปากยื่นติดหนังดุ้น ใบหน้าตอนนี้ดูโคตรลามกเลย ไม่เหลือมาดอัศวินสาวสุดเท่ห์ตะกี้เลยสักนิด ส่วนอาเดไลท์หันไปถามฟรานว่าทำไมต้องเอาดุ้นผมเข้าปากด้วย ฟรานเลยตอบไปสั้นๆ ว่า
“เพราะมันทำให้นายท่านมีความสุขค่ะ”
จากนั้นฟรานก็มายืนบนที่วางแขน กางขาออกแล้วค่อมหน้าผมไว้ ถลกกระโปรงขึ้นแล้วให้ผมดมสามเหลี่ยมแห่งความลับของเธอ ช่างรู้งานอะไรเช่นนี้เพราะกลิ่นของฟรานมันกระตุ้นให้ผมเสร็จเร็วขึ้นอีก
พอผมจะเสร็จยูรินก็เข้าไปล็อคตัวกินเข้ามา แล้วให้อ้าปากอมดุ้นผมเข้าไปแทนอาเซส ผมฉีดนํ้าเชื้อใส่ปากเล็กๆ ของเธออีกรอบ แต่พอเข้าปากเท่านั้น ท่าที
ขัดขืนของกินก็หายไปทันที เธอจับดุ้นผมด้วยสองมือ แล้วดูดนํ้าเชื้อผมไปอย่างหิวกระหายจนไม่เหลือสักหยด พอเธอดึงปากออกมา ผมก็สังเกตเห็นว่าผมของกินเริ่มเปล่งประกายออกมาราวกับมีออร่าเลย
“ละ เหลือเชื่อ พลังเพิ่มขึ้นมามหาศาลเลยค่ะ”
“งั้นก็ดีล่ะ เอานี้จะแนะนำให้รู้จักคนที่เหลือนะ”
ผมแนะนำให้กินรู้จักกับพวกฟราน ซึ่งพอรู้จักกันแล้ว ทุกคนก็พุ่งเป้าไปที่หางที่โบกไหวๆ อย่างน่ารักนั้นทันที อ้าวเฮ้ย! ผมเล็งไว้ก่อนแล้วนะ โดนแย่งไปซะแล้ว กินดูเขินๆ แต่ก็ยอมให้ทุกคนจับและเอาหน้าเข้าไปถูเล่นกับหางของเธอ เรื่องชุดนี้ไว้กลับไปให้พวกไรโมดอลจัดการล่ะกัน

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ ตอนที่1 by KUMAO

ขอออกตัวก่อนเลยว่าแอบก็อปไว้ก่อนที่เว็บจะบินไม่ใช่นิยายของผม ซึ่งมันจะเป็นนิยายแต่งหรือแปลก็ช่างมันผมว่าโดยรวมมันดีถึงจะมีข้อด้อยไปบ้างแต่ก็อ่านได้ลื่นไหล สำหรับคนที่ไม่ชอบก็เบรคตัวเองไว้ไม่ต้องอ่านโวยวายไปก็ไม่ได้อะไรเพราะผมแอบก็อปมาลงไว้ให้บางคนที่ไม่เคยอ่านได้อ่านกันบางคนอยากอ่านซ้ำก็จะได้อ่าน ออกความเห็นได้แต่อย่าดราม่ามากนะคับ บ่นแค่นี้พอละแล้วจะรีบมาลงตอนต่อ เนื้อหามีความรุนแรงเกี่ยวกับเพศอายุต่ำกว่า18อ่านได้แต่อย่าทำตามมันไม่ควร ตอนที่ 1 คืนสุดท้าย                ผมมุเกน โรมะ นักเรียนชั้นปีที่ 2 และตอนนี้ ผมกำลังนั่งซักกางเกงในผู้หญิงอยู่ที่ต่างโลกล่ะเรื่องราวทั้งหมดก็ประมาณว่า เมื่อเดือนก่อน พวกผมทั้งหมดถูกส่งมาต่างโลกแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แบบนั่งสอบอยู่ดีๆ เงยหน้าขึ้นมาก็โดนมอนสเตอร์ล้อมแล้วอ่ะ                 แถมที่ซวยที่สุดก็คือ พวกผมไม่ได้ไปอยู่ในจุดของผู้เริ่มต้น แต่กลับมาอยู่ในปราสาทของจอมมารเลย แต่ก็ยังไม่ถึงกับซวยซะทั...

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 14 - 16 By Kumao

พอก่อนนอนดีกว่า ตอนที่ 14 ชายผู้มีอาวุธในตำนาน ผมกลับมาที่คฤหาสน์ก่อนทุกคนตื่นได้อย่างเฉียดฉิว เช้านี้ผมเตรียมเมนูเป็นข้าวสวยกับปลาย่างเกลือเสริฟพร้อมชุปมิโซะและสลักผัก เดเม่ตื่นลงมาช่วยผมเป็นคนแรกแบบทุกที แต่เธอดูยังคงไม่พอใจที่ตื่นนอนหลังผมอยู่ดี ทว่าก็มีท่าทางเอียงอายคงเพราะยังเขินเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนอาบน้ำ เธอเริ่มคุ้นเคยกับการทำอาหารของผมแล้ว จึงช่วยในการจัดเตรียมวัตถุดิบเป็นหลัก ผมใช้เวลาทำอาหารไม่ถึงสิบนาทีก็เสร็จเรียบร้อย เลยให้เดเม่ขึ้นไปปลุกทุกคนลงมากินข้าว แต่สงสัยยังติดใจหม้อไฟเมื่อวาน เลยพากันไปนั่งรอบโต๊ะเตี้ยกันหมด จนผมต้องไล่ให้ขึ้นมานั่งที่โต๊ะกินข้าวแบบเดิม พอผมตักข้าวในหม้อใส่จานให้ทุกคน ก็พากันทำหน้าแปลกใจ “ไอ้ขาวๆ นี้มันคืออะไรเหรอ?” ดาเซสถามขึ้นพลางชี้ไปที่ข้าวบนจาน คนอื่นก็มีคำถามแบบเดียวกันอยู่บนสีหน้า “ข้าวไง” “ข้าว! หมายถึงข้าวที่จะมีแค่ในร้านอาหารสุดหรู ของพวกขุนนางเท่านั้นใช่ไหม ไม่สิ ฉันเองก็เคยกินมันอยู่ครั้งหนึ่ง จำได้ว่าไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย มันมีสีคล้ำๆ แล้วก็ไม่ดูนุ่มๆ น่ากินแบบนี้ด้วย” “อ้อ เพราะไม่ได้คัดข้าวไงถึงเป็นแบบนั้น แล้...

ฮาเร็มของจอมมารมือใหม่ 147 - 149 By Kumao จบแค่นี้ไม่มีละ

จบแล้ว เห็นแว้บๆ ว่าคุณ Kazama Phoenix เขียนต่อ ooooooooooo ตอนที่ 147 เก็บแต้ม ผมเมิ่นเรเดียที่ทำท่าตกใจอยู่ และหันไปคุยในรายละเอียดกับกรอเรียให้เสร็จก่อน โดยก่อนจะจัดการเรื่องนิกายใหม่ เธอจะต้องไปกล่อมครอบครัวซะก่อน โดยผมจะให้เอนันโด้นำทีมคุ้มกันไป เอนันโด้ผมให้ลูกน้องไปขุดศพเขาขึ้นมา และใช้อำนาจแห่งจอมมารเปิดใช้งาน วิหารแห่งการกำเนิดใหม่ ซึ่งที่นี้จะเปลี่ยนให้ดวงวิญญาณของมนุษย์กลายเป็นปีศาจ เอนันโด้เลยคืนชีพขึ้นมาในฐานะปีศาจเศียรขาดดูลาฮาน เลเวลของเขายังเท่ากับตอนก่อนที่จะตาย แต่พอกลายมาเป็นปีศาจแล้ว ค่าพลังก็ต่างเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซํ้ายังปลดขีดจำกัดของเลเวลไปอีก เหตุที่ปีศาจมีเลเวลลิมิตมากกว่ามนุษย์ เพราะร่างกายของเผ่าปีศาจสามารถใช้พลังได้มากกว่า ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับมนุษย์ได้พลังของซุป XXX มาใช้ แต่ลองชกหมัดด้วยพลังขนาดนั้นดูสิ ร่างกายจะแหลกเหลวก่อนเป้าหมายถูกทำลายแน่ เพราะงั้นระบบเลยสร้าง Lv Limit ขึ้นมาเพื่อป้องกันในเรื่องนี้ และการเปลี่ยนเผ่านัน จึงได้ทำให้ Lv Limit เปลี่ยนแปลงไปด้วย แต่ถึงไม่มีเรื่อง Lv Limit ตอนนี้ก็หาคนมาสู้กับเอนันโด้ลำบากแล้ว เพราะ...